ขอชี้แจงนิดหน่อยเรื่องของคำต่อท้ายตอนว่ามันหมายถึงอะไร
คืออย่างนี้ อย่างที่บอกไปในตอนที่แล้วว่า หลังจากนี้จะแยกเหตุการณ์เป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งก็คือเฮลิออสซึ่งกลายเป็นเฮลิเบลออกตามหาบางอย่าง กับฝั่งของนันน่าร์ซึ่งก็ยังคงอยู่กันอย่างปกติสุข อาจจะมีสู้กันบ้าง ซึ่งทั้งสองฝั่งนั้นก็จะมีเหตุการณ์ไม่เหมือนกัน เจอตัวละครไม่เหมือนกันอะไรแบบนี้ แต่เนื้อเรื่องก็ยังคงดำเนินไปเป็นตอนตามเดิม
แต่เพื่อให้รู้ว่านี่เป็นบทของใคร ก็ขอใช้คำต่อท้าย ซึ่งถ้าต่อท้ายว่า "Sun" หมายถึง เฮลิออสหรือเฮลิเบล ถ้าเป็น "Moon" ก็หมายถึง ลูน่าร์,นันน่าร์
อาจจะมีอย่างอื่นก็ได้ในอนาคต ซึ่งจะใช้ศัพท์ไวพจน์แทนชื่อของตัวละครนั้นๆหรือฉายาเป็นตัวต่อท้าย
ขอให้อ่านให้สนุกนะ
"ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?" อามาร่ากล่าวขึ้นหลังจากที่ตัวเองตื่นขึ้นมาในสถานที่แปลกๆ สถานที่นั้นมีสี่เสาโดยรอบ ตรงพื้นเป็นวงกลม มีสัญลักษณ์รูปใบไม้อะไรซักอย่างอยู่ตรงกลาง เธอคิดว่าไม่น่าจะมีสถานที่อย่างนี้ในโลกได้ อย่างน้อยก็แค่ความคิดของเธอ เธอลุกขึ้นยืนมองไปรอบๆ พยายามนึกว่าตัวเองมาที่นี่ได้อย่างไร "เราดูทีวีแล้วหลับไปนี่ จากนั้น..." เธอจำได้แค่นั้นเพราะเธอก็หลับไป แต่ทว่า ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้ "สาวน้อย ขอต้อนรับสู่ดินแดนแห่งนี้ ดินแดนที่อยู่ระหว่างความจริงและความฝัน" มีเสียงดังขึ้น เป็นเสียงของผู้หญิงที่อามาร่าคิดว่าไม่ใช่คนที่เธอรู้จักแน่ เธอจึงถามไปว่า "นั่นใครน่ะ?" แล้วเธอก็มองไปรอบๆหาต้นตอว่าเสียงมาจากที่ใด แต่ทว่าเธอกลับไม่พบ เพราะสถานที่นี้มีแค่เ:Xี่ต้นเป็นเขตกั้น ซึ่งเสาทั้งสี่ต้นก็ไม่ได้อยู่ไกลจากเธอมาก แล้วเสียงมาจากไหนล่ะ?
เสียงปริศนาตอบกลับมาว่า "เรานั้นเธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เพราะเราแค่จะมาบอกว่าจากนี้เธอจะต้องพบกับคนที่เธอต้องช่วยเหลือก็แค่นั้น" อามาร่าได้ยินก็ทำหน้างงๆ เธอแย้งว่า "เดี๋ยวก่อน จู่ๆมาพูดอะไรเนี่ย ใครอะไร จะมาทำอะไร แล้วฉันต้องช่วยใคร? ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย" แต่เสียงปริศนากลับตอบมาอย่างเรียบๆว่า "ไม่ต้องห่วง ถึงเวลาเธอก็จะรู้เอง พอเธอเห็น เธอก็จะรู้ว่าฉันหมายถึงใคร" สิ้นเสียงของเสียงปริศนา อามาร่าก็ถามขึ้นมาทันทีว่า "เดี๋ยว มันหมายความว่าไง? ฉันยังไม่เข้าใจเลย" แต่กลับไร้การตอบรับจากหมายเลขที่เธอเรียก แต่เธอกลับรู้สึกว่า เหมือนเธอจะรู้ว่าเสียงปริศนาพูดถึงใคร แล้วภาพทุกอย่างก็กลายเป็นสีดำมืด
อามาร่าลืมตาตื่นขึ้น เธอก็ยังคงนอนบนโซฟาหน้าทีวีที่เธอเปิดทิ้งไว้ "ฝันเหรอ?" เธอคิด "แต่มันเหมือนจริงมาก" ความรู้สึกของอามาร่าที่สับสนว่าเหตุการณ์เมื่อครู่นั้นเป็นความจริงหรือความฝัน เพราะเธอคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเธอดูอนิเมมากไปก็ได้เลยฝันแบบนั้น แต่ความรู้สึกลึกๆของเธอมันกลับบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง ความคิดตีไปตีมาอยู่อย่างนี้ประมาณสามนาที แล้วเธอก็นึกถึงคำๆหนึ่งที่เสียงปริศนาพูดไว้ในตอนแรกๆว่า "ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนแห่งนี้ ดินแดนที่อยู่ระหว่างความจริงและความฝัน" แล้วเธอจึงใคร่คิดดูจนเผลอหลับไปอีกครั้ง
ตกดึก อามาร่าตื่นขึนเพราะเธอถูกรบกวนโดยเสียงบางอย่าง "ใครมาเอะอะอะไรตอนดึกๆเนี่ย?" เธอบ่นพลางกดปิดทีวีที่ลืมเปิดทิ้งไว้แล้วตั้งใจฟัง "หวังว่าคงจะไม่ได้นินทาฉันหรอกนะ" เธอคิด จากนั้นก็ตั้งใจฟังเสียงที่อยู่ข้างนอก
"ย่าห์!!!" เฮลิเบลส่งเสียงพร้อมกับส่งหมัดไปที่โกเล็มที่อยู่ตรงเชิงบันไดวัด แน่นอนว่าหมัดของเธอไม่อาจทำอะไรมันได้ "ต้องแรงกว่านี้งั้นรึ" เธอคิดแล้วง้างหมัดจะต่อยอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอใส่แรงลงไปมากกว่าเดิม ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะหมัดที่เธอต่อยนั้นทำให้โกเล็มกระเด็นออกไปจากเธอประมาณเมตรกว่าๆ แล้วส่วนที่ถูกเธอต่อยก็มีรอยร้าว เฮลิเบลเห็นก็คิดว่า "ถ้าซ้ำไปอีกซักหมัดคงจะจัดการมันได้" แล้วเธอวิ่งไปต่อยอย่างเต็มที่ซ้ำที่เดิม ทำให้โกเล็มตัวนั้นสลายไป
"แฮ่กๆๆ" เสียงหอบของเฮลิเบลดังขึ้นทำลายความเงียบยามดึก เธอก็คิดในใจว่า "ทำไมโกเล็มถึงมาอยู่ในที่แบบนี้นะ? ทั้งๆที่เขตวัดพวกปิศาจไม่น่าจะเข้าได้" แต่เธอก็นึกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยแกล้งเธอออก ทำให้เธอเปลี่ยนใจทันที "นั่นสินะ คงจะเข้าได้นั่นแหละ" เธอเริ่มทำสีหน้าเซ็งๆ
"ฮัดชิ้ว" เสียงนันน่าร์จามขึ้นเพราะเธอยังไม่หลับ เธอกำลังหาอะไรบางอย่างในลิ้นชักที่โต๊ะในห้องของเฮลิออส บางทีเธออาจจะหาเฮลิออสอยู่ก็ได้ "ใครนินทากันนะป่านี้ อย่าให้จับได้นะ ไม่งั้นฉันจะจับทำXXX แล้วก็เอาXXXของฉัน ใส่บนXXX..." อย่าไปสนคำพูดของเธอเลย เพราะดูเหมือนเธอพูดไปเพราะรู้ว่าใครเป็นคนนินทางั้นแหละ แน่นอนว่าเธอทำแบบนี้เพื่อเอาคืนคนที่นินทาเธอ
"บรื๋อออออ" เฮลิเบลที่จู่ๆก็รู้สึกseoสันหลังร้องขึ้น เธอจึงกอดอกแน่นแล้วพูดขึ้นว่า "ทำไมจู่ๆก็seoสันหลังเนี่ย?" แล้วเธอก็มองไปรอบๆโดยเฉพาะข้างหลังอย่างระแวง "แต่ก็คงไม่มีใครนั่นแหละป่านี้น่ะ" เธอคิดได้แล้วก็ปล่อยมือลงข้างตัวอีกครั้ง ทันใคนั้นขนนกที่เธอห้อยก็ปรากฏแสงออกมา "อีกแล้ว" เฮลิเบลกล่าวขึ้น แล้วเธอก็มองไปรอบๆ
มีปิศาจรูปร่างต้นไม้ปรากฏตัวออกมา ตัวของมันไม่ใหญ่มาก ส่วนสูงขนาดพอๆกับเฮลิเบล มีเถาวัลย์ย้อยออกมาเต็มไปหมด เถาวัลย์ที่ว่านั้นขยับยั้วเยี้ยไปมาดูน่าขยะแขยง "อี๋" เฮลิเบลถึงกับอุทานออกมาพร้อมกับทำหน้าขยะแขยง เธอถึงกับขนพองสยองเกล้าเมื่อเห็น แต่เธอก็ยังรวบรวมความกล้าตั้งท่าเตรียมพร้อมเอาไว้ "ฉะ...ฉันต้องสู้" เธอคิดแล้วก็พุ่งตัวเข้าไปประชิดหวังจะต่อยมัน
แต่ทว่า นั่นกลับทำให้ร่างของเธอเข้าไปพันกับเถาวัลย์ที่มันปล่อยยาวเอาไว้รอบๆตัว "เฮือก!" เฮลิเบลถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกเถาวัลย์แตะที่ขา และมันก็รัดขาเธออย่างรวดเร็ว "ห๊ะ!!" เธอต้องตกใจในความเร็วของมัน เพราะนอกจากขาของเธอแล้ว เถาวัลย์ของมันยังไปพันตรงส่วนแขนของเธออย่างรวดเร็วจนเธอขยับไม่ได้ "ฮึ่ย!" เธออุทานอย่างไม่พอใจที่ไม่สามารถขยับได้ แต่แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งหนึ่ง
เถาวัลย์ของต้นไม้มันไต่ขึ้นขาของเธออย่างรวดเร็ว ตอนนี้มันถึงขาอ่อนของเฮลิเบลแล้ว และดูเหมือนว่า มันจะยังไม่ยอมหยุด มันจึงไล่เลื้อยไปตามร่างกายเรื่อยๆ จนเฮลิเบลต้องสะดุ้งและร้องว่า "ตะ...ตรงนั้น ไม่ได้นะ..." เธอพยายามพูดเหมือนของร้อง ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า เหมือนกับเธอจะเห็นว่าต้นไม้นั้นแสยะยิ้มอย่างชอบใจ แล้วเถาวัลย์ก็เลื้อยขึ้นมา "มะ...ตรงนั้นไม่ได้นะ...อย่านะ...อย่า...ไม่เอานะ!!!" แม้เฮลิเบลจะขอร้องปานใดเถาวัลย์มันก็ไม่หยุดเลื้อย จนกระทั่ง...
"อ๊ะ...อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ไม่น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!"
อามาร่าที่ตั้งใจฟังได้ยินเสียงร้องเธอก็ตกใจจนตาสว่าง "ห๊ะ เสียงผู้หญิงร้องนี่" เธอรีบลุกขึ้นแล้วไปที่ตู้ในห้องของเธอ เธอหยิบปืนโคลต์ไพธอน .357 สีเงินคู่ใจของเธอออกมาจากลิ้นชักที่อยู่ข้างในตู้อีกที เธอรีบตรวจดูกระสุนในลูกโม่ ซึ่งมันก็มีอยู่ครบทั้งหมดหกนัด เธอจึงรีบออกไปตามเสียงกรีดร้องที่ได้ยิน
อามาร่ามาตามทางที่ได้ยินเสียง เธอก็มาจนถึงเชิงบันไดวัดที่ใกล้กับบ้านของเธอ เธอถึงกับยืนค้างกับที่โดยที่มือของเธอก็หันปากกระบอกปืนความยาว 8 นิ้วไปที่มันอย่างสั่นๆ
ใช่แล้ว สิ่งที่เธอเห็นมันคือต้นไม้มีชีวิต แล้วมันก็กำลังมัดหญิงสาวคนหนึ่งไว้อยู่ ทันทีที่เธอเห็นหญิงสาวคนนั้น เธอก็ตกใจมาก "นั่นเธอเมื่อตอนนั้น!" เธออุทานอย่างไม่อยากเชื่อ ดูเหมือนว่าตอนนี้อามาร่าจะเข้าใจแล้วว่าคนที่ต้องให้เธอช่วยที่เสียงปริศนาบอกนั้นหมายถึงใคร ไม่ต้องคิดมาก เธอจึงลั่นไกไปที่ต้นไม้อย่างไม่คิดอะไร
ปังๆๆๆๆๆ แก๊กๆๆๆ
เสียงกัมปนาทดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงโลหะกระทบกัน แน่นอนว่ากระสุนมันมีแค่หกลูกแต่เธอเล่นรัวไม่ยั้ง และต้นไม้ปิศาจที่ว่ามันก็ดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย
"ไม่จริงน่า" อามาร่าพูดขึ้นอย่างตกใจเพราะกระสุนขนาดปืน .357 ที่ถ้าคนโดนเข้าไปก็ยากที่จะรอดนั้น กลับทำอะไรมันไม่ได้เลย ทั้งๆที่ยิงมันไปตั้งหกนัดอย่างไม่พลาดเป้า "มันอะไรกันเนี่ย?" อามาร่าพูดอย่างเสียขวัญ เพราะเธอไม่เคยคิดว่าไม่มีอะไรที่ลูกปืนไม่สามารถปลิดชีพได้
"สัตว์ประหลาดที่ยิงไม่ตายนี่ ทำไงดีๆๆๆๆ" อามาร่าคิดอยู่แต่เรื่องนี้ เพราะเธอเองนั้นก็ตกใจกับสิ่งที่เธอเห็นมาก แล้วเธอก็มองไปที่เถาวัลย์ซึ่งมัดเฮลิเบลไว้ มันกำลังชอนไชไปตามส่วนต่างๆของร่างกายของเธออย่างสบายใจ เพราะเจ้าของร่างกายนั้นสลบอยู่
อามาร่ารู้สึกว่าเหมือนภาพที่เห็นนั้นมันจุดอะไรบางอย่างในตัวเธอขึ้นมา ไม่รู้เพราะอะไร แต่เธอรู้สึกโกรธมากที่เห็นภาพนั้น "แก ไอ้ต้นไม่ลามก!!!" เธอพูดขึ้นพร้อมทั้งหลับตามลง
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่รอบๆตัวอามาร่านั้นมีกลุ่มพลังบางอย่างเอ่อล้นออกมาจากตัวเธอ ดูเหมือนว่ามันเป็นกลุ่มไอร้อน
อามาร่าลืมตาอีกครั้งแล้วจ้องไปที่ต้นไม้ปิศาจ แต่ตาของเธอนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง
"แก...หายไปซะ!!!" เธอตะโกนสุดเสียงและซัดกลุ่มก้อนความร้อนที่อยู่รอบๆตัวนั้นไปที่ต้นไม้ปิศาจ
กลุ่มก้อนความร้อนที่ถูกซัดไปนั้นกลับกลายเป็นเปลวเพลงสีแดงขนาดใหญ่ มันมีความร้อนมหาศาลมากจนพื้นวัดที่เป็นหินเปราะแตกไปบางส่วน
กลุ่มไฟนั้นซัดเข้าตรงปิศาจต้นไม้พอดี เดชะบุญกุศลที่ทำมา กลุ่มไฟนั้นแผดเผาร่างของปิศาจต้นไม้ไปทำให้มันรีบคลายร่างของเฮลิเบลออกจากการพันธการก่อนที่ไปจะโดนตัวเธอไปด้วย ซึ่งเธอที่สลบอยู่ก็รอดมาอย่างหวุดหวิด
"แฮ่กๆๆ" เสียงอามาร่าหอบอย่างเหนื่อย เพราะเธอรู้สึกว่าเหมือนกับเธอใช้พลังไปมาก แววตาสีเปลวเพลิงของเธอค่อยๆกลับเป็นแววตาปกติอีกครั้ง แต่แล้วเธอก็สลบไป
พลังที่อามาร่าใช้เมื่อกี้นั้นคืออะไร?
เรื่องนี้ก็ไม่อาจรู้ได้
แต่เรื่องที่ว่าอามาร่ากับเฮลิเบลนั้นมีชะตาร่วมกันนั้นคงจะเป็นความจริง ซึ่งทั้งสองที่สลบอยู่ ณ ตอนนี้นั้นยังไม่รู้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกี่ยวกับปืนของอามาร่า
อย่างที่บอกไปในเรื่อง FSG PTG ว่า อามาร่านั้นใช้ปืนคู่ ซึ่งทั้งคู่นั้นเป็นโคลต์ไพธอน .357 ทั้งสองกระบอก แต่ไม่ได้บอกขนาดของลำกล้องไว้ แต่อาจจะสงสัยว่าในตอนนี้ทำไมมีกระบอกลำกล้อง 8 นิ้วแค่กระบอกเดียว ก็ติดตามต่อไปแล้วกันในบทสำรวจบ้านของอามาร่า
คืออย่างนี้ อย่างที่บอกไปในตอนที่แล้วว่า หลังจากนี้จะแยกเหตุการณ์เป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งก็คือเฮลิออสซึ่งกลายเป็นเฮลิเบลออกตามหาบางอย่าง กับฝั่งของนันน่าร์ซึ่งก็ยังคงอยู่กันอย่างปกติสุข อาจจะมีสู้กันบ้าง ซึ่งทั้งสองฝั่งนั้นก็จะมีเหตุการณ์ไม่เหมือนกัน เจอตัวละครไม่เหมือนกันอะไรแบบนี้ แต่เนื้อเรื่องก็ยังคงดำเนินไปเป็นตอนตามเดิม
แต่เพื่อให้รู้ว่านี่เป็นบทของใคร ก็ขอใช้คำต่อท้าย ซึ่งถ้าต่อท้ายว่า "Sun" หมายถึง เฮลิออสหรือเฮลิเบล ถ้าเป็น "Moon" ก็หมายถึง ลูน่าร์,นันน่าร์
อาจจะมีอย่างอื่นก็ได้ในอนาคต ซึ่งจะใช้ศัพท์ไวพจน์แทนชื่อของตัวละครนั้นๆหรือฉายาเป็นตัวต่อท้าย
ขอให้อ่านให้สนุกนะ
"ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?" อามาร่ากล่าวขึ้นหลังจากที่ตัวเองตื่นขึ้นมาในสถานที่แปลกๆ สถานที่นั้นมีสี่เสาโดยรอบ ตรงพื้นเป็นวงกลม มีสัญลักษณ์รูปใบไม้อะไรซักอย่างอยู่ตรงกลาง เธอคิดว่าไม่น่าจะมีสถานที่อย่างนี้ในโลกได้ อย่างน้อยก็แค่ความคิดของเธอ เธอลุกขึ้นยืนมองไปรอบๆ พยายามนึกว่าตัวเองมาที่นี่ได้อย่างไร "เราดูทีวีแล้วหลับไปนี่ จากนั้น..." เธอจำได้แค่นั้นเพราะเธอก็หลับไป แต่ทว่า ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้ "สาวน้อย ขอต้อนรับสู่ดินแดนแห่งนี้ ดินแดนที่อยู่ระหว่างความจริงและความฝัน" มีเสียงดังขึ้น เป็นเสียงของผู้หญิงที่อามาร่าคิดว่าไม่ใช่คนที่เธอรู้จักแน่ เธอจึงถามไปว่า "นั่นใครน่ะ?" แล้วเธอก็มองไปรอบๆหาต้นตอว่าเสียงมาจากที่ใด แต่ทว่าเธอกลับไม่พบ เพราะสถานที่นี้มีแค่เ:Xี่ต้นเป็นเขตกั้น ซึ่งเสาทั้งสี่ต้นก็ไม่ได้อยู่ไกลจากเธอมาก แล้วเสียงมาจากไหนล่ะ?
เสียงปริศนาตอบกลับมาว่า "เรานั้นเธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เพราะเราแค่จะมาบอกว่าจากนี้เธอจะต้องพบกับคนที่เธอต้องช่วยเหลือก็แค่นั้น" อามาร่าได้ยินก็ทำหน้างงๆ เธอแย้งว่า "เดี๋ยวก่อน จู่ๆมาพูดอะไรเนี่ย ใครอะไร จะมาทำอะไร แล้วฉันต้องช่วยใคร? ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย" แต่เสียงปริศนากลับตอบมาอย่างเรียบๆว่า "ไม่ต้องห่วง ถึงเวลาเธอก็จะรู้เอง พอเธอเห็น เธอก็จะรู้ว่าฉันหมายถึงใคร" สิ้นเสียงของเสียงปริศนา อามาร่าก็ถามขึ้นมาทันทีว่า "เดี๋ยว มันหมายความว่าไง? ฉันยังไม่เข้าใจเลย" แต่กลับไร้การตอบรับจากหมายเลขที่เธอเรียก แต่เธอกลับรู้สึกว่า เหมือนเธอจะรู้ว่าเสียงปริศนาพูดถึงใคร แล้วภาพทุกอย่างก็กลายเป็นสีดำมืด
อามาร่าลืมตาตื่นขึ้น เธอก็ยังคงนอนบนโซฟาหน้าทีวีที่เธอเปิดทิ้งไว้ "ฝันเหรอ?" เธอคิด "แต่มันเหมือนจริงมาก" ความรู้สึกของอามาร่าที่สับสนว่าเหตุการณ์เมื่อครู่นั้นเป็นความจริงหรือความฝัน เพราะเธอคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเธอดูอนิเมมากไปก็ได้เลยฝันแบบนั้น แต่ความรู้สึกลึกๆของเธอมันกลับบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง ความคิดตีไปตีมาอยู่อย่างนี้ประมาณสามนาที แล้วเธอก็นึกถึงคำๆหนึ่งที่เสียงปริศนาพูดไว้ในตอนแรกๆว่า "ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนแห่งนี้ ดินแดนที่อยู่ระหว่างความจริงและความฝัน" แล้วเธอจึงใคร่คิดดูจนเผลอหลับไปอีกครั้ง
ตกดึก อามาร่าตื่นขึนเพราะเธอถูกรบกวนโดยเสียงบางอย่าง "ใครมาเอะอะอะไรตอนดึกๆเนี่ย?" เธอบ่นพลางกดปิดทีวีที่ลืมเปิดทิ้งไว้แล้วตั้งใจฟัง "หวังว่าคงจะไม่ได้นินทาฉันหรอกนะ" เธอคิด จากนั้นก็ตั้งใจฟังเสียงที่อยู่ข้างนอก
"ย่าห์!!!" เฮลิเบลส่งเสียงพร้อมกับส่งหมัดไปที่โกเล็มที่อยู่ตรงเชิงบันไดวัด แน่นอนว่าหมัดของเธอไม่อาจทำอะไรมันได้ "ต้องแรงกว่านี้งั้นรึ" เธอคิดแล้วง้างหมัดจะต่อยอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอใส่แรงลงไปมากกว่าเดิม ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะหมัดที่เธอต่อยนั้นทำให้โกเล็มกระเด็นออกไปจากเธอประมาณเมตรกว่าๆ แล้วส่วนที่ถูกเธอต่อยก็มีรอยร้าว เฮลิเบลเห็นก็คิดว่า "ถ้าซ้ำไปอีกซักหมัดคงจะจัดการมันได้" แล้วเธอวิ่งไปต่อยอย่างเต็มที่ซ้ำที่เดิม ทำให้โกเล็มตัวนั้นสลายไป
"แฮ่กๆๆ" เสียงหอบของเฮลิเบลดังขึ้นทำลายความเงียบยามดึก เธอก็คิดในใจว่า "ทำไมโกเล็มถึงมาอยู่ในที่แบบนี้นะ? ทั้งๆที่เขตวัดพวกปิศาจไม่น่าจะเข้าได้" แต่เธอก็นึกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยแกล้งเธอออก ทำให้เธอเปลี่ยนใจทันที "นั่นสินะ คงจะเข้าได้นั่นแหละ" เธอเริ่มทำสีหน้าเซ็งๆ
"ฮัดชิ้ว" เสียงนันน่าร์จามขึ้นเพราะเธอยังไม่หลับ เธอกำลังหาอะไรบางอย่างในลิ้นชักที่โต๊ะในห้องของเฮลิออส บางทีเธออาจจะหาเฮลิออสอยู่ก็ได้ "ใครนินทากันนะป่านี้ อย่าให้จับได้นะ ไม่งั้นฉันจะจับทำXXX แล้วก็เอาXXXของฉัน ใส่บนXXX..." อย่าไปสนคำพูดของเธอเลย เพราะดูเหมือนเธอพูดไปเพราะรู้ว่าใครเป็นคนนินทางั้นแหละ แน่นอนว่าเธอทำแบบนี้เพื่อเอาคืนคนที่นินทาเธอ
"บรื๋อออออ" เฮลิเบลที่จู่ๆก็รู้สึกseoสันหลังร้องขึ้น เธอจึงกอดอกแน่นแล้วพูดขึ้นว่า "ทำไมจู่ๆก็seoสันหลังเนี่ย?" แล้วเธอก็มองไปรอบๆโดยเฉพาะข้างหลังอย่างระแวง "แต่ก็คงไม่มีใครนั่นแหละป่านี้น่ะ" เธอคิดได้แล้วก็ปล่อยมือลงข้างตัวอีกครั้ง ทันใคนั้นขนนกที่เธอห้อยก็ปรากฏแสงออกมา "อีกแล้ว" เฮลิเบลกล่าวขึ้น แล้วเธอก็มองไปรอบๆ
มีปิศาจรูปร่างต้นไม้ปรากฏตัวออกมา ตัวของมันไม่ใหญ่มาก ส่วนสูงขนาดพอๆกับเฮลิเบล มีเถาวัลย์ย้อยออกมาเต็มไปหมด เถาวัลย์ที่ว่านั้นขยับยั้วเยี้ยไปมาดูน่าขยะแขยง "อี๋" เฮลิเบลถึงกับอุทานออกมาพร้อมกับทำหน้าขยะแขยง เธอถึงกับขนพองสยองเกล้าเมื่อเห็น แต่เธอก็ยังรวบรวมความกล้าตั้งท่าเตรียมพร้อมเอาไว้ "ฉะ...ฉันต้องสู้" เธอคิดแล้วก็พุ่งตัวเข้าไปประชิดหวังจะต่อยมัน
แต่ทว่า นั่นกลับทำให้ร่างของเธอเข้าไปพันกับเถาวัลย์ที่มันปล่อยยาวเอาไว้รอบๆตัว "เฮือก!" เฮลิเบลถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกเถาวัลย์แตะที่ขา และมันก็รัดขาเธออย่างรวดเร็ว "ห๊ะ!!" เธอต้องตกใจในความเร็วของมัน เพราะนอกจากขาของเธอแล้ว เถาวัลย์ของมันยังไปพันตรงส่วนแขนของเธออย่างรวดเร็วจนเธอขยับไม่ได้ "ฮึ่ย!" เธออุทานอย่างไม่พอใจที่ไม่สามารถขยับได้ แต่แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งหนึ่ง
เถาวัลย์ของต้นไม้มันไต่ขึ้นขาของเธออย่างรวดเร็ว ตอนนี้มันถึงขาอ่อนของเฮลิเบลแล้ว และดูเหมือนว่า มันจะยังไม่ยอมหยุด มันจึงไล่เลื้อยไปตามร่างกายเรื่อยๆ จนเฮลิเบลต้องสะดุ้งและร้องว่า "ตะ...ตรงนั้น ไม่ได้นะ..." เธอพยายามพูดเหมือนของร้อง ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า เหมือนกับเธอจะเห็นว่าต้นไม้นั้นแสยะยิ้มอย่างชอบใจ แล้วเถาวัลย์ก็เลื้อยขึ้นมา "มะ...ตรงนั้นไม่ได้นะ...อย่านะ...อย่า...ไม่เอานะ!!!" แม้เฮลิเบลจะขอร้องปานใดเถาวัลย์มันก็ไม่หยุดเลื้อย จนกระทั่ง...
"อ๊ะ...อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ไม่น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!"
อามาร่าที่ตั้งใจฟังได้ยินเสียงร้องเธอก็ตกใจจนตาสว่าง "ห๊ะ เสียงผู้หญิงร้องนี่" เธอรีบลุกขึ้นแล้วไปที่ตู้ในห้องของเธอ เธอหยิบปืนโคลต์ไพธอน .357 สีเงินคู่ใจของเธอออกมาจากลิ้นชักที่อยู่ข้างในตู้อีกที เธอรีบตรวจดูกระสุนในลูกโม่ ซึ่งมันก็มีอยู่ครบทั้งหมดหกนัด เธอจึงรีบออกไปตามเสียงกรีดร้องที่ได้ยิน
อามาร่ามาตามทางที่ได้ยินเสียง เธอก็มาจนถึงเชิงบันไดวัดที่ใกล้กับบ้านของเธอ เธอถึงกับยืนค้างกับที่โดยที่มือของเธอก็หันปากกระบอกปืนความยาว 8 นิ้วไปที่มันอย่างสั่นๆ
ใช่แล้ว สิ่งที่เธอเห็นมันคือต้นไม้มีชีวิต แล้วมันก็กำลังมัดหญิงสาวคนหนึ่งไว้อยู่ ทันทีที่เธอเห็นหญิงสาวคนนั้น เธอก็ตกใจมาก "นั่นเธอเมื่อตอนนั้น!" เธออุทานอย่างไม่อยากเชื่อ ดูเหมือนว่าตอนนี้อามาร่าจะเข้าใจแล้วว่าคนที่ต้องให้เธอช่วยที่เสียงปริศนาบอกนั้นหมายถึงใคร ไม่ต้องคิดมาก เธอจึงลั่นไกไปที่ต้นไม้อย่างไม่คิดอะไร
ปังๆๆๆๆๆ แก๊กๆๆๆ
เสียงกัมปนาทดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงโลหะกระทบกัน แน่นอนว่ากระสุนมันมีแค่หกลูกแต่เธอเล่นรัวไม่ยั้ง และต้นไม้ปิศาจที่ว่ามันก็ดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย
"ไม่จริงน่า" อามาร่าพูดขึ้นอย่างตกใจเพราะกระสุนขนาดปืน .357 ที่ถ้าคนโดนเข้าไปก็ยากที่จะรอดนั้น กลับทำอะไรมันไม่ได้เลย ทั้งๆที่ยิงมันไปตั้งหกนัดอย่างไม่พลาดเป้า "มันอะไรกันเนี่ย?" อามาร่าพูดอย่างเสียขวัญ เพราะเธอไม่เคยคิดว่าไม่มีอะไรที่ลูกปืนไม่สามารถปลิดชีพได้
"สัตว์ประหลาดที่ยิงไม่ตายนี่ ทำไงดีๆๆๆๆ" อามาร่าคิดอยู่แต่เรื่องนี้ เพราะเธอเองนั้นก็ตกใจกับสิ่งที่เธอเห็นมาก แล้วเธอก็มองไปที่เถาวัลย์ซึ่งมัดเฮลิเบลไว้ มันกำลังชอนไชไปตามส่วนต่างๆของร่างกายของเธออย่างสบายใจ เพราะเจ้าของร่างกายนั้นสลบอยู่
อามาร่ารู้สึกว่าเหมือนภาพที่เห็นนั้นมันจุดอะไรบางอย่างในตัวเธอขึ้นมา ไม่รู้เพราะอะไร แต่เธอรู้สึกโกรธมากที่เห็นภาพนั้น "แก ไอ้ต้นไม่ลามก!!!" เธอพูดขึ้นพร้อมทั้งหลับตามลง
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่รอบๆตัวอามาร่านั้นมีกลุ่มพลังบางอย่างเอ่อล้นออกมาจากตัวเธอ ดูเหมือนว่ามันเป็นกลุ่มไอร้อน
อามาร่าลืมตาอีกครั้งแล้วจ้องไปที่ต้นไม้ปิศาจ แต่ตาของเธอนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง
"แก...หายไปซะ!!!" เธอตะโกนสุดเสียงและซัดกลุ่มก้อนความร้อนที่อยู่รอบๆตัวนั้นไปที่ต้นไม้ปิศาจ
กลุ่มก้อนความร้อนที่ถูกซัดไปนั้นกลับกลายเป็นเปลวเพลงสีแดงขนาดใหญ่ มันมีความร้อนมหาศาลมากจนพื้นวัดที่เป็นหินเปราะแตกไปบางส่วน
กลุ่มไฟนั้นซัดเข้าตรงปิศาจต้นไม้พอดี เดชะบุญกุศลที่ทำมา กลุ่มไฟนั้นแผดเผาร่างของปิศาจต้นไม้ไปทำให้มันรีบคลายร่างของเฮลิเบลออกจากการพันธการก่อนที่ไปจะโดนตัวเธอไปด้วย ซึ่งเธอที่สลบอยู่ก็รอดมาอย่างหวุดหวิด
"แฮ่กๆๆ" เสียงอามาร่าหอบอย่างเหนื่อย เพราะเธอรู้สึกว่าเหมือนกับเธอใช้พลังไปมาก แววตาสีเปลวเพลิงของเธอค่อยๆกลับเป็นแววตาปกติอีกครั้ง แต่แล้วเธอก็สลบไป
พลังที่อามาร่าใช้เมื่อกี้นั้นคืออะไร?
เรื่องนี้ก็ไม่อาจรู้ได้
แต่เรื่องที่ว่าอามาร่ากับเฮลิเบลนั้นมีชะตาร่วมกันนั้นคงจะเป็นความจริง ซึ่งทั้งสองที่สลบอยู่ ณ ตอนนี้นั้นยังไม่รู้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกี่ยวกับปืนของอามาร่า
อย่างที่บอกไปในเรื่อง FSG PTG ว่า อามาร่านั้นใช้ปืนคู่ ซึ่งทั้งคู่นั้นเป็นโคลต์ไพธอน .357 ทั้งสองกระบอก แต่ไม่ได้บอกขนาดของลำกล้องไว้ แต่อาจจะสงสัยว่าในตอนนี้ทำไมมีกระบอกลำกล้อง 8 นิ้วแค่กระบอกเดียว ก็ติดตามต่อไปแล้วกันในบทสำรวจบ้านของอามาร่า
Wing of Destiny ตอนที่ 11 ฟิเลมง? (Sun)
[IMG]