ต่อไปนี้ คุณ(ผู้อ่าน)คือตัวเอกของเรื่องนี้
สวัสดีครับ ผมชื่อ [ชื่อของคนอ่าน]คุณเคยคิดมั่งไหมว่าการเริ่มต้นอะไรบางอย่างนั้นมันจะว่ายากมันก็ยากแต่จะว่ามันง่ายมันก็ง่าย หลังจากที่ผมเรียนมัธยมต้นจบผมก็เลือกที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายของรัฐแห่งหนึ่ง โดยตัวโรงเรียนนั้นตั้งอยู่บนเนินที่ค่อนข้างสูงพอตัว ทำให้ในยามเช้าผมต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาลเพื่อที่จะมาให้ถึงโรงเรียน แต่ว่านะช่วงเวลาวัยรุ่นมัธยมปลายของผมนั้นแทบจะบอกว่าผ่านมากว่าหนึ่งปี ผมก็ยังไม่เคยได้พบช่วงเวลาสีกุหลาบกับเขาเลยจริงๆ ทำไมตัวเรามันทำให้ชีวิตเสียของงี้ว้า
“ตัวเหม่ออะไรอยู่ย๊ะ......”
เสียงยียวนของยายตัวแสบเพื่อนร่วมห้องดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือหนักๆฟาดเข้าใส่หลังผมอย่างจัง ซึ่งมันเล่นเอาผมแทบจะหน้าฟาดใส่โต๊ะเรียนไปเลยล่ะ
“เธอนี่นะ ซาเอกิ หัดเบาๆมือหน่อยเซ่ ฉันเองก็เจ็บเป็นนะ”ผมบ่นใส่เธอ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวเองก็ยังคงฉีกยิ้มกว้าง ผมจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวผู้มีเรือนผมสีดำถูกตัดสั้นดูเหมือนพวกทอมบอย ถ้าจะให้พูดแล้วเธอคนนี้ก็จัดว่าเป็นสาวสวยคนหนึ่งในชั้นเรียนเลยล่ะน่ะ โดยปีหนึ่งนั้นเธอไว้ผมยาวสวย แต่หลังจากได้ยินว่าเธอโดนหหนุ่มที่หลงรักหักอกก็เลยตัดผมซะงั้น
“นี่ๆ พักแล้วนะ นายจะไปไหนเป็นพิเศษ รึเปล่า ฉันว่าจะไปกินข้าวที่โรงอาหารน่ะ นายจะไปไหนเป็นพิเศษรึเปล่า”
[จงเลือกคำตอบ
“ฉันว่าจะไปห้องสมุดซักหน่อย”
“อื้ม ก็ดีเหมือนกัน แต่เธอเลี้ยงนะ”
“ฉันว่าจะไปเดินเล่นซักหน่อย”
“ไม่ล่ะฉันอยากงีบหน่อยน่ะ”]
..........................................................................................................................................................
รูทที่1
“ฉันว่าจะไปห้องสมุดซักหน่อย”
“อ่อเหรอ”
เธอตอบพลางหรี่ตามองผมแล้วค่อยๆขยับเข้ามากระซิบข้างหูผม
“ในห้องสมุดโรงเรียนเรามีหนังสืออย่างว่าอยู่สินะ”
“มันจะไปมีได้ไงเล่า ฉันจะไปนั่งสงบๆที่ห้องสมุดเฉยๆหรอกน่า”
“อุหวา ฟังพูดเอื่อยเฉื่อยซะจริง”
“ยุ่งน่า!!”
ผมพูดพลางรีบเดินชิ่งออกจากห้องเรียนมาทันที่
และเมื่อผมมาถึงห้องสมุดของโรงเรียนก็จัดแจงเดินหาหนังสือซักเล่มเอามาวางกางทำฟอมอ่านหนังสือเมื่อจะได้แอบงีบสบายๆในห้องสมุด ในระหว่างนั้นเองที่ผมพบกับเด็กสาวร่างเล็กผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลังคนหนึ่งกำลังพยายามจะเอื้อมหยิบหนังสือจากชั้นวางหนังสือ โดยในแขนซ้ายของเธอนั้นยังมีหนังสือกองสูงท่วมหัวอยู่ด้วย
[ “เข้าไปช่วยเธอ”“หยิบหนังสือแล้วไปนั่งที่”]
..........................................................................................................................................................
สำหรับคนเลือกตอบข้อ1 “เข้าไปช่วยเธอ”
ผมเดินตรงเข้าไปช่วยเธอหยิบหนังสือเล่มนั้นส่งให้เธอ
“อะ เอ่อ คะ คะ คือว่า ขะ ขอบคุณนะคะ”
เธอพูดพลางรับหนังสือจากมือของผมไปแล้วรีบเดินจากไปทันที ส่วนผมเองก็หาหนังสือซักเล่มต่อ และเมื่อได้เล่มที่ต้องการก็จัดแจ้งกางมันออกแล้วก็แอบงีบยาวจนหมดเวลาพักเที่ยง
..........................................................................................................................................................สำหรับคนเลือกตอบข้อ2 “หยิบหนังสือแล้วไปนั่งที่”
สายตาของผมมาสดุดกับหนังสือเล่มหนึ่งเข้านั้นคือ “รวมเรื่องเล่าขำขัน” ผมหยิบมันแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือที่ถูกจัดวางเอาไว้ ผมกางมันออกแต่ก็อดไม่ได้ที่จะอ่านมันล่ะนะ ผมเริ่มกวาดตาอ่านตัวหนังสือในเล่มแล้วก็เริ่มที่จะอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา และในระหว่างที่ผมกำลังนั่งหัวเราะอยู่นั้นผมก็โดนฝ่ามือของเด็กสาวคนหนึ่งซัดเข้าให้เต็มหัวจนหน้าฟาดโต๊ะ และเมื่อผมหันไปก็พบกับเด็กสาวผมผู้มีเรือนผมสีดำยาวแววตาสีดำของเธอชวนขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
“ที่นี่ห้องสมุดนะ เงียบเสียงหน่อยสิ”เธอพูดเสียงเย็นยาวกับน้ำแข็งมันเล่นเอาผมหนาวไปทั้งตัวเลยล่ะนะ ส่วนตัวผมก็ได้แต่รีบหยักหน้ารับและนั่งอ่านมันแบบเงียบๆแทนจนมดเวลาพักเที่ยง
..........................................................................................................................................................
รูทที่2
“อื้ม ก็ดีเหมือนกัน แต่เธอเลี้ยงนะ”
“จะบ้าเหรอ ทำไมฉันต้องเลี้ยงนายด้วยล่ะ”
“ล้อเล่นน่าๆ”
“งั้นก็ดีไป ดังนั้นนายจงมาเลี้ยงข้าวเที่ยงฉันซะ!!”
“คร๊าบๆ”
ผมตอบพลางเดินไปโรงอาหารแบบคนหมดแรงใกล้ตาย แต่เมื่อมาถึงผมแทบจะหันหลังกลับเมื่อเจอจำนวนคนที่มากมายมหาศาล
“งั้นเราเปลี่ยนจากกินข้าวไปกินขนมปังกันเหอะ”
ยายซาเอกิอยู่พลางเปลี่ยนทิศทางการเดินทันที ส่วนผมก็ได้แต่พยักหน้าตอบ และหลังจากนั้นผมก็ต้องพยายามฝ่าฝูงนักเรียนผู้หิวกระหายอดอยากมากจากไหนไม่รู้ที่มาแก่งแย่งเบียดเสียดกันเพื่อชิงขนมปังที่มีขายอย่างจำกัด
หลังจากได้ขนมปังตามเป้าหมายมาแล้วพวกเราก็เดินหลบออกจากโรงอาหารที่มีสภาพใกล้เคียงสนามรบออกมาเพื่อหาที่นั่งกินกันแบบเงียบๆ
“เฮ่อ โรงเรียนเราเนี่ยการต่อสู้เพื่ออาหารกลางวันมันดุเดือดขึ้นทุกวันจังน้า”
“อืม เห็นด้วยเลย”
ผมตอบเธอพลางเคี้ยวขนมปังไปด้วย
“นี่...... นายเคยคิดมะ ว่าทำไมเราต้องมานั่งเรียนมันตลอดทั้งวันแบบนี้ด้วยนะ เรื่องบางอย่างที่เรียนไปมันก็ไม่ได้ใช้ซะด้วยสิ”
“ก็น้า มันเป็นหลักสูตรบังคับนี่นะ ไม่อยากจะเรียนแต่มันก้ต้องเรียนนั่นแหละน่า”
“อุหวา ตอบได้น่าเบื่อมากเลยอ่ะ”
“เรื่องของฉันน่า!!”
หลังจากที่กินกันเสร็จพวกเราก็ตรงดิ่งกลับห้องไปรวมกลุ่มกับพวกที่เหลือเพื่อคุยกันต่ออย่างสนุกสนานจนหมดเวลาพัก
..........................................................................................................................................................
รูทที่3
“ฉันว่าจะไปเดินเล่นซักหน่อย”
“นายนี่นะ ชอบทำตัวเอื่อยเฉื่อยซะจริง แต่ก็เอาเถอะ ก็มันเป็นเครื่องหมายการค้าของนายนี่นะ”
“เธอหมายความว่ายังไงน่ะ”“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”
เธอตอบพลางเดินโบกมือออกไปจากห้อง ส่วนผมเองก็ลุกจากที่นั่งแล้วออกเดินไปทันที แต่เราจะไปไหนดีหว่า
[“ไปเดินเล่นแถวโรงยิม”“ไปแถวสระว่ายน้ำในร่ม]
..........................................................................................................................................................
สำหรับคนเลือกตอบ“ไปเดินเล่นแถวโรงยิม”
ผมเองก็อยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้มาแล้วหนึ่งปี แต่ก็อดคิดไม่ได้เลยจริงๆว่าโรงยิมมันช่างเป็นสถานที่ที่หน้ากลัวเสียจริง เพราะในเวลาพักนั้นมันทั้งเงียบและไร้ผู้คนจนน่าวังเวง
ในระหว่างที่เดินผมเดินไปมาอยู่แถวนั้นผมก็ได้ยินเสียงของเด็กสาวคนหนึ่งกำลังร้องเพลงดังขึ้น ยะ ยะ อย่าบอกนะว่านั่นผีน่ะ แต่ก็นะอันมนุษย์เรานั้นมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นแรงดึงดูดอยู่แล้ว มันอดไม่ได้ที่จะแอบตามเสียงไป ผมเดินตามไปอย่างกล้าๆกลัวๆ แล้วเมื่อผมแอบชะโงกหน้าเข้าไปในโรงยิมผมก็พบกับ เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีทองยาวกำลังร้องเพลงอยู่กลางโยงยิมที่ไม่มีใครอยู่เลย เสียงของเธอไพเราะน่าฟังจนอดเคลิ้มไม่ได้ แต่แล้วจู่ๆเสียงนั้นก็หยุดลงแล้วเธอก็หันมาทางผม ส่วนผมก็รีบหลบทันที ว่าแต่ตูจะหลบทำไมล่ะเนี่ย
“นะ นั่นใครน่ะ มีใครอยู่ตรงนั้นรึเปล่า”
เธอร้องถาม ส่วนผมที่ไม่รู้จะตอบกลับไปยังไงก็เลยรีบชิ่งออกมาจากที่นั่นและตรงกลับห้องไปก่อน
..........................................................................................................................................................สำหรับคนเลือกตอบ“ไปแถวสระว่ายน้ำในร่ม”
ผมเดินตรงมายังสระว่ายน้ำในร่ม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของชมรมว่ายน้ำหญิงประจำโรงเรียน ระหว่างที่ผมจะเดินเข้าไปด้านในก็เห็นเงาร่างของเด็กสาวคนหนึ่งเดินไปยังด้านหลังของของสระ ผมจึงเดินตามไปทันที และเมื่อพบชะโมกหน้าแอบดูว่าเธอมาทำอะไรแถวนี้ ผมก็พบกับเด็กสาวผู้มีเรือนผมสีเทาหม่นที่ถูกรวบเอาไว้เป็นผมห้างม้าคนหนึ่งกำลังนั่งทำอะไรบางอย่าง
“เฮ่ นี่เป็นอะไรรึเปล่า”
ผมพูดพลางเดินออกไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ มีแมวตัวหนึ่งวิ่งหนีไปทันที ส่วนเด็กสาวคนนั้นหันมาทางผมพลางมองผมอย่างไม่พอใจแล้วจึงสะบัดหน้าเดินหนีไปทันที
ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะครับว่ามาเล่นกับแมวน่ะ โธ่
หลังจากนั้นผมก็ไปยืนดูพวกสาวๆซ้อมว่ายน้ำกัน และในระหว่างนั้นสายตาของผมก็ไปสะดุดกับโจทย์เก่า เด็กสาวที่เล่นกับแมวเมื่อกี้ซึ่งเธออยู่ในชุดว่ายน้ำของทางโรงเรียน เธอมองมายังจุดที่มีหนุ่มๆกำลังมามุงดูสาวๆชมรมว่ายน้ำอย่างไม่พอใจ และเมื่อสายตาของเธอมาสะดุดที่ผมเข้าตอนนั้นเองที่เธอแทบปล่อยออร่าสีดำออกมาจากตัวได้เลยล่ะนะ
..........................................................................................................................................................
รูทที่4
“ไม่ล่ะฉันอยากงีบหน่อยน่ะ”
“เห~”
เธอร้องขึ้นพลางหรี่ตาแล้วจึงมากระซิบข้างหูผม
“เมื่อคืนดูหนังอย่างว่าเยอะไปล่ะซี่”
“จะบ้าเหรอ มันจะใช่ได้ไงเล่า”
“หรือว่าอ่านหนังสืออย่างมากไป”
เธอกระซิบข้างหูผมอีกครั้ง
“ไม่ใช่ว้อย!! จะไปกินข้าวก็รีบๆไปได้แล้ว!!!”
ผมตะโกนไล่เธอ ส่วนเจ้าตัวได้แต่หัวเราะคิกคักพลางเดินออกไปจากห้อง
หลังจากนั้นผมจึงฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียน และในขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆอยู่นั้นก็มีมือที่แสนอ่อนนุ่มมาวางบนแผ่นหลังของผมพร้อมเสียงหวานดังขึ้น
“........ เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ”
ผมค่อยๆโงหัวขึ้นอย่างช้าๆพลางมองไปทางต้นเสียง และสายตาของผมก็ผสานเข้ากับดวงตาสีมรกตของเด็กสาวผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลยาว ผมสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับร้องขึ้น
“มะ มะ ไม่เป็นไร แค่ง่วงน่ะ อายาซากิไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ”
ผมตอบด้วยความตกใจ
“เหรอ แต่ถ้าเป็นอะไรอย่าฝืนนะจ๊ะ เดี๋ยวฉันจะได้บอกอาจารย์ให้”
“เธอเนี่ย เอาใจใส่คนอื่นจัเลยนะ”
“ก็แหม หน้าที่ของฉันที่เป็นหัวหน้าห้องนี่นา”
“แหม แต่ก็นะ เธอนี่อ่อนโยนจังเนอะ”
“อะไรกันจู่ๆก็พูดแบบนั้น จะจีบฉันงั้นเหรอ”
“เปล่าๆ ไม่ใช่อย่างนั้น”
เจ้าตัวพอได้ยินคำตอบผมก็หัวเราะคิกคักแล้วจึงเดินไปนั่งที่ของเธอตามปกติ ส่วนผมก็ได้แต่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะเพื่อชาร์จพลังงานจนหมดช่วงพักกลางวัน
..........................................................................................................................................................
หลังจากเลิกเรียนผมก็ตรงดิ่งกลับบ้านมาทันที หลังจากกินข้าวเย็นกับครอบครัวและอาบน้ำเสร็จแล้วผมก็ได้แต่นอนกลิ้งไปมาอยู่บนห้องของตัวเอง และในตอนนั้นเองที่ผมนึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันขึ้นมาซะงั้น
เฮ่อ วันนี้มันอะไรกันว้า รู้สึกเหนื่อยๆยังไงไม่รู้ หลังจากนั้นผมก็ค่อยๆหลับไปทั้งอย่างนั้นจนถึงเช้า