ก็ไม่ขอพูดอะไรมากล่ะนะจะพยายามเล่าอย่างสบายที่สุดละกันนะ
ขอเริ่มจากการพบกันครั้งแรกเลยละกันเนอะ ถ้าจะไม่ขอเอ่ยชื่อของแฟนผมนะ ฮ่าๆ
ผมพบกับคุณเธอครั้งแรกผ่านเพื่อนครับ ตอนนั้นเข้ามหาลัยปีหนึ่ง ตอนนั้นไม่ได้เรียนศรีปทุม แต่เรียนมหานคร ก็ไปเรียนกะกลุ่มเพื่อนสมัยเรียน อีเทค ผมก็มีบ่นๆกะกลุ่มเพื่อนบ้างว่า เฮ่อกุอยากมีแฟน แต่ด้วยความตอนนั้นเป็นคนติดเกมติดเมะอย่างหนัก ถึงขั้นเป็นฮิคิโคโมริขังตัวเองอยู่ที่หอ แต่ผลสอบเทอมแรกมันดันออกมาโอเคนิดๆก็น่าแปลก โดยเพื่อนผมแนะนำให้ได้รู้จักกับนางฟ้าแสนน่ารักคนหนึ่งครับ ต้องบอกว่าเธออายุน้อยกว่าผมปีนึง ตอนนั้นผมสิบแปดซึ่งเธอเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนที่สนิทกะน้องสาวมัน ตอนนั้นอยากจะบอกกับเธอว่า "สนใจมาเป็นผัวเป็นเมียกันเลยดีไหม" เพราะเธอน่ารักมว๊ากกกก แต่เราก็พูดไม่ได้หรอก ก็ได้แต่นั่งเงียบๆกันไปคุยกะเพื่อนตัวเองบ้างนิดหน่อย แถมจากที่ฟังๆจากเพื่อนมาเธอก็อยากมีแฟนเหมือนกันอุแหม่เหมาะเจาะคิดงั้นทีแรกแต่เอาเข้าจริงไม่กล้าอ่ะ จีบไม่ได้ น่ารักซะนั่น หลังจากนั้นผมกับคุณเธอก็เลยแรกเบอร์กันไป หลังจากนั้นผมไม่ได้โทรหาคุณเธอเลย สองอาทิตย์เต็มเพราะไม่กล้าโทรเลยกะจะเออ ปล่อยไปใช้ชีวิตโดดเดียวอยู่กับสาว2D
แต่แล้วคุณเธอก็เป็นฝ่ายโทรมาหาผมก่อนซะงั้น ตอนนั้นผมพูดอะไรไม่ออก เงิบเลยสาวโทรหา ถ้าไม่นับเพื่อน ตอนนั้นเป็นช่วงผ่านครึ่งเทอมแรกเห็นจะได้ ช่วงนั้นผมอยู่ชลบุรีพอดี คุณเธอก็คุยกับผมจนมันมีเสียงๆเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา มันเป็นเสียงเมะครับ ผมก็เลยลองทักเธอไป กลายเป็นอ้าวเฮ้ยมนุษย์เผ่าเดียวกะเรานี่ โอตาคุนี่หว่า หลังจากนั้นล่ะ เริ่มคุยกันถูกคอ และหลังจากนั้นก็โทรหากันทุกวันช่วงนั้นค่าโทรศัพย์เดือนนั้นพันหว่าบาท ดะนี้เดือนนึงสองร้อย (ผมพวกใช้รายเดือน) แล้วไปๆผมกับคุณเธอก็ไปดูหนังกันแต่จำไม่ได้ละดูอะไรกัน แต่ตอนนั้นเธอถามผมตอนดูหนัง (นั่งโซฟาด้านหลังสุดด้วยนะจ๊ะ 550มั้งนะราคา) จำได้แม่นเลยเธอถามผมว่า สรุปแล้วตอนนี้สถานะของเรามันคืออะไร เท่านั้นล่ะ ผมก้เงียบๆไปเลย สรุปเราเป็นไรกะเธอล่ะ ผมเลยลองพูดเล่นๆไปว่า เป็นแฟนกันมั้ง เท่านั้นแหละพอคุณเธอได้ยินก็ซบไหล่ผมอยู่อย่างงั้นแหละจนหนังจบ แล้วผมก็พาเธอไปส่งบ้านตามระเบียบ หลังจากนั้นก็วาปเข้าโหมดบ้าแฟนทันที ไปเทียวกันบ่อยมากจนเรียกว่าตังในบัญชีหายฮวบๆ พอเปิดเทอม สุดสัปดาห์ก็กลับบ้าน กลับมาก็ไปหาแฟนที่บ้านเขาทันทีเลย
มันเป็นแบบนั้นอยู่ช่วงนึงเลย ชีวิตมีความสุขมากมาย แล้วช่วงปิดเทอมแรกก็มาถึง ก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นผมคึกอะไรก็ชวนเธอไปเที่ยวอัมพวา ผีไรสิงกุวะตอนนั้น ก็ไปเที่ยวค้างคืนนึง แล้ววันแห่งชะตากรรมก็เริ่มขึ้น คืนนั้นไม่รู้ยังไงพอไปถึงที่พักได้มันก็อดไม่ได้เลยตอนนั้น ถึงที่เก็บของได้ก็จัดการจูบเธอซะงั้นล่ะ และนั่นคือจูบแรกของผมด้วย ถ้าถามว่าแกจูบกันแบบไหนคงต้องเรียกว่าพยายามจะจูบกันแบบผู้ใหญ่เลยล่ะ แต่คืนนั้นมันก็จบแค่นั้นแหละ จูบเขาเสร็จก็ไม่มีไรต่อ เช้าก็เก็บของกลับชลบุรีตามเดิม ช่วงปิดเทอมนับรวมๆไปเที่ยวค้างคืนถึง 3 หนเลยล่ะ หมดเยอะแต่มีความสุขมากตอนนั้นตอนนั้นจักรวาลเป็นสีชมพูเลยอ่ะ
แล้วหลังจากนั้นผมกับแฟนก็เริ่มขยับความสัมพันธ์กันขึ้นไปอีกนิดต่อปีใหม่ ก็ไปเที่ยวคืนปีใหม่กัน แน่นอนคืนนั้นไม่ได้กลับบ้าน แต่ผมไปนอนค้างที่โรงแรมกะแฟนผม มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ต้องบอกคงรู้ๆกันไปผมเชื่อว่าเด็กไทยไม่อินโนเซนท์ดังนั้นคงรู้กัน คืนนั้นเรียกว่ามีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูกไม่ใช่เธอได้ขยับความสัมพันธ์กันไปอีกขั้นไรหรอกนะ แต่ก็อธิบายไม่ถูกแต่คือมันมีความสุขล่ะ ในการได้เป็นคนแรกของกันและกันด้วยล่ะมั้ง
ชีวิตนักหวานแหววราวคู่รักใหม่มันก็เป็นอยู่แบบนั้นล่ะ พอผมป่วยเธอก็มาเฝ้าแถมติดหวัดใหญ่ป่วยไปอีกคน พอผมหายก็ไปเฝ้าเขามั่ง แต่พอปีแรกผ่านไป มันเข้าปีที่สองรึเกือบๆจะปีที่สองปัญหาก็เริ่มเข้ามาซะงั้น ช่วงนั้นผมมีปัญหาเข้ามาเยอะมาก แถมช่วงนั้นแฟนผมเขาพูดจะไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ด้วย โดยปีนั้นเธอเข้ามหาลัยปีแรกแหละ แต่ผมก็ไม่เคยไปว่าอะไรเธอหรอกนะ ผมก็มีถามบ้างเป็นอะไรรึเปล่ามีปัญหาอะไรไหมแต่เขาก็บอกว่าไม่มีๆ
จนวันนึงเพื่อนผมมันก็มาหาผมแล้วมันก็บอกผมน้องมันเห็นแฟนผมไปกับผู้ชายที่ไหนไม่รู้ เท่านั้นแหละ ผมโทรไปหาเขาเลยแล้วก็คุยเรื่องนี้ ทันใดนั้นราวกับพายุถล่ม ผมโดนแฟนตัวเองด่าครั้งแรกตั้งแต่คบกันมา เนื้อหาจำไม่ค่อยได้แต่ราวๆว่า ไม่เชื่อใจกันเหรอราวๆนั้นแหละ หลังจากนั้นไอ้เรื่องพวกนี้มันก็มาอีกหนนี้ได้ยินจากเพื่อนอีกคน หนนี้ผมขึ้นถึงขนาดจกเพื่อนหงายเลย ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ประสมการณ์การชกต่อยครั้งแรกมา ซัดกันหนักมากที่มหาลัยจนพวกรุ่นพี่่ต้องมาช่วยกันห้าม
แต่ตอนนั้นผมเริ่มรู้ตัวแล้วล่ะว่ามันอาจจะจริง เพราะเพื่อนผมที่เรียนๆอยู่อีเทคมันอยู่แถวบางแสนเยอะ มันก็เห็นๆเธอกันบ่อยๆ มันก็มีมาเล่าๆกันบ้าง แต่สิ่งที่ผมทำคือ ผมเชื่อในแฟนผม ปิดหูปิดตาไม่รับอะไรทั้งนั้น เวลาไปเจอแฟนช่วงเสาท์ อาทิตย์ก็ทำฝืนยิ้มมีความสุข สนุกสนานเหมือนเราไม่รู้อะไรเลยแม้แต่น้อยกลายเป็นว่าผมเหมือนเป็นคนบ้าไปเลยช่วงนั้น โทรมมาก เรียนไม่รู้เรื่องผลการเรียนตกอย่างหนัก เครียดตลอดเวลาซึ่งพวกเพื่อนๆผมมันเลยจัดนักเลี้ยงรุ่นให้ผมโดยเฉพาะ และผลคือพวกมันพูดเสียงเดียวกันคือ เลิกกะเขาไปเหอะ แต่ผมก็ยังไม่ฟังเขาอยู่ดี
หลังจากนั้นไม่กี่วันแฟนผมก็โทรมา บอกว่าเพื่อนผมโทรไปบอกให้เขาเลิกกับผม แล้วก็ด่าเขาประมาณนั้น และสิ่งที่ผมทำคือผมโทรไปด่าเพื่อนคนนั้นอีกที ช่วงนั้นแทบจะบอกว่าเพื่อนๆมันทั้งห่วงทั้งกลัวผมมาก จนถึงขั้นมีคำกล่าวล้อกันเล่นหลังจากนั้นว่า อย่าไปหือกะไอ้บอกตอนมีรักไม่งั้นอาจถึงตาย
ผมทนอยู่ครึ่งปีได้มั้ง คุณคงเข้าใจนะมันเหมือนกองหนังสือที่ตั้งซ้อนกันสูงๆ สุดท้ายมันก็ล้มลงมาได้ ตอนนั้นผมไม่รู้คิดบ้าอะไรจะผูกคอตายซะงั้น แต่แม่ดันโทรมาก็คุยกับแม่ตามปกติ แต่กลายเป็นฆ่าตัวตายไม่ลงสงสารแม่ แต่ทีนี้มันก็ยิ่งเครียดไม่มีทางออกเลย เราเองก็รักเขามากเกินไป แต่เวลาต่อหน้าเขาผมนี่ดูโคตรเป็นปกติเลยล่ะ จนน้องสาวเพื่อนผมที่สนิทกะแฟนผมโทรมา บอกว่าแฟนผมอ่ะตอนนี้เขาคบกะรุ่นพี่อีกคนที่มหาลัยอยู่ด้วย เขาบอกว่าอันนี้เรื่องจริงเลย แต่ผมก็ยังดื้อครับปิดหูปิดตาแล้วสะสมความเครียดต่อไป กลายเป้นปีสองเรียนไม่จบ เรียนได้เทอมเดียวแล้วก็ออกจากมหาลัยมาทำงานอยู่ร้านฟูจิ แล้วผมก็แวะเวียนไปหาแฟนผมที่หอบ่อยๆ ก็ปกติดีบางคืนก็ไปค้างกับเขาบางไปดูหนังด้วยกันบ้างเหมือนสมัยที่ยังหวานกันอยู่ แต่แค่ว่ามันไม่ถี่เหมือนเมื่อก่อน
จนวันนึงผมไปค้างที่หอเธอเหมือนทุกทีนั่นแหละ แล้วคืนนั้นคุณเธอก็บอกเลิกผมหลังจากแบบนั้นกันไปแล้ว เธอบอกว่าเธอทนจับปลาสองมือต่อไม่ไหวแล้ว ส่วนผมได้แต่ฟังเงียบๆแล้วก็ถามนั้นบ้างนี่บ้าง แต่คืนนั้นผมก็นอนค้างอยู่ที่นั้นจนเช้าก็แล้วกลับไปบ้าน ชีวิตรักของผมมันก็จบลงในวันนี้ด้วยเหมือนกัน
หลังจากเหตุการณ์นั้นพวกเพื่อนที่รู้ว่าผมเลิกกะแฟนแล้วมันชวนผมไปกินเหล้าตามสไตล์เด็กช่าง คืนนั้นเกือบโดนรถชนตายเพราะเมาแล้วดันลงไปนอนที่ถนน โชคดีเพื่อนที่มันอยู่แถวนั้นไปช่วยกันลากขึ้นมา แต่ทำไมเราไปนอนกลางถนนก็จำไม่ได้ ดีนะมันดึกมากแล้วรถเลยไม่ค่อยมี
หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงที่ไหนอีกเลย ใครแนะนำสาวให้ผมก็ปฏิเสธหมด คงเพราะมันฝังใจแล้วกับความรัก แต่ถึงปากบอกว่าเหงาอยากมีแฟนแต่ผลก็คือ หัวใจยังช้ำมากจนเกินเยียวยาอยู่ดี ไม่กล้าจะมีใครเพราะกลัวการโดนหักหลังอีก ถามว่าผมเป็นโอตาคุสนใจสาว2Dมากกว่าใช่ไหมหลังจากนั้น
เออ ตูยอมรับสาว 2D มันน่ารักจริง
แต่ว่าถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงเฝ้ารอวันที่ตัวเองจะพร้อมกับความรักครั้งใหม่อยู่ แต่ผมกลับไม่คิดจะคาดหวังใดๆในรักใหม่แล้ว
เรื่องราวรักแรกของผมล่ะครับอันนี้
เรื่องจริงมันเศร้าซะยิ่งกว่า HโดจินหรือเกมสายNTRที่พวกคุณๆชอบกันซะอีก ถ้าไม่โดนมาเองกับตัวจะไม่รู้เลยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนกับสิ่งพวกนี้
เรื่องจริงชีวิตรักชุดหวานและสุดช้ำของผม R15+