เพื่อความสนุกในการอ่านเรื่อง Valkyrie ที่ค่อนข้างมีเนื้อหาปลีกย่อยเยอะ เราจึงจัดทำกระทู้นี้ขึ้น เพื่อให้ท่านได้เรียนรู้เกี่ยวกับอีทเตอร์นั่นเอง
อีทเตอร์ เป็นสิ่งมีชีวิตนอกโลกภายในเรื่อง โดยอีทเตอร์จะแบ่งออกเป็นสายพันธุ์ต่างๆและพวกอีทเตอร์ยังมีระบบวิวัฒนาการ แต่ว่าในเวลาเดียวกันพวกอีทเตอร์กลับด้อยปัญญาาอย่างมากกับเรื่องแผนการรบ โดยอีทเตอร์จะมุ่งเน้นจำนวนเข้าโจมตีศัตรู โดยอีทเตอร์ขนาดใหญ่ จะเกิดขึ้นภายในรัง โดยรังนั้นจัดเป็นอีทเตอร์รูปแบบหนึ่ง ที่มีชีวิตอยู่ได้แต่ในอวกาศ และเมื่อมันตกลงสู่โลกจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นสสารที่มีความแข็งใกล้เคียงเพชร มีความสูงถึง 5 กิโลเมตรและลึกลงใต้ดิน 8 กิโลเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 9 กิโลเมตร โดยภายในของรังจะมีอีทเตอร์อีกรูปแบบ ที่เรียกว่าราชินี ตัวราชินีทำหน้าที่ในการผลิตอีทเตอร์รูปแบบต่างๆแต่ไม่สามารถผลิตอีทเตอร์รูปแบบที่เรียกกันว่ามดงาน ซึ่งเป็นอีทเตอร์ที่พวกพระเอกในเรื่องได้พบในตอนที่1 ซึ่งประเภทนี้เกิดขึ้นจากการขยายสายพันธุ์โดยใช้มนุษย์เป็นร่างฟักตัวอ่อน มนุษย์ผู้หญิงหนึ่งคนผลิตได้ 8 รุ่น
อีทเตอร์ยังมีล่ามนุษย์เพื่อเอาสมองของมนุษย์มาใช้ในการประมวลผลรวมถึงรวบรวมข้อมูลต่างๆเพื่อใช้ในการวิวัฒนาการณ์ โดยแต่ละรูปแบบถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการรบที่เจาะจง เช่นรูปแบบฮันเตอร์อีทเตอร์รูปร่างคล้ายแมลง เป็นอีทเตอร์ที่เกิดมาเพื่อแก้ทาง B.U. โดยเฉพาะโดยรูปแบบอื่นๆประกอบไปด้วย
รูปแบบเลเซอร์ รูปร่างเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่สูง 22.5 เมตร
บนหลังมีคริสตัลขนาดยักษ์ติดอยู่ โดยเลเซอร์ของมันจัดเป็นรูปแบบของเลเซอร์ชีวภาพ ร่างกายของพวกมันค่อนข้างอ่อนแอร์ สามาถกำจัดได้ด้วยอาวุธมาตรฐานของ B.U. ทั้งมีดสั้น ดาบยาว หรือกระสุนขนาด 35 mm ขึ้นไป โดยรูปแบบเลเซอร์นั้นมุ่งเน้นที่การจมยานรบเสียมากกว่าจะยิงให้โดน B.U.
รูปแบบเทรน อีทเตอร์ที่มีความยาวถึง 500 เมตร เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เป็นอีทเตอร์ที่มีความเร็วสูงแต่ไม่สามารถปกป้องตัวมันเองได้ โดยหน้าที่ของพวกมันคือการพุ่งเป็นเส้นตรงไปยังดาวหรืออโคโลนี่เป้าหมาย โดยใช้ส่วนหัวที่มีรูปร่างเหมือนลูกศรแทงทะลุเข้าไป โดยภายในตัวของมันจะมีอีทเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่าโซลเยอร์อยู่ภายในมากถึงแปดร้อยตัว ตลอดลำตัวของมันมีเกราะหนาหุ้มตลอดทั้งตัวและยังวสามารถฝ่าชั้นบรรยากาศได้ด้วยตัวเอง สามารถกำจัดได้โดยใช้ปืนใหญ่ยานรบ จรวดมิสไซล์สำหรับยมยานรบ หรืออาวุธจากB.U. ก็คือปืนที่ใช้กระสุนขนาด 50 mm กระหน่ำยิ่งซ้ำที่จุดเดิมหลายๆครั้ง หรืออาจใช้ดาบแทงเข้าไปก็ได้แต่ไม่รุนแรงจนมันถึงชีวิต แต่ถ้าทำให้เกราะของมันแตกออกได้แม้เพียงเล็กน้อยแล้วก็ปล่อยให้มันลงไปที่ชั้นบรรยากาศปล่อยให้มันโดนเผาจากความร้อนไปเองก็ได้
อีทเตอร์รูปแบบโซลเยอร์ อีทเตอร์สูง 3 เมตร
อีทเตอร์ขนาดเล็กผู้ทำหน้าที่กวาดล้างพลเดินเท้าและทำการขยายพันธุ์อีทเตอร์รูปแบบมดงาน พวกมันเคลื่อนที่ได้ช้า แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็จัดว่าอึดขนาดที่ว่าปืนขนาดมาตรฐานเอาไม่อยู่ ต้องใช้ปืนกลสำหรับแบทเทิลสูทขนาด 20 mm เท่านั้น โดยรูปร่างของมันเป้นสิ่งมีชีวิตที่มีหกขา ท่อนบนดูคล้ายมนุษย์มีแขนสองข้าง มีดวงตาทั้งหมดห้าดวง และหากถูกมันจับได้จงรีบเอาปืนในมือระเบิดสมองตัวเองซะ เพราะท่านได้ตายไปแล้วเมื่อถูกมันเข้าถึงตัว
อีทเตอร์รูปแบบแทงค์ สูง 16 เมตร
อีทเตอร์ที่สามารถพบได้ในสงครามบนพื้นดิน มันสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วถึง 170-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยพวกมันมีหน้าที่ในการเคลียร์แนวกับระเบิด รถถัง สิ่งปลุกสร้าง ด้วยการวิ่งลุยดะแบบไม่หยุด โดยรูปร่างของมันเป็นสิ่งมีชีวิตทที่ดูคล้ายตัวหนอนแก้วแต่มีแค่สี่ข้า ที่หัวส่วนหน้าค่อนข้างแข็ง แต่ตลอดลำตัวนั้นกลับอ่อนนุ่มมาก สามารถกำจัดได้โดยใช้ แท่นปืนใหญ่ขนาด 105 mm ปืนใหญ่ขนาด 110-120 mm ของรถถัง ปืนใหญ่จากเรือรบ หรืออาจใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดจากบนฟ้าก็ได้ หรือจะใช้ B.U. ก็ได้เช่นกัน โดยใช้ปืนขนาดมาตรฐาน 35 mm ดาบยาวและมีด โดยพวกมันมีจุดอ่อนคือหากต้องเปลี่ยนทิศทางการวิ่งแล้วพวกมันจะะเชื่องช้ามากๆ ดังนั้นการล่อให้มันเปลี่ยนทิศทางคือตัวเลือดที่ดีที่สุดที่จะกำจัดมัน
อีทเตอร์รูปแบบเดสทรอยเยอร์ สูง 20 เมตร
อีทเตอร์ภาคพื้นดินที่ถูกสร้างมาเพื่อสังหาร B.U. ที่อยู่บนพื้นโดยเฉพาะด้วยแขนทั้งสองข้างที่ดูคล้ายใบมีด มันค่อนข้างเคลื่อนที่ได้เร็วพอสมควร ด้วยขาทั้งหกของมัน อีทเตอร์ประเภทนี้ร้ายการมากหากต้องสู้ระยะประชิดกับมัน ดังนั้นหากต้องประชิดก็จงเก็บมันให้ได้ในดาบเดียว เพราะด้านพลังแล้วถือว่ามันเหนือกว่า B.U. หลายเท่านัก โดยสามารถกำจัดมันได้ด้วยปืนใหญ่ตั้งแต่ขนาด 105 mm ขึ้นไป หรือใช้ปืนใหญ่จากเรือรบ การทิ้งระเบิด หรือ B.U. โดยอาวุธที่ควรใช้ในการต่อสู้กับมันคือปืนขนาด 35 mm ขึ้นไป มีดและดาบยาวไม่แนะนำ เว้นแต่จะเป็นทหารจากกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น
อีทเตอร์รูปแบบไททัล สูง 100 เมตร
อีทเตอร์สำหรับถล่มกองเรือบนชั้นบรรยากาศที่ส่วนหัวมีเกราะแข็งมากเป็นโล่บังตัวได้จนมิด โดยมันมีแขนสองข้างที่มีรูปร่างคล้ายใบมีดเหมือนกับเดสทรอยเยอร์ในการทำลายเรือ แต่มันเคลื่อนที่ได้ช้ามาก การกำจัดมันนั้นต้องใช้การทิ้งระเบิดจากเครื่องบินทิ้งระเบิดเท่านั้น หรือจะใช้ B.U. ติดตั้งอาวุธแบบทำลายยานรบก็ได้เช่นกันแต่ต้องยิงในส่วนของหลังเท่านั้น แต่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นสามารถล้มมันได้โดยใช้ B.U. กองดาบจำนวน 50 เครื่องในการรุมโจมตีมันมาแล้ว ถึงจะได้ไม่คุ้มเสียก็ตาม
รูปแบบราชินี สูง 40 เมตร
อีทเตอร์สุดอ่อนแอแม้แต่รูปแบบมดงานยังน่ากลัวกว่านิดหน่อย เพราะมันเคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้ แต่ด้วยสงครามภายในรังทำให้ถูกจำกัดอาวุธในการรบอย่างมาก โดยราชินีนั้นมีรูปลำตัวท่อนร่างยาวซึ่งเป็นส่วนของถุงเก็บไข่ และท่อนบนมีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่ไม่มีแขน ส่วนหัวเป็นกระดองแข็ง มันสามารถโจมตีได้ด้วรยางค์ที่ห้อยออกมาจากตัว และอย่าดูถูกรยางค์พวกนี้สามารถแทงทะลุเกราะของ B.U. ได้สบายๆ
ความรู้เกี่ยวกับสงครามภายในรัง
ในรังของพวกอีทเตอร์นั้นค่อนข้างแคบ ทำให้นำอาวุธไปได้จำกัดมาก โดยอาวุธที่นี่ยมใช้ในรังประกอบไปด้วย ปืนขนาด 35mm ดาบยาวและมีด โดยจะมี 1 เครื่องในทีมบุกรังใช้ปืนใหญ่อนุภาค และเครื่องที่เหลือทำหน้าที่คุ้มกันขณะเครื่องหลักทำการชาร์ตพลังงานปืนใหญ่ โดยภายในรังสิ่งที่น่ากลัวคือการมาต้อนรับของฝูงอีทเตอร์นานาชนิด ซึ่งในพื้นที่ที่ค่อนข้างแคบทำให้การโดนมันรุมโจมตีหรือโดนปิดล้อมนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ภายในรังประกอบไปด้วยสองส่วนคือ ห้องราชินี และส่วนที่เรียกว่า Brain หรือสมอง โดยในส่วนของ Brain นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเป็นรังที่สมบูรณ์แล้วหรือก็คือรังที่ลงไปยังพื้นดาวได้แล้วนั่นเอง โดยใส่วนของ Brain ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลต่างๆเพื่อช่วยในการวิวัฒนาการ โดยใช้สมองของมนุษย์ในการประมวลผลและคิด บางรังอาจมีสมองมากถึง 1000 สมองใน Brain เดียว
ความด้อยปัญญาของอีทเตอร์
ถึงแม้ในรังจะมีส่วนที่เรียกว่า Brain อยู่แล้วมันจะรู้จักการเรียนรู้แต่ก็โง่มาก ยกตัวอย่างเช่นหากเราคิดแผ่นการใหม่มาถล่มพวกมันก็จะสามารถใช้ซ้ำไปมาไป 3-4 ครั้ง หลังจากนั้นพวกมันก็จะรับมือได้ แต่หากเราใช้แผนเดิมแต่เปลี่ยนขั้นตอนนิดหน่อยก็สามารถใช้แผนเดิมๆไปได้อีกนาน แต่ว่ารังแต่ละที่จะส่งข้อมูลหากันตลอด ดังนั้นการค้นคว้าอาวุธใหม่ๆอาจเป็นทางเลือดที่ไม่ดีนัก เพราะหากใช้บ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดอีทเตอร์รูปแบบใหม่ๆที่ยากจะรับมือได้ เช่นความผิดพลาดของอเมริกาเมื่อกว่า 100 ปีก่อนที่ใช้กองเรือถล่มอีทเตอร์เป็นว่าเล่น เลยก่อให้เกิดรูปแบบไททัลขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ด้อยมากในเรื่องความสามารถในการวางแผนการรบ พวกมันใช้แต่กองกำลังที่มีมากกว่าเข้าโจมตีราวกับสายน้ำเท่านั้น
ยกตัวอย่าง หากเราคิดแผนการขึ้นมาได้แผนหนึ่งเพื่อจะตบหัวอีทเตอร์ โดยเริ่มจากเรานั่งด่ามันก่อนสองชั่วโมง แล้วฉวยโอกาสตบหัวมัน เราก็จะใช้แผนนี้ได้อีก 3-4ครั้ง มันก็จะรู้ทัน เราก็แค่เปลี่ยนจากด่ามันสองชั่วโมงเป็นด่ามันสามสินาทีแล้วตบหัวมันแทน มันก็จะไม่สามารถโต้ตอบใดๆได้เลยหลังจากนั้นเราก็แค่เปลี่ยนขั้นตอนส่วนหน้าเล็กน้อยก็สามารถใช้แผนเดิมๆซ้ำได้ไปร้อยๆครั้ง
การรบภาคพื้นดิน
การรบภาคพื้นดินสำคัญหากดาวดวงนั้นๆถูกอีทเตอร์ฝังรังลงมาแล้ว การรบกับพวกมันนั้น หลักๆคือการใช้ B.U. ออกแนวหน้าและใช้กองรถถัง เรือรบและเครื่องบินสนับสนุน แต่ในบางสนามรบอาจมีรูปแบบฮันเตอร์และเลเซอร์ซึ่งจะสร้างความวุ่นวายได้พอสมควร แต่พวกฮันเตอร์ที่ลงมายังชั้นบรรยากาศแล้วไม่น่ากลัวเท่าบนอวกาศพวกมันเชื่องช้าลงมากทำให้กำจัดได้ง่าย และพวกเลเซอร์เองก็บนไม่ได้เช่นกัน ทำให้ใช้กองเรือถล่มมันได้สบาย การรบแบบตั้งแนวรับ การใช้กับระเบิดก็จัดเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เพราะมันจะลดจำนวนของพวกแทงค์ลงได้มากกว่าจะถึงจุดปะทะ
การเรียนเกี่ยวกับอีทเตอร์ในส่วนสำคัญๆก็มีประมาณนี้ล่ะ ในชั่วโมงหน้าเราจะสอนเรืองเกี่ยวกับ B.U. ของแต่ละประเทศกัน อย่าขาดเรียนซะล่ะ
อีทเตอร์ เป็นสิ่งมีชีวิตนอกโลกภายในเรื่อง โดยอีทเตอร์จะแบ่งออกเป็นสายพันธุ์ต่างๆและพวกอีทเตอร์ยังมีระบบวิวัฒนาการ แต่ว่าในเวลาเดียวกันพวกอีทเตอร์กลับด้อยปัญญาาอย่างมากกับเรื่องแผนการรบ โดยอีทเตอร์จะมุ่งเน้นจำนวนเข้าโจมตีศัตรู โดยอีทเตอร์ขนาดใหญ่ จะเกิดขึ้นภายในรัง โดยรังนั้นจัดเป็นอีทเตอร์รูปแบบหนึ่ง ที่มีชีวิตอยู่ได้แต่ในอวกาศ และเมื่อมันตกลงสู่โลกจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นสสารที่มีความแข็งใกล้เคียงเพชร มีความสูงถึง 5 กิโลเมตรและลึกลงใต้ดิน 8 กิโลเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 9 กิโลเมตร โดยภายในของรังจะมีอีทเตอร์อีกรูปแบบ ที่เรียกว่าราชินี ตัวราชินีทำหน้าที่ในการผลิตอีทเตอร์รูปแบบต่างๆแต่ไม่สามารถผลิตอีทเตอร์รูปแบบที่เรียกกันว่ามดงาน ซึ่งเป็นอีทเตอร์ที่พวกพระเอกในเรื่องได้พบในตอนที่1 ซึ่งประเภทนี้เกิดขึ้นจากการขยายสายพันธุ์โดยใช้มนุษย์เป็นร่างฟักตัวอ่อน มนุษย์ผู้หญิงหนึ่งคนผลิตได้ 8 รุ่น
อีทเตอร์ยังมีล่ามนุษย์เพื่อเอาสมองของมนุษย์มาใช้ในการประมวลผลรวมถึงรวบรวมข้อมูลต่างๆเพื่อใช้ในการวิวัฒนาการณ์ โดยแต่ละรูปแบบถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการรบที่เจาะจง เช่นรูปแบบฮันเตอร์อีทเตอร์รูปร่างคล้ายแมลง เป็นอีทเตอร์ที่เกิดมาเพื่อแก้ทาง B.U. โดยเฉพาะโดยรูปแบบอื่นๆประกอบไปด้วย
รูปแบบเลเซอร์ รูปร่างเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่สูง 22.5 เมตร
บนหลังมีคริสตัลขนาดยักษ์ติดอยู่ โดยเลเซอร์ของมันจัดเป็นรูปแบบของเลเซอร์ชีวภาพ ร่างกายของพวกมันค่อนข้างอ่อนแอร์ สามาถกำจัดได้ด้วยอาวุธมาตรฐานของ B.U. ทั้งมีดสั้น ดาบยาว หรือกระสุนขนาด 35 mm ขึ้นไป โดยรูปแบบเลเซอร์นั้นมุ่งเน้นที่การจมยานรบเสียมากกว่าจะยิงให้โดน B.U.
รูปแบบเทรน อีทเตอร์ที่มีความยาวถึง 500 เมตร เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เป็นอีทเตอร์ที่มีความเร็วสูงแต่ไม่สามารถปกป้องตัวมันเองได้ โดยหน้าที่ของพวกมันคือการพุ่งเป็นเส้นตรงไปยังดาวหรืออโคโลนี่เป้าหมาย โดยใช้ส่วนหัวที่มีรูปร่างเหมือนลูกศรแทงทะลุเข้าไป โดยภายในตัวของมันจะมีอีทเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่าโซลเยอร์อยู่ภายในมากถึงแปดร้อยตัว ตลอดลำตัวของมันมีเกราะหนาหุ้มตลอดทั้งตัวและยังวสามารถฝ่าชั้นบรรยากาศได้ด้วยตัวเอง สามารถกำจัดได้โดยใช้ปืนใหญ่ยานรบ จรวดมิสไซล์สำหรับยมยานรบ หรืออาวุธจากB.U. ก็คือปืนที่ใช้กระสุนขนาด 50 mm กระหน่ำยิ่งซ้ำที่จุดเดิมหลายๆครั้ง หรืออาจใช้ดาบแทงเข้าไปก็ได้แต่ไม่รุนแรงจนมันถึงชีวิต แต่ถ้าทำให้เกราะของมันแตกออกได้แม้เพียงเล็กน้อยแล้วก็ปล่อยให้มันลงไปที่ชั้นบรรยากาศปล่อยให้มันโดนเผาจากความร้อนไปเองก็ได้
อีทเตอร์รูปแบบโซลเยอร์ อีทเตอร์สูง 3 เมตร
อีทเตอร์ขนาดเล็กผู้ทำหน้าที่กวาดล้างพลเดินเท้าและทำการขยายพันธุ์อีทเตอร์รูปแบบมดงาน พวกมันเคลื่อนที่ได้ช้า แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็จัดว่าอึดขนาดที่ว่าปืนขนาดมาตรฐานเอาไม่อยู่ ต้องใช้ปืนกลสำหรับแบทเทิลสูทขนาด 20 mm เท่านั้น โดยรูปร่างของมันเป้นสิ่งมีชีวิตที่มีหกขา ท่อนบนดูคล้ายมนุษย์มีแขนสองข้าง มีดวงตาทั้งหมดห้าดวง และหากถูกมันจับได้จงรีบเอาปืนในมือระเบิดสมองตัวเองซะ เพราะท่านได้ตายไปแล้วเมื่อถูกมันเข้าถึงตัว
อีทเตอร์รูปแบบแทงค์ สูง 16 เมตร
อีทเตอร์ที่สามารถพบได้ในสงครามบนพื้นดิน มันสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วถึง 170-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยพวกมันมีหน้าที่ในการเคลียร์แนวกับระเบิด รถถัง สิ่งปลุกสร้าง ด้วยการวิ่งลุยดะแบบไม่หยุด โดยรูปร่างของมันเป็นสิ่งมีชีวิตทที่ดูคล้ายตัวหนอนแก้วแต่มีแค่สี่ข้า ที่หัวส่วนหน้าค่อนข้างแข็ง แต่ตลอดลำตัวนั้นกลับอ่อนนุ่มมาก สามารถกำจัดได้โดยใช้ แท่นปืนใหญ่ขนาด 105 mm ปืนใหญ่ขนาด 110-120 mm ของรถถัง ปืนใหญ่จากเรือรบ หรืออาจใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดจากบนฟ้าก็ได้ หรือจะใช้ B.U. ก็ได้เช่นกัน โดยใช้ปืนขนาดมาตรฐาน 35 mm ดาบยาวและมีด โดยพวกมันมีจุดอ่อนคือหากต้องเปลี่ยนทิศทางการวิ่งแล้วพวกมันจะะเชื่องช้ามากๆ ดังนั้นการล่อให้มันเปลี่ยนทิศทางคือตัวเลือดที่ดีที่สุดที่จะกำจัดมัน
อีทเตอร์รูปแบบเดสทรอยเยอร์ สูง 20 เมตร
อีทเตอร์ภาคพื้นดินที่ถูกสร้างมาเพื่อสังหาร B.U. ที่อยู่บนพื้นโดยเฉพาะด้วยแขนทั้งสองข้างที่ดูคล้ายใบมีด มันค่อนข้างเคลื่อนที่ได้เร็วพอสมควร ด้วยขาทั้งหกของมัน อีทเตอร์ประเภทนี้ร้ายการมากหากต้องสู้ระยะประชิดกับมัน ดังนั้นหากต้องประชิดก็จงเก็บมันให้ได้ในดาบเดียว เพราะด้านพลังแล้วถือว่ามันเหนือกว่า B.U. หลายเท่านัก โดยสามารถกำจัดมันได้ด้วยปืนใหญ่ตั้งแต่ขนาด 105 mm ขึ้นไป หรือใช้ปืนใหญ่จากเรือรบ การทิ้งระเบิด หรือ B.U. โดยอาวุธที่ควรใช้ในการต่อสู้กับมันคือปืนขนาด 35 mm ขึ้นไป มีดและดาบยาวไม่แนะนำ เว้นแต่จะเป็นทหารจากกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น
อีทเตอร์รูปแบบไททัล สูง 100 เมตร
อีทเตอร์สำหรับถล่มกองเรือบนชั้นบรรยากาศที่ส่วนหัวมีเกราะแข็งมากเป็นโล่บังตัวได้จนมิด โดยมันมีแขนสองข้างที่มีรูปร่างคล้ายใบมีดเหมือนกับเดสทรอยเยอร์ในการทำลายเรือ แต่มันเคลื่อนที่ได้ช้ามาก การกำจัดมันนั้นต้องใช้การทิ้งระเบิดจากเครื่องบินทิ้งระเบิดเท่านั้น หรือจะใช้ B.U. ติดตั้งอาวุธแบบทำลายยานรบก็ได้เช่นกันแต่ต้องยิงในส่วนของหลังเท่านั้น แต่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นสามารถล้มมันได้โดยใช้ B.U. กองดาบจำนวน 50 เครื่องในการรุมโจมตีมันมาแล้ว ถึงจะได้ไม่คุ้มเสียก็ตาม
รูปแบบราชินี สูง 40 เมตร
อีทเตอร์สุดอ่อนแอแม้แต่รูปแบบมดงานยังน่ากลัวกว่านิดหน่อย เพราะมันเคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้ แต่ด้วยสงครามภายในรังทำให้ถูกจำกัดอาวุธในการรบอย่างมาก โดยราชินีนั้นมีรูปลำตัวท่อนร่างยาวซึ่งเป็นส่วนของถุงเก็บไข่ และท่อนบนมีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่ไม่มีแขน ส่วนหัวเป็นกระดองแข็ง มันสามารถโจมตีได้ด้วรยางค์ที่ห้อยออกมาจากตัว และอย่าดูถูกรยางค์พวกนี้สามารถแทงทะลุเกราะของ B.U. ได้สบายๆ
ความรู้เกี่ยวกับสงครามภายในรัง
ในรังของพวกอีทเตอร์นั้นค่อนข้างแคบ ทำให้นำอาวุธไปได้จำกัดมาก โดยอาวุธที่นี่ยมใช้ในรังประกอบไปด้วย ปืนขนาด 35mm ดาบยาวและมีด โดยจะมี 1 เครื่องในทีมบุกรังใช้ปืนใหญ่อนุภาค และเครื่องที่เหลือทำหน้าที่คุ้มกันขณะเครื่องหลักทำการชาร์ตพลังงานปืนใหญ่ โดยภายในรังสิ่งที่น่ากลัวคือการมาต้อนรับของฝูงอีทเตอร์นานาชนิด ซึ่งในพื้นที่ที่ค่อนข้างแคบทำให้การโดนมันรุมโจมตีหรือโดนปิดล้อมนั้นเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ภายในรังประกอบไปด้วยสองส่วนคือ ห้องราชินี และส่วนที่เรียกว่า Brain หรือสมอง โดยในส่วนของ Brain นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเป็นรังที่สมบูรณ์แล้วหรือก็คือรังที่ลงไปยังพื้นดาวได้แล้วนั่นเอง โดยใส่วนของ Brain ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลต่างๆเพื่อช่วยในการวิวัฒนาการ โดยใช้สมองของมนุษย์ในการประมวลผลและคิด บางรังอาจมีสมองมากถึง 1000 สมองใน Brain เดียว
ความด้อยปัญญาของอีทเตอร์
ถึงแม้ในรังจะมีส่วนที่เรียกว่า Brain อยู่แล้วมันจะรู้จักการเรียนรู้แต่ก็โง่มาก ยกตัวอย่างเช่นหากเราคิดแผ่นการใหม่มาถล่มพวกมันก็จะสามารถใช้ซ้ำไปมาไป 3-4 ครั้ง หลังจากนั้นพวกมันก็จะรับมือได้ แต่หากเราใช้แผนเดิมแต่เปลี่ยนขั้นตอนนิดหน่อยก็สามารถใช้แผนเดิมๆไปได้อีกนาน แต่ว่ารังแต่ละที่จะส่งข้อมูลหากันตลอด ดังนั้นการค้นคว้าอาวุธใหม่ๆอาจเป็นทางเลือดที่ไม่ดีนัก เพราะหากใช้บ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดอีทเตอร์รูปแบบใหม่ๆที่ยากจะรับมือได้ เช่นความผิดพลาดของอเมริกาเมื่อกว่า 100 ปีก่อนที่ใช้กองเรือถล่มอีทเตอร์เป็นว่าเล่น เลยก่อให้เกิดรูปแบบไททัลขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ด้อยมากในเรื่องความสามารถในการวางแผนการรบ พวกมันใช้แต่กองกำลังที่มีมากกว่าเข้าโจมตีราวกับสายน้ำเท่านั้น
ยกตัวอย่าง หากเราคิดแผนการขึ้นมาได้แผนหนึ่งเพื่อจะตบหัวอีทเตอร์ โดยเริ่มจากเรานั่งด่ามันก่อนสองชั่วโมง แล้วฉวยโอกาสตบหัวมัน เราก็จะใช้แผนนี้ได้อีก 3-4ครั้ง มันก็จะรู้ทัน เราก็แค่เปลี่ยนจากด่ามันสองชั่วโมงเป็นด่ามันสามสินาทีแล้วตบหัวมันแทน มันก็จะไม่สามารถโต้ตอบใดๆได้เลยหลังจากนั้นเราก็แค่เปลี่ยนขั้นตอนส่วนหน้าเล็กน้อยก็สามารถใช้แผนเดิมๆซ้ำได้ไปร้อยๆครั้ง
การรบภาคพื้นดิน
การรบภาคพื้นดินสำคัญหากดาวดวงนั้นๆถูกอีทเตอร์ฝังรังลงมาแล้ว การรบกับพวกมันนั้น หลักๆคือการใช้ B.U. ออกแนวหน้าและใช้กองรถถัง เรือรบและเครื่องบินสนับสนุน แต่ในบางสนามรบอาจมีรูปแบบฮันเตอร์และเลเซอร์ซึ่งจะสร้างความวุ่นวายได้พอสมควร แต่พวกฮันเตอร์ที่ลงมายังชั้นบรรยากาศแล้วไม่น่ากลัวเท่าบนอวกาศพวกมันเชื่องช้าลงมากทำให้กำจัดได้ง่าย และพวกเลเซอร์เองก็บนไม่ได้เช่นกัน ทำให้ใช้กองเรือถล่มมันได้สบาย การรบแบบตั้งแนวรับ การใช้กับระเบิดก็จัดเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เพราะมันจะลดจำนวนของพวกแทงค์ลงได้มากกว่าจะถึงจุดปะทะ
การเรียนเกี่ยวกับอีทเตอร์ในส่วนสำคัญๆก็มีประมาณนี้ล่ะ ในชั่วโมงหน้าเราจะสอนเรืองเกี่ยวกับ B.U. ของแต่ละประเทศกัน อย่าขาดเรียนซะล่ะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-2-21 15:58
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-2-21 17:24
Valkyrie ชั่วโรงเรียนเรื่องอีทเตอร์