คำเตือน!!นี่คือแฟนฟิกชั่น เป็นส่วนเนื้อเรื่องที่เขียนขึ้นใหม่
ตัวละครบุคลิก และสถานที่ภายในเรื่อง ทั้งหมดเป็นของการ์ตูนดั้งเดิมทั้งหมดหาใช่ผมแต่งไม่
เพราะฉะนั้นใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งต่างๆอาจถามผมได้ หรืออ่านมังงะการ์ตูนเรื่องนี้
ส่วนเหตุผลที่แต่งแฟนฟิกคือ.....ยังคิดเรื่องตัวเองไม่ออกและผมชอบเรื่องนี้....
ติผมได้ตามสะดวก ขอบคุณครับ!!!!
ตอนที่ 2 : คนที่ทำงานก็เท่ากับพ่ายแพ้และคนที่เลิกทำงานก็เท่ากับพ่ายแพ้
ฟึ่บ!!!ลูกะลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างรวดเร็วแต่เพราะงั้นจึงเจ็บแผลที่ท้องทันที
“อูย....”เธอครางออกมาเบาๆก่อนจะมองไปยังสถานที่รอบๆตัวที่แขนซ้ายของเธอมีสายน้ำเกลือ
และถัดไปก็มีเครื่องวัดชีพจรอยู่“โรงพยาบาลเหรอ?”แต่เธอต้องสลัดความคิดไปเพราะที่นี่ถูกตกแต่งด้วยของที่ดูหรูเกินไป
เตียงก็เป็นไม้อย่างดีรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้อื่นๆล้วนดูมีราคาและสลักอย่างสวยงามจนน่าตกใจ
ดูเหมือนในห้องนี้จะไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซักเท่าไรกี่โมงแล้วละเนี้ย ลูกะหันไปมองที่ระเบียง
แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาผ่านผ้าม่านสีขาวเช้าแล้วงั้นเหรอ?....
ลูกะที่ยังไม่ได้สติดีพยายามนึกย้อนไปเมื่อคืน ครั้งสุดท้ายดูเหมือนจะถูกพาไปที่ๆหนึ่งซินะ...
ก็อกๆเสียงเคาะประตูดังขึ้น“คะ?” เมื่อเธอตอบไปผู้หญิงสวมชุดเมดก็เดินเข้ามาหน้าตาของเธอดูสะสวยแบบผู้ใหญ่
พร้อมกับท่ายืนหลังตรงหรือว่าจะเป็นเมดของจริง?“ตื่นแล้วเหรอคะ?” เธอถามลูกะ
“อะ...คะ....ค่ะ”พอลูกะโดนถามแบบไม่รู้ตัวก็ตอบกลับแบบไม่ค่อยถูก“แล้วคุณเป็นใครคะ ที่นี่ที่ไหน?”
พอลูกะพยายามถามคำถามก็เกิดเจ็บแผลขึ้นมานิดหน่อยจนต้องกุมท้องแล้วสาวใช้คนนั้นก็เข้ามาหาทันที
“อย่าฝืนเลยค่ะเดี๋ยวชั้นจะบอกคุณเอง”เธอพูดแล้วก็ค่อยๆพยุงตัวลูกะนอนลงกับเตียง
“ชั้นมีชื่อว่ามาเรียเป็นคนรับใช้ของตระ:Xลซังเซนอินค่ะเด็กที่คุณพยายามช่วยเมื่อคืนเป็นลูกสาวของตระ:Xลนี้เองค่ะ”
“หา? หรือว่าจะเป็นลูกเศรษฐีเหรอคะ?”ลูกะถามด้วยความตกใจเล็กน้อย
“ใช่แล้วค่ะเธอเห็นถึงความตั้งใจของคุณเธอจึงอยากจะตอบแทนคุณนะค่ะ”มาเรียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“เห?ตอบแทนเหรอคะ?”ลูกะยิ้มเล็กแล้วคิดในใจ เรื่องอย่างกับการ์ตูนแน่ะแล้วหัวเราะเล็กๆ
“งั้นช่วยใช้หนี้แทนชั้นหน่อยซิคะล้อเล่นนะคะ ฮะๆๆๆ” ลูกะพูดหยอกเล่นแต่ว่า
“ถ้าแค่ 150ล้านก็ไม่มีปัญหาหรอกมั้งคะ?” “หา!?”คำพูดนั้นทำลูกะตกใจจนลุกขึ้นนั้งแล้วเจ็บแผลอีกครั้ง
จนต้องให้มาเรียช่วยพยุงตัวลงนอนอีกครั้ง“ตะ...แต่เมื่อกี้แค่ล้อเล่นนะค่ะ....”แล้วลูกะก็เอะใจบางอย่าง
”ว่าแต่รู้เรื่องของชั้นได้ยังไงคะ?”“ชั้นต้องขอโทษที่ไปยุ่งกับสิ่งของส่วนตัวของคุณนะคะ” แล้วเธอก็ก้มหัวลงขอโทษ
“มะ...ไม่เป็นไรหรอกคะ....”ระหว่างที่พูดกันอยู่เสียงโทรศัพท์ของลูกะก็ดังขึ้นจากบริเวณโต๊ะหัวเตียง
เธอจึงรีบเอื้อมมือไปที่โต๊ะเล็กหัวเตียงแต่เอื้อมไม่ถึงมาเรียจึงหยิบมาให้ลูกะ “ขอบคุณค่ะ”
ลูกะก้มหัวขอบคุณแล้วดูโทรศัพท์ จากผู้จักการ พอเธอเห็นแล้วจึงรีบรับโทรศัพท์อย่างรีบร้อน “สวัสดีค่ะ!!!”
“นี่ลูกะเธออยู่ไหนแล้วอีกหนึ่งชั่วโมงเราจะเริ่มถ่ายแบบกันแล้วนะ!!!” เสียงรีบเร่งของผู้จัดการเธอ
ทำให้ลูกะกระวนกวะวายใจว่าจะตอบอย่างไรดีสุดท้ายเธอก็ตอบว่า“ค่ะอีกไม่นานจะไปถึงค่ะ”
แล้วก็พยายามจะลุกออกจากเตียงแต่ก็โดนมาเรียแย่งโทรศัพท์ไปแล้วโดนดังลงบนเตียงอีกครั้ง
“อะ..เอาคืนมานะคะ”ลูกะลนลานพยายามจะเอื้อมมือไปหามาเรียแต่ก็โดนจับหัวเอาไว้จบขยับไม่ได้
“นั้นใครคะ?”มาเรียถามผู้จัดการของลูกะผ่านทางโทรศัพท์ “คะ? ชั้นคือคนรับใช้ของตระ:Xลซังเซนอินค่ะ”
“คุณลูกะได้ประสพอุบัติเหตุจนต้องเข้ารักษาตัวค่ะ”“ถ้าถามว่าแค่ไหนละก็ต้องรักษาตัวหลายวันเลยคะ”
พอลูกะได้ยินคำนั้นจากมาเรียก็ตะโกนขึ้น“ไม่เป็นไรค่ะ ชั้นไม่เป็นไรหายแล้วค่ะ”
ลูกะพยายามจะตะโกนให้คนในอีกฝั่งได้ยินมาเรียจึงใช้นิ้วจิ้มไปที่แผลของลูกะเบาๆแล้วเอาโทรศัพท์หันไปทางลูกะ
“อ๊ากกกกก”ลูกะร้องอย่างเจ็บปวด “ได้ยินไหมคะ?” “งั้นเหรอคะเดี๋ยวจะส่งคนไปรับก็แล้วกันนะคะ”
แล้วมาเรียก็วางสายไป“ผู้จักการของคุณบอกว่าจะมาหานะคะ” มาเรียมองไปที่ลูกะซึ้งแสดงสีหน้าเจ็บปวดและไม่พอใจ
“ทำอะไรนะคะ พูดอย่างนี้ชั้นก็มีปัญหาซิคะ!!!” ลูกะพูดด้วยน้ำเสียงโมโห
มาเรียพอได้ยินลูกะพูดอย่างนั้นก็ใช้นิ้วแตะที่แผลลูกะเบาๆอีกครั้ง
และเหมือนเดิมลูกะก็ร้องออกมาเสียงดัง“แบบนี้แล้วยังจะไปอีกเหรอคะ?”
พอลูกะได้ยินอยางนั้นก็เอาผ้าห่มคลุมหน้าไว้เพราะไม่กล้าสบตา“ก็มันสำคัญสำหรับชั้นนะคะ...”
“ทำไมละคะ?แค่งานหยุดซักหน่อยไม่เห็นเป็นไรเลย แล้วนี่ยังเป็นช่วงปีใหม่อีกนะ?”
“ก็มัน....”ลูกะพยายามจะพูดตอบแต่พอโดนมาเรียจ้องก็พูดอะไรไม่ออก
“เดี๋ยวชั้นขอตัวก่อนนะคะเดี๋ยวชั้นจะให้คนมาหาอะไรให้กินนะคะ”พอพูดเสร็จเธอก็เดินออกไป
พอมาเรียออกจากห้องไปลูกะก็เอาหน้าออกจากผ้าห่มแล้วถอนหายใจ
“เป็นปีที่แย่จริงๆเลย.....”
ใจไม่สงบเลย... ลูกะบ่นกับตัวเองในใจ พอไม่ได้ทำอะไรแล้วมันทนไม่ได้เลย....
“ถึงจะบอกให้พักก็เถอะ....”แล้วลูกะก็ยันตัวเองลุกขึ้นนั่งบนเตียงช้าๆแล้วจับเนื้อตัวตัวเอง“ถ้าเป็นแผลเป็นก็แย่นะซิ...”
ในตอนนั้นก็มีคนเคาะประตู“เชิญคะ” ลูกะตอบ แล้วคนที่เดินเข้ามาเป็นเด็กหนุ่มในชุดพ่อบ้าน
ในมือขวาของเขาถือถาดอาหารเอาไว้อีกข้างหนึ่งถือโต๊ะเล็กสำหรับวางบนเตียง
สิ่งๆแรกที่ลูกะคิดตอนเห็นหน้าเขาก็คือผู้ชาย? อืม...โดยรวมถือว่าเป็นละนะ....
“ผมนำอาหารมาให้ครับ”เขาพูดอย่างสุภาพ“อะ...คะ...ขอบคุณคะ” พอเขาเดินเข้ามาใกล้ๆก็จำหน้าได้
คนที่โดนรถชนเมื่อคืนนี่นา?ลูกะคิดแล้วจ้องไปที่หน้าของเขาที่คล้ายเด็กผู้หญิงมาก
พอเด็กหนุ่มเห็นลูกะจ้องมาจึงยิ้มตอบลูกะพอโดนอย่างนี้หน้าเลยแดงเล็กน้อย
“เดี๋ยวผมตั้งโต๊ะให้ครับ”พูดเสร็จเขาก็นำโต๊ะพับมากางวางไว้บนเตียง
แล้วค่อยๆจัดแจงอาหารลงบนโต๊ะแต่ลูกะไม่ได้สนใจเธอมองแต่กับเด็กหนุ่มคนนั้นแล้วคิด ทำไมไม่เป็นไรเลยละ?
แล้วก็เผลอเอานิ้วจิ้มไปที่เขา“ทำไมเหรอครับ?” เด็กหนุ่มมีท่าแปลกใจถาม พอลูกะรู้ตัวก็ส่ายมือไปแล้วบอกไม่มีอะไร
แล้วพอกลับมามองที่อาหารก็ถึงกับตกใจแม้จะเป็นเมนูที่ดูพื้นๆแต่เธอก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ต่างจากเมนูอื่นๆ
“เอ่อคือนี่อะไรคะ?”ลูกะชี้ไปที่อาหารที่เด็กหนุ่มคนนั้นนำมาให้
“นี่เป็นเมนูเพื่อสุขภาพนะครับผมได้ใช้วัตถุดิบพวก เนย ผลไม้ นม และตับที่จะช่วยเรื่องการฟื้นตัวนะครับ”
เขาจัดเรียงช้อนส้อมอย่างเป็นระเบียบแล้วก็ส่งยิ้มให้ลูกะใจเต้นอีกครั้งพอลูกะโดนอย่างนั้นแล้วก็ทำตัวไม่ถูก
จึงรีบหันไปทานอาหารแทน“งะ..งั้นขอหาละนะคะ”แต่พอเธอหยิบช้อนขึ้นมา เธอก็ก็ทำตกลงบนเตียง
พอเอื้อมไปหยิบมือก็ไปจับมือของเด็กหนุ่มคนนั้นเข้านุ่มจังเลย ลูกะคิด นี่คือมือของผู้ชายแน่เหรอ?
“เอ่อ...ช่วยปล่อยมือได้รึยังครับ...”เด็กหนุ่มพูดด้วยความเขินอายเล็กน้อย
ลูกะได้ยินจึงรีบปล่อยมือไว้แล้วก้มหน้าอายนี่เราเป็นอะไรไปนะ... พอโดนเขายิ้มเข้าหน่อยก็ใจเต้นซะแล้ว...
“งั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับถ้ามีอะไรก็เรียกได้เสมอเลยนะครับ” เด็กหนุ่มพูดตัดบทระหว่างที่ลูกะยังใจเต้นอยู่
พอเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังเดินออกไปลูกะก็เผลอเรียกเขาโดยไม่รู้ตัว“ด..เดี๋ยว!!” “ครับ?”เขาหันมายิ้มตอบ
“กะ...ก็ชั้นยังไม่รู้ชื่อของนายเลยนะ....”ลูกะพูดด้วยเสียงค่อยๆ เด็กหนุ่มคนนั้นก็ยิ้มแล้วตอบกลับ
“ผมชื่อว่าอายาซากิ ฮายาเตะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”พอลูกะได้ยินก็มีสีหน้าที่มีความสุขขึ้นมาเล็กๆ
เธอยิ้มตอบด้วยความดีใจแล้วบอกชื่อตนกลับ“ชั้นชื่อว่า ซุยเร็นจิ ลูกะ ยินดีที่ได้รู้จัก อายาซากิคุง”
“เช่นกันครับ”ฮายาเตะโค้งให้ก่อนพูดบอกลาต่อ“งั้นผมขอตัวก่อนละครับ ถ้ามีอะไรก็เรียกนะครับคุณซุยเร็นจิ”
“อืม!!” ลูกะพยักหน้าด้วยใบหน้าที่มีความสุขก่อนที่ฮายาเตะจะออกจากห้องไป
ลูกะที่นอนอยู่เฉยๆพอหันหน้าไปหากระจกก็พบใบหน้าของตนที่ไม่ได้เห็นนานแล้วรอยยิ้ม
ไม่ใช่แค่ยิ้มตามงานหรือเพราะจำเป็น แต่เป็นรอยยิ้มที่มาจากใจของเธอจริงๆลูกะที่เห็นใบหน้าตนเองก็แปลกใจ
ทำไมนะแค่คนๆเดียวทำไมถึงทำให้เราเป็นอย่างนี้ได้... ไม่เขาใจตัวเองเลยระหว่างที่ลูกะคิดเรื่องของฮายาเตะอยู่นั้นเอง
“ลูกะ!!!” พอลูกะหันไปหาเจ้าของเสียงก็ตกใจเล็กน้อย“ผู้จัดการ?” หญิงสาวคนนั้นแต่ตัวดูภูมิฐาน สวมแว่นตา
“นี่เธอไปเจอปัญหาแบบไหนอีกแล้วละ?”เธอถามลูกะด้วยความเป็นห่วงปนโมโห “ก็แบบว่าโดนลักพาตัวแล้ว
ก็เกิดอุบัติเหตุนิหน่อยนะ...”ลูกะพูดเหมือนเด็กที่โดนคุณแม่ว่า
“โถ่...เธอนี่โชคร้ายไม่จบไม่สิ้นเลยนะ...”ผู้จักการของเธอพูดด้วยท่าทีเหนื่อยใจ
“ชั้นก็ไม่ได้ชอบหรอกค่ะ....” ลูกะพูดแล้วก็คิดถึงตนในอดีตตั้งแต่ถูกพ่อแม่ทิ้งไปก็เจอแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น
หลายวันก่อนเธอก็เกือบจะถูกรถชนไปแล้ว“เฮ่อ....” ผู้จัดการของลูกะถอนหายใจ “คราวหน้าก็หัดระวังตัว
ให้มันมากๆหน่อยละเธอโชคดีมากนะที่ทางบริษัทต่างๆเขาเข้าใจ แล้วก็ไม่มีความเสียหายมากมายนะ...”
“ขอโทษค่ะ...”ลูกะจนที่จะพูดอะไรจึงได้แต่ก้มหน้าขอโทษ แล้วผู้จัดการของลูกะก็เข้ามากอดที่หัวของลูกะไว้
“แต่ชั้นดีใจนะที่เธอปลอดภัย”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนต่างจากเมื้อกี้ลิบลับ
“ขอโทษค่ะ...”แต่ลูกะก็นึกคำพูดอื่นๆไม่ออกอยู่ดี จึงได้แค่ตอบขอโทษไป แล้วผู้จัดการของลูกะก็ผละตัวออกไปแล้วพูด
“ยังไงก็ตามรีบๆพักแล้วก็รีบๆหายเข้าละ” “ค่ะ”พอเธอเห็นลูกะพยักหน้าเธอก็เดินออกไปจากห้องก่อนจะหันมาพูด
“แล้วจะติดต่อมาเป็นระยะๆนะหายไวๆละ”หลังจากลูกะเห็นเธอออกจากห้องไปก็ถอนหายใจโล่งเหมือนยกภูเขาจากอก
“โชคดีจังเลย...”เธอพูดด้วยความดีใจแล้วค่อยๆเอนตัวลงนอน
สำหรับลูกะแล้วงานไอดอลถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ถ้าเสียไป ความพยายามของพ่อแม่เธอจะเสียเปล่า
แต่นอกจากงานไอดอลแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจของเธอ…
ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง แบบนี้คงไม่ได้พักแน่ๆเลย ลูกะแอบหัวเราะในใจ“เชิญค่ะ” พอเธอพูดเสร็จ
คนที่เดินเข้ามาเป็นเด็กตัวเล็กผมทองมัดผมหางคู่ในชุดไปรเวทสบายๆที่เธอจำได้ดีเลยคนนี้นะเหรอลูกสาวตระ:Xลซังเซนอิน
“สภาพนี้ดูไม่ได้เลยนะ”คำพูดแรกของเธอทำเอาลูกะเจ็บพอสมควร “นี่เธอคิดว่าตัวเองเป็นเซนต์มาจากไหนที่จะคอย
ช่วยองค์หญิงจากอันตรายละหา?”พอลูกะได้ยินคำนั้นปากก็ไปโดยไม่รู้ตัว “ว่าใครเป็นเซนต์ละหา? การกระทำของชั้นมัน
เหนือกว่านั้นนะไม่ใช่แค่อัศวินวิ่งผ่านวิหารทั้งสิบสองแต่เป็นนางเอกที่ต้องไปช่วยพระเอกที่ถูกองค์กรร้ายเวทย์มนต์
จ้องจะจับทุกภาคต่างหากละ”
“ถ้าเธอเป็นนางเอกแบบนั้นพระเอกก็คงโดนสูบพลังชีวิตจนหมดไปแล้วละ”เด็กคนนั้นเถียงกลับ
หลังจากนี้ทั้งสองก็ประทะคารมแปลกๆเกี่ยวกับการ์ตูนและมังงะเถียงอะไรไปบ้างทั้งสองคนก็จำไม่ได้
แต่ลูกะในตอนนี้รู้สึกสนุกมากจนลืมทุกๆอย่างไปครู่หนึ่งเลย
“แฮ่กๆๆ”ทั้งสองคนหอบหายใจจากหารเถียงในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องแรกจากการเปรียบเทียบกับเซนต์
ต่อมากลายเป็นโมบิวสูตรตัวประกอบของสหพันธ์ไม่สามารถชนะUE ได้
แล้วก็กลายเป็นเรื่องที่โคนันคุงพยายามจะบอกใบ้ให้โคโกโร่
ทั้งลูกะกับเด็กคนนั้นพอมาย้อนคิดดูก็เริ่มจะงงว่าตนเองพูดอะไรไปบ้าง
“เธอนี้มันบ้าจังเลยนะ”เด็กสาวที่ยังหอบแฮ่กๆพูด“เธอก็เหมือนกันนั้นแหละ” ลูกะพูดตอบ
“แต่ว่านะ...”แล้วเด็กคนนั้นก็พูดขึ้นมาโดยไม่สบตาลูกะ
“ถึงจะเป็นคนบ้าที่ไม่ยั้งคิดแต่เธอก็ช่วยชั้นไว้นะ” ลูกะได้ฟังก็ยิ้ม
“ไม่หรอกชั้นไม่ได้ทำอะไรเลยแถมไปเป็นตัวถ่วงด้วยซะซ้ำ”
“นั้นก็จริงนั้นแหละ”เด็กคนนั้นตอบตรงๆ ทำให้ลูกะถึงกับช็อกอีกครั้ง
“ต่อให้เธอไม่มาละก็ยังไงฮายาเตะก็ จะมาช่วยชั้นได้อยู่แล้วละ” ลูกะได้ยินก็โมโหเล็กๆ
“อย่าให้ลุกได้นะ”แล้วเด็กคนนั้นก็ทำเชิดเท้าใส่เอวแล้วพูด
“ท่าทำได้แล้วจะยังไงละ?ฮะๆๆ” “หนอยแน่...” ลูกะกำหมัดด้วยความโมโห
“แต่ไม่ว่ายังไงชั้นก็อยากขอบคุณเธอนะ...”เธอก้มหน้าพูดโดยไม่ต้องการให้ลูกะเห็นหน้า
“ในเมื่อเธออยากขอบคุณชั้นแล้วละก็...”“อะไรละ? ต่อให้เป็นเรื่องอย่างสร้างการ์ตูนวนรูป 8 ตอนขึ้นมาใหม่
ก็ง่ายเหมือนการกำจัดโมบิวสูตร100 ตัว ใน 1 นาทีเลยละ” เด็กคนนั้นพูดด้วยท่าทีเหมือนว่าตัวเองอยู่สูงที่สุด
พอลูกะได้ยินก็เหงื่อตก“นั้นก็อยากนะ แต่ไม่ใช่หรอก....” “แล้วอะไรละ?”
“ช่วยเป็นเพื่อนกับชั้นได้ไหมละ?”ลูกะส่งยิ้มแบบไอดอลให้เด็กคน รอยยิ้มแบบไอดอล!! คือความสามารถพิเศษของผู้ที่บรรณลุการเป็นไอดอล
สามารถมันใจได้ไม่ว่าหญิง หรือชาย เด็กหนือผู้ใหญ่
ส่วนในตัวลูกะก็คิดว่า ตัวเองพูดอะไรออกมานะ?
เหมือนมีบางสิ่งดลใจให้พูดออกไปโดยไม่รู้ตัวเลยแฮะ...
“อะไรละนั้น...”แต่เด็กคนนั้นก็ไม่สะทกสะท้านใดๆ ทำเอาลูกะเสียกำลังใจไปพอสมควร ในฐานะไอดอล
“คำว่าเพื่อนมันขอกันแบบนี้ได้ที่ไหนกันละ....”แล้วเธอก็หันหลังไป
“ตะ....แต่ว่าถ้าเธอขอมาด้วยเกรียติของตระ:Xลซังเซนอินแล้วก็คงปฏิเสธไม่ได้ละนะ....”ลูกะได้ยินก็แอบขำเล็กๆ
“เธอนี่มันพวกซึนเดเระซินะ”พอลูกะพูดออกไปเด็กคนนั้นก็สะดุ้งเล็กน้อย “พ..พูดอะไรนะด...เดี๋ยวก็ไล่ออกไปซะหรอก”
“อ้าวๆหน้าแดงแล้วแน่ะ!!”ลูกะพูดแหย่เด็กคนนั้นเล่นทำให้เธอหน้าแดงขึ้นไปใหญ่ “เชอะไม่สนด้วยแล้ว...”
พอพูดเสร็จเด็กคนนั้นก็รีบเดินตึงตังออกจากห้องไปก่อนจะถึงประตูเธอก็พูดขึ้น “ซังเซนอิน นางิ”
“หา?” “ก็บอกว่าชั้นชื่อว่า ซังเซนอิน นางิยังไงละ!! ” เธอพูดเสียงดัง“เรียกชั้นว่านางิก็แล้วกันนะ”
ลูกะได้ยินก็แอบหัวเราะซึนเดเระซินะ เธอคิด
“ชั้น ซุยเล็นจิลูกะ เรียกชั้นว่าลูกะนะ” นางิเหลือบหันมามองมองลูกะทั้งๆที่หน้ายังแดงอยู่
แล้วเธอก็รีบสะบัดหน้าใส่แล้วออกจากห้องไป
“ไม่น่าเชื่อว่าจะมีจริงๆแฮะซึนเดเระเนี้ย” ลูกะพูดแล้วหัวเราะแต่ก็เจ็บท้องเพราะแผลจึงได้แต่กุมท้องไป
“ชีวิตคนเรานี่ไม่แน่นอนจังเลยนะ”ลูกะกางแขนออกบนเตียงเหมือนเป็นการยืดเส้นยืดสาย
“หลับดีกว่า...”หลังจากนั้นเธอก็หลับๆตื่นๆอีกพักใหญ่
ในเย็นวันนั้นฮายาเตะโดนไล่ออกไป แล้วนางิก็กลับไปช่วยไถ่ตัวพร้อมกับชดใช้หนี้ให้ฮายาเตะ 150ล้านเยน
โดยแลกกับการทำงานที่ฮายาเตะเพื่อชดใช้หนี้แต่ลูกะไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย
ลูกะ และนางิ
เวลาเถียงกันให้จินตนาการถึงภาพนี้แล้วกันนะครับ 555
ตัวอย่างตอนต่อไป?(แบบตัวหนังสือ)
ลูกกะ(อาจจะ)ต้องร่วมกันกันฮายาเตะเผชิญหน้ากับ หุ่นยนต์ผู้พิทักษ์ เสือขาวยักษ์ และอาจรวมถึงกับดัก(Trap!!) ก็เป็นได้!!!
ปล. ดูเหมือนคำบางคำจะเป็นคำต้องห้ามแฮะครับ 555 หยวนๆแล้วกันครับ (ปิดปาก)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย gaganehehe เมื่อ 2013-1-22 00:02
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย gaganehehe เมื่อ 2013-1-22 00:09
แฟนฟิคชั่น Hayate no gotoku Cross Time : ตอนที่ 2