"ฮะๆๆ นี่แน่ะ" เสียงของหญิงสาวในชุดว่ายน้ำสองชิ้น(ทูพีช)สีเขียวอ่อนกล่าวขึ้นแล้วใช้มือวักน้ำไปที่สาวที่ใส่ชุดทูพีชสีแดงจนเปียก
"อ๊าาาา อามาร่า อย่านะ" เธอคนนั้นร้องห้ามพร้อมเอามือยกขึ้นเพื่อกัน แต่แน่นอน แค่นั้นไม่สามารถกันได้ ทำให้ตัวเธอเปียกปอนไปหมด แล้วอามาร่าก็บอกว่า "มาทะเลทั้งทีก็ต้องเล่นน้ำสิ มา มาเล่นกันให้สะใจกันไปเลย" แล้วเธอก็เอามือวักน้ำ:Xใส่เฮลิเบลต่อ แต่คราวนี้เธอวักเร็วขึ้น
เฮลิเบลได้แต่วิ่งหนีน้ำ แต่แน่นอน ด้วยแรงต้านของน้ำทำให้เธอวิ่งช้า และไม่สามารถพ้นเงื้อมมือของอามาร่าไปได้ ในที่สุดเธอก็จำเป็นต้องยอม
"ดูเหมือนทางนั้นจะมีปัญหาสินะ" นันน่าร์พูดขึ้น แน่นอนเธอเห็นทั้งสองคนนั้นอย่างชัดเจน
อาจจะสงสัยว่า ทั้งชายหาดนี่มีอยู่กี่คน คำตอบคือ มีแค่คนที่มานั่นแหละ
เหตุผลน่ะเหรอ ง่ายๆ ที่นี่เป็นทะเลส่วนตัวนั่นเอง
แต่ว่าเป็นของใคร?
เป็นของพวกที่มานั่นแหละ อย่าไปสงสัยเลย เข้าเรื่องต่อดีกว่า
ลิซ่าที่กำลังนั่งอยู่กับที่ ตอนนี้เธอรู้สึกพ่ายแพ้อย่างมาก แน่นอน ทั้งๆที่เธออายุมากกว่า แต่หน้าอกของเธอกลับสู้เด็กอายะ15ไม่ได้
แต่สิ่งที่เธอช็อคกว่านั้นคือ หัวหน้าที่เธอนับถือนั้นอายุน้อยกว่าเธอ
นั่นหมายความว่า เฮลิออสจะต้องเข้าเรียนก่อนเกณฑ์แน่นอน แล้วต้องเรียนข้ามชั้นด้วย แต่ถึงตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกชื่นชมเฮลิออสว่าเป็นคนมีความสามารถ เพราะอยู่ต่อหน้าเธอเวลาทำงาน เขาทำตัวเหมือนกับคนอายุบรรลุนิติภาวะแล้ว นั่นทำให้เธอเรียกเขาว่าหัวหน้ามาตลอด
เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่เธอจะเรียกเด็กที่อายุน้อยกว่าตัวเองจึงค่อนข้างแปลก "สงสัยเราต้องเปลี่ยนการเรียกแล้วมั้ง?" เธอคิด พร้อมทำหน้าจริงจัง
ตอนนี้เธอพยายามสรรหาคำเรียกต่างๆ " คุณเฮลิออส มันก็ดูแปลกๆ เฮลิออส ก็ดูน่าอายอย่างบอกไม่ถูก ท่านเฮลิออส แหมฉันไม่ใช่สาวใช้ของเขาซะหน่อย..." คิดถึงตอนนี้เธอก็หน้าแดงระเรื่อ "เอ๋ เป็นสาวใช้นี่มันต้องยังไงนะ ต้องคอยทำความสะอาดบ้าน ทุกซอกทุกมุม คอยทำอาหาร คอยซักผ้า ถ้าซักผ้าก็จะเห็น... อ๊า เราคิดอะไรของเรานะ" "แต่ก็นะ ถ้าเป็นสาวใช้ได้ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม อาจจะเจอหนังสือลับที่เขาซ่อนไว้ แต่เจ้านายกลับมาพอดี และมาเห็นเข้า จากนั้นเขาก็ปิดปากเราด้วยการ..." แล้วเธอก็หน้าแดงยิ่งกว่าเดิมพร้อมกับสะบัดหัวอย่างแรงเพื่อให้ความคิดฟุ้งซ่านหลุดออกไป
นันน่าร์ที่มองสองสาวเล่นน้ำอยู่ รู้สึกได้ว่าอาชีพของเธอถูกปู้ยี่ปู้ยำทางความคิดของใครบางคน "มันไม่ถึงขนาดนั้นซะหน่อย" เธอคิดแล้วหันไปมองลิซ่าที่นั่งส่ายหัวด้วยแววตาที่ตำหนิเล็กน้อย แต่เธอก็หันไปดูสองสาวต่อ
โอ้ ตอนนี้ฝ่ายแดงโดนบุกจนมุมแล้ว เธอจะกลับมาเป็นฝ่ายรุกได้หรือไม่?
อ้าว ทางฝั่งเขียวเองก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้โต้กลับเลย ใส่ไปเท่าไหร่โดนทุกดอก
ดูเหมือนว่าจะได้ผลแล้วครับ ผู้ชนะคือฝ่ายเขียวนั่นเอง
หากให้บรรยายการเล่นของเฮลิเบลกับอามาร่าก็คงจะประมาณนี้ล่ะ
แต่ทว่าการต่อสู้ที่แท้จริงพึ่งเริ่มต่างหาก
จู่ๆก็มีพวกคนมาสร้างเวทีเล็กๆขึ้นมา แล้วพวกเขาก็ประกาศว่า "บัดนี้ ขอเชิญผู้มีความสามารถในด้านการต่อสู้ด้านใดก็ได้เข้ามาสมัครศึกชิงเจ้าชายหาด"
"เอ๋? นั่นมันอะไรกันน่ะ?" สเตลล่าเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย แต่ที่เธอสงสัยมากกว่าคือ ไอพวกนี้มันมาได้ไง
แต่จู่ๆก็มีคนจากที่ไหนก็ไม่รู้พากันมาเข้าการแข่งขันนี่ เพราะดูเหมือนว่า การแข่งขันจะสามารถสะสมแต้มแลกของรางวัลได้
"น่าสนใจแฮะ" ท่านเคาท์เห็นแล้วยิ้มอย่างสนใจ มิลล่าเห็นก็พูดขึ้นว่า "นั่นสิคะ แถมบอกว่า 'การต่อสู้ด้านใดก็ได้' ด้วย" แล้วเธอก็เอามือขวามาจับที่คางอย่างครุ่นคิดสนใจ
ลูน่าร์เห็นทั้งสองเกิดความสนใจ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นตกใจ แล้วพูดขึ้นมาดังๆว่า "อย่าบอกนะว่าแม่กับตาบ้านี่จะเข้าแข่งด้วยน่ะ?!" เสียงของเธอทำให้ทั้งสเตลล่า นันน่าร์หันมามองเป็นตาเดียวกัน
"เปล่าซะหน่อย ก็แค่คิดว่ามันน่าสนใจเฉยๆน่ะ" มิลล่าพูดขึ้นแล้วก็หลับตากอดอก เธอลืมตาแล้วมองไปที่พ่อของเธอ แล้วพูดว่า "แต่คนๆนั้นไม่แน่นะ" แล้วเธอก็แสยะยิ้ม ซึ่งท่านเคาท์เห็นอย่างนั้นก็รีบพูดว่า "เฮอะ! ฉันไม่เอาด้วยหรอก ว่าแต่มิลล่า เธอแสยะยิ้มแบบนี้นี่น่ากลัวเหมือนแม่เธอเลยนะ" "เหรอคะ? แต่หนูว่าแม่เค้าใจดีออก" ท่านเคาท์ได้ยินดังนั้นก็หลับตากอดอกแบบเดียวกับมิลล่า แล้วพูดเบาๆว่า "อย่าถูกรูปลักษณ์ภายนอกกับรอยยิ้มของยัยนั่นหลอกเอานะมิลล่า" มิลล่าได้แต่ยิ้มทั้งที่ยืนหลับตากอดอกอยู่อย่างนั้น ส่วนลูน่าร์ก็ได้แต่ยืนโล่งใจว่า "อย่างน้อยสองคนนี้ไม่ลงก็ดีแล้ว ถ้าคนใดคนหนึ่งลงล่ะก็...ไม่อยากจะคิด" แล้วเธอก็พ่นลมออกจากปากอย่างโล่งใจ
นันน่าร์กับสเตลล่าที่เห็นและได้ยินบทสนธนาของทั้งสามคน นันน่าร์ยิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า "พวกเขาเหมือนกันดีนะคะ" สเตลล่าหลับตาลงกอดอกแล้วบอกว่า "ก็พ่อ-ลูก แม่-ลูก ตา-หลาน นี่นะ" แล้วเธอก็ถอนหายใจ
"แต่สเตลล่า คุณเองก็เป็นหลานของพวกเขาไม่ใช่เหรอคะ?" นันน่าร์ถาม สเตลล่าที่ได้ยินก็ได้แต่ตอบว่า "ก็นะ ถึงฉันจะเป็นหลานของน้ามิลล่าก็จริง แต่ฉันกลับไม่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวที่พร้อมหน้าเหมือนกับลูน่าร์หรอก แม่ของฉันก็เสียตั้งแต่ฉันเกิดไม่นาน พ่อก็เสียไปตอนฉันยังเด็ก ฉันก็เลยต้องอยู่คนเดียวมาตลอด" เล่าถึงตอนนี้ นันน่าร์เห็นว่าแววตาของสเตลล่าดูเศร้าลงมาก "แต่วันนึงฉันก็ได้เข้ากองทัพ ถูกชุบเลี้ยงให้เป็นเอซไพล็อต แน่นอนว่าคนที่เลี้ยงฉันเขาก็เป็นเหมือนกับพี่ชายของฉันเอง ฉันอยากได้อะไร เขาก็ให้ทุกอย่าง ฉันรักเขามาก ฉันจึงพยายามเพื่อเขา จนในที่สุด ฉันก็ได้เป็นคนขับหุ่น Vrgx-03" เล่าแล้วสเตลล่าก็ลืมตา เธอจ้องตาของนันน่าร์ ราวกับว่าจะเล่าให้เธอรับรู้อย่างลึกซึ้ง
นันน่าร์ได้แต่แปลกใจกับเรื่องที่สเตลล่าเล่า แต่เธอฟังแล้วก็เข้าใจว่าสเตลล่าเติบโตมาอย่างยากลำบาก แต่ก็ได้รับการอุปถัมภ์จากใครบางคนจนได้ดี แต่ครอบครัวแท้ๆของเธอกลับไม่ราบรื่นนัก ประมาณว่า ได้อย่างเสียอย่าง "แล้วทำไมถึงเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังล่ะคะ?" แม้จะค่อนข้างเสียมารยาท แต่นันน่าร์ต้องการที่จะรู้เหตุผลว่าเหตุใดสเตลล่าจึงเลือกเล่าให้เธอฟัง
สเตลล่าได้ยินก็ยิ้มแล้วบอกว่า "ก็เพราะฉันอยากให้เธอรู้ไงล่ะ" ง่ายๆ เธอตอบแบบง่ายจนไม่รู้จะง่ายยังไง แต่ในความง่ายย่อมมีความยาก ความยากที่ว่านี้กลับเกิดกับนันน่าร์ที่พยายามถามถึงเหตุผล เพราะหากถามอีกก็จะเป็นการรบกวนอีกฝ่าย และถือเป็นการไม่ไว้ใจกันด้วย ดังนั้นเธอจึงยิ้มแล้วพยักหน้าตอบแทน "ค่ะ" เธอพูดขึ้น แล้วสเตลล่าก็เล่าต่อ
..................................................................................................................
ทางด้านสองสาวที่อยู่ในทะเล เมื่อเห็นความโกลาหลเกิดขึ้นก็รีบวิ่งขึ้นจากทะเลทันที
"อะไรกันน่ะ?" เฮลิเบลถามขึ้น ทั้งสองกวาดสายตาไปรอบๆก็พบกับผู้คนมากมายที่แห่กันมาเหมือนกับจะมาดูอะไรซักอย่าง แล้วอามาร่าก็ชี้มือไปที่ๆหนึ่ง "ดูโน่น!"
สุดปลายนิ้วชี้ของอามาร่า เป็นป้ายผ้าสีขาวขนาดใหญ่มีตัวอักษรสีดำเขียนไว้ว่า "ศึกชิงเจ้าชายหาด" เขียนไว้
"ศึกชิงเจ้าชายหาด" ทั้งเฮลิเบลและอามาร่าคิดในใจ ด้วยชื่อที่ตั้งแบบว่าขอกันไปที แล้วยังดูเหมือนไปดัดแปลงมาจากอนิเมะที่ไหนซักแห่ง
"ใครมันเป็นคนคิด?" ทั้งสองคิดเหมือนกัน และอีกครั้ง ก็ไม่มีผู้ใดตอบ ทั้งสองจึงตัดสินใจไปดู
"แหม ดูเหมือนว่าเทพธิดาแห่งความโกลาหลนี่จะเรียกความโกลาหลได้ทุกที่เลยนะ" อามาร่ากล่าวขึ้น แล้วมองไปที่เฮลิเบลผู้เดินอยู่ข้างๆ ทางเฮลิเบลเองก็ยังงงๆ จึงได้แต่ทำหน้าสงสัย "เทพธิดาโกลาหล?"
คำถามนี้ทำให้อามาร่าค่อนข้างแปลกใจ เธอจึงบอกไปว่า "ก็ตอนประกวดที่งานวัดนั่นไง ที่เธอชนะแล้วได้ฉายาน่ะ!" อามาร่าพูดเน้นเพื่อเป็นการย้ำเตือน
ทางเฮลิเบลที่ได้ยินก็ดูเหมือนว่าจะนึกขึ้นได้ว่ามีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร
แล้วทั้งสองก็มาถึงที่คนอยู่กันมากๆ
คนจำนวนมากกำลังรุมอะไรบางอย่างอยู่ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจ
"อ้าวทุกคน ขอความกรุณาด้วยครับ ใครที่จะเข้าการแข่งขันกรุณามาทางนี้ครับ ส่วนคนที่ไม่ได้เข้าแข่งหรือแค่มาดูกรุณาหลีกทางไปหน่อยครับ"
สิ้นเสียงประกาศ ก็เหลือคนเพียงน้อยนิดที่ยังอยู่ แน่นอนว่าคนเหล่านี้เป็นผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น
"น่าสนใจแฮะ" อามาร่าพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ป้ายที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เฮลิเบลหันไปมองตาม
มันเป็นป้ายขนาดเท่าคน มีรูปภาพของรางวัลกับรายชื่อของรางวัลไว้อยู่
ทั้งคู่ใช้เวลาอ่านพักใหญ่ ในที่สุด อามาร่าก็พูดขึ้นว่า "สรุปแล้ว ถ้าอยากได้ของรางวัลนี่จะต้องเข้าต่อสู้เพื่อสะสมแต้มสินะ ยิ่งชนะมากก็ได้มาก และรูปแบบการต่อสู้ก็ดูเหมือนว่าจะมีผลด้วยนี่สิ นั่นล่ะทำให้ตัดสินเรื่องแต้มลำบาก" เธอหยุดพูดแล้วเอามือจับที่คาง แล้วพูดต่อ "พูดง่ายๆ ถ้าชนะแบบช้าๆก็จะได้แต้มน้อย แต่ถ้าชนะแบบรวดเร็วไม่ยืดเยื้อก็จะได้แต้มมากขึ้นไปอีก"
"แต่ในอีกกรณี..." เฮลิเบลพูดขึ้นบ้าง "ถ้าต่างคนต่างสูสีกัน แล้วใช้เวลาต่อสู้กันนาน ผู้ชนะก็จะได้แต้มจำนวนมาก แต่ผู้แพ้ก็จะได้แต้มเท่ากับการชนะแบบปกติทั่วไป"
เฮลิเบลเริ่มอธิบาย "ถ้าจะให้เห็นภาพก็สมมติว่า ผู้ชนะได้ 10 แต้ม ผู้แพ้ได้ 2 แต้ม ถ้าชนะแบบยืดเยื้อน่าเบื่อ ก็จะได้แต้มแค่ 10 ตามค่าเริ่มต้น แต่ถ้าสามารถชนะได้อย่างรวดร็วก็จะได้ 15 แต้ม แต่ผู้แพ้ไม่ว่ายังไงก็ได้แค่ 2 แต้ม" "แต่ในกรณีว่า ถ้าหากทั้งสองมีฝีมือสูสีกัน ต่อสู้น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะต่อสู้นานแค่ไหน ผู้ชนะก็จะได้ 30 แต้ม ส่วนผู้แพ้ก็จะได้ 10 แต้ม สรุปก็คือ ไม่ว่ายังไงก็ได้แต้ม"
จบการอธิบาย เฮลิเบลก็มองดูแต้มที่ต้องใช้ในการแลกรางวัล แล้วเธอก็พูดว่า "ถ้าหากอยากได้ดาบราชาอ๊กหักซึ่งแพงที่สุดและดีที่สุด ก็ต้องสู้ชนะแบบปกติถึง 30 รอบ ชนะแบบรวดเร็วก็ 20 รอบ ถ้าชนะแบบสูสีก็ 10 รอบ แต่ถ้าแพ้ก็นานหน่อย 150 รอบ"
อามาร่าเริ่มสงสัยแล้วว่า ทำไมหญิงสาวที่เป็นเพื่อนของเธอต้องพูดอะไรที่มันเข้าใจยาก แต่เธอก็พูดให้เข้าใจง่ายๆว่า "นั่นสิ ใช้แต้มตั้ง 300 แต้มนี่นะ" แล้วเธอก็คิดอะไรบางอย่าง "ว่าแต่ใครเป็นคนจัดการแข่งขันนี้นะ?" เฮลิเบลเองก็ถามขึ้นว่า "แล้วรางวัลพวกนี้ไปเอามาจากไหน?"
แล้วทั้งสองคนก็มองหน้ากันแล้วยิ้ม "ช่างมันเถอะ!!!" ทั้งสองคิด แล้วก็เข้าร่วมการแข่งขัน
"ฉันว่าเราทำแบบนี้มันเหมือนว่าเล่นเกมดรากอนเควสต์ผสมกับโปเกมอนเลยนะ" อามาร่าพูดขึ้น
"ยังไง?" เฮลิเบลถาม
อามาร่าก็บอกว่า "ก็ลองคิดดู ในเกมดรากอนเควสต์ จะมีCasinoที่มีดาบสุดยอดอยู่ แต่ต้องเล่นCasinoแล้วเอาแต้มไปซื้อมาใช่มั้ยล่ะ"
เฮลิเบลฟังแล้วลองนึกภาพตาม ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ "ใช่ๆ" เธอพูด
"แล้วในเกมโปเกมอนก็มี โปเกมอนเวิร์ลด์ทัวร์นาเม้นต์เอาไว้สู้สะสมแต้มซื้อของอีก ฉันว่าคนตั้ง 'ศึกชิงเจ้าชายหาด' นี่ต้องเป็นพวกบ้าเกมแน่ๆเลย" อามาร่าวิเคราะห์อย่างค่อนข้างมั่นใจ
"แต่ฉันว่า..." เฮลิเบลพูดบ้าง "คนที่ตั้งศึกชิงเจ้าชายหาดนี่ต้องเป็นราชาเสียสติแน่"
"ทำไมล่ะ?" อามาร่าถามบ้าง เฮลิเบลจึงบอกว่า "ก็ดูชื่อของรางวัลแต่ละอย่างสิ"
"อ๊าาาา อามาร่า อย่านะ" เธอคนนั้นร้องห้ามพร้อมเอามือยกขึ้นเพื่อกัน แต่แน่นอน แค่นั้นไม่สามารถกันได้ ทำให้ตัวเธอเปียกปอนไปหมด แล้วอามาร่าก็บอกว่า "มาทะเลทั้งทีก็ต้องเล่นน้ำสิ มา มาเล่นกันให้สะใจกันไปเลย" แล้วเธอก็เอามือวักน้ำ:Xใส่เฮลิเบลต่อ แต่คราวนี้เธอวักเร็วขึ้น
เฮลิเบลได้แต่วิ่งหนีน้ำ แต่แน่นอน ด้วยแรงต้านของน้ำทำให้เธอวิ่งช้า และไม่สามารถพ้นเงื้อมมือของอามาร่าไปได้ ในที่สุดเธอก็จำเป็นต้องยอม
"ดูเหมือนทางนั้นจะมีปัญหาสินะ" นันน่าร์พูดขึ้น แน่นอนเธอเห็นทั้งสองคนนั้นอย่างชัดเจน
อาจจะสงสัยว่า ทั้งชายหาดนี่มีอยู่กี่คน คำตอบคือ มีแค่คนที่มานั่นแหละ
เหตุผลน่ะเหรอ ง่ายๆ ที่นี่เป็นทะเลส่วนตัวนั่นเอง
แต่ว่าเป็นของใคร?
เป็นของพวกที่มานั่นแหละ อย่าไปสงสัยเลย เข้าเรื่องต่อดีกว่า
ลิซ่าที่กำลังนั่งอยู่กับที่ ตอนนี้เธอรู้สึกพ่ายแพ้อย่างมาก แน่นอน ทั้งๆที่เธออายุมากกว่า แต่หน้าอกของเธอกลับสู้เด็กอายะ15ไม่ได้
แต่สิ่งที่เธอช็อคกว่านั้นคือ หัวหน้าที่เธอนับถือนั้นอายุน้อยกว่าเธอ
นั่นหมายความว่า เฮลิออสจะต้องเข้าเรียนก่อนเกณฑ์แน่นอน แล้วต้องเรียนข้ามชั้นด้วย แต่ถึงตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกชื่นชมเฮลิออสว่าเป็นคนมีความสามารถ เพราะอยู่ต่อหน้าเธอเวลาทำงาน เขาทำตัวเหมือนกับคนอายุบรรลุนิติภาวะแล้ว นั่นทำให้เธอเรียกเขาว่าหัวหน้ามาตลอด
เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่เธอจะเรียกเด็กที่อายุน้อยกว่าตัวเองจึงค่อนข้างแปลก "สงสัยเราต้องเปลี่ยนการเรียกแล้วมั้ง?" เธอคิด พร้อมทำหน้าจริงจัง
ตอนนี้เธอพยายามสรรหาคำเรียกต่างๆ " คุณเฮลิออส มันก็ดูแปลกๆ เฮลิออส ก็ดูน่าอายอย่างบอกไม่ถูก ท่านเฮลิออส แหมฉันไม่ใช่สาวใช้ของเขาซะหน่อย..." คิดถึงตอนนี้เธอก็หน้าแดงระเรื่อ "เอ๋ เป็นสาวใช้นี่มันต้องยังไงนะ ต้องคอยทำความสะอาดบ้าน ทุกซอกทุกมุม คอยทำอาหาร คอยซักผ้า ถ้าซักผ้าก็จะเห็น... อ๊า เราคิดอะไรของเรานะ" "แต่ก็นะ ถ้าเป็นสาวใช้ได้ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม อาจจะเจอหนังสือลับที่เขาซ่อนไว้ แต่เจ้านายกลับมาพอดี และมาเห็นเข้า จากนั้นเขาก็ปิดปากเราด้วยการ..." แล้วเธอก็หน้าแดงยิ่งกว่าเดิมพร้อมกับสะบัดหัวอย่างแรงเพื่อให้ความคิดฟุ้งซ่านหลุดออกไป
นันน่าร์ที่มองสองสาวเล่นน้ำอยู่ รู้สึกได้ว่าอาชีพของเธอถูกปู้ยี่ปู้ยำทางความคิดของใครบางคน "มันไม่ถึงขนาดนั้นซะหน่อย" เธอคิดแล้วหันไปมองลิซ่าที่นั่งส่ายหัวด้วยแววตาที่ตำหนิเล็กน้อย แต่เธอก็หันไปดูสองสาวต่อ
โอ้ ตอนนี้ฝ่ายแดงโดนบุกจนมุมแล้ว เธอจะกลับมาเป็นฝ่ายรุกได้หรือไม่?
อ้าว ทางฝั่งเขียวเองก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้โต้กลับเลย ใส่ไปเท่าไหร่โดนทุกดอก
ดูเหมือนว่าจะได้ผลแล้วครับ ผู้ชนะคือฝ่ายเขียวนั่นเอง
หากให้บรรยายการเล่นของเฮลิเบลกับอามาร่าก็คงจะประมาณนี้ล่ะ
แต่ทว่าการต่อสู้ที่แท้จริงพึ่งเริ่มต่างหาก
จู่ๆก็มีพวกคนมาสร้างเวทีเล็กๆขึ้นมา แล้วพวกเขาก็ประกาศว่า "บัดนี้ ขอเชิญผู้มีความสามารถในด้านการต่อสู้ด้านใดก็ได้เข้ามาสมัครศึกชิงเจ้าชายหาด"
"เอ๋? นั่นมันอะไรกันน่ะ?" สเตลล่าเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย แต่ที่เธอสงสัยมากกว่าคือ ไอพวกนี้มันมาได้ไง
แต่จู่ๆก็มีคนจากที่ไหนก็ไม่รู้พากันมาเข้าการแข่งขันนี่ เพราะดูเหมือนว่า การแข่งขันจะสามารถสะสมแต้มแลกของรางวัลได้
"น่าสนใจแฮะ" ท่านเคาท์เห็นแล้วยิ้มอย่างสนใจ มิลล่าเห็นก็พูดขึ้นว่า "นั่นสิคะ แถมบอกว่า 'การต่อสู้ด้านใดก็ได้' ด้วย" แล้วเธอก็เอามือขวามาจับที่คางอย่างครุ่นคิดสนใจ
ลูน่าร์เห็นทั้งสองเกิดความสนใจ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นตกใจ แล้วพูดขึ้นมาดังๆว่า "อย่าบอกนะว่าแม่กับตาบ้านี่จะเข้าแข่งด้วยน่ะ?!" เสียงของเธอทำให้ทั้งสเตลล่า นันน่าร์หันมามองเป็นตาเดียวกัน
"เปล่าซะหน่อย ก็แค่คิดว่ามันน่าสนใจเฉยๆน่ะ" มิลล่าพูดขึ้นแล้วก็หลับตากอดอก เธอลืมตาแล้วมองไปที่พ่อของเธอ แล้วพูดว่า "แต่คนๆนั้นไม่แน่นะ" แล้วเธอก็แสยะยิ้ม ซึ่งท่านเคาท์เห็นอย่างนั้นก็รีบพูดว่า "เฮอะ! ฉันไม่เอาด้วยหรอก ว่าแต่มิลล่า เธอแสยะยิ้มแบบนี้นี่น่ากลัวเหมือนแม่เธอเลยนะ" "เหรอคะ? แต่หนูว่าแม่เค้าใจดีออก" ท่านเคาท์ได้ยินดังนั้นก็หลับตากอดอกแบบเดียวกับมิลล่า แล้วพูดเบาๆว่า "อย่าถูกรูปลักษณ์ภายนอกกับรอยยิ้มของยัยนั่นหลอกเอานะมิลล่า" มิลล่าได้แต่ยิ้มทั้งที่ยืนหลับตากอดอกอยู่อย่างนั้น ส่วนลูน่าร์ก็ได้แต่ยืนโล่งใจว่า "อย่างน้อยสองคนนี้ไม่ลงก็ดีแล้ว ถ้าคนใดคนหนึ่งลงล่ะก็...ไม่อยากจะคิด" แล้วเธอก็พ่นลมออกจากปากอย่างโล่งใจ
นันน่าร์กับสเตลล่าที่เห็นและได้ยินบทสนธนาของทั้งสามคน นันน่าร์ยิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า "พวกเขาเหมือนกันดีนะคะ" สเตลล่าหลับตาลงกอดอกแล้วบอกว่า "ก็พ่อ-ลูก แม่-ลูก ตา-หลาน นี่นะ" แล้วเธอก็ถอนหายใจ
"แต่สเตลล่า คุณเองก็เป็นหลานของพวกเขาไม่ใช่เหรอคะ?" นันน่าร์ถาม สเตลล่าที่ได้ยินก็ได้แต่ตอบว่า "ก็นะ ถึงฉันจะเป็นหลานของน้ามิลล่าก็จริง แต่ฉันกลับไม่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวที่พร้อมหน้าเหมือนกับลูน่าร์หรอก แม่ของฉันก็เสียตั้งแต่ฉันเกิดไม่นาน พ่อก็เสียไปตอนฉันยังเด็ก ฉันก็เลยต้องอยู่คนเดียวมาตลอด" เล่าถึงตอนนี้ นันน่าร์เห็นว่าแววตาของสเตลล่าดูเศร้าลงมาก "แต่วันนึงฉันก็ได้เข้ากองทัพ ถูกชุบเลี้ยงให้เป็นเอซไพล็อต แน่นอนว่าคนที่เลี้ยงฉันเขาก็เป็นเหมือนกับพี่ชายของฉันเอง ฉันอยากได้อะไร เขาก็ให้ทุกอย่าง ฉันรักเขามาก ฉันจึงพยายามเพื่อเขา จนในที่สุด ฉันก็ได้เป็นคนขับหุ่น Vrgx-03" เล่าแล้วสเตลล่าก็ลืมตา เธอจ้องตาของนันน่าร์ ราวกับว่าจะเล่าให้เธอรับรู้อย่างลึกซึ้ง
นันน่าร์ได้แต่แปลกใจกับเรื่องที่สเตลล่าเล่า แต่เธอฟังแล้วก็เข้าใจว่าสเตลล่าเติบโตมาอย่างยากลำบาก แต่ก็ได้รับการอุปถัมภ์จากใครบางคนจนได้ดี แต่ครอบครัวแท้ๆของเธอกลับไม่ราบรื่นนัก ประมาณว่า ได้อย่างเสียอย่าง "แล้วทำไมถึงเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังล่ะคะ?" แม้จะค่อนข้างเสียมารยาท แต่นันน่าร์ต้องการที่จะรู้เหตุผลว่าเหตุใดสเตลล่าจึงเลือกเล่าให้เธอฟัง
สเตลล่าได้ยินก็ยิ้มแล้วบอกว่า "ก็เพราะฉันอยากให้เธอรู้ไงล่ะ" ง่ายๆ เธอตอบแบบง่ายจนไม่รู้จะง่ายยังไง แต่ในความง่ายย่อมมีความยาก ความยากที่ว่านี้กลับเกิดกับนันน่าร์ที่พยายามถามถึงเหตุผล เพราะหากถามอีกก็จะเป็นการรบกวนอีกฝ่าย และถือเป็นการไม่ไว้ใจกันด้วย ดังนั้นเธอจึงยิ้มแล้วพยักหน้าตอบแทน "ค่ะ" เธอพูดขึ้น แล้วสเตลล่าก็เล่าต่อ
..................................................................................................................
ทางด้านสองสาวที่อยู่ในทะเล เมื่อเห็นความโกลาหลเกิดขึ้นก็รีบวิ่งขึ้นจากทะเลทันที
"อะไรกันน่ะ?" เฮลิเบลถามขึ้น ทั้งสองกวาดสายตาไปรอบๆก็พบกับผู้คนมากมายที่แห่กันมาเหมือนกับจะมาดูอะไรซักอย่าง แล้วอามาร่าก็ชี้มือไปที่ๆหนึ่ง "ดูโน่น!"
สุดปลายนิ้วชี้ของอามาร่า เป็นป้ายผ้าสีขาวขนาดใหญ่มีตัวอักษรสีดำเขียนไว้ว่า "ศึกชิงเจ้าชายหาด" เขียนไว้
"ศึกชิงเจ้าชายหาด" ทั้งเฮลิเบลและอามาร่าคิดในใจ ด้วยชื่อที่ตั้งแบบว่าขอกันไปที แล้วยังดูเหมือนไปดัดแปลงมาจากอนิเมะที่ไหนซักแห่ง
"ใครมันเป็นคนคิด?" ทั้งสองคิดเหมือนกัน และอีกครั้ง ก็ไม่มีผู้ใดตอบ ทั้งสองจึงตัดสินใจไปดู
"แหม ดูเหมือนว่าเทพธิดาแห่งความโกลาหลนี่จะเรียกความโกลาหลได้ทุกที่เลยนะ" อามาร่ากล่าวขึ้น แล้วมองไปที่เฮลิเบลผู้เดินอยู่ข้างๆ ทางเฮลิเบลเองก็ยังงงๆ จึงได้แต่ทำหน้าสงสัย "เทพธิดาโกลาหล?"
คำถามนี้ทำให้อามาร่าค่อนข้างแปลกใจ เธอจึงบอกไปว่า "ก็ตอนประกวดที่งานวัดนั่นไง ที่เธอชนะแล้วได้ฉายาน่ะ!" อามาร่าพูดเน้นเพื่อเป็นการย้ำเตือน
ทางเฮลิเบลที่ได้ยินก็ดูเหมือนว่าจะนึกขึ้นได้ว่ามีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร
แล้วทั้งสองก็มาถึงที่คนอยู่กันมากๆ
คนจำนวนมากกำลังรุมอะไรบางอย่างอยู่ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจ
"อ้าวทุกคน ขอความกรุณาด้วยครับ ใครที่จะเข้าการแข่งขันกรุณามาทางนี้ครับ ส่วนคนที่ไม่ได้เข้าแข่งหรือแค่มาดูกรุณาหลีกทางไปหน่อยครับ"
สิ้นเสียงประกาศ ก็เหลือคนเพียงน้อยนิดที่ยังอยู่ แน่นอนว่าคนเหล่านี้เป็นผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น
"น่าสนใจแฮะ" อามาร่าพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ป้ายที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เฮลิเบลหันไปมองตาม
มันเป็นป้ายขนาดเท่าคน มีรูปภาพของรางวัลกับรายชื่อของรางวัลไว้อยู่
ทั้งคู่ใช้เวลาอ่านพักใหญ่ ในที่สุด อามาร่าก็พูดขึ้นว่า "สรุปแล้ว ถ้าอยากได้ของรางวัลนี่จะต้องเข้าต่อสู้เพื่อสะสมแต้มสินะ ยิ่งชนะมากก็ได้มาก และรูปแบบการต่อสู้ก็ดูเหมือนว่าจะมีผลด้วยนี่สิ นั่นล่ะทำให้ตัดสินเรื่องแต้มลำบาก" เธอหยุดพูดแล้วเอามือจับที่คาง แล้วพูดต่อ "พูดง่ายๆ ถ้าชนะแบบช้าๆก็จะได้แต้มน้อย แต่ถ้าชนะแบบรวดเร็วไม่ยืดเยื้อก็จะได้แต้มมากขึ้นไปอีก"
"แต่ในอีกกรณี..." เฮลิเบลพูดขึ้นบ้าง "ถ้าต่างคนต่างสูสีกัน แล้วใช้เวลาต่อสู้กันนาน ผู้ชนะก็จะได้แต้มจำนวนมาก แต่ผู้แพ้ก็จะได้แต้มเท่ากับการชนะแบบปกติทั่วไป"
เฮลิเบลเริ่มอธิบาย "ถ้าจะให้เห็นภาพก็สมมติว่า ผู้ชนะได้ 10 แต้ม ผู้แพ้ได้ 2 แต้ม ถ้าชนะแบบยืดเยื้อน่าเบื่อ ก็จะได้แต้มแค่ 10 ตามค่าเริ่มต้น แต่ถ้าสามารถชนะได้อย่างรวดร็วก็จะได้ 15 แต้ม แต่ผู้แพ้ไม่ว่ายังไงก็ได้แค่ 2 แต้ม" "แต่ในกรณีว่า ถ้าหากทั้งสองมีฝีมือสูสีกัน ต่อสู้น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะต่อสู้นานแค่ไหน ผู้ชนะก็จะได้ 30 แต้ม ส่วนผู้แพ้ก็จะได้ 10 แต้ม สรุปก็คือ ไม่ว่ายังไงก็ได้แต้ม"
จบการอธิบาย เฮลิเบลก็มองดูแต้มที่ต้องใช้ในการแลกรางวัล แล้วเธอก็พูดว่า "ถ้าหากอยากได้ดาบราชาอ๊กหักซึ่งแพงที่สุดและดีที่สุด ก็ต้องสู้ชนะแบบปกติถึง 30 รอบ ชนะแบบรวดเร็วก็ 20 รอบ ถ้าชนะแบบสูสีก็ 10 รอบ แต่ถ้าแพ้ก็นานหน่อย 150 รอบ"
อามาร่าเริ่มสงสัยแล้วว่า ทำไมหญิงสาวที่เป็นเพื่อนของเธอต้องพูดอะไรที่มันเข้าใจยาก แต่เธอก็พูดให้เข้าใจง่ายๆว่า "นั่นสิ ใช้แต้มตั้ง 300 แต้มนี่นะ" แล้วเธอก็คิดอะไรบางอย่าง "ว่าแต่ใครเป็นคนจัดการแข่งขันนี้นะ?" เฮลิเบลเองก็ถามขึ้นว่า "แล้วรางวัลพวกนี้ไปเอามาจากไหน?"
แล้วทั้งสองคนก็มองหน้ากันแล้วยิ้ม "ช่างมันเถอะ!!!" ทั้งสองคิด แล้วก็เข้าร่วมการแข่งขัน
"ฉันว่าเราทำแบบนี้มันเหมือนว่าเล่นเกมดรากอนเควสต์ผสมกับโปเกมอนเลยนะ" อามาร่าพูดขึ้น
"ยังไง?" เฮลิเบลถาม
อามาร่าก็บอกว่า "ก็ลองคิดดู ในเกมดรากอนเควสต์ จะมีCasinoที่มีดาบสุดยอดอยู่ แต่ต้องเล่นCasinoแล้วเอาแต้มไปซื้อมาใช่มั้ยล่ะ"
เฮลิเบลฟังแล้วลองนึกภาพตาม ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ "ใช่ๆ" เธอพูด
"แล้วในเกมโปเกมอนก็มี โปเกมอนเวิร์ลด์ทัวร์นาเม้นต์เอาไว้สู้สะสมแต้มซื้อของอีก ฉันว่าคนตั้ง 'ศึกชิงเจ้าชายหาด' นี่ต้องเป็นพวกบ้าเกมแน่ๆเลย" อามาร่าวิเคราะห์อย่างค่อนข้างมั่นใจ
"แต่ฉันว่า..." เฮลิเบลพูดบ้าง "คนที่ตั้งศึกชิงเจ้าชายหาดนี่ต้องเป็นราชาเสียสติแน่"
"ทำไมล่ะ?" อามาร่าถามบ้าง เฮลิเบลจึงบอกว่า "ก็ดูชื่อของรางวัลแต่ละอย่างสิ"
รายชื่อของรางวัล
ดาบราชาอ๊กหัก 300 แต้ม
หอกทะลวงปลิง 250 แต้ม
มีดแทงทะลุมิติ 250 แต้ม
ธนูเทพศิลป์ 250 แต้ม
จักรอินทรจักร 250 แต้ม
ลูกแก้ว??? 250 แต้ม
ดาบเจ็ดสี 250 แต้ม
มณีเจ็ดแสง 250 แต้ม
เพชรรุ้งไฟ 250 แต้ม
กำไลวิเศษ 200 แต้ม
แพรแดง 150 แต้ม
ยาระงับสรรพโรค 100 แต้ม
น้ำโคล่า 50 แต้ม
น้ำดื่ม 1 แต้ม
รับรางวัลได้ที่พระราชาของพวกเรา
"..." ทั้งสองไม่ได้แสดงความคิดเห็นออกมาเป็นคำพูด แต่จากท่าทีของทั้งสองก็รู้ได้ทันทีว่า ทั้งสองรู้สึกยังไง
"แต่ของรางวัลมันน่าสนใจนี่นะ" อามาร่าพูดขึ้น "ใช่ แล้วเธอสนใจอะไร?" "ฉันเหรอ ฉันสนใจยาระงับสรรพโรคน่ะ" "มันคงไม่หลอกนะ" "ไม่มีทางแน่ ฉันรู้สึกได้" เฮลิเบลเห็นเพื่อนสาวมั่นใจอย่างประหลาด แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ
"แล้วเธอล่ะ?" อามาร่าถามบ้าง เฮลิเบลก็ชี้นิ้วไปแล้วบอกว่า "แน่นอนอยู่แล้ว ฉันต้องเอาดาบราชาอ๊กหักมาให้ได้!!!" สีหน้าของเธอดูจริงจังมาก
และแล้วการต่อสู้อันดุเดือด(มั้ง?) ก็กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า โปรดติดตามตอนต่อไป
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องชักมั่วแล้วแฮะ แต่ก็เป็นอย่างนี้แหละดีแล้วล่ะ!!!
อารมณ์ตอนเลือกของก็น่าจะประมาณนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ffviicc เมื่อ 2013-2-12 01:11
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ffviicc เมื่อ 2013-2-12 01:21
Wing of Destiny ตอนที่ 16 ที่ทะเลยังคงมีเรื่องราวต่อไป
[IMG]