ขอให้อ่านให้สนุกล่ะ
เฮลิออสนั่งคิดถึงเรื่องที่จิ้งจอกเก้าหางเล่าให้ฟังถึงชายที่ชื่อว่าเฟรเดริค ทำไมเขาถึงคุ้นกับชื่อนี้จัง? เรื่องนี้แม้แต่เจ้าตัวก็ยังสงสัย เขาได้แต่มองไปที่ขนนกที่ได้มาจากสาวปริศนาที่บอกว่าตนเป็นเทพธิดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนดาวดวงนีัอย่างเงียบๆ แล้วเขาก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้
นันน่าร์เดินมาที่ห้องของเฮลิออสตามปกติแทบทุกวัน แน่นอนเธอไม่เคยแม้แต่จะเคาะ เธอคิดจะเข้าก็เข้ามาเลยเพราะเธอสามารถไปได้ทุกที่อยู่แล้ว แล้ววันนี้เธอก็ทำเหมือนกับทุกๆวัน "เฮลิออส" เธอเรียก แล้วเธอก็มองไปรอบๆห้อง แต่มันกลับไม่มีใครอยู่เลย มีไว้แค่เตียงของเขาเท่านั้น "อะไรเอ่ย?" เธอสงสัยแล้วหยิบกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะดู "ฉันจะออกไปข้างนอก แต่ไม่ต้องห่วง พอเสร็จธุระแล้วฉันจะกลับมา จาก เฮลิออส" "ยังคงเป็นคนที่สั้นๆได้ใจความเหมือนเดิมนะคะ" เธอพูดขึ้นแล้วก็หายตัวออกจากห้องไปด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง
หญิงสาวคนหนึ่งในชุดหูเมดหูแมว มือของเธอถือคทาที่มีปีกนกทั้งสองข้างตรงปลายไม้คทา เธอห้อยสร้อยคอรูปขนนก ใช่แล้ว เธอก็คือเฮลิเบลนั่นเอง ตอนนี้เธอยืนอยู่ที่เชิงบันไดวัด
ก่อนหน้านี้ไม่นาน
เฮลิออสได้กลับไปที่ต้นไม้ที่เขาจำได้ว่ามีเทพธิดาออกมา เขาจึงเดินตามหาจนพบป่าหลังหมู่บ้าน เขาเดินเข้าไปท่ามกลางความมืด แต่สายตาของเขาก็สามารถปรับให้เห็นในความมืดได้อย่างรวดเร็ว "จำได้ว่าจะมีรูปปั้นเทพธิดานี่นะ" เขาคิดพลางเดินตามหารูปปั้นเทพธิดา ผ่านไปไม่นาน เขาก็มาหยุดอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ แล้วเขาก็พบกับรูปปั้นที่ตามหา "เจอแล้ว" เขารู้สึกดีใจที่มันไม่ใช่แค่ความฝัน แต่มันมีอยู่จริง เขาจึงกวาดสายตามองไปรอบๆก็ไม่พบกับใครเลยนอกจากความมืดกับต้นไม้ที่รกจนดูน่ากลัว เขามองไปด้านบนก็มีแต่ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมจนมืด ชวนให้ขนลุก "น่ากลัวแฮะ ถ้าเกิดมีอะไรโผล่มาด้านหลังนี่..." แล้วเขาก็หันหลังกลับไป เพราะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
"ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องให้ฉันช่วยสินะคะ" หญิงสาวถาม "คุณคือเธอคนนั้น" เฮลิออสแทนที่จะตอบ แต่เขากลับถามกลับไปเพื่อความแน่ใจ "ใช่ค่ะ อย่างที่บอก ฉันเป็นเทพธิดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของดาวดวงนี้ค่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน "สวยจัง" เขาคิด "เฮ้ย เราไม่ได้มาเพื่อเรื่องนี้นะ" เขารีบบอกตัวเองพร้อมกับส่ายหน้าอย่างแรง "เอ่อ คุณเทพธิดาสินะ ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องน่ะ" "อะไรคะ?" ช่วยทำให้ผมกลายเป็นแบบตอนนั้นได้หรือเปล่า?" เขาขอร้องทั้งๆที่คิดว่า "เขาต้องคิดแน่ว่าเรามันวิตถาร โรคจิต ชอบแต่งหญิง ถ้ามันไม่จำเป็นต่อการพรางตัวเราก็ไม่อยากทำหรอก" แต่เทพธิดากลับหลับตาลง เธอลืมตาอีกครั้งพร้อมทั้งรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความยินดีที่จะช่วยเหลือ "ค่ะ ฉันจะช่วยค่ะ แต่คุณต้องทำอะไรตอบแทนก่อนนะคะ" "หะ...ให้ช่วยอะไรครับ?" เขาถามทั้งๆที่ยังตกใจไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะยอมช่วยง่ายๆแบบนี้ "งั้นฉัน..." เธอเริ่มนึก
เฮลิออสเห็นอย่างนั้น ในใจเขาก็นึกว่า "จะให้เขาช่วยทั้งทีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะขอให้ทำอะไรให้เขาก่อน ว่าแต่เทพธิดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนดาวนี่เขาต้องการอะไรกันน้า?" แล้วเขาก็ทำหน้าตกใจแล้วคิดว่า "หรือว่าจะให้เราไปล่าพญานาค 20 ตัว แล้วเอาบ่วงนาคบาศก์มาให้กัน!!" แน่นอนว่าถ้าหากมันเป็นอย่างที่เขาคิดล่ะก็ เขาไม่มีทางทำได้ เพราะเขาไม่ใช่พญาครุฑ "งั้นฉันขอ..." เธอพูด "งั้นฉันขอ..." เฮลิออสคิดทวนพลางกลืนน้ำลายลงคออย่างลุ้นระทึก "ฉันขอขนมเค้กสักกล่องแล้วกัน!!!" เธอตอบพร้อมทั้งยิ้มอย่างดีใจ เฮลิออสที่ได้ยินถึงกับเข่าอ่อนเพราะเขาไม่อยากเชื่อว่าคำแบบนี้จะหลุดออกมาจากปากของเทพธิดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของดาวดวงนี้ "นี่ เอาจริงเหรอครับ?" เขาถามด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ เพราะคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะลองทดสอบเขา ซึ่งเทพธิดาได้ยินดังนั้นก็ทำหน้ามุ่ยไม่พอใจแล้วพูดว่า "นี่ถ้าเป็นมารุตล่ะก็เขาไปหามาให้แล้วนะเนี่ย" "เห มารุต" เฮลิออสอุทานอย่างสงสัย "ใช่ มารุต เขาเคยมาขอให้ฉันช่วยเหมือนกัน ไม่ว่าฉันให้ทำอะไรเขาก็ทำให้หมดโดยที่ไม่บ่นสักคำเลยล่ะ" แล้วเธอก็ทำหน้าดีใจ แต่แล้วเธอกลับมีหน้าเศร้าสร้อยลง "แต่เขาไม่อยู่แล้วน่ะสิ" เสียงของเธอฟังดูเศร้ามาก จนเฮลิออสอยากรู้เหตุผล "แล้วมารุตนี่เขาเป็นอะไรเหรอครับ?" เขาถาม แต่อีกฝ่ายกลับเร่งเขาว่า "นี่ ไหนล่ะเค้กๆๆๆๆ" เจอเข้าอย่างนี้เขาจึงต้องไปหาซื้อเค้กตามร้านมา
"อร่อยจัง" เทพธิดาอุทานหลังจากที่ลิ้มรสของเค้ก เธอมองไปที่สตอเบอร์รี่แล้วก็พูดว่า "เหมือนตอนที่ฉันเจอมารุตเลย ครั้งแรกเขาก็เอาเค้กแบบนี้มาให้ฉันเหมือนกัน" สีหน้าของเธอนั้นดูมีความสุขเมื่อนึกถึงวันเก่าๆ "ว่าแต่คุณก็เถอะ เอ่อ คุณนางฟ้าน่ะ คุณชื่ออะไรเหรอ?" เฮลิออสถามเพราะเขาเองก็ไม่รู้จะเรียกยังไง เทพธิดาก็ตอบว่า "งั้นเรียกฉันโมมิจิก็แล้วกัน" แล้วเธอก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน "ส่วนนายเฮลิออสสินะ" เธอพูดชื่อของเขาออกมาทั้งๆที่เขายังไม่เคยบอกเลย "รู้ได้ไง?" เขาคิด แต่กลับมีเสียงตอบมาว่า "ก็ฉันเป็นเทพธิดานี่คะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้กับเฮลิออส
โมมิจิลุกยืนขึ้นหลังจากที่เสวยเครื่องบรรณาการเสร็จ "งั้นก็ได้ช่วยเหลือคุณแล้วสินะคะ" เธอมองไปที่เฮลิออสอีกครั้ง แล้วเธอก็ยื่นมือ ออกมาข้างหน้า ไม้คทากับขนนกที่อยู่กับเฮลิออสก็ลอยขึ้นมาอยู่มือของเธอ จากนั้นเธอก็อธิฐานอะไรบางอย่างลงไป แล้วเธอก็ลืมตาขึ้น "รับไปสิคะ" เธอบอก เฮลิออสจึงรับของทั้งสองอย่างที่ลอยมาหาเขา "มันก็เหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ?" เขาคิด แต่ดูเหมือนว่าโมมิจิจะรู้ว่าเขาคิดอะไร จึงบอกว่า "ของสองอย่างนี้จะเป็นเครื่องมือช่วยเหลือของคุณค่ะ" "ยังไงกันครับ?" "ขนนกนั่นจะนำพาคุณไปหาคนที่สามารถช่วยคุณได้ ส่วนคทานั่นเอาไว้ใช้แปลงร่างค่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้ "แปลงร่าง?" เขาได้ยินก็สงสัย จึงทวนคำกลับไป แต่โมมิจิกลับยิ้มแล้วตอบมาว่า "ใช่ค่ะ เพราะคุณต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว" เฮลิออสรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยว่าไม้คทานี่จะทำให้เขาแปลงร่างได้อย่างไร แต่ทันทีที่เขาคิด ก็มีเสียงตอบกลับไขความข้องใจทันทีว่า "เวลาใช้ก็ให้ท่องคาถาค่ะ" "คาถา?" "ใช่ค่ะ ท่องอย่างนี้นะคะ 'ปูเร ปูเร ปาลาโต' นะคะ" เมื่อเฮลิออสได้ยินก็ลองทำตามที่เธอบอก เขาชูไม้คทาขึ้นแล้วท่องคาถาว่า "ปูเร ปูเร ปาลาโต"
ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างโอบล้อมตัวเฮลิออส "โอ้ ความรู้สึกนี้มัน" เขาอุทานเมื่อรับรู้ถึงพลังบางอย่าง ไม่แน่ว่าตัวเขาในตอนนี้อาจมีพลังงานบางอย่างไหลเข้ามาอยู่ก็เป็นได้
ตอนนี้กลับมีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏแทนที่เฮลิออส เป็นผู้หญิงที่นับว่าสวยทีเดียว เธอใส่ชุดเมดหูแมวมีหาง ที่หางมีกระดิ่งผูกอยู่ด้วย แล้วเธอก็ลองจับดูร่างกายส่วนต่างๆของตน "ฉันกลายเป็นผู้หญิงแล้วเหรอเนี่ย?" เสียงของเธอช่างสดใสยิ่งนัก โมมิจิเห็นดังนั้นก็พูดว่า "ทีนี้คุณก็พลางตัวได้แล้วล่ะคะ" "แล้วผมจะกลับร่างเดิมยังไงเนี่ย?" เธอคนนั้นถาม โมมิจิได้ยินก็ยิ้มแล้วบอกว่า "ดูเหมือนว่าตอนนี้คุณต้องอยู่สภาพนี้ไปอีกซักพักค่ะ" เธอก็อุทานด้วยความตกใจทันทีว่า "หา!!!" แต่โมมจิกลับยิ้มแล้วพูดว่า "ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะเฮลิเบล ทุกอย่างจะเรียบร้อยค่ะ" แต่ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะยังยืนค้างด้วยความตกใจจนไม่สนว่าโมมิจิพูดอะไรต่อ
"ทำไมฉันต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้เนี่ย?" เฮลิเบลถามตัวเอง พลางเอามือจับที่ขนนกที่ตนห้อยคอไว้ "แต่เราตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ถอย เพราะงั้นเอาไงเอากัน" เธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ถอยอีกแล้ว ทันใดนั้นเอง ขนนกของเธอก็แปล่งแสง "เอ๊ะ หมายความว่าไง?" เธอพูดขึ้น แล้วเธอก็นึกได้ว่าโมมิจิบอกว่า ขนนกจะนำทางเธอไปหาคนที่จะช่วยเธอได้ "งั้นสินะ งั้นเราก็ไปกันเลย" เธอพูดขึ้นอย่างหนักแน่น แสดงถึงความตั้งใจที่แน่วแน่ และแล้วตำนานบทใหม่ของสาวน้อยคนนี้ก็ได้เริ่มขึ้น
เรื่องราวของสาวน้อยชุดเมดหูแมวหางกระดิ่งเฮลิเบลจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฮ้อ ในที่สุดก็พิมพ์จบซักที ต่อจากนี้จะเขียนเรื่องราวเป็นฟากไปนะครับ แบ่งเป็นสองฟากคือ เรื่องของเฮลิเบลฟากนึงกับนันน่าร์ฟากนึง ก็ติดตามต่อไปละกัน
ส่วนตัวละครที่จะได้พบก็จะไม่เหมือนกันด้วย มันน่าลุ้นดีใช่ไหมล่ะ งั้นก็รอติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้
เฮลิออสนั่งคิดถึงเรื่องที่จิ้งจอกเก้าหางเล่าให้ฟังถึงชายที่ชื่อว่าเฟรเดริค ทำไมเขาถึงคุ้นกับชื่อนี้จัง? เรื่องนี้แม้แต่เจ้าตัวก็ยังสงสัย เขาได้แต่มองไปที่ขนนกที่ได้มาจากสาวปริศนาที่บอกว่าตนเป็นเทพธิดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนดาวดวงนีัอย่างเงียบๆ แล้วเขาก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้
นันน่าร์เดินมาที่ห้องของเฮลิออสตามปกติแทบทุกวัน แน่นอนเธอไม่เคยแม้แต่จะเคาะ เธอคิดจะเข้าก็เข้ามาเลยเพราะเธอสามารถไปได้ทุกที่อยู่แล้ว แล้ววันนี้เธอก็ทำเหมือนกับทุกๆวัน "เฮลิออส" เธอเรียก แล้วเธอก็มองไปรอบๆห้อง แต่มันกลับไม่มีใครอยู่เลย มีไว้แค่เตียงของเขาเท่านั้น "อะไรเอ่ย?" เธอสงสัยแล้วหยิบกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะดู "ฉันจะออกไปข้างนอก แต่ไม่ต้องห่วง พอเสร็จธุระแล้วฉันจะกลับมา จาก เฮลิออส" "ยังคงเป็นคนที่สั้นๆได้ใจความเหมือนเดิมนะคะ" เธอพูดขึ้นแล้วก็หายตัวออกจากห้องไปด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง
หญิงสาวคนหนึ่งในชุดหูเมดหูแมว มือของเธอถือคทาที่มีปีกนกทั้งสองข้างตรงปลายไม้คทา เธอห้อยสร้อยคอรูปขนนก ใช่แล้ว เธอก็คือเฮลิเบลนั่นเอง ตอนนี้เธอยืนอยู่ที่เชิงบันไดวัด
ก่อนหน้านี้ไม่นาน
เฮลิออสได้กลับไปที่ต้นไม้ที่เขาจำได้ว่ามีเทพธิดาออกมา เขาจึงเดินตามหาจนพบป่าหลังหมู่บ้าน เขาเดินเข้าไปท่ามกลางความมืด แต่สายตาของเขาก็สามารถปรับให้เห็นในความมืดได้อย่างรวดเร็ว "จำได้ว่าจะมีรูปปั้นเทพธิดานี่นะ" เขาคิดพลางเดินตามหารูปปั้นเทพธิดา ผ่านไปไม่นาน เขาก็มาหยุดอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ แล้วเขาก็พบกับรูปปั้นที่ตามหา "เจอแล้ว" เขารู้สึกดีใจที่มันไม่ใช่แค่ความฝัน แต่มันมีอยู่จริง เขาจึงกวาดสายตามองไปรอบๆก็ไม่พบกับใครเลยนอกจากความมืดกับต้นไม้ที่รกจนดูน่ากลัว เขามองไปด้านบนก็มีแต่ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมจนมืด ชวนให้ขนลุก "น่ากลัวแฮะ ถ้าเกิดมีอะไรโผล่มาด้านหลังนี่..." แล้วเขาก็หันหลังกลับไป เพราะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
"ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องให้ฉันช่วยสินะคะ" หญิงสาวถาม "คุณคือเธอคนนั้น" เฮลิออสแทนที่จะตอบ แต่เขากลับถามกลับไปเพื่อความแน่ใจ "ใช่ค่ะ อย่างที่บอก ฉันเป็นเทพธิดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของดาวดวงนี้ค่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน "สวยจัง" เขาคิด "เฮ้ย เราไม่ได้มาเพื่อเรื่องนี้นะ" เขารีบบอกตัวเองพร้อมกับส่ายหน้าอย่างแรง "เอ่อ คุณเทพธิดาสินะ ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องน่ะ" "อะไรคะ?" ช่วยทำให้ผมกลายเป็นแบบตอนนั้นได้หรือเปล่า?" เขาขอร้องทั้งๆที่คิดว่า "เขาต้องคิดแน่ว่าเรามันวิตถาร โรคจิต ชอบแต่งหญิง ถ้ามันไม่จำเป็นต่อการพรางตัวเราก็ไม่อยากทำหรอก" แต่เทพธิดากลับหลับตาลง เธอลืมตาอีกครั้งพร้อมทั้งรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความยินดีที่จะช่วยเหลือ "ค่ะ ฉันจะช่วยค่ะ แต่คุณต้องทำอะไรตอบแทนก่อนนะคะ" "หะ...ให้ช่วยอะไรครับ?" เขาถามทั้งๆที่ยังตกใจไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะยอมช่วยง่ายๆแบบนี้ "งั้นฉัน..." เธอเริ่มนึก
เฮลิออสเห็นอย่างนั้น ในใจเขาก็นึกว่า "จะให้เขาช่วยทั้งทีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะขอให้ทำอะไรให้เขาก่อน ว่าแต่เทพธิดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนดาวนี่เขาต้องการอะไรกันน้า?" แล้วเขาก็ทำหน้าตกใจแล้วคิดว่า "หรือว่าจะให้เราไปล่าพญานาค 20 ตัว แล้วเอาบ่วงนาคบาศก์มาให้กัน!!" แน่นอนว่าถ้าหากมันเป็นอย่างที่เขาคิดล่ะก็ เขาไม่มีทางทำได้ เพราะเขาไม่ใช่พญาครุฑ "งั้นฉันขอ..." เธอพูด "งั้นฉันขอ..." เฮลิออสคิดทวนพลางกลืนน้ำลายลงคออย่างลุ้นระทึก "ฉันขอขนมเค้กสักกล่องแล้วกัน!!!" เธอตอบพร้อมทั้งยิ้มอย่างดีใจ เฮลิออสที่ได้ยินถึงกับเข่าอ่อนเพราะเขาไม่อยากเชื่อว่าคำแบบนี้จะหลุดออกมาจากปากของเทพธิดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของดาวดวงนี้ "นี่ เอาจริงเหรอครับ?" เขาถามด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ เพราะคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะลองทดสอบเขา ซึ่งเทพธิดาได้ยินดังนั้นก็ทำหน้ามุ่ยไม่พอใจแล้วพูดว่า "นี่ถ้าเป็นมารุตล่ะก็เขาไปหามาให้แล้วนะเนี่ย" "เห มารุต" เฮลิออสอุทานอย่างสงสัย "ใช่ มารุต เขาเคยมาขอให้ฉันช่วยเหมือนกัน ไม่ว่าฉันให้ทำอะไรเขาก็ทำให้หมดโดยที่ไม่บ่นสักคำเลยล่ะ" แล้วเธอก็ทำหน้าดีใจ แต่แล้วเธอกลับมีหน้าเศร้าสร้อยลง "แต่เขาไม่อยู่แล้วน่ะสิ" เสียงของเธอฟังดูเศร้ามาก จนเฮลิออสอยากรู้เหตุผล "แล้วมารุตนี่เขาเป็นอะไรเหรอครับ?" เขาถาม แต่อีกฝ่ายกลับเร่งเขาว่า "นี่ ไหนล่ะเค้กๆๆๆๆ" เจอเข้าอย่างนี้เขาจึงต้องไปหาซื้อเค้กตามร้านมา
"อร่อยจัง" เทพธิดาอุทานหลังจากที่ลิ้มรสของเค้ก เธอมองไปที่สตอเบอร์รี่แล้วก็พูดว่า "เหมือนตอนที่ฉันเจอมารุตเลย ครั้งแรกเขาก็เอาเค้กแบบนี้มาให้ฉันเหมือนกัน" สีหน้าของเธอนั้นดูมีความสุขเมื่อนึกถึงวันเก่าๆ "ว่าแต่คุณก็เถอะ เอ่อ คุณนางฟ้าน่ะ คุณชื่ออะไรเหรอ?" เฮลิออสถามเพราะเขาเองก็ไม่รู้จะเรียกยังไง เทพธิดาก็ตอบว่า "งั้นเรียกฉันโมมิจิก็แล้วกัน" แล้วเธอก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน "ส่วนนายเฮลิออสสินะ" เธอพูดชื่อของเขาออกมาทั้งๆที่เขายังไม่เคยบอกเลย "รู้ได้ไง?" เขาคิด แต่กลับมีเสียงตอบมาว่า "ก็ฉันเป็นเทพธิดานี่คะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้กับเฮลิออส
โมมิจิลุกยืนขึ้นหลังจากที่เสวยเครื่องบรรณาการเสร็จ "งั้นก็ได้ช่วยเหลือคุณแล้วสินะคะ" เธอมองไปที่เฮลิออสอีกครั้ง แล้วเธอก็ยื่นมือ ออกมาข้างหน้า ไม้คทากับขนนกที่อยู่กับเฮลิออสก็ลอยขึ้นมาอยู่มือของเธอ จากนั้นเธอก็อธิฐานอะไรบางอย่างลงไป แล้วเธอก็ลืมตาขึ้น "รับไปสิคะ" เธอบอก เฮลิออสจึงรับของทั้งสองอย่างที่ลอยมาหาเขา "มันก็เหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ?" เขาคิด แต่ดูเหมือนว่าโมมิจิจะรู้ว่าเขาคิดอะไร จึงบอกว่า "ของสองอย่างนี้จะเป็นเครื่องมือช่วยเหลือของคุณค่ะ" "ยังไงกันครับ?" "ขนนกนั่นจะนำพาคุณไปหาคนที่สามารถช่วยคุณได้ ส่วนคทานั่นเอาไว้ใช้แปลงร่างค่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้ "แปลงร่าง?" เขาได้ยินก็สงสัย จึงทวนคำกลับไป แต่โมมิจิกลับยิ้มแล้วตอบมาว่า "ใช่ค่ะ เพราะคุณต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว" เฮลิออสรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยว่าไม้คทานี่จะทำให้เขาแปลงร่างได้อย่างไร แต่ทันทีที่เขาคิด ก็มีเสียงตอบกลับไขความข้องใจทันทีว่า "เวลาใช้ก็ให้ท่องคาถาค่ะ" "คาถา?" "ใช่ค่ะ ท่องอย่างนี้นะคะ 'ปูเร ปูเร ปาลาโต' นะคะ" เมื่อเฮลิออสได้ยินก็ลองทำตามที่เธอบอก เขาชูไม้คทาขึ้นแล้วท่องคาถาว่า "ปูเร ปูเร ปาลาโต"
ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างโอบล้อมตัวเฮลิออส "โอ้ ความรู้สึกนี้มัน" เขาอุทานเมื่อรับรู้ถึงพลังบางอย่าง ไม่แน่ว่าตัวเขาในตอนนี้อาจมีพลังงานบางอย่างไหลเข้ามาอยู่ก็เป็นได้
ตอนนี้กลับมีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏแทนที่เฮลิออส เป็นผู้หญิงที่นับว่าสวยทีเดียว เธอใส่ชุดเมดหูแมวมีหาง ที่หางมีกระดิ่งผูกอยู่ด้วย แล้วเธอก็ลองจับดูร่างกายส่วนต่างๆของตน "ฉันกลายเป็นผู้หญิงแล้วเหรอเนี่ย?" เสียงของเธอช่างสดใสยิ่งนัก โมมิจิเห็นดังนั้นก็พูดว่า "ทีนี้คุณก็พลางตัวได้แล้วล่ะคะ" "แล้วผมจะกลับร่างเดิมยังไงเนี่ย?" เธอคนนั้นถาม โมมิจิได้ยินก็ยิ้มแล้วบอกว่า "ดูเหมือนว่าตอนนี้คุณต้องอยู่สภาพนี้ไปอีกซักพักค่ะ" เธอก็อุทานด้วยความตกใจทันทีว่า "หา!!!" แต่โมมจิกลับยิ้มแล้วพูดว่า "ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะเฮลิเบล ทุกอย่างจะเรียบร้อยค่ะ" แต่ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะยังยืนค้างด้วยความตกใจจนไม่สนว่าโมมิจิพูดอะไรต่อ
"ทำไมฉันต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้เนี่ย?" เฮลิเบลถามตัวเอง พลางเอามือจับที่ขนนกที่ตนห้อยคอไว้ "แต่เราตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ถอย เพราะงั้นเอาไงเอากัน" เธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ถอยอีกแล้ว ทันใดนั้นเอง ขนนกของเธอก็แปล่งแสง "เอ๊ะ หมายความว่าไง?" เธอพูดขึ้น แล้วเธอก็นึกได้ว่าโมมิจิบอกว่า ขนนกจะนำทางเธอไปหาคนที่จะช่วยเธอได้ "งั้นสินะ งั้นเราก็ไปกันเลย" เธอพูดขึ้นอย่างหนักแน่น แสดงถึงความตั้งใจที่แน่วแน่ และแล้วตำนานบทใหม่ของสาวน้อยคนนี้ก็ได้เริ่มขึ้น
เรื่องราวของสาวน้อยชุดเมดหูแมวหางกระดิ่งเฮลิเบลจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฮ้อ ในที่สุดก็พิมพ์จบซักที ต่อจากนี้จะเขียนเรื่องราวเป็นฟากไปนะครับ แบ่งเป็นสองฟากคือ เรื่องของเฮลิเบลฟากนึงกับนันน่าร์ฟากนึง ก็ติดตามต่อไปละกัน
ส่วนตัวละครที่จะได้พบก็จะไม่เหมือนกันด้วย มันน่าลุ้นดีใช่ไหมล่ะ งั้นก็รอติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้
Wing of Destiny ตอนที่ 10 You can change you way!
[IMG]