ภายในความเงียบของยานรบขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีความยาวกว่า 600 เมตร ที่ลอยไปอย่างไร้จุดหมายภายในความเวิ้งว้างของอวกาศที่ไร้ที่สิ้นสุด มียานรบขนาดพอกันแต่มันมีรูปร่างเพรียวบางกว่าสีขาวกำลังจอดเทียบท่าอยู่
ห้องเครื่องยานรบร้าง
“เงียบ เงียบสุดๆไปเลย ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเลยซักนิด แบบว่ามีผู้รอดชีวิตแต่มีสภาพเหมือนคนบ้าแล้วบอกยานนี้เป็นยานผีสิงไรงั้น คงตื่นเต้นดีล่ะนะ”
ชายคนหนึ่งในชุดสูทสำหรับทหารราบ มีรูปร่างใหญ่โต ซึ่งมันถูกออกมามาอย่างดีทั้งแข็งแรงและทนทาน แถมยังสามารถใช้ในอวกาศได้แทนชุดอวกาศอีกด้วย
“พูดได้ดี แต่แบบนั้นพอรับได้นะ แต่อย่างอื่นก็ไม่ไหวเหมือนกัน”
ช่างเครื่องสาวคนหนึ่งพูดพลางดูแผงวงจรไฟฟ้าที่เสียหาย
“อย่างอื่นที่ว่าเนี่ยมันอะไรล่ะ ยกตัวอย่าง”
“อีทเตอร์งั้น ชาตินี้ฉันเจอหนเดียวก็เกินพอแล้ว”
“มันจะมาอยู่แถวนี้ได้ไง”
“ตั้งใจทำงานหน่อยพวกนาย เดี๋ยวกัปตันจะมาฉุนขาดใส่เอานา”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นในสัญญาณวิทยุ
“กัปตันเวลาแบบนี้ชอบนั่งหลับไม่ก็กลับไปนอนที่ห้องแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ฉันยังนั่งฟังพวกแกคุยอยู่ที่ห้องบังคับการนี่ล่ะ ทำงานไวๆเลย”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกเข้ามา มันเล่นเอาชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว
“จากหน่วยค้นหา ค้นหาจะทั่วยานแล้วไม่พบผู้รอดชีวิต แต่เจออะไรที่น่าสนใจมากเลยล่ะขอบอก”
เสียงของชายอีกคนดังแทรกเข้ามาในช่องสัญญาณ
“เจออะไรเหรออาเธอร์”
กัปตันสาวถาม
“หลอดทดลองขนาดใหญ่ ทีมแพทย์ตรวจดูแล้วมีของเหลวที่เป็นน้ำลายของพวกอีทเตอร์ผสมอยู่ด้วย แต่ไม่มีตัว สงสัยอยู่ซักที่ในยาน”
“เจริญล่ะพวกพ้อง ระวังเหนือหัวใต้เท้า ช่องหลืบ ซอกมุม ให้ดี อย่าแอบไปตามที่มืดๆนะเฟ้ย ได้เดี๋ยวไปจุติใหม่เป็นดวงดาว”
“แนะนำได้ดี แต่อย่าเจอเลยดีกว่า”
“โห!! สุดยอด พวกมันเลี้ยงอีทเตอร์ด้วยคนเหรอฟร๊ะ พวกรัสเซียโหดมาก”
เสียงของชายอีกคนดังแทรกเข้ามา
“หมายความว่ายังไงแดนนี่ นายเจออะไร”
“ครับ ดูเหมือนว่ายานนี่จะใช้เป็นที่ทดลองอีทเตอร์ครับ ทดลองทุกอย่างเลยตั้งแต่เรื่องทั่วๆไปที่รู้ไปจนถึงอาหารการกินเลยแฮะ”
“เป็นไงฟร๊ะ มันชอบกินอะไรบอกหน่อย”
“กินหมด ยกเว้นพวกพืช สิ่งมีชีวิตทุกแบบ ยินแม้กระทั่งเหล็กเลยล่ะ”
“ฟังไว้นะครับทุกท่าน อีทเตอร์มันกินแม้กระทั่งเหล็ก นั่นแสดงว่าไอ้ชุดสูทนี่ก็กันปากมันไม่ได้ หากรู้ว่าโดนงามแน่ชิงยิงตัวตายก่อนเลยอย่าไปเปลืองกระสุน”
“ว่าแต่มีหลอดทดลองมากแค่ไหน”
กัปตันสาวถามเสียงเครียด
“ดูด้วยตาก็ราวๆ ร้อยกว่าๆได้ครับ”
“ทุกคน งั้นกลับมาก่อน เราจะระเบิดยานนี่ซะ”
“เฮ้ยๆๆ เอาจริงดิ”
“อะไรอีกแล้ว เจอวีดีโออะไรอีกล่ะ”
“ทุกท่าน อยากทราบรึเปล่าว่าทำไมอีทเตอร์มันถึงฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่หมด”
“เจออะไรแดนนี่”
“มันเกิดไวโตไวแฮะ ฟักตัวจากตัวอ่อนใช้เวลาแค่หนึ่งวัน สี่วันมันก็พร้อมจะมาไล่กินพวกเราทันที”
“มันมีระบบสืบพันธุ์ด้วยแฮะ”
“มันมีเพศด้วยเหรอ!!”
เสียงของหญิงสาวคนก่อนหน้าดังขึ้นอย่างตกใจ
“ดูเหมือนจะต้องพึ่งสิ่งมีชีวิตอื่นนิดหน่อยน่ะ ฮ่าๆๆๆ สนใจจะดูไหมเดี๋ยวจะเอาไปให้ดู”
“อย่าเชียวนะพวกโรคจิต”
“จากหน่วยเก็บ:X้ เราเริ่มทำการขนย้ายอาวุธแล้ว อีกสิบนาทีจะไปถึงท่าจอดยาน”
เสียงนิ่งๆของหญิงสาวอีกคนดังแทรกเข้ามา
“จากหน่วยคุ้มกัน ทีมแพทย์ทำการขนย้ายยาและสิ่งจำเป็นต่างๆแล้วค่ะ”
“จากหน่วยค้นหา ให้ผมทำการวางระเบิดเอาไว้ไหม”
“กลับมาก่อนอาเธอร์ เดี๋ยวเราค่อยทำลายยานนั่นทิ้งด้วยปืนประจำยาน”
“รับทราบ”
“แดนนี่ ไปได้แล้วอย่ามั่วแต่ดูของแปลกนาน”
“ไม่ได้ดูเฟ้ย แต่ว่ามันมีอะไรแปลกๆบนผังยาน ทางทิศ 12 นาฬิกาของห้องนายเห็นประตูห้องอะไรไหม แบบว่าน่าจะมีขนาดโคตรใหญ่น่ะ”
เสียงของแดนนี่ดังขึ้น มันฟังดูกังวลกับสิ่งที่เขาดู
“ฐานข้อมูลบอกว่า ห้องวิจัยลับว่ะ กัปตันเอาไงดี จะตรวจสอบไหม หรือปล่อยไว้”
ปังๆๆๆๆ
เสียงปืนดังแทรกเข้ามาในคลื่นวิทยุ
“จากหน่วยคุ้มกันทีมช่าง เราโดนดีแล้ว ฝูงอีทเตอร์กำลังไล่เราอยู่ ประมาณยี่สิบตัว บ้าเอ้ย!!”
หน่วยทหารกำลังวิ่งสุดแรงพายในทางเดินแคบๆของยานร้าง โดยพวกที่ใส่ชุดสูทคอยวิ่งสลับกับยิงใส่สิ่งมีชีวิตประหลาด ท่อนล่างของมันมีขาหกขาที่ดูแล้วเหมือนเป็นแขนซะมากกว่า และท่อนบนดูเหมือนมนุษย์ผู้ชาย ส่วนหัวมีลักษณ์คล้ายมนุษย์ ต่างตรงที่มันมีแต่ปากเท่านั้น
“บ้าเอ้ย!! หยังไม่ได้เหนียวเลยแท้ๆ แต่โดนยิงจนขาขาดยังหน้าด้านตามมาได้อีก!!”
“นี่จากหน่วยเก็บ:X้ เราถูกฝูงอีทเตอร์ไล่ล่าเหมือนกัน”
ที่หน่วยเก็บ:X้ หญิงสาวผู้มีเรือนผมสีเงินยาวกำลังยืนอยู่บนรถบรรทุกที่กำลังซิ่งสุดกำลัง โดยเธอไม่ได้อยู่ในชุดสูทแบบพวกทหารคนอื่น เธออยู่ในชุดสูทแนบเนื้อสีฟ้าอ่อนที่เอยสัดส่วนของร่างกายเธออย่างชัดเจน โดยเธอกำลังกระหน่ำยิ่งปืนกลมือขนาดกำลังพอเหมาะใส่พวกอีทเตอร์ที่กำลังวิ่งไล่มาติดๆ
“นี่หน่วยค้นหา รายงานสดจากแดนนี่รูปชอบ หนุ่มโสดสาวอังกฤษ ตอนนี้กำลังวิ่งสุดแรงตรงกลับยาน ถ้าให้ดีช่วยเตรียมปืนเยอะๆไว้ต้อนรับเราด้วย เพราะตอนนี้เหลือแค่ผมกับอาเธอร์ส่วนหน่วยแพทย์ได้เดินทางไปจุติใหม่เป็นดวงดาวแล้วครับผม!!”
“แดนนี่ ระเบิดเหลือมั่งไหม”
“เหลือ C4 ลูกเดียว จะเอาไหม”
“โยนเลย!!”
“อาเธอร์ แกวิ่งหนีมากไปจนสมองรั่วแล้วใช่ไหม เดี๋ยวเราก็ได้ตามหน่วยแพทย์ไปหรอกเจ้าบ้า!!”
“โยนๆไปเถอะน่า”
ตูม!!
แรงสะเทือนจากการระเบิดกระจายไปทั่วยาน ถึงมันจะเป็นแค่ระเบิด C4 แต่ที่มันระเบิดได้แรงนักก็เพราะว่าแถวนั้นมีแก๊สรั่วอยู่ด้วย
“นี่จากอาเธอร์ ผมกับแดนนี่ยังไม่ตาย และดูเหมือนว่าพวกอีทเตอร์ก็ ...... ยังไม่ตายเหมือนกัน แถมคลานมาทางนี้แล้วว้อย!!! แดนนี่วิ่งเร็ว!!”
“แผนแกสุดยอดมาก ยอดมาก เปลือง C4 ไปลูกนึงเลย แถมไม่หยุดตามด้วย แถมมาเยอะกว่าเดิมด้วย!!”
“นี่จากคันซากิ จะรีบไปเดินเครื่องยูกิคาเซะเดี๋ยวนี้ ส่วนพวกนายรีบๆหนีกลับมาซะ เดี๋ยวจะได้ตายฟรีกันหมด”
เสียงเรียบของหญิงสาวคนหนึ่งดังแทรกเข้ามาในสัญญาณวิทยุ
“เจ้าหญิงของพวกเรา ท่านยูอิ(Yui)!!”
“แดนนี่ วิ่งให้ไวกว่านี้อีกมันจะไล่มาทันแล้ว!!”
“ขอสาบานเลย จบเรื่องนี้เมื่อไหร่ ฉันจะไปเป็นนักวิ่งทีมชาติ บ้าเอ้ย!! ขนาดสมัยประจำอยู่กองทัพยังไม่เคยต้องวิ่งจนก้นปัดขนาดนี้เลยนะ!!”
“จากหน่วยเก็บ:X้ ขอบคุณมาก ฝูงอีทเตอร์มันเลิกตามพวกเราแล้ว และคาดว่าไปไล่ตามพวกนายสองคนแทน”
“ลอร่า!! เธอปล่อยมันใช่ไหม ใช่ไหม!! ยัยรัสเซียบ้า ปล่อยมันมาทำไม”
“เลิกบ่นได้แล้วเจ้าอังกฤษ”
“อย่ายุ่งน่าเจ้าอเมริกา!!”
“ยูอิเดินเครื่องรอแล้วใช่ไหม งั้นช่วยแสดงพลังของญี่ปุ่นให้ฉันดูหน่อยเถอะ!!”
เสียงของกัปตันสาวดังแทรกเข้ามา
“เกิดมาเคยคิดไหม ว่าการวิ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพทหาร”
แดนนี่ยังคงบ่นไปวิ่งไปไม่หยุด ส่วนอาเธอร์ก็คอยดุใส่แดนนี่ตลอดทางจนทั้งสองมาถึงท่าจอดยาน และสิ่งที่รอเขาอยู่คือหุ่นยนต์ยักษ์สูงราวสิบห้าเมตรสีขาว ซึ่งมันมีรูปร่างผอมบางทั้งส่วนแขนและขา โดยมันยืนถือปืนกลขนาดใหญ่โตราวกับปืนใหญ่สองกระบอกรอพวกเขาอยู่ แถมที่เล่นเอาทั้งสองหัวใจแทบวายตายก็คือ มันยิงกระสุนเฉี่ยวหัวพวกเขาไปนิดเดียว แต่นั้นทำให้ฝูงอีทเตอร์ที่ตามเขามาโดนกระหน่ำยิ่งจนแหลกเละ เลือดสีแดงสา.ดกระเซ็น
“อาเธอร์ ฉันขอเสนอว่า นายอย่าแต่งงานกับยัยยูอิรวมถึงยัยลอร่า ไม่งั้นชีวิตแกมีปัญหาแน่!!”
“กัปตัน งานโตแล้วครับ กองยานจีนมาโผล่ในจอครับ!!”
เสียงของเจ้าหน้าที่ในยานดังแทรกเข้ามาอีก
“แดนนี่ แรนนี่ กลุ่มโจรสลับวัลคีรี่ ถ้ายอมส่งหมอนั่นมาให้ฉันเราจะปล่อยพวกนายไปวันนึง!!”
เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังแทรกเข้ามาในสัญญาณวิทยุ แถมมันเป้นเสียงที่คุ้นจนทุกคนบนยานวัลคีรี่ได้ยินเบื่อ เธอคือพันเอกจากกองทัพจีน หลิน เฟิง เธอออกตามล่าพวกเขามาได้สามเดือนเศษแล้ว แถมเจอกันทีไรก็แบบนี้ทุกที เหตุมาจากตอนกลุ่มของพวกเขาเข้าไปแวะที่ดาวด่านหน้าของจีน แดนนี่ดันไปเที่ยวบาร์แล้วพบกับเธอเข้า หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยกันจนถูกคอ หลังจากนั้นก็จบลงด้วยคำคืนแสนหวาน แต่พอเช้าความดันแตกและเกิดเป็นความอับอายติดตัวเธอจนต้องมาไล่ล่าหมายจะปาดคอหมอนี่ด้วยมือตัวเองให้ได้
“แดนนี่ แกพลาดครั้งเดียว กลุ่มเราเลยต้องเจอเรื่องแบบนี้ ยอมไปให้เขาจับปาดคอซะ พวกเราจะได้สบาย!!”
“พูดได้ดีมากไอ้อเมริกา ขอเอารองเท้าจากอังกฤษอุดปาดแกทีได้ไหม!!”
“ทุกคนรีบขึ้นยาน เราจะหนีกันล่ะ!!”
สิ้นคำสั่งทุกคนก็รีบถอยขึ้นยานทันทียกเว้นเจ้าหุ่นยนต์ยักษ์ที่ยังยืน:Xกระสุนไม่ยอมขยับ ยานค่อยๆเคลื่อนห่างออกไปโดยไม่สนมันเลยแม้แต่น้อย แต่นั้นไม่ใช่การทิ้งลูกน้องหรืออะไรทั้งนั้น แต่พอยานถอยห่างออกมาได้พอควรแล้ว เจ้าหุ่นยนต์ยักษ์ก็รีบพุ่งทะยานออกมาด้านนอกทันที มันใช้ท่อไอพ้นขนาดใหญ่ที่หลังบนตามยานวัลคีรี่ไปติดๆ
“ถึงพันเอกหลินเฟิง เรายกยานของรัสเซียให้คุณก็แล้วกัน เพื่อแรกกับการปล่อยเราไปหนึ่งวัน ยานลำนี้สภาพสมบูรณ์มาก แต่ด้านในมันมีแก๊สรั่วนิดหน่อย พวกลูกเรือเลยอพยพไปหมด ฉันคิดว่าคุ้มนะว่าไหม”
กัปตันสาวพูดพลางแสยะยิ้มมุมปาก ส่วนพวกลูกเรือที่หอบังคับการเรือได้ตามองเธอพลางมุมปากกระตุก
“ก็ได้ เราขอรับยานนั่นก็ได้ ให้เวลาพวกนายสามชั่วโมง อยากหนีไปไหนก็ไป หลังจากนั้นพวกฉันจะตามต่อ”
“สามชั่วโมงเหรอ เหลือเฟือ งั้นสามชั่วโมงนี้ก็ขอให้พวกเธอสนุกกับยานนั่นก็แล้วกัน”
สิ้นเสียงสัญญาณติดต่อก็ตัดขาดทันที กัปตันกลุ่มโจรสลัดสาวผู้มีเรือนผมสีแดงกับดวงตาสีมรกตกำลังหัวเราะราวกับเป็นพกนางร้ายในละคร ส่วนพวกลูกเรือได้แต่คิดว่า “หวังว่ามันคงมีหลอดทดลองแค่ที่เจอและไม่มีซุกซ่อนไว้ที่ไหนในยานอีกนะ”
ยี่สิบนาทีต่อมา ยานแม่กองยานจีน หอบังคับการ
“เจ้าพวกโจรสลัด!! ฉันจะต้องจัดการพวกแกให้ได้!!!”
หญิงสาวผมสีดำยาวไว้ผมทรงทวินเทลกำลังโมโหจนเส้นเลือดปูดโปน ดวงตาของเธอกำลังจับจ้องจอภาพของหน่วยทหารราบที่ลงไปเสี่ยงตายสู้กับเหล่าอีทเตอร์ฝูงใหญ่ และดูจากจำนวนมันคงจะมีหลอดทดลองในส่วนอื่นของยานอีกแน่ๆ เพราะจำนวนมันเยอะมากจริงๆ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-1-20 21:59
valkyrie ตอนที่1