"มะ...ไม่จริงน่า นี่ฉัน...ต้องแพ้ให้กับพวกแกงั้นเรอะ" จอมปิศาจพูดอย่างไม่เชื่อสิ่งที่เขาเป็นอยู๋ตรงนี้ ใช่แล้ว เขาถูกปราบลงได้นั่นเอง
"ยอมแพ้ซะเถอะ จอมมารมังกรทมิฬ ยอมรับซะว่านายถูกกำจัดแล้ว" เสียงของหญิงสาวในที่ดูรุ่มร่ามกล่าวขึ้น แล้วมองไปที่จอมปิศาจอย่างสงสาร
จอมปิศาจเห็นดังนั้น มันกลับหัวเราะออกมา "ฮะๆๆๆๆๆ นี่แม้แต่เทพมังกรอย่างเธอยังมาสงสารฉันเรอะ" มันยิ้มแสยะอย่างน่ารังเกียจ เทพมังกรได้แต่หลับตาลงด้วยไม่อาจทนดูได้ ทั้งๆที่ไม่อาจจะทำอะไรได้อีกแล้ว แต่มันยังพยายามที่จะตะเกียกตะกายเข้าหาพวกเธอ "ฉันจะฆ่าแก!!!" มันตะโกนออกมาพร้อมทั้งพุ่งตัวเข้าใส่
เคล้ง เสียงของโลหะกระทบกับอะไรบางอย่าง "หยุดเถอะ มังกรทมิฬ เลิกดิ้นรนได้แล้ว" เสียงของผู้หญิงในชุดเกราะสีทองพูดขึ้น มือของเธอจับโล่สีทองบังไว้มั่น "แก สเตลล่า" มังกรทมิฬพูดอย่างอาฆาต ใบหน้าของมันเปลี่ยนเป็นสีดำ "มันจะกลายร่างอีกแล้ว" หญิงสาวในชุดสาวใช้พูดขึ้น
ปิศาจมังกรทมิฬกำลังจะกลายร่างอีกครั้ง มันพูดว่า "พวกแกต้องตาย" แล้วร่างของมันก็ห่อหุ้มไปด้วยหมอกสีดำ
หมอกสีดำที่ห่อหุ้มร่างกายของมัน บัดนี้ได้ก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นมา กลายเป็นมังกรทมิฬตัวใหญ่พอๆกับตึกสิบชั้น "ข้าคือมังกรทมิฬ ข้าคือชั่วร้ายของมนุษย์ทั้งหมด ตราบใดที่ยังมีความชั่วร้ายอยู่ในจิตใจมนุษย์ แกก็ทำอะไรฉันไม่ได้ ฮะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" มันพูดขึ้นพร้อมทั้งหัวเราะอย่างชั่วร้าย แล้วมันก็ใช้ดวงตาสีแดงฉานราวกับแสงไฟท่ามกลางรัตติกาลมองมาที่เทพมังกร "ว่าไงล่ะ? ทีนี้จะทำยังไงล่ะ ท่านเทพมังกร" มันกล่าวอย่างเยาะเย้ย หญิงสาวที่เป็นเทพมังกรได้แต่หลับตาอย่างสงสาร แล้วกล่าวว่า "ถ้าเป็นเช่นนั้นเห็นทีเราต้องจัดการท่านเสียเองแล้ว" กล่าวจบ รอบๆเธอก็มีแสงเจิดจ้าห่อหุ้มเธอเอาไว้ แล้วเธอก็กลายร่างเป็นมังกรสีขาวนวล ดวงตาสีมรกตของเธอมองมาที่มังกรทมิฬ
แทนที่มันจะเกรงกลัว แต่มังกรทมิฬกลับหัวเราะแล้วพูดว่า "ต่อให้เป็นเทพมังกรอย่างเธอก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก กันยา!!!" พอมันกล่าวจบ เทพมังกรก็พ่นเพลิงสีเขียวใส่มังกรทมิฬ ด้วยความร้อนของเปลวเพลิงร่างของมังกรทมิฬถึงกับสลายไปในพริบตา "ไม่จริงน่า!!!" มันพูดอย่างตกใจ แล้วร่างก็สลายไป
เทพมังกรกลับคืนร่างเป็นหญิงสาวตามเดิม "มันจบแล้วล่ะ" เธอกล่าว แล้วเธอก็หลับตาลงพลางสวดส่งมังกรทมิฬ
"หึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" เสียงหัวเราะอย่างชั่วร้ายดังขึ้น "ไม่จริงน่า" สเตลล่ากล่าวขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียง ใช่แล้ว เสียงนี้เป็นของมังกรทมิฬนั่นเอง
แม้แต่เทพมังกรเองก็ยังตกใจ เธอถึงกับรีบหันไปที่ต้นเสียงทันที "ไม่จริงน่า มังกรทมิฬ ทำไม..." เธอพูดไปอย่างไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอเป็นร่างของมังกรทมิฬสูงใหญ่เกือบเท่าตึกสิบชั้นที่เธอพึ่งปราบไปนั่นเอง มันจ้องอย่างเย้ยหยัน แล้วพูดว่า "ข้าบอกแล้ว ว่าตราบใดที่ยังมีความชั่วร้ายอยู่ในจิตใจมนุษย์ พวกแกก็กำจัดฉันไม่ได้หรอก ฮะๆๆๆๆ" "ไม่จริงน่า" สเตลล่ากล่าว สีหน้าของเธอดูตกใจอย่างมาก "ไม่มีทางเลยเหรอ?" เธอพูดต่อ ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงอีกแล้ว เพราะแม้แต่เทพมังกรยังทำอะไรไม่ได้ แล้วเธอที่เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาจะไม่ทำอะไรได้
"สเตลล่า" เทพมังกรเรียก "อย่าพึ่งท้อค่ะ ตอนนี้พวกเราต้องการคุณนะคะ" "ตะ...แต่ว่า " เธอยังลังเลที่จะตัดสินใจสู้ต่อ "สเตลล่า!!" สาวใช้พูดขึ้น เธอก็มองมาที่คนเรียก "เธอมาที่่นี่ทำไมกันคะ?" "คุณน้า..." "คุณลืมวัตถุประสงค์ที่มาที่นี่แล้วงั้นหรือคะ เราสองคนมาเพื่อกำจัดความชั่วร้ายพวกนี้นะคะ" แล้วเธอก็จับที่ไหล่ของสเตลล่า "ไม่ว่ายังไงฉันก็จะอยู่เคียงข้างคุณจนหยดสุดท้าย เพราะฉะนั้นอย่าพึ่งท้อค่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน รอยยิ้มนั้นทำให้สเตลล่ามีกำลังใจมาอีกครั้ง "ค่ะ ฉันจะไม่ท้อค่ะ" แล้วเธอก็จับดาบแน่น แล้วชี้ไปทางมังกรทมิฬ เธอพูดว่า "ต่อให้แกจะกลับมากี่ครั้ง ฉันก็จะขอจัดการแกเอง" "แน่นอนว่าฉันต้องร่วมด้วยค่ะ" "ดูท่าก็คงต้องเป็นแบบนี้เท่านั้นสินะ ฉันก็ขอร่วมด้วยค่ะ บัดนี้ทั้งสามสาวตัดสินใจที่จะยืนหยัดสู้กับมังกรทมิฬจนหยดสุดท้าย มังกรทมิฬได้แต่หัวเราะ แล้วพูดว่า "งั้นก็เข้ามาเจ้าพวกโง่! ฉันจะแสดงให้ดูถึงความน่ากลัวที่แท้จริงเอง!!" เทพมังกรกลายร่างเป็นมังกรสีขาว มิลล่ากลายถอดที่คาดผมของเธอออกเพื่อปลดปล่อยพลังที่แท้จริง ส่วนสเตลล่าเก็บโล่แล้วจับดาบสองมือวิ่งเข้าหามังกรทมิฬ "ย้ากกกกกกกก!!!"
ถึงแม้จะมีกำลังใจที่จะสู้ และด้วยกำลังของพวกเธอ หากมันไม่มาใหม่ พวกเธอก็คงจะสามารถจัดการปกป้องโลกได้แล้ว แต่นี่มันกลับฟื้นคืนมาทุกครั้งที่ถูกกำจัด แต่พวกเธอก็ยังยืนหยัดที่จะสู้ จนสามารถกำจัดมันไปได้ถึงสิบกว่าครั้ง แต่สเตลล่าที่เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาย่อมมีขีดจำกัด เธอจึงล้มลง "แฮ่กๆๆ" เธอหอบอย่างเหนื่อยล้า เธอพยายามยันมือลุกขึ้นแต่ก็ไร้เรี่ยวแรง แต่มิลล่ายื่นมือมาพร้อมทั้งยิ้มให้ "นี่ค่ะ" สเตลล่าจึงจับมือของมิลล่าไว้แน่น มิลล่าออกแรงฉุดเธอลุกขึ้น "ขอบคุณค่ะ" แล้วเธอก็ลุกยืนต่อ จับดาบแล้วก็เหวี่ยงมันอีกครั้ง
ในที่สุด ทั้งสามก็หมดแรงลง "มะ...ไม่ไหว มันไม่ยอมหมดซักที" สเตลล่าที่ใช้ดาบปักพื้นเพื่อค้ำกายไว้พูดขึ้นด้วยเสียงที่อ่อนล้า แต่ไม่มีเสียงตอบ เพราะต่างคนต่างก็เหนื่อยเกินกว่าที่จะขยับสู้ต่อได้ มิลล่านั่งนิ่งแต่จริงๆเธออ่อนแรงมาก ในขณะที่เทพมังกรก็ทรุดตัวลงนั่งเอามือยันพื้นไว้ ใบหน้าของเธอมีเหงื่อผุดขึ้น
มังกรทมิฬเห็นอย่างนั้น มันก็พูดว่า "ฮๆๆๆๆ เป็นไงล่ะ ผู้กล้า ปิศาจจิ้งจอก เทพมังกร อยู่ต่อหน้าข้าพวกแกก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ฮะๆๆๆๆ" มันหัวเราะอย่างชั่วร้ายเยาะเย้ยคนที่อยู่เบื้องหน้า ในสายตาของมัน ทั้งสามคนนี้ไม่ต่างอะไรจากแมลงตัวเล็กที่จะจัดการเมื่อไหร่ก็ได้ มันจึงเลิกที่จะเล่นกับเหยื่อมากกว่าที่จะฆ่าให้ตาย มันจึงเล่นปั่นหัวคนเล่นๆ "เป็นไงล่ะ หญิงสาวที่เกิดมาแล้วแม่ก็ตาย พ่อก็ทิ้ง เด็กกำพร้าอย่างเธอน่ะ ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก" "แก..." สเตลล่ากัดฟันกรอดด้วยความเจ็บแค้น แต่ตอนนี้เธอทำอะไรมันไม่ได้ มิลล่าที่รู้เรื่องราวดีก็นั่งนิ่งเงียบเอาไว้ "ท่านพี่..." เธอพูดเบาๆ เทพมังกรเห็นดังนั้นก็รีบเตือนว่า "ทั้งสองคนอย่าไปหลงกลมันนะคะ มันกำลังยั่วทุกคนให้โกรธค่ะ ถ้าเราโกรธก็เท่ากับติดกับค่ะ" "ชิ" สเตลล่าเดาะลิ้น พลางคิดในใจว่า "เกือบไปแล้วสิ ดีนะที่มีคนเตือน เราไม่เท่าไหร่ แต่น้า..." แล้วเธอก็มองไปที่มิลล่าซึ่งนั่งนิ่งอยู่ มิลล่ามองมาที่เธอยิ้มให้แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไร"
มังกรทมิฬมันเห็นว่าเล่นสเตลล่าไม่ได้ มันจึงเปลี่ยนเป้าหมาย "เธอเองก็เถอะ ปิศาจจิ้งจอก เรื่องทุกอย่างทั้งเรื่องพ่อแม่ของสเตลล่าที่ว่าเป็นใคร แล้วแม่ของเธอตายยังไง แต่เธอกลับปิดมันไว้ไม่ยอมบอกจนถึงความแตกเธอจึงยอมที่จะบอก" "..." "หึ...นั่นสินะ แต่เพราะเธอนั่นแหละ หมอนั่นถึงจากไปน่ะ มันเป็นความผิดเธอ เธอรู้ดี แต่เธอหลอกตัวเองมาตลอด เธอหลอกลวงคนอื่นมาตลอด เธอเลือกที่จะปิดบังความน่าละอายของเธอแทนที่ยอมรับความจริง"
"แกพูดอะไรน่ะ?" สเตลล่าถาม
"แกก็ลองถามยัยจิ้งจอกนั่นดูสิ"
"อะไรคะคุณน้า หมอนั่นที่ว่านี่หมายถึงใครคะ? คงไม่ใช่ว่า..."
"..." มิลล่าได้แต่ก้มหน้านิ่ง ไม่ปริปากสักคำ แต่นั่นเท่ากับว่าเธอยอมรับว่ามันเป็นความจริง
"ไม่ยอมบอกสินะ ก็ได้ งั้นฉันจะบอกเอง" มังกรทมิฬสร้างกลุ่มก้อนความมืดขึ้นมาเป็นจอขนาดใหญ่ แล้วมันก็ฉายเป็นภาพขึ้นมา
มิลล่า:"อาาาา"
ชายหนุ่ม: "อาาา"
มิลล่า: "อาาา ระ...แรงอีกค่ะ"
ชายหนุ่ม: "กะ...ก็ได้"
เฟรเดริค: "!!!"
มิลล่า: "อ๊าาาาา!!!"
เฟรเดริค: "มิลล่า...มะ...ไม่จริงน่า"
มิลล่า: "ฉะ...ฉัน...อา...รู้สึกดีจัง"
เฟรเดริค: "ไม่จริงใช่มั้ย? นี่มัน...ไม่จริงใช่...มั้ย?"
"!!!" สเตลล่าเห็นภาพนั้นถึงกับตกใจไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง แม้แต่เทพมังกรเองก็ดูตกใจไม่น้อย เธอจึงได้แต่หลับตาอย่างรู้สึกสงสาร
"นี่แหละเป็นความจริงที่ยัยนั่นปิดบังเอาไว้ล่ะ เป็นไงล่ะ พวกเธอจะยังยอมรับยัยนี่ได้อีกหรือเปล่า?" มันเริ่มที่จะยั่วยุให้ทั้งสามแตกกัน
กันยา: "..."
สเตลล่า: "..."
มิลล่า: "..."
สเตลล่าเธอหลับตาลง แล้วเธอก็ลืมตาแล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้งแล้วพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า "ไม่ว่านั่นจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ฉันไม่สนหรอก เพราะยังไงน้ามิลล่าก็ยังคงเป็นน้าของฉัน ความสัมพันธ์ของเรานั้นไม่สามารถขาดจากกันได้ด้วยของแบบนี้หรอก" สีหน้าของเธอจริงจังมาก
???: "พูดได้ดีมากสเตลล่า"
ทุกคน: "!!!"
หญิงสาวผมสีแดงราวกับเปลวเพลิงปรากฏกายออกมาท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด ทุกคนจ้องเธอเป็นตาเดียวกัน "ไอริส!!!" สเตลล่าเรียก เธอคนนั้นก็หันมายิ้มให้ "ขอโทษนะที่มาช้า คุณผู้กล้า" แล้วเธอก็เดินผ่านไป เธอหยุดอยู่ที่หน้ามิลล่า "มิลล่า เธอไม่ต้องทุกข์ใจไปหรอก เขาไม่โกรธเธอแน่" แล้วเธอก็เดินผ่านไปยืนต่อหน้ามังกรทมิฬ แล้วพูดว่า "ดูเหมือนว่าแกจะใช้พลังด้านไม่ดีของมนุษย์สินะ เลยทำให้แกอยู่ในสภาพที่กึ่งอมตะน่ะ" "แก...แกรู้ได้ไง แล้วแกเป็นใครกัน?" มันกล่าวอย่างตกใจที่มีคนรู้ถึงวิธีการของมันที่ทำให้มันสามารถเวียนกลับมาได้อีกแม้ว่าจะถูกกำจัดไปแล้ว แต่มันก็ยังยิ้มแล้วพูดว่า "ถึงรู้ไปแกก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เพราะหากมีจิตใจด้านชั่วอยู่ ข้าก็ยังสามารถอยู่ได้ ฮะๆๆๆๆ" "แต่เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าเป็นอมตะน่ะ?" "ฮึ แน่นอนสิ" มันตอบอย่างมั่นใจ "แต่เจ้าไม่สังเกตหรือว่ามีอะไรแปลกๆน่ะ" เธอพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย มังกรทมิฬก็ทำหน้าตกใจมาก มันพูดว่า "ไม่จริงน่า นี่มัน เขตแดนศักดิ์สิทธิ์นี่!!!"
ใช่แล้ว บัดนี้ที่ๆทั้งสี่คนกับทั้งมังกรทมิฬอยู่มันไม่ใช่พื้นโลก หากแต่เป็นอยู่ในพื้นที่วงกลมขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนฟ้าแทน
"นี่มัน..."เทพมังกรกล่าว "แดนศักดิ์สิทธิ์?" สเตลล่ากล่าวอย่างสงสัย ในขณะที่มิลล่าที่ยืนขึ้นมองด้วยความเงียบ
หญิงสาวผมแดงจึงพูดว่า "แล้วถ้าเจ้าถูกจัดการในที่นี้คงรู้ใช่มั้ยว่าจะเป็นยังไง?" เธอยิ้มแต่มังกรทมิฬกลับมีสีหน้าหวั่นๆ "กะ...แกๆๆๆ" มันรู้สึกโกรธมาก แต่มันก็ยังทะนงตัว และเลือกที่จะสู้ จึงพ่นไฟแห่งความตายมาใส่เธอ แต่ทว่าหญิงสาวผมแดงกลับใช้เปลวเพลิงสีขาวหักล้างไปจนหมด "เอาล่ะทุกคน คราวนี้มันไม่สามารถฟื้นตัวได้อีกแล้ว พยายามกันอีกนิดเถอะ" "ได้ค่ะ" เทพมังกรรับ "อื้อ" สเตลล่ารับคำ "มิลล่าคนนี้จะขอจัดการแกเองมังกรทมิฬ" มิลล่าปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่
"พวกแก อย่ามาดูถูกกันนะ มาเลย!!"มังกรทมิฬกล่าวขึ้นอย่างเจ็บแค้น "เอาสิ!!!" ไอริสพูดขึ้นบ้าง
ไอริส/มังกรทมิฬ: "โอ้ววววววววววววว!!!"
ในที่สุด ด้วยการรวมพลังของทั้งสี่คน มังกรทมิฬก็ถูกปราบลงในที่สุด
"พวกแก ต่อให้ฉันถูกกำจัดไป แต่จงจำไว้ ว่าตราบใดที่ยังมีความชั่วในจิตใจของมนุษย์ฉันก็ยังกลับมาได้อีก ถึงตอนนั้นฉันจะจัดการพวกแก"
"แกน่ะเงียบๆไปเถอะ ยอมรับได้แล้วว่าตัวเองแพ้น่ะ แล้วก็นะ กว่าจะถึงตอนนั้นพวกฉันก็คงไม่อยู่แล้วล่ะ!!" สเตลล่าพูด
"..." มิลล่าไม่ได้พูดอะไร
"มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว กรุณายอมรับด้วยเถอะ มังกรทมิฬ" เทพมังกรกล่าวอย่างสงสารจากใจ
"ฉันไม่ต้องการให้เธอมาสงสารหรอก" มังกรทมิฬตวาดใส่เธอ เทพมังกรจึงหลับตาลงอย่างปล่อยวาง
"งั้นเจ้าก็ถูกกำจัดไปได้แล้วล่ะ! ท่านเทพมังกร ข้าขอความร่วมมือด้วย" ไอริสกล่าวแล้วก็จับมือของเทพมังกร "ค่ะ สุริยะเทพไอริส" แล้วเทพมังกรก็ยิ้มให้ "ข้าจะใช้พลังแห่งดวงอาทิตย์กับพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพมังกรล่ะนะ"ไอริสกล่าว ทั้งสองจับมือกันทั้งสองข้าง ไอริสกับกันยาเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้กัน แล้วก็ท่องอะไรบางอย่าง
จากนั้นเปลวเพลิงสีขาวกับเขียวสองสายก็พุ่งเข้าล้อมมังกรทมิฬ เปลวไฟทั้งสองสายนั้นหมุนล้อมรอบมังกรทมิฬอย่างรวดเร็วราวกับพายุ
"แกไอริส เทพมังกร" มันยังพูดขึ้นมาอีก แต่ทั้งสองไม่สนใจ ยังคงใช้เปลวเพลิงเผาไหม้ร่างของมังกรทมิฬจนสูญสลายไป
"ในที่สุดก็จบแล้วสินะ" สเตลล่าพูด
"ไม่ ยังเหลืออีกอย่าง" ไอริสกล่าว
"...!!!" ทุกคนหันมามองที่ไอริสพร้อมกัน ซึ่งสเตลล่าดูเหมือนจะตกใจมากที่สุดจนออกอาการ "นี่เธอ..."
"ใช่ ข้าต้องไปแล้ว" ไอริสพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย
มิลล่าเดินเข้าไปหา เธอไม่พูดอะไรนอกจากกอดไอริสไว้แน่น
"???" สเตลล่างงกับการกระทำเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่ได้พูด แต่ดูเหมือนว่าเทพมังกรจะรู้อยู่เรื่องนี้อยู่แล้วจึงวางเฉยได้
"เฟรเดริค..." มิลล่ากล่าว "อย่าไปเลย...นะ" แล้วเธอก็กอดไอริสแน่นยิ่งกว่าเดิม
"เอ๋??" สเตลล่าอุทานอย่างตกใจ "ไอริสคือ...เฟรเดริค?"
ไอริสถอนหายใจดัง "เฮ้อ...ความแตกซะแล้วสิ" แล้วร่างของหญิงสาวผมแดงก็กลายเป็นชายหนุ่มใส่แว่นในชุดกาวน์สีขาวผมสีทองแทน
"เฟรเดริค!!!" สเตลล่าอุทานอย่างตกใจ "ไม่จริงน่า นี่นาย..." ยังไม่ทันจะพูดจบ เฟรเดริคก็ชิงพูดก่อนว่า "ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดแน่สเตลล่า" แล้วเขาก็ยิ้ม "แฮะๆๆๆ" เขาหัวเราะออกมา "ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก" สเตลล่าแว้ดใส่ แต่เขาก็ยังคงหัวเราะ
"ว่าแต่ฉันว่าฉันอุตส่าห์สลับตัวกับไอริสแล้ว ยังอุตส่าห์รู้อีกว่าเป็นฉันเนี่ย" "ไม่หรอก คุณน่ะแค่อยู่ใกล้ฉันก็รู้สึกได้แล้ว" มิลล่าคลายกอดออก เฟรเดริคหันมาก็พบว่าที่ตาของเธอมีน้ำตากำลังเอ่อล้นออกมา "น่าๆๆ อย่าร้องสิ" เขาพูดพยายามจะปลอบ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทำไม่สำเร็จ "อย่าไปเลยนะ" เธอขอร้อง "นี่ อย่าร้องสิ อย่างนั้นมันขี้โกงนา" เขาบอกแล้วทำหน้ามุ่ยๆ "งั้นคุณก็อย่าไปสิ" "เรื่องนั้น..." เฟรเดริคหน้าดูเศร้าลงอย่างเป็นได้ชัด
เฟรเดริคทำหน้าเหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ เขาจับที่ไหล่มิลล่า แล้วพูดว่า "เรื่องในตอนนั้นน่ะ ฉันเห็นหมดแหละ" มิลล่าถึงกับตกใจและรู้สึกผิดจนไม่อยากที่จะมองหน้าของเขา แล้วเขาก็พูดต่อ "แต่ว่านะ ถึงมันจะช้าไปแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากจะบอกเธออยู่" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้มิลล่า "ฉันชอบเธอ" สิ้นสุดคำเขาก็จูบมิลล่าอย่างรวดเร็ว
"!!!" มิลล่าที่ทั้งตกใจ และรู้สึกเขินตั้งแต่เฟรเดริคบอกว่าชอบแล้ว ยิ่งเขาจูบเธออีก เธอจึงได้แต่ยืนนิ่งให้เขาจูบไป
"อ๊ะ คุณน้าขี้โกง" สเตลล่าพูดขึ้นเบาแล้วมองไปทางอื่น แล้วเธอก็มองพื้นอย่างเศร้าๆ
แม้ว่าเฟรเดริคจะคลายจูบแล้ว แต่มิลล่าก็ยังคงยืนแน่นิ่งอยู่ด้วยเพราะยังคงช็อคจนตัวค้าง "ขอโทษนะมิลล่า"
พลั่ก แล้วมิลล่าก็ล้มลง
"เฮ้ย อะไรกัน เฟรเดริค นี่นาย!!!" สเตลล่าโวยใส่เฟรเดริคที่ใช้สันมือทุบเข้าที่ท้ายทอยของมิลล่าจนสลบไป เขาหลับตาลง ลืมตาอีกครั้งแล้วมองไปที่สเตลล่า "ขอโทษด้วยนะ แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ฉันคงไปไม่ได้น่ะสิ" "นายนี่มัน..." "เอาเถอะ จะว่ายังไงก็ช่างเถอะ กันยา สเตลล่า จากนี้ก็ขอให้ดูแลมิลล่าและทุกคนด้วยแล้วกัน" สเตลล่าเดินเข้ามาใกล้เขา แล้วพูดว่า "นี่นายตั้งใจให้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกงั้นเหรอ?" "ฮะๆๆๆ ก็คงอย่างนั้นแหละ" "...บนาย" "เอ๋ อะไร เธอพูดอะไรน่ะสเตลล่า ฉันไม่ได้ยินนะ" สเตลล่าที่จู่ก็หน้าแดงก็ตะโกนขึ้นสุดเสียงว่า "ก็บอกว่าฉันชอบนายไง ตาบ้า!!"
เฟรเดริคได้ยินแล้ว เขาก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า "รู้สึกเขินๆแฮะเวลามีคนมาบอกชอบน่ะ" "นาย!!!" สเตลล่าก็รู้สึกเขินกับคำพูดของเขาที่ทำให้นึกถึงตอนที่เธอบอกชอบ จึงได้แต่ยืนนิ่งแล้วหน้าแดง "แต่อย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะ" เขาพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้สเตลล่า เขาจับมือซ้ายของเธอขึ้นมา แล้วพูดว่า "ฉันคงฝากแหวนวงนี้ไว้กับเธอได้สินะ" แล้วเขาก็จุมพิตลงไปที่มือของเธอ ซึ่งทำเอาสเตลล่ายืนนิ่งไปชั่วขณะ
"งั้นฉันไปล่ะนะ สักวันเราคงได้พบกันอีก" เฟรเดริคพูดแล้วรอบๆตัวเขาก็มีแสงแวดล้อมไว้ "พ่อหนุ่ม" กันยาเรียกไว้ "ฉันลืมบอกไปว่านายดูเหมือนเขาคนนั้น... นายเป็นคนดี" เฟรเดริคได้ยินก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วบอกว่า "งั้นเหรอ นั่นสินะ ขอบคุณนะ" แล้วเฟรเดริคก็หายไปกับแสงสีขาวนั้น
..............................................................................................................................................................
หลังจากปราบมังกรทมิฬได้ โลกก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง
แต่น่าเสียดายที่แทบไม่มีใครรู้เลยว่าคนเหล่านี้ได้ต่อสู้เพื่อปกป้องโลกเอาไว้
ในเมื่อไม่มีสงคราม ที่พักทหารก็ถูกปิด ทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน เหลือเพียงสเตลล่าที่ยังคงอยู่ที่นั่น "งั้นฉันอยู่ห้องของหมอนั่นละกัน" แล้วเธอก็ย้ายมาที่ที่เฟรเดริคเคยอยู่ ส่วนที่เก็บหุ่นยนต์เธอก็ทำเป็นโรงฝึกแทน
มิลล่าตัดสินใจแต่งงานกับชายหนุ่มคนนั้น แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในปราสาทกลางป่า
กันยาเองก็เดินทางกลับไปที่ถ้ำของตนเพื่อที่จะหลับไหลอีกครั้ง แต่เธอสัญญากับสเตลล่าว่า นานๆทีจะมาหาบ้าง ซึ่งก็ไม่รู้ว่านานของมังกรอย่างเธอนี่นานเท่าไหร่เหมือนกัน
ส่วนเฟรเดริค กลับไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย..................................
"โลกที่สงบสุขนี่ดีจัง" สเตลล่าเดินอยู่ข้างถนนที่ไปซื้อของคิด จากนั้นเธอมองดูรอบๆก็เห็นมีแต่คนเดินกันอย่างปกติ เธอเห็นแล้วก็ยิ้ม แล้วก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีดวงอาทิตย์ส่องสว่างอยู่ แล้วเธอก็เดินต่อไปตามที่ใจต้องการ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ยอมแพ้ซะเถอะ จอมมารมังกรทมิฬ ยอมรับซะว่านายถูกกำจัดแล้ว" เสียงของหญิงสาวในที่ดูรุ่มร่ามกล่าวขึ้น แล้วมองไปที่จอมปิศาจอย่างสงสาร
จอมปิศาจเห็นดังนั้น มันกลับหัวเราะออกมา "ฮะๆๆๆๆๆ นี่แม้แต่เทพมังกรอย่างเธอยังมาสงสารฉันเรอะ" มันยิ้มแสยะอย่างน่ารังเกียจ เทพมังกรได้แต่หลับตาลงด้วยไม่อาจทนดูได้ ทั้งๆที่ไม่อาจจะทำอะไรได้อีกแล้ว แต่มันยังพยายามที่จะตะเกียกตะกายเข้าหาพวกเธอ "ฉันจะฆ่าแก!!!" มันตะโกนออกมาพร้อมทั้งพุ่งตัวเข้าใส่
เคล้ง เสียงของโลหะกระทบกับอะไรบางอย่าง "หยุดเถอะ มังกรทมิฬ เลิกดิ้นรนได้แล้ว" เสียงของผู้หญิงในชุดเกราะสีทองพูดขึ้น มือของเธอจับโล่สีทองบังไว้มั่น "แก สเตลล่า" มังกรทมิฬพูดอย่างอาฆาต ใบหน้าของมันเปลี่ยนเป็นสีดำ "มันจะกลายร่างอีกแล้ว" หญิงสาวในชุดสาวใช้พูดขึ้น
ปิศาจมังกรทมิฬกำลังจะกลายร่างอีกครั้ง มันพูดว่า "พวกแกต้องตาย" แล้วร่างของมันก็ห่อหุ้มไปด้วยหมอกสีดำ
หมอกสีดำที่ห่อหุ้มร่างกายของมัน บัดนี้ได้ก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นมา กลายเป็นมังกรทมิฬตัวใหญ่พอๆกับตึกสิบชั้น "ข้าคือมังกรทมิฬ ข้าคือชั่วร้ายของมนุษย์ทั้งหมด ตราบใดที่ยังมีความชั่วร้ายอยู่ในจิตใจมนุษย์ แกก็ทำอะไรฉันไม่ได้ ฮะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" มันพูดขึ้นพร้อมทั้งหัวเราะอย่างชั่วร้าย แล้วมันก็ใช้ดวงตาสีแดงฉานราวกับแสงไฟท่ามกลางรัตติกาลมองมาที่เทพมังกร "ว่าไงล่ะ? ทีนี้จะทำยังไงล่ะ ท่านเทพมังกร" มันกล่าวอย่างเยาะเย้ย หญิงสาวที่เป็นเทพมังกรได้แต่หลับตาอย่างสงสาร แล้วกล่าวว่า "ถ้าเป็นเช่นนั้นเห็นทีเราต้องจัดการท่านเสียเองแล้ว" กล่าวจบ รอบๆเธอก็มีแสงเจิดจ้าห่อหุ้มเธอเอาไว้ แล้วเธอก็กลายร่างเป็นมังกรสีขาวนวล ดวงตาสีมรกตของเธอมองมาที่มังกรทมิฬ
แทนที่มันจะเกรงกลัว แต่มังกรทมิฬกลับหัวเราะแล้วพูดว่า "ต่อให้เป็นเทพมังกรอย่างเธอก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก กันยา!!!" พอมันกล่าวจบ เทพมังกรก็พ่นเพลิงสีเขียวใส่มังกรทมิฬ ด้วยความร้อนของเปลวเพลิงร่างของมังกรทมิฬถึงกับสลายไปในพริบตา "ไม่จริงน่า!!!" มันพูดอย่างตกใจ แล้วร่างก็สลายไป
เทพมังกรกลับคืนร่างเป็นหญิงสาวตามเดิม "มันจบแล้วล่ะ" เธอกล่าว แล้วเธอก็หลับตาลงพลางสวดส่งมังกรทมิฬ
"หึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" เสียงหัวเราะอย่างชั่วร้ายดังขึ้น "ไม่จริงน่า" สเตลล่ากล่าวขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียง ใช่แล้ว เสียงนี้เป็นของมังกรทมิฬนั่นเอง
แม้แต่เทพมังกรเองก็ยังตกใจ เธอถึงกับรีบหันไปที่ต้นเสียงทันที "ไม่จริงน่า มังกรทมิฬ ทำไม..." เธอพูดไปอย่างไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอเป็นร่างของมังกรทมิฬสูงใหญ่เกือบเท่าตึกสิบชั้นที่เธอพึ่งปราบไปนั่นเอง มันจ้องอย่างเย้ยหยัน แล้วพูดว่า "ข้าบอกแล้ว ว่าตราบใดที่ยังมีความชั่วร้ายอยู่ในจิตใจมนุษย์ พวกแกก็กำจัดฉันไม่ได้หรอก ฮะๆๆๆๆ" "ไม่จริงน่า" สเตลล่ากล่าว สีหน้าของเธอดูตกใจอย่างมาก "ไม่มีทางเลยเหรอ?" เธอพูดต่อ ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงอีกแล้ว เพราะแม้แต่เทพมังกรยังทำอะไรไม่ได้ แล้วเธอที่เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาจะไม่ทำอะไรได้
"สเตลล่า" เทพมังกรเรียก "อย่าพึ่งท้อค่ะ ตอนนี้พวกเราต้องการคุณนะคะ" "ตะ...แต่ว่า " เธอยังลังเลที่จะตัดสินใจสู้ต่อ "สเตลล่า!!" สาวใช้พูดขึ้น เธอก็มองมาที่คนเรียก "เธอมาที่่นี่ทำไมกันคะ?" "คุณน้า..." "คุณลืมวัตถุประสงค์ที่มาที่นี่แล้วงั้นหรือคะ เราสองคนมาเพื่อกำจัดความชั่วร้ายพวกนี้นะคะ" แล้วเธอก็จับที่ไหล่ของสเตลล่า "ไม่ว่ายังไงฉันก็จะอยู่เคียงข้างคุณจนหยดสุดท้าย เพราะฉะนั้นอย่าพึ่งท้อค่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน รอยยิ้มนั้นทำให้สเตลล่ามีกำลังใจมาอีกครั้ง "ค่ะ ฉันจะไม่ท้อค่ะ" แล้วเธอก็จับดาบแน่น แล้วชี้ไปทางมังกรทมิฬ เธอพูดว่า "ต่อให้แกจะกลับมากี่ครั้ง ฉันก็จะขอจัดการแกเอง" "แน่นอนว่าฉันต้องร่วมด้วยค่ะ" "ดูท่าก็คงต้องเป็นแบบนี้เท่านั้นสินะ ฉันก็ขอร่วมด้วยค่ะ บัดนี้ทั้งสามสาวตัดสินใจที่จะยืนหยัดสู้กับมังกรทมิฬจนหยดสุดท้าย มังกรทมิฬได้แต่หัวเราะ แล้วพูดว่า "งั้นก็เข้ามาเจ้าพวกโง่! ฉันจะแสดงให้ดูถึงความน่ากลัวที่แท้จริงเอง!!" เทพมังกรกลายร่างเป็นมังกรสีขาว มิลล่ากลายถอดที่คาดผมของเธอออกเพื่อปลดปล่อยพลังที่แท้จริง ส่วนสเตลล่าเก็บโล่แล้วจับดาบสองมือวิ่งเข้าหามังกรทมิฬ "ย้ากกกกกกกก!!!"
ถึงแม้จะมีกำลังใจที่จะสู้ และด้วยกำลังของพวกเธอ หากมันไม่มาใหม่ พวกเธอก็คงจะสามารถจัดการปกป้องโลกได้แล้ว แต่นี่มันกลับฟื้นคืนมาทุกครั้งที่ถูกกำจัด แต่พวกเธอก็ยังยืนหยัดที่จะสู้ จนสามารถกำจัดมันไปได้ถึงสิบกว่าครั้ง แต่สเตลล่าที่เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาย่อมมีขีดจำกัด เธอจึงล้มลง "แฮ่กๆๆ" เธอหอบอย่างเหนื่อยล้า เธอพยายามยันมือลุกขึ้นแต่ก็ไร้เรี่ยวแรง แต่มิลล่ายื่นมือมาพร้อมทั้งยิ้มให้ "นี่ค่ะ" สเตลล่าจึงจับมือของมิลล่าไว้แน่น มิลล่าออกแรงฉุดเธอลุกขึ้น "ขอบคุณค่ะ" แล้วเธอก็ลุกยืนต่อ จับดาบแล้วก็เหวี่ยงมันอีกครั้ง
ในที่สุด ทั้งสามก็หมดแรงลง "มะ...ไม่ไหว มันไม่ยอมหมดซักที" สเตลล่าที่ใช้ดาบปักพื้นเพื่อค้ำกายไว้พูดขึ้นด้วยเสียงที่อ่อนล้า แต่ไม่มีเสียงตอบ เพราะต่างคนต่างก็เหนื่อยเกินกว่าที่จะขยับสู้ต่อได้ มิลล่านั่งนิ่งแต่จริงๆเธออ่อนแรงมาก ในขณะที่เทพมังกรก็ทรุดตัวลงนั่งเอามือยันพื้นไว้ ใบหน้าของเธอมีเหงื่อผุดขึ้น
มังกรทมิฬเห็นอย่างนั้น มันก็พูดว่า "ฮๆๆๆๆ เป็นไงล่ะ ผู้กล้า ปิศาจจิ้งจอก เทพมังกร อยู่ต่อหน้าข้าพวกแกก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ฮะๆๆๆๆ" มันหัวเราะอย่างชั่วร้ายเยาะเย้ยคนที่อยู่เบื้องหน้า ในสายตาของมัน ทั้งสามคนนี้ไม่ต่างอะไรจากแมลงตัวเล็กที่จะจัดการเมื่อไหร่ก็ได้ มันจึงเลิกที่จะเล่นกับเหยื่อมากกว่าที่จะฆ่าให้ตาย มันจึงเล่นปั่นหัวคนเล่นๆ "เป็นไงล่ะ หญิงสาวที่เกิดมาแล้วแม่ก็ตาย พ่อก็ทิ้ง เด็กกำพร้าอย่างเธอน่ะ ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก" "แก..." สเตลล่ากัดฟันกรอดด้วยความเจ็บแค้น แต่ตอนนี้เธอทำอะไรมันไม่ได้ มิลล่าที่รู้เรื่องราวดีก็นั่งนิ่งเงียบเอาไว้ "ท่านพี่..." เธอพูดเบาๆ เทพมังกรเห็นดังนั้นก็รีบเตือนว่า "ทั้งสองคนอย่าไปหลงกลมันนะคะ มันกำลังยั่วทุกคนให้โกรธค่ะ ถ้าเราโกรธก็เท่ากับติดกับค่ะ" "ชิ" สเตลล่าเดาะลิ้น พลางคิดในใจว่า "เกือบไปแล้วสิ ดีนะที่มีคนเตือน เราไม่เท่าไหร่ แต่น้า..." แล้วเธอก็มองไปที่มิลล่าซึ่งนั่งนิ่งอยู่ มิลล่ามองมาที่เธอยิ้มให้แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไร"
มังกรทมิฬมันเห็นว่าเล่นสเตลล่าไม่ได้ มันจึงเปลี่ยนเป้าหมาย "เธอเองก็เถอะ ปิศาจจิ้งจอก เรื่องทุกอย่างทั้งเรื่องพ่อแม่ของสเตลล่าที่ว่าเป็นใคร แล้วแม่ของเธอตายยังไง แต่เธอกลับปิดมันไว้ไม่ยอมบอกจนถึงความแตกเธอจึงยอมที่จะบอก" "..." "หึ...นั่นสินะ แต่เพราะเธอนั่นแหละ หมอนั่นถึงจากไปน่ะ มันเป็นความผิดเธอ เธอรู้ดี แต่เธอหลอกตัวเองมาตลอด เธอหลอกลวงคนอื่นมาตลอด เธอเลือกที่จะปิดบังความน่าละอายของเธอแทนที่ยอมรับความจริง"
"แกพูดอะไรน่ะ?" สเตลล่าถาม
"แกก็ลองถามยัยจิ้งจอกนั่นดูสิ"
"อะไรคะคุณน้า หมอนั่นที่ว่านี่หมายถึงใครคะ? คงไม่ใช่ว่า..."
"..." มิลล่าได้แต่ก้มหน้านิ่ง ไม่ปริปากสักคำ แต่นั่นเท่ากับว่าเธอยอมรับว่ามันเป็นความจริง
"ไม่ยอมบอกสินะ ก็ได้ งั้นฉันจะบอกเอง" มังกรทมิฬสร้างกลุ่มก้อนความมืดขึ้นมาเป็นจอขนาดใหญ่ แล้วมันก็ฉายเป็นภาพขึ้นมา
มิลล่า:"อาาาา"
ชายหนุ่ม: "อาาา"
มิลล่า: "อาาา ระ...แรงอีกค่ะ"
ชายหนุ่ม: "กะ...ก็ได้"
เฟรเดริค: "!!!"
มิลล่า: "อ๊าาาาา!!!"
เฟรเดริค: "มิลล่า...มะ...ไม่จริงน่า"
มิลล่า: "ฉะ...ฉัน...อา...รู้สึกดีจัง"
เฟรเดริค: "ไม่จริงใช่มั้ย? นี่มัน...ไม่จริงใช่...มั้ย?"
"!!!" สเตลล่าเห็นภาพนั้นถึงกับตกใจไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง แม้แต่เทพมังกรเองก็ดูตกใจไม่น้อย เธอจึงได้แต่หลับตาอย่างรู้สึกสงสาร
"นี่แหละเป็นความจริงที่ยัยนั่นปิดบังเอาไว้ล่ะ เป็นไงล่ะ พวกเธอจะยังยอมรับยัยนี่ได้อีกหรือเปล่า?" มันเริ่มที่จะยั่วยุให้ทั้งสามแตกกัน
กันยา: "..."
สเตลล่า: "..."
มิลล่า: "..."
สเตลล่าเธอหลับตาลง แล้วเธอก็ลืมตาแล้วลุกขึ้นยืนอีกครั้งแล้วพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า "ไม่ว่านั่นจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ฉันไม่สนหรอก เพราะยังไงน้ามิลล่าก็ยังคงเป็นน้าของฉัน ความสัมพันธ์ของเรานั้นไม่สามารถขาดจากกันได้ด้วยของแบบนี้หรอก" สีหน้าของเธอจริงจังมาก
???: "พูดได้ดีมากสเตลล่า"
ทุกคน: "!!!"
หญิงสาวผมสีแดงราวกับเปลวเพลิงปรากฏกายออกมาท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด ทุกคนจ้องเธอเป็นตาเดียวกัน "ไอริส!!!" สเตลล่าเรียก เธอคนนั้นก็หันมายิ้มให้ "ขอโทษนะที่มาช้า คุณผู้กล้า" แล้วเธอก็เดินผ่านไป เธอหยุดอยู่ที่หน้ามิลล่า "มิลล่า เธอไม่ต้องทุกข์ใจไปหรอก เขาไม่โกรธเธอแน่" แล้วเธอก็เดินผ่านไปยืนต่อหน้ามังกรทมิฬ แล้วพูดว่า "ดูเหมือนว่าแกจะใช้พลังด้านไม่ดีของมนุษย์สินะ เลยทำให้แกอยู่ในสภาพที่กึ่งอมตะน่ะ" "แก...แกรู้ได้ไง แล้วแกเป็นใครกัน?" มันกล่าวอย่างตกใจที่มีคนรู้ถึงวิธีการของมันที่ทำให้มันสามารถเวียนกลับมาได้อีกแม้ว่าจะถูกกำจัดไปแล้ว แต่มันก็ยังยิ้มแล้วพูดว่า "ถึงรู้ไปแกก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เพราะหากมีจิตใจด้านชั่วอยู่ ข้าก็ยังสามารถอยู่ได้ ฮะๆๆๆๆ" "แต่เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าเป็นอมตะน่ะ?" "ฮึ แน่นอนสิ" มันตอบอย่างมั่นใจ "แต่เจ้าไม่สังเกตหรือว่ามีอะไรแปลกๆน่ะ" เธอพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย มังกรทมิฬก็ทำหน้าตกใจมาก มันพูดว่า "ไม่จริงน่า นี่มัน เขตแดนศักดิ์สิทธิ์นี่!!!"
ใช่แล้ว บัดนี้ที่ๆทั้งสี่คนกับทั้งมังกรทมิฬอยู่มันไม่ใช่พื้นโลก หากแต่เป็นอยู่ในพื้นที่วงกลมขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนฟ้าแทน
"นี่มัน..."เทพมังกรกล่าว "แดนศักดิ์สิทธิ์?" สเตลล่ากล่าวอย่างสงสัย ในขณะที่มิลล่าที่ยืนขึ้นมองด้วยความเงียบ
หญิงสาวผมแดงจึงพูดว่า "แล้วถ้าเจ้าถูกจัดการในที่นี้คงรู้ใช่มั้ยว่าจะเป็นยังไง?" เธอยิ้มแต่มังกรทมิฬกลับมีสีหน้าหวั่นๆ "กะ...แกๆๆๆ" มันรู้สึกโกรธมาก แต่มันก็ยังทะนงตัว และเลือกที่จะสู้ จึงพ่นไฟแห่งความตายมาใส่เธอ แต่ทว่าหญิงสาวผมแดงกลับใช้เปลวเพลิงสีขาวหักล้างไปจนหมด "เอาล่ะทุกคน คราวนี้มันไม่สามารถฟื้นตัวได้อีกแล้ว พยายามกันอีกนิดเถอะ" "ได้ค่ะ" เทพมังกรรับ "อื้อ" สเตลล่ารับคำ "มิลล่าคนนี้จะขอจัดการแกเองมังกรทมิฬ" มิลล่าปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่
"พวกแก อย่ามาดูถูกกันนะ มาเลย!!"มังกรทมิฬกล่าวขึ้นอย่างเจ็บแค้น "เอาสิ!!!" ไอริสพูดขึ้นบ้าง
ไอริส/มังกรทมิฬ: "โอ้ววววววววววววว!!!"
ในที่สุด ด้วยการรวมพลังของทั้งสี่คน มังกรทมิฬก็ถูกปราบลงในที่สุด
"พวกแก ต่อให้ฉันถูกกำจัดไป แต่จงจำไว้ ว่าตราบใดที่ยังมีความชั่วในจิตใจของมนุษย์ฉันก็ยังกลับมาได้อีก ถึงตอนนั้นฉันจะจัดการพวกแก"
"แกน่ะเงียบๆไปเถอะ ยอมรับได้แล้วว่าตัวเองแพ้น่ะ แล้วก็นะ กว่าจะถึงตอนนั้นพวกฉันก็คงไม่อยู่แล้วล่ะ!!" สเตลล่าพูด
"..." มิลล่าไม่ได้พูดอะไร
"มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว กรุณายอมรับด้วยเถอะ มังกรทมิฬ" เทพมังกรกล่าวอย่างสงสารจากใจ
"ฉันไม่ต้องการให้เธอมาสงสารหรอก" มังกรทมิฬตวาดใส่เธอ เทพมังกรจึงหลับตาลงอย่างปล่อยวาง
"งั้นเจ้าก็ถูกกำจัดไปได้แล้วล่ะ! ท่านเทพมังกร ข้าขอความร่วมมือด้วย" ไอริสกล่าวแล้วก็จับมือของเทพมังกร "ค่ะ สุริยะเทพไอริส" แล้วเทพมังกรก็ยิ้มให้ "ข้าจะใช้พลังแห่งดวงอาทิตย์กับพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพมังกรล่ะนะ"ไอริสกล่าว ทั้งสองจับมือกันทั้งสองข้าง ไอริสกับกันยาเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้กัน แล้วก็ท่องอะไรบางอย่าง
จากนั้นเปลวเพลิงสีขาวกับเขียวสองสายก็พุ่งเข้าล้อมมังกรทมิฬ เปลวไฟทั้งสองสายนั้นหมุนล้อมรอบมังกรทมิฬอย่างรวดเร็วราวกับพายุ
"แกไอริส เทพมังกร" มันยังพูดขึ้นมาอีก แต่ทั้งสองไม่สนใจ ยังคงใช้เปลวเพลิงเผาไหม้ร่างของมังกรทมิฬจนสูญสลายไป
"ในที่สุดก็จบแล้วสินะ" สเตลล่าพูด
"ไม่ ยังเหลืออีกอย่าง" ไอริสกล่าว
"...!!!" ทุกคนหันมามองที่ไอริสพร้อมกัน ซึ่งสเตลล่าดูเหมือนจะตกใจมากที่สุดจนออกอาการ "นี่เธอ..."
"ใช่ ข้าต้องไปแล้ว" ไอริสพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย
มิลล่าเดินเข้าไปหา เธอไม่พูดอะไรนอกจากกอดไอริสไว้แน่น
"???" สเตลล่างงกับการกระทำเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่ได้พูด แต่ดูเหมือนว่าเทพมังกรจะรู้อยู่เรื่องนี้อยู่แล้วจึงวางเฉยได้
"เฟรเดริค..." มิลล่ากล่าว "อย่าไปเลย...นะ" แล้วเธอก็กอดไอริสแน่นยิ่งกว่าเดิม
"เอ๋??" สเตลล่าอุทานอย่างตกใจ "ไอริสคือ...เฟรเดริค?"
ไอริสถอนหายใจดัง "เฮ้อ...ความแตกซะแล้วสิ" แล้วร่างของหญิงสาวผมแดงก็กลายเป็นชายหนุ่มใส่แว่นในชุดกาวน์สีขาวผมสีทองแทน
"เฟรเดริค!!!" สเตลล่าอุทานอย่างตกใจ "ไม่จริงน่า นี่นาย..." ยังไม่ทันจะพูดจบ เฟรเดริคก็ชิงพูดก่อนว่า "ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดแน่สเตลล่า" แล้วเขาก็ยิ้ม "แฮะๆๆๆ" เขาหัวเราะออกมา "ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก" สเตลล่าแว้ดใส่ แต่เขาก็ยังคงหัวเราะ
"ว่าแต่ฉันว่าฉันอุตส่าห์สลับตัวกับไอริสแล้ว ยังอุตส่าห์รู้อีกว่าเป็นฉันเนี่ย" "ไม่หรอก คุณน่ะแค่อยู่ใกล้ฉันก็รู้สึกได้แล้ว" มิลล่าคลายกอดออก เฟรเดริคหันมาก็พบว่าที่ตาของเธอมีน้ำตากำลังเอ่อล้นออกมา "น่าๆๆ อย่าร้องสิ" เขาพูดพยายามจะปลอบ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทำไม่สำเร็จ "อย่าไปเลยนะ" เธอขอร้อง "นี่ อย่าร้องสิ อย่างนั้นมันขี้โกงนา" เขาบอกแล้วทำหน้ามุ่ยๆ "งั้นคุณก็อย่าไปสิ" "เรื่องนั้น..." เฟรเดริคหน้าดูเศร้าลงอย่างเป็นได้ชัด
เฟรเดริคทำหน้าเหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ เขาจับที่ไหล่มิลล่า แล้วพูดว่า "เรื่องในตอนนั้นน่ะ ฉันเห็นหมดแหละ" มิลล่าถึงกับตกใจและรู้สึกผิดจนไม่อยากที่จะมองหน้าของเขา แล้วเขาก็พูดต่อ "แต่ว่านะ ถึงมันจะช้าไปแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากจะบอกเธออยู่" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้มิลล่า "ฉันชอบเธอ" สิ้นสุดคำเขาก็จูบมิลล่าอย่างรวดเร็ว
"!!!" มิลล่าที่ทั้งตกใจ และรู้สึกเขินตั้งแต่เฟรเดริคบอกว่าชอบแล้ว ยิ่งเขาจูบเธออีก เธอจึงได้แต่ยืนนิ่งให้เขาจูบไป
"อ๊ะ คุณน้าขี้โกง" สเตลล่าพูดขึ้นเบาแล้วมองไปทางอื่น แล้วเธอก็มองพื้นอย่างเศร้าๆ
แม้ว่าเฟรเดริคจะคลายจูบแล้ว แต่มิลล่าก็ยังคงยืนแน่นิ่งอยู่ด้วยเพราะยังคงช็อคจนตัวค้าง "ขอโทษนะมิลล่า"
พลั่ก แล้วมิลล่าก็ล้มลง
"เฮ้ย อะไรกัน เฟรเดริค นี่นาย!!!" สเตลล่าโวยใส่เฟรเดริคที่ใช้สันมือทุบเข้าที่ท้ายทอยของมิลล่าจนสลบไป เขาหลับตาลง ลืมตาอีกครั้งแล้วมองไปที่สเตลล่า "ขอโทษด้วยนะ แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ฉันคงไปไม่ได้น่ะสิ" "นายนี่มัน..." "เอาเถอะ จะว่ายังไงก็ช่างเถอะ กันยา สเตลล่า จากนี้ก็ขอให้ดูแลมิลล่าและทุกคนด้วยแล้วกัน" สเตลล่าเดินเข้ามาใกล้เขา แล้วพูดว่า "นี่นายตั้งใจให้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกงั้นเหรอ?" "ฮะๆๆๆ ก็คงอย่างนั้นแหละ" "...บนาย" "เอ๋ อะไร เธอพูดอะไรน่ะสเตลล่า ฉันไม่ได้ยินนะ" สเตลล่าที่จู่ก็หน้าแดงก็ตะโกนขึ้นสุดเสียงว่า "ก็บอกว่าฉันชอบนายไง ตาบ้า!!"
เฟรเดริคได้ยินแล้ว เขาก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า "รู้สึกเขินๆแฮะเวลามีคนมาบอกชอบน่ะ" "นาย!!!" สเตลล่าก็รู้สึกเขินกับคำพูดของเขาที่ทำให้นึกถึงตอนที่เธอบอกชอบ จึงได้แต่ยืนนิ่งแล้วหน้าแดง "แต่อย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะ" เขาพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้สเตลล่า เขาจับมือซ้ายของเธอขึ้นมา แล้วพูดว่า "ฉันคงฝากแหวนวงนี้ไว้กับเธอได้สินะ" แล้วเขาก็จุมพิตลงไปที่มือของเธอ ซึ่งทำเอาสเตลล่ายืนนิ่งไปชั่วขณะ
"งั้นฉันไปล่ะนะ สักวันเราคงได้พบกันอีก" เฟรเดริคพูดแล้วรอบๆตัวเขาก็มีแสงแวดล้อมไว้ "พ่อหนุ่ม" กันยาเรียกไว้ "ฉันลืมบอกไปว่านายดูเหมือนเขาคนนั้น... นายเป็นคนดี" เฟรเดริคได้ยินก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วบอกว่า "งั้นเหรอ นั่นสินะ ขอบคุณนะ" แล้วเฟรเดริคก็หายไปกับแสงสีขาวนั้น
..............................................................................................................................................................
หลังจากปราบมังกรทมิฬได้ โลกก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง
แต่น่าเสียดายที่แทบไม่มีใครรู้เลยว่าคนเหล่านี้ได้ต่อสู้เพื่อปกป้องโลกเอาไว้
ในเมื่อไม่มีสงคราม ที่พักทหารก็ถูกปิด ทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน เหลือเพียงสเตลล่าที่ยังคงอยู่ที่นั่น "งั้นฉันอยู่ห้องของหมอนั่นละกัน" แล้วเธอก็ย้ายมาที่ที่เฟรเดริคเคยอยู่ ส่วนที่เก็บหุ่นยนต์เธอก็ทำเป็นโรงฝึกแทน
มิลล่าตัดสินใจแต่งงานกับชายหนุ่มคนนั้น แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในปราสาทกลางป่า
กันยาเองก็เดินทางกลับไปที่ถ้ำของตนเพื่อที่จะหลับไหลอีกครั้ง แต่เธอสัญญากับสเตลล่าว่า นานๆทีจะมาหาบ้าง ซึ่งก็ไม่รู้ว่านานของมังกรอย่างเธอนี่นานเท่าไหร่เหมือนกัน
ส่วนเฟรเดริค กลับไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย..................................
"โลกที่สงบสุขนี่ดีจัง" สเตลล่าเดินอยู่ข้างถนนที่ไปซื้อของคิด จากนั้นเธอมองดูรอบๆก็เห็นมีแต่คนเดินกันอย่างปกติ เธอเห็นแล้วก็ยิ้ม แล้วก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีดวงอาทิตย์ส่องสว่างอยู่ แล้วเธอก็เดินต่อไปตามที่ใจต้องการ
จบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ffviicc เมื่อ 2013-1-23 23:43
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ffviicc เมื่อ 2013-1-23 23:47
Final fight in the past (Hero)
[IMG]