ตอนก่อน
เพิ่งเคยเขียนเป็นครั้งแรกเรื่องแรก ขออภัยด้วยหากน่าเบื่อไม่สนุก
ความเดิมตอนที่แล้ว : เซโร่เข้าไปห้องสมุดเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับจอมปีศาจและได้ล่วงรู้ว่าตนเองเป็นใคร
เซโร่ปิดหนังสือทันทีด้วยความตกใจเพราะคิดว่าตัวเองเป็นลูกของจอมปีศาจเขาจึงแอบขโมยหนังสือเล่มนั้นกลับบ้านไปด้วยเพื่อศึกษาเวทย์มนต์ เพราะในหนังสือเล่มนั้นมันได้บันทึกตำราเวทย์อยู่ในหน้าหลังๆเมื่อเขากลับไปเขาก็พยายามมองที่หัวของพ่อแม่ ซึ่งทั้ง2ท่านนั้นไม่มีเซโร่จึงรู้ความจริงแล้วว่าตนไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่เขาก็ไม่เก็บเอาไปคิดมาก เพราะพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงของเขารักเขามากจึงไม่อยากให้เป็นห่วง
พอเช้าวันรุ่ง เขาได้ไปที่น้ำตกซึ่งเสมือนกับฐานทัพลับของเขาแต่ทุกวันนี้มันไม่ลับแล้วนี่สิ เพราะมีเด็กหญิงหรือคุณหนูลิซ่ามานั่งร้องไห้ริมธารน้ำตกทุกวันเซโร่เริ่มห่วงเพราะเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วจึงเดินเข้าไปถามเธอ....
“อ..เอ่อ นี่” เซโร่พูดตะกุกตะกักเพราะไม่ค่อยได้คุยกับใคร
“จ..เจ้าเป็นใคร!” ลิซ่าถามด้วยความตกใจพร้อมทั้งปาดน้ำตาที่อาบแก้มและจ้องมองไปทางต้นเสียง
“ชั้นชื่อว่าเซโร่ เผอิญชั้นมาเล่นแถวนี้บ่อยๆ และได้ยินเสียงเธอร้องไห้ทุกวัน ก็เลยเป็นห่วงน่ะ”
เซโร่ตอบพร้อมพยายามทำสีหน้าปกติ เพราะไม่คุ้นเคยกับการคุยกับคนอื่น
“น..นี่เจ้า ได้ยินที่ข้าร้องไห้ด้วยเหรอ เจ้าคนชั่ว เจ้าคนเลว” ลิซ่าด่ากลับเซโร่ที่บังอาจมาเห็นเธอนั่งร้องไห้คนเดียวทุกวันด้วยอาการแก้มแดงเพราะอายที่มีคนล่วงรู้ความลับของตน
“อ้ะ ช่างเถอะ ดูท่าว่าเจ้าจะร่าเริงขึ้นแล้วนี่ ไม่เป็นไรแล้วสินะ”เซโร่ตอบด้วยความหวังดี
“เจ้าบ้า บ้าๆๆ” ลิซ่า:Xน้ำใส่เซโร่ด้วยความเขินอายยิ่งกว่าเก่าเพราะเธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
เมื่อลิซ่า:Xน้ำใส่เซโร่จนพอใจแล้ว เซโร่จึงถามว่าทำไมถึงมานั่งร้องไห้ทุกวันพร้อมขอให้เล่าให้ฟัง
ลิซ่าก็กระอิดกระออดเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “ก็เพราะท่านพ่อของข้าน่ะสิไม่เข้าใจข้า บอกว่าข้าน่ะเป็นลูกคนชั้นสูง ไม่ควรไปเล่นกับคนชั้นต่ำแบบพวกเจ้าและให้ข้าเรียนๆๆๆอยู่ได้ น่าเบื่อ ข้าก็อยากเล่นแบบเด็กคนอื่นเหมือนกันนะ”
ลิซ่าตอบพร้อมกับทำท่าทางว่าโกรธมากๆ และเอามือทุบขาตัวเองเบาๆ
“แล้วเจ้าชื่ออะไรเหรอ” เซโร่ถามลิซ่าถึงแม้จะรู้ชื่อเธออยู่แล้วแต่เพื่อไม่ให้เสียมารยาท เซโร่จึงถามชื่อเธอ
“ข้าชื่อ ลิซ่า” ลิซ่าตอบ “ส่วนข้าชื่อเซโร่นะ” เซโร่แนะนำตัวเองบ้าง
“ข้าไม่อยากรู้!” ลิซ่าตอบกลับเพราะไม่ได้คิดอะไรมากกับเซโร่ “น่าๆช่างมันถอะ” เซโร่พยายามแก้ตัวเพราะหน้าแตกซะแล้ว
“แล้วเจ้าเรียนเรื่องอะไรล่ะ ถึงไม่อยากเรียนขนาดนั้น”เซโร่พยายามเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะเค้าว่าการเรียนรู้เป็นสิ่งที่น่าสนใจคนชั้นต่ำแบบพวกเค้าไม่มีสิทธิแม้จะได้เรียนเพราะยากจน คงมีแต่ห้องสมุดนี่ล่ะที่เป็นแหล่งเรียนรู้สุดท้าย
“เรียนเวทย์มนต์น่ะ ตอนอายุ13 ข้าต้องไปเรียนต่อที่โรงเรียนมหาเวทย์ในเมืองหลวงแต่ข้าคี่เกียจอ่ะ” ลิซ่าตอบ
เซโร่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นมาก พร้อมทั้งพูดอย่างออกหน้าออกตาว่า“งั้นเจ้าก็ใช้เวทย์มนต์ได้น่ะสิ”
“อืม..ก็ได้อยู่หรอกนะ แต่สอนเจ้านี่ ข้าว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะสามัญชนแบบเจ้าน่ะไม่มีพลังเวทย์” ลิซ่าตอบ
“งั้นหรอกเหรอ อืม...งั้นเจ้าช่วยโชวเวทย์มนต์อะไรเจ๋งๆให้ดูหน่อยสิ”เซโรขอร้อง
“ก็ได้อยู่หรอก แต่ข้าว่าคงต้องขอเป็นพรุ่งนี้นะวันนี้ข้ากลับก่อนเดี๋ยวท่านพ่อของข้าจะดุเอา เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะมาอีกนะ”
ลิซ่าเดินกลับบ้านพร้อมกับร้อยยิ้มที่เปี่ยมสุข “…เซโร่งั้นเหรอ….” ลิซ่าพึมพำกับตัวเอง เพราะเธอไม่เคยคุยกับเพื่อนวัยเดียวกันเลยและเริ่มสนใจเซโร่เล็กน้อย ส่วนเซโร่นั้น ก็ได้แอบตามหลังไปส่งเธออย่างลับๆโดยที่ไม่ให้เธอรู้ซึ่งเขาก็พบว่า ที่ๆเธออาศัยอยู่ เป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ซึ่งห่างจากป่าน้ำตกไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เองเห็นดังนั้น เซโร่ก็รู้สึกว่าตนเองกับลิซ่านั้นช่างห่างไกลกันยิ่งนัก แต่เขาก็หมดห่วงลิซ่าแล้วจึงกลับบ้านของตนเองเช่นกัน...
วันรุ่งขึ้นลิซ่าก็ได้มาที่น้ำตกอีกครั้งตามที่ให้สัญญาไว้กับเซโร่ เซโร่นั้นได้มารออยู่ก่อนแล้วเพราะอดใจรอไม่ไหวที่จะรอชมลิซ่าโชวการใช้เวทย์มนต์พอเซโร่เห็นลิซ่าเดินมาเขาจึงโบกมือทักทายให้กับเธอ
“โอ้วว ลิซ่า ทางนี้ๆ!” เซโร่ตะโกนพร้อมทั้งโบกมือไปมา
“นี่เจ้า..กลัวคนอื่นไม่รู้เหรอว่าข้ามาน่ะเดี๋ยวท่านพ่อข้าก็จับได้หรอก” ลิซ่าดุเซโร่
“เจ้าจำได้มั้ยว่าวันนี้เจ้าจะทำอะไรให้ข้าดู...” เซโร่พูดหยอกๆลิซ่าเล็กน้อยเพื่อทวงสัญญา
“อืมๆ ข้าไม่ลืมหรอกน่า แล้วเจ้าอยากเห็นเวทย์มนต์แบบไหนล่ะข้าใช้ได้แค่พวกเวทย์พื้นฐานเท่านั้นนะ” ลิซ่าตอบ
“อะไรก็ได้อ่ะที่เจ้าถนัดที่สุด โชวๆมาเลย ข้าอยากเห็น” เซโร่ทำท่าอยากรู้อยากเห็นพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน
ลิซ่าเห็นดังนั้นก็อดที่จะขำไม่ได้ เลยแอบหัวเราะออกมาเล็กน้อย “นี่เจ้าเจ้าหัวเราะอะไรเหรอลิซ่า” เซโร่ถามพร้อมความงงงวยที่เห็นลิซ่าหัวเราะโดยที่เขาไม่รู้อะไรเลย“อ๊ะ เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก ” ลิซ่าตอบ “งั้นข้าจะเริ่มล่ะนะเวทย์มนต์ที่ข้าถนัดที่สุด คือการใช้เวทย์น้ำ เพราะข้าเป็นธาตุน้ำจึงใช้เวทย์สายนี้ได้ดีที่สุด”ลิซ่าพูด
“อ๊ะ การใช้เวทย์มนต์มันมีธาตุด้วยเหรอ ข้าไม่รู้มาก่อนเลยอ่ะ” เซโร่รู้สึกว่าเขาได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกแล้วสิ
“ก็ไม่แปลกหรอกที่เจ้าจะไม่รู้ โดยกติแล้วนะเซโร่เวทย์มนต์นี่จะแบ่งเป็น 6ธาตุหลัก ซึ่งธาตุที่เห็นได้ทั่วไปก็คือดิน น้ำ ลม ไฟ และแต่ละคนสามรถใช้ธาตุทั้ง4นี้ได้โดยไม่แบ่งธาตุประจำตัว แค่จะใช้ได้อย่างคล่องก็ต้องธาตุประจำตัวอ่ะนะส่วน2ธาตุสุดท้ายก็คือ ธาตุแสงและความมืด โดยพวกนี้จะมีน้อยมากโดยเฉพาะธาตุความมืดเพราะมันได้หายไปกับจอมปีศาจแล้ว ส่วนธาตุแสงนั้นจะมีพบแค่ในเชื้อพระวงศ์เท่านั้น” ลิซ่าพยายามอธิบายให้เซโร่เข้าใจมากกว่าเดิม
“….ธาตุความมืดงั้นเหรอ...” เซโร่พึมพำเบาๆ “เมื่อกี๊เจ้าว่าอะไรนะ”ลิซ่าถามเซโร่ เมื่อเห็นว่าเซโร่พูดอะไรบางอย่าง
“อ๊ะ เปล่าๆ” เซโร่รีบปฏิเสธพร้อมทั้งลูบหัวตัวเองว่าผมยังปิดเขาไว้อยู่
“เจ้านี่แปลกจังนะ เอาล่ะเดี๋ยวข้าจะใช้พังเวทย์น้ำให้เจ้าดูล่ะกันนอกเรื่องมานานแล้ว” ลิซ่าพูดดังนั้นแล้วจึงรวบรวมพลังเวทย์รอบตัวแล้วผสมผสานกับธาตุน้ำของเธอเมื่อพลังเวทย์รวมกันจนกลายเป็นก้อนกลมๆแล้ว เธอก็ทุ่มก้อนพลังเวทย์ไปด้านถึงมันจะไม่รุนแรงมากนักแต่ก็เป็นพลังเวทย์มนต์อ่านะ “ตอนนี้ข้าทำเป็นแค่อัดพลังเวทย์รวมกันเท่านั้นเดี๋ยวข้าจะตั้งใจเรียนแล้วเอามาโชวเจ้าใหม่นะ วันนี้ข้าคงต้องไปล่ะลาล่ะนะ” ลิซ่าพูดกับเซโร่พร้อมส่งยิ้มหวานให้ เซโร่ก็พยักหน้ารับพร้อมกับใจที่เต้นตึกตักเหมือนตอนครั้งแรกที่ได้เจอกับลิซ่า“…นี่มันคืออะไรกันนะ...” เซโร่พึมพำกับตัวเองอีกครั้ง
หลังจากลิซ่าไปแล้ว เซโร่ก็ได้หยิบหนังสือตำราเวทย์ที่เขาเอามาจากห้องสมุดซึ่งเขาได้เอาไปซ่อนในที่ลับตาแถวๆริมโขดหินที่น้ำตก เขาเปิดหนังสือไปที่หน้าหลังๆพร้อมทั้งอ่านอย่างตั้งใจ แต่เขาทำตามหนังสืออย่างไรก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นถึงแม้ตอนนี้เขาจะจำเนื้อหาได้หมดแล้วเพราะเขาเป็นเด็กที่มีความจำเป็นเลิศมาก วันหนึ่งในขณะที่เขากำลังฝึกใช้พลังเวทย์คนเดียวที่น้ำตกหลังจากที่ลิซ่ากลับบ้านแล้วเขาหารู้ไม่ว่าได้มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจดจ้องเขาในพุ่มหญ้า ซึ่งมันคอยจ้องเซโร่มาชั่วครู่หนึ่งแล้ว จากนั้นมันก็ย่องเดินไปอ้อมหลังเซโร่หวังที่จะเอาเซโร่เป็นอาหารเย็นอันโอชะเซโร่นั้นเป็นคนที่ประสาทรับรู้ดีมากมาตั้งแต่เด็กแล้วเขาได้ยินเสียงย่ำก้าวเหยีบกิ่งไม้แห้งหักเบาๆ พร้อมทั้งจิตสังหารซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าว่าตัวเองสัมผัสได้อย่างไรเมื่อรู้ว่าอันตรายได้เข้าใกล้ตนเซโร่ก็หันไปทางจิตสังหารนั้นเพื่อเผชิญหน้ากับมัน
เขารู้ได้ทันทีว่ามันคืออะไร เพราะลายทางที่พาดตัดกับพุ่มหญ้าขนาดตัวที่ใหญ่โตกว่ามนุษย์ถึง 3เท่า และสองตาอำมหิตนั้นแสดงให้รู้ว่ามันคือ เสือ!
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-1-17 15:34
ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น - The Evil Kid [นิยาย-02]