วันนี้เป็นวันที่ 23 กุมภาพันธ์
เอ... แล้วมันสำคัญยังไงกันน้า?
หากทุกท่านยังจำกันได้ ในตอนแรกของเรื่องนี้นั้นกล่าวไว้ว่าเป็นวันเกิดของใครบางคน
แล้วใครบางคนที่ว่านี่เป็นใครกันนะ?
เอาเถอะ ไปดูกันดีกว่า
...............................................................................................................................
หญิงสาวผมสีทองมัดผมหางม้าด้วยโบสีดำ มีผมม้วนเป็นรูปขนมครัวซองต์อยู่ทั้งสองข้าง แล้วข้างบนก็มีผมที่ชี้เป็นเสาอากาศขัดแรงโน้มถ่วงอยู่สองจุด
เธออยู่ในชุดสีดำ ทั้งเสื้อแขนยาวและกระโปรงที่ยาวเรี่ยพื้น ที่หน้าอกมีเข็มกลัดทองคำประดับด้วยมรกตติดไว้...
แน่นอนว่าเธอคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูน่าร์นั่นเอง ว่าแต่เธอกำลังทำอะไรอยู่นะ?
ลูน่าร์นั่งอยู่บนเตียงในห้อง ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกตื่นเต้นกับอะไรบางอย่างอยู่ แต่เธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วเอามือก่ายหน้าผาก ซักพักเธอก็ลุกขึ้นมานั่งอีก
ดูเหมือนว่าเธอจะทำอย่างนี้อยู่หลายรอบทีเดียว
"วันนี้วันเกิดสินะ รู้สึกตื่นเต้นจัง แต่ว่า..." เธอคิดแล้วสีหน้าก็ดูเศร้าลง "แต่ว่า ทำไมมันรู้สึกเหงายังไงก็ไม่รู้..." แล้วเธอก็กอดหน้าอกแน่น
จากนั้นเธอก็ล้มตัวลงนอนทั้งๆที่ยังกอดอกแน่นนั่นแหละ!!!
...............................................................................................................................
อามาร่าจ้องมองเฮลิเบลอย่างแปลกใจ จากนั้นเธอจึงถามเพื่อนของเธอว่า "นี่เธอ วันนี้เธอไม่สบายรึเปล่าเนี่ย?"
เฮลิเบลที่ยิ้มอย่างมีความสุขโดยไม่มีสาเหตุได้ยินดังนั้น เธอก็ตอบกลับมาพร้อมทั้งหน้ายิ้มๆนั้นว่า "ไม่รู้สิ ไม่รู้ทำไมวันนี้มันรู้สึกว่ามีความสุขอย่างบอกไม่ถูกน่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้อามาร่าที่เห็นรอยยิ้มของเธอจนรู้สึกไม่สบายเท่าไหร่ อามาร่าได้แต่คิดว่า "นี่เพื่อนเราเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย? หรือว่าผีเข้า?" แล้วเธอก็คิดต่อไปว่า "ช่างเถอะ อย่างนี้เดี๋ยวก็คงเป็นปกติเองแหละ ถ้าพรุ่งนี้ไม่หายค่อยพาไปหาหมอแล้วกัน" แล้วเธอก็เดินจากไปปล่อยให้เพื่อนของเธอทำหน้ามีความสุขอยู่อย่างนั้น...
..............................................................................................................................
"ว่ากันว่าเมื่อถึงวันสำคัญในชีวิตที่ปีเดียวมีแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น คนเราจะเกิดอาการว้าเหว่ขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางคนที่เกิดอาการแบบสุดโต่ง"
คนคนหนึ่งกล่าวไว้
..............................................................................................................................
"ว่าแต่ 'คนคนนั้น' นี่มันใครกันคะ?" เสียงของนันน่าร์ดังขึ้นทำลายบรรยากาศที่ทุกคน(ก็มีแค่สามสี่คนนั้นแหละ)ตั้งใจฟังหนังสือที่ลิซ่าอ่านอย่างจดจ่อ
แต่คำถามของเธอมันก็น่าสนใจจริงๆนะ ทุกคนในที่นั้น ซึ่งก็มี สเตลล่า ลิซ่า และกันยา ได้คิดตรงกัน
"เธอว่าไงลิซ่า?" สเตลล่าหันไปทางลิซ่า ลิซ่าก็ส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างแหยๆ แล้วตอบว่า "ฉันก็ไม่ทราบค่ะ"
นันน่าร์เห็นดังนั้นก็พูดขึ้นว่า "นั่นสินะคะ ที่เขาบอกว่า ใครว่า ก็เขาว่า เขาว่ากันมายังไงก็ว่ากันไปตามนั้น" แล้วเธอก็พยักหน้าแบบผู้ที่รู้ซึ้งถึงถ้อยความนั้น
แน่นอนว่าไม่มีใครเข้าใจกับเธอหรอก!!!
กันยาที่นิ่งเงียบมาตลอดก็ได้แต่มองไปที่นันน่าร์ที่พยักหน้าอยู่อย่างต่อเนื่องอย่างสนใจ แล้วเธอก็ยิ้ม "นั่นสินะคะ" เธอพูด
ทั้งสี่คนก็ยังคงสนธนาแบบไม่ค่อยเข้าใจที่ไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อใดต่อไป...
...............................................................................................................................
เออ...ทำไมรู้สึกว่าเรื่องมันมั่วอย่างนี้นะ? แต่ก็ขอให้อ่านต่อไปละกัน...
ที่ปราสาทกลางป่าที่เป็นบ้านของลูน่าร์
ที่ห้องโถงซึ่งใช้เป็นที่นั่งเล่นของท่านเคาท์ บัดนี้ ท่านเคาท์ก็คงนั่งเล่นอยู่ที่เก้าอี้ตัวโปรด
เก้าอี้ตัวที่ว่านี่มีที่พิงหลังยาวสูงไปจนเกือบถึงเพดานห้องโถง
ที่ข้างๆท่านเคาท์ก็มีผู้หญิงในชุดสาวใช้ยืนอยู่ ใช่แล้ว มิลล่านั่นเอง
"มิลล่า" ท่านเคาท์เรียก "คะ ท่านพ่อ?" มิลล่าตอบรับและถามต่อทันที เพราะพ่อของเธอต้องมีอะไรแน่
"วันนี้นี่..." ท่านเคาท์ยังไม่ทันจะพูดจบ มิลล่าก็ยิ้มแล้วชิงตอบก่อนว่า "ใช่แล้วค่ะ วันเกิดของลูน่าร์ไงคะ"
ท่านเคาท์มองลูกสาวของตัวเองที่ยิ้มตอบกลับมา รอยยิ้มของมิลล่าเป็นรอยยิ้มของคนเป็นแม่ที่ดีใจกับการเติบโตของลูกของตน ซึ่งท่านเคาท์เห็นแล้วก็พาลไปนึกถึงคนคนหนึ่งเข้า แล้วท่านเคาท์ก็ยิ้ม "นี่ลูกสาวของเรา จากวันนั้นยังเป็นเด็กตัวเล็กอยู่เลย ตอนนี้โตจนมีลูกสาวตัวโตซะแล้ว เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ" เขาคิด
มิลล่าเห็นเช่นนั้นก็ถามว่า "มีอะไรคะ?" ท่านเคาท์ที่ยิ้มอยู่ก็ตอบไปว่า "เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดว่าเวลานี้มันผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ" ท่านเคาท์ตอบอย่างที่คิด แค่ตัดช่วงแรกออกไปแค่นั้น มิลล่าเองก็รู้ว่าพ่อของเธอไม่ได้คิดแค่นั้นแน่ แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร "งั้นหรือคะ" เธอก็เออๆออๆตามไป
"ปีนี้จะให้อะไรลูน่าร์ดีน้า?" ท่านเค้าพูดขึ้น แต่มิลล่าที่ได้ยินดังนั้นก็รีบทักท้วงขึ้นทันทีว่า "อย่าดีกว่าค่ะท่านพ่อ!!!" แต่ที่เธอทักท้วงนั้นหาใช่เพราะอื่นใด หากแต่เป็นห่วงพ่อของเธอเอง
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
หลังจากที่ลูน่าร์แทงเฮลิออสไปในตอนนั้น เธอก็ไม่เคยรับของขวัญจากท่านเคาท์อีกเลย เพราะเธอคิดว่าทุกอย่างเป็นเพราะของขวัญที่ท่านเคาท์มอบให้
มิลล่าเองก็เห็นลูน่าร์ปฏิเสธความปรารถนาดีจากท่านเคาท์แล้วก็อดเป็นห่วงจิตใจของเขาไม่ได้ เพราะแม้แต่เธอเองถ้าถูกปฏิเสธซึ่งหน้าอย่างนั้นคง...
"ไม่เป็นไรหรอก" เสียงของท่านเคาท์ดังขึ้นข้างหน้ามิลล่า ตอนนี้ท่านเคาท์มาอยู่ตรงข้างหน้าของเธอแล้ว "แต่ว่า..." มิลล่าพูดทั้งหน้าเศร้า ท่านเคาท์เห็นดังนั้นก็เลยเอามือลูบหัวอย่างอ่อนโยน "บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ" เขายิ้มให้มิลล่า มิลล่าเงยหน้ามองพ่อแล้วก็ทำท่าจะร้องไห้ "ท่านพ่อ ฮืออออ" มิลล่าปล่อยโฮออกมาเต็มที่พร้อมกับโผเข้ากอดท่านเคาท์ ท่านเคาท์เองก็โอบกอดมิลล่าเอาไว้เหมือนกับเมื่อตอนที่มิลล่ายังเด็ก
แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ความจริงที่ว่าสำหรับท่านเคาท์แล้ว มิลล่าก็ยังคงเป็นลูกสาวตัวเล็กๆอยู่เสมอนั้นก็ยังคงไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย...
แต่กับหลานสาว ความจริงแล้วท่านเคาท์ก็เอ็นดูเธอมาก แต่จู่ๆหลานกลับปฏิเสธความปรารถนาดีนั้นซะงั้น
ยิ่งโตขึ้น จากที่เคยรัก เคยชอบ ก็กลายมาเป็นเกลียดขี้หน้ากัน แน่นอนว่าเฉพาะหลานที่คิดอย่างนั้น
ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม่ว่าลูน่าร์จะมีท่าทีต่อเขายังไง ท่านเคาท์ก็ยังคงรักและหวังดีต่อหลานคนนี้เสมอ
ตอนนี้หลานคนนี้ก็อายุได้ 16 ปีแล้ว
.............................................................................................................
"วันนี้วันเกิดลูน่าร์สินะคะ" นันน่าร์พูดขึ้น หลังจากที่ได้ยินสเตลล่าบอก "เอ งั้นเรามาจัดงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดกันมั้ยคะ?" ลิซ่าเสนอความคิด "ปาร์ตี้?" กันยาสงสัย สเตลล่าเห็นดังนั้นก็บอกไปว่า "ก็ประมาณงานเลี้ยงนั่นแหละ" "อ้อ" กันยาจึงเข้าใจได้ทันที
และแล้วเมื่อตัดสินใจกันได้ ทุกคนก็แยกย้ายไปหาอุปกรณ์มาจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ โดยเลือกสนามหญ้าที่อยู่ตรงหน้าโรงฝึกเป็นสถานที่จัด
ลูน่าร์ก็ได้มาที่ปาร์ตี้นี้และได้ร่วมสนุกกับทุกคน จนกระทั่งถึงเวลาดึก เธอก็ขอตัวกลับ
เมื่อเธอกลับมาที่ปราสาท ก็พบว่าห้องโถงไฟยังติดอยู่
ที่ใช้คำว่าติดเพราะว่าที่ปราสาทแห่งนี้ใช้แสงสว่างจากเทียนที่ไม่มีวันหมด จะติดหรือจะดับได้ตามแต่ผู้ใช้ต้องการ
หากแต่ยังติดอยู่ในส่วนที่เธอเข้ามาเท่านั้น และสุดปลายทางก็มีคนยืนอยู่
คนที่ยืนอยู๋นั้นเป็นคนที่เธอเห็นแล้วรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที
ใช่แล้วท่านเคาท์นั่นเอง
"อายุ 16 แล้วสินะลูน่าร์" เสียงราบเรียบดังขึ้นจากสุดทาง ซึ่งผิดกับปกติที่จะเป็นเสียงแบบผู้ชายที่ชอบทำอะไรตลกๆมากกว่า แต่ลูน่าร์ก็ตอบๆไปว่า "ก็ใช่น่ะสิ ยังอุตส่าห์จำได้อีกนะ" เธอตอบอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ลึกๆแล้วกลับดีใจที่ท่านเคาท์จำวันเกิดได้
ที่สุดทางนั้นท่านเคาท์ยิ้มเล็กน้อย ลูน่าร์ที่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครอื่นนอกจากท่านเคาท์ก็ถามว่า "แล้วท่านแม่ล่ะ?" "มิลล่านอนแล้วล่ะ" "เหรอ? งั้นฉันไปก่อนนอนก่อนล่ะ" "เดี๋ยว!!" ท่านเคาท์เรียกลูน่าร์เอาไว้ "ฉันมีอะไรจะให้เป็นของขวัญ" แล้วเขาก็เดินลงมาอย่างช้าๆจนถึงหน้าลูน่าร์
ท่านเคาท์หยิบบางอย่างออกมาจากข้างหลังที่ตนได้แอบมันไว้มาตลอด มันคือตุ๊กตารูปกระต่ายน่ารักตัวหนึ่งนั่นเอง
ลูน่าร์มองไปที่ตุ๊กตาตัวนั้นแล้วเธอก็พูดอย่างไม่พอใจว่า "อะไรกัน ตัวนี้อีกแล้ว บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบน่ะ" เธอรีบพูดปฏิเสธไปทันที
"ทั้งๆที่เมื่อก่อนบอกว่าชอบแท้ๆ..." ท่านเคาท์พูดขึ้นเบาๆ แต่ลูน่าร์ก็ยังได้ยิน เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ถ้าเธอทำให้ตาของเธอต้องเสียใจเพราะเธอ เพราะถึงแม้เธอจะไม่ชอบเขา แต่เธอก็ไม่ได้เกลียดจริงๆหรอก เธอมองตุ๊กตาตัวนั้นแล้วนึกถึงวันเก่าๆ
"ท่านตาๆ ลูน่าร์อยากได้ตัวนั้นจัง"
"เอ้า เหรอ งั้นเดี๋ยวตาซึ้อให้แล้วกัน"
"ขอบคุณค่ะ หนูรักท่านตาที่สุดเลย"
"ท่านพ่ออย่าตามใจลูน่าร์สิคะ"
"ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่ตุ๊กตาตัวเดียวเองน่า"
"งั้นก็ช่างเถอะค่ะ นี่ลูน่าร์ หนูต้องรักท่านตามากๆนะ เข้าใจมั้ย?"
"ค่ะ ท่านแม่ หนูจะรักท่านตาให้มากเลยค่ะ"
"งั้นก็ดีแล้วล่ะ"
"นั่นสินะ ที่จริงเราก็ไม่ได้เกลียดอะไรเขาหรอก แต่ว่าตอนนั้นมัน ถ้าเราไม่ได้ตุ๊กตานั่นล่ะก็ เฮลี่คงไม่..." ลูน่าร์พยายามไม่นึกถึงอดีตที่เธอก็ไม่ค่อยรู้สึกสบายใจ แต่มันก็คิดไปเอง
"คนผิดจริงๆไม่ใช่ท่านตาหรอก เรารู้มาตลอด คนที่ผิดในตอนนั้นคือเรา แต่ว่า... เราก็แค่ต้องการโยนความผิดให้คนอื่นเท่านั้นเอง..." ยิ่งนึกเธอก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นความจริง "ถึงแม้จะบอกตอนนี้อาจจะนานไปหน่อย แต่มันก็สมควรล่ะ" แล้วเธอก็ตัดสินใจบางอย่าง
"ท่านตา ลูน่าร์ขอโทษ!!!"
"!!!" ท่านเคาท์เองก็มองไปที่หลานด้วยความตกใจ
"ในตอนนั้นหนูก็แค่ต้องการโยนความผิดให้คนอื่นเท่านั้นเอง หนูขอโทษ" แล้วเธอก็ร้องไห้อยู่ตรงนั้น
อาจจะดูเหมือนว่าเป็นการเสแสร้ง แต่ที่เธอร้องนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่สำนึกผิดเลย ท่านเคาท์เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มแล้วเข้าไปหา "ก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย แต่ร้องซะขนาดนี้เลย อีกอย่างเรื่องมันก็นานมาแล้ว ตอนนั้นเธอเองก็ยังเป็นเด็กนี่นา" ท่านเคาท์พูดขึ้นพลางลูบหัวของลูน่าร์อย่างเอ็นดู "ท่านตา" ลูน่าร์มองมาที่ชายคนหนึ่งซึ่งตลอดหลายปีมานี้เธอเห็นเป็นเพียงตาแก่บ้าบอ แต่ในตอนนี้เธอเห็นเขาในฐานะตาเหมือนกับตอนที่เธอยังตัวเล็ก
..............................................................................................................................
"อ้าว เธอหายแล้วเหรอ?" อามาร่าถามเพื่อนของเธอ เฮลิเบลก็ถามกลับไปว่า "หืมม? ฉันเป็นอะไรไปเหรอ?" "ก็ที่เธอ... เฮ้อ ช่างเถอะ กลับมาเป็นปกติก็ดีแล้วล่ะ งั้นราตรีสวัสดิ์นะ" "อื้ม ราตรีสวัสดิ์" เฮลิเบลตอบกลับ แต่ก็ยังงงๆกับอามาร่าว่าหมายความว่าอย่างไร แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แล้วสองสาวก็ปิดไฟนอน
.............................................................................................................................
ดูเหมือนว่าจะมีคนถูกลืมว่าเกิดวันที่ 23 กุมภาพันธ์อยู่แฮะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขออภัยจริงๆครับ พอดีแต่งด้วยความเบลอๆ มันเลยออกมางงๆอย่างที่เห็นนั่นแหละ แต่ปกติผมก็แต่งอย่างนี้อยู่แล้วนี่นะ คงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก!!!
เอ... แล้วมันสำคัญยังไงกันน้า?
หากทุกท่านยังจำกันได้ ในตอนแรกของเรื่องนี้นั้นกล่าวไว้ว่าเป็นวันเกิดของใครบางคน
แล้วใครบางคนที่ว่านี่เป็นใครกันนะ?
เอาเถอะ ไปดูกันดีกว่า
...............................................................................................................................
หญิงสาวผมสีทองมัดผมหางม้าด้วยโบสีดำ มีผมม้วนเป็นรูปขนมครัวซองต์อยู่ทั้งสองข้าง แล้วข้างบนก็มีผมที่ชี้เป็นเสาอากาศขัดแรงโน้มถ่วงอยู่สองจุด
เธออยู่ในชุดสีดำ ทั้งเสื้อแขนยาวและกระโปรงที่ยาวเรี่ยพื้น ที่หน้าอกมีเข็มกลัดทองคำประดับด้วยมรกตติดไว้...
แน่นอนว่าเธอคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูน่าร์นั่นเอง ว่าแต่เธอกำลังทำอะไรอยู่นะ?
ลูน่าร์นั่งอยู่บนเตียงในห้อง ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกตื่นเต้นกับอะไรบางอย่างอยู่ แต่เธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วเอามือก่ายหน้าผาก ซักพักเธอก็ลุกขึ้นมานั่งอีก
ดูเหมือนว่าเธอจะทำอย่างนี้อยู่หลายรอบทีเดียว
"วันนี้วันเกิดสินะ รู้สึกตื่นเต้นจัง แต่ว่า..." เธอคิดแล้วสีหน้าก็ดูเศร้าลง "แต่ว่า ทำไมมันรู้สึกเหงายังไงก็ไม่รู้..." แล้วเธอก็กอดหน้าอกแน่น
จากนั้นเธอก็ล้มตัวลงนอนทั้งๆที่ยังกอดอกแน่นนั่นแหละ!!!
...............................................................................................................................
อามาร่าจ้องมองเฮลิเบลอย่างแปลกใจ จากนั้นเธอจึงถามเพื่อนของเธอว่า "นี่เธอ วันนี้เธอไม่สบายรึเปล่าเนี่ย?"
เฮลิเบลที่ยิ้มอย่างมีความสุขโดยไม่มีสาเหตุได้ยินดังนั้น เธอก็ตอบกลับมาพร้อมทั้งหน้ายิ้มๆนั้นว่า "ไม่รู้สิ ไม่รู้ทำไมวันนี้มันรู้สึกว่ามีความสุขอย่างบอกไม่ถูกน่ะ" แล้วเธอก็ยิ้มให้อามาร่าที่เห็นรอยยิ้มของเธอจนรู้สึกไม่สบายเท่าไหร่ อามาร่าได้แต่คิดว่า "นี่เพื่อนเราเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย? หรือว่าผีเข้า?" แล้วเธอก็คิดต่อไปว่า "ช่างเถอะ อย่างนี้เดี๋ยวก็คงเป็นปกติเองแหละ ถ้าพรุ่งนี้ไม่หายค่อยพาไปหาหมอแล้วกัน" แล้วเธอก็เดินจากไปปล่อยให้เพื่อนของเธอทำหน้ามีความสุขอยู่อย่างนั้น...
..............................................................................................................................
"ว่ากันว่าเมื่อถึงวันสำคัญในชีวิตที่ปีเดียวมีแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น คนเราจะเกิดอาการว้าเหว่ขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางคนที่เกิดอาการแบบสุดโต่ง"
คนคนหนึ่งกล่าวไว้
..............................................................................................................................
"ว่าแต่ 'คนคนนั้น' นี่มันใครกันคะ?" เสียงของนันน่าร์ดังขึ้นทำลายบรรยากาศที่ทุกคน(ก็มีแค่สามสี่คนนั้นแหละ)ตั้งใจฟังหนังสือที่ลิซ่าอ่านอย่างจดจ่อ
แต่คำถามของเธอมันก็น่าสนใจจริงๆนะ ทุกคนในที่นั้น ซึ่งก็มี สเตลล่า ลิซ่า และกันยา ได้คิดตรงกัน
"เธอว่าไงลิซ่า?" สเตลล่าหันไปทางลิซ่า ลิซ่าก็ส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างแหยๆ แล้วตอบว่า "ฉันก็ไม่ทราบค่ะ"
นันน่าร์เห็นดังนั้นก็พูดขึ้นว่า "นั่นสินะคะ ที่เขาบอกว่า ใครว่า ก็เขาว่า เขาว่ากันมายังไงก็ว่ากันไปตามนั้น" แล้วเธอก็พยักหน้าแบบผู้ที่รู้ซึ้งถึงถ้อยความนั้น
แน่นอนว่าไม่มีใครเข้าใจกับเธอหรอก!!!
กันยาที่นิ่งเงียบมาตลอดก็ได้แต่มองไปที่นันน่าร์ที่พยักหน้าอยู่อย่างต่อเนื่องอย่างสนใจ แล้วเธอก็ยิ้ม "นั่นสินะคะ" เธอพูด
ทั้งสี่คนก็ยังคงสนธนาแบบไม่ค่อยเข้าใจที่ไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อใดต่อไป...
...............................................................................................................................
เออ...ทำไมรู้สึกว่าเรื่องมันมั่วอย่างนี้นะ? แต่ก็ขอให้อ่านต่อไปละกัน...
ที่ปราสาทกลางป่าที่เป็นบ้านของลูน่าร์
ที่ห้องโถงซึ่งใช้เป็นที่นั่งเล่นของท่านเคาท์ บัดนี้ ท่านเคาท์ก็คงนั่งเล่นอยู่ที่เก้าอี้ตัวโปรด
เก้าอี้ตัวที่ว่านี่มีที่พิงหลังยาวสูงไปจนเกือบถึงเพดานห้องโถง
ที่ข้างๆท่านเคาท์ก็มีผู้หญิงในชุดสาวใช้ยืนอยู่ ใช่แล้ว มิลล่านั่นเอง
"มิลล่า" ท่านเคาท์เรียก "คะ ท่านพ่อ?" มิลล่าตอบรับและถามต่อทันที เพราะพ่อของเธอต้องมีอะไรแน่
"วันนี้นี่..." ท่านเคาท์ยังไม่ทันจะพูดจบ มิลล่าก็ยิ้มแล้วชิงตอบก่อนว่า "ใช่แล้วค่ะ วันเกิดของลูน่าร์ไงคะ"
ท่านเคาท์มองลูกสาวของตัวเองที่ยิ้มตอบกลับมา รอยยิ้มของมิลล่าเป็นรอยยิ้มของคนเป็นแม่ที่ดีใจกับการเติบโตของลูกของตน ซึ่งท่านเคาท์เห็นแล้วก็พาลไปนึกถึงคนคนหนึ่งเข้า แล้วท่านเคาท์ก็ยิ้ม "นี่ลูกสาวของเรา จากวันนั้นยังเป็นเด็กตัวเล็กอยู่เลย ตอนนี้โตจนมีลูกสาวตัวโตซะแล้ว เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ" เขาคิด
มิลล่าเห็นเช่นนั้นก็ถามว่า "มีอะไรคะ?" ท่านเคาท์ที่ยิ้มอยู่ก็ตอบไปว่า "เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดว่าเวลานี้มันผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ" ท่านเคาท์ตอบอย่างที่คิด แค่ตัดช่วงแรกออกไปแค่นั้น มิลล่าเองก็รู้ว่าพ่อของเธอไม่ได้คิดแค่นั้นแน่ แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร "งั้นหรือคะ" เธอก็เออๆออๆตามไป
"ปีนี้จะให้อะไรลูน่าร์ดีน้า?" ท่านเค้าพูดขึ้น แต่มิลล่าที่ได้ยินดังนั้นก็รีบทักท้วงขึ้นทันทีว่า "อย่าดีกว่าค่ะท่านพ่อ!!!" แต่ที่เธอทักท้วงนั้นหาใช่เพราะอื่นใด หากแต่เป็นห่วงพ่อของเธอเอง
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
หลังจากที่ลูน่าร์แทงเฮลิออสไปในตอนนั้น เธอก็ไม่เคยรับของขวัญจากท่านเคาท์อีกเลย เพราะเธอคิดว่าทุกอย่างเป็นเพราะของขวัญที่ท่านเคาท์มอบให้
มิลล่าเองก็เห็นลูน่าร์ปฏิเสธความปรารถนาดีจากท่านเคาท์แล้วก็อดเป็นห่วงจิตใจของเขาไม่ได้ เพราะแม้แต่เธอเองถ้าถูกปฏิเสธซึ่งหน้าอย่างนั้นคง...
"ไม่เป็นไรหรอก" เสียงของท่านเคาท์ดังขึ้นข้างหน้ามิลล่า ตอนนี้ท่านเคาท์มาอยู่ตรงข้างหน้าของเธอแล้ว "แต่ว่า..." มิลล่าพูดทั้งหน้าเศร้า ท่านเคาท์เห็นดังนั้นก็เลยเอามือลูบหัวอย่างอ่อนโยน "บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ" เขายิ้มให้มิลล่า มิลล่าเงยหน้ามองพ่อแล้วก็ทำท่าจะร้องไห้ "ท่านพ่อ ฮืออออ" มิลล่าปล่อยโฮออกมาเต็มที่พร้อมกับโผเข้ากอดท่านเคาท์ ท่านเคาท์เองก็โอบกอดมิลล่าเอาไว้เหมือนกับเมื่อตอนที่มิลล่ายังเด็ก
แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ความจริงที่ว่าสำหรับท่านเคาท์แล้ว มิลล่าก็ยังคงเป็นลูกสาวตัวเล็กๆอยู่เสมอนั้นก็ยังคงไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย...
แต่กับหลานสาว ความจริงแล้วท่านเคาท์ก็เอ็นดูเธอมาก แต่จู่ๆหลานกลับปฏิเสธความปรารถนาดีนั้นซะงั้น
ยิ่งโตขึ้น จากที่เคยรัก เคยชอบ ก็กลายมาเป็นเกลียดขี้หน้ากัน แน่นอนว่าเฉพาะหลานที่คิดอย่างนั้น
ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม่ว่าลูน่าร์จะมีท่าทีต่อเขายังไง ท่านเคาท์ก็ยังคงรักและหวังดีต่อหลานคนนี้เสมอ
ตอนนี้หลานคนนี้ก็อายุได้ 16 ปีแล้ว
.............................................................................................................
"วันนี้วันเกิดลูน่าร์สินะคะ" นันน่าร์พูดขึ้น หลังจากที่ได้ยินสเตลล่าบอก "เอ งั้นเรามาจัดงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดกันมั้ยคะ?" ลิซ่าเสนอความคิด "ปาร์ตี้?" กันยาสงสัย สเตลล่าเห็นดังนั้นก็บอกไปว่า "ก็ประมาณงานเลี้ยงนั่นแหละ" "อ้อ" กันยาจึงเข้าใจได้ทันที
และแล้วเมื่อตัดสินใจกันได้ ทุกคนก็แยกย้ายไปหาอุปกรณ์มาจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ โดยเลือกสนามหญ้าที่อยู่ตรงหน้าโรงฝึกเป็นสถานที่จัด
ลูน่าร์ก็ได้มาที่ปาร์ตี้นี้และได้ร่วมสนุกกับทุกคน จนกระทั่งถึงเวลาดึก เธอก็ขอตัวกลับ
เมื่อเธอกลับมาที่ปราสาท ก็พบว่าห้องโถงไฟยังติดอยู่
ที่ใช้คำว่าติดเพราะว่าที่ปราสาทแห่งนี้ใช้แสงสว่างจากเทียนที่ไม่มีวันหมด จะติดหรือจะดับได้ตามแต่ผู้ใช้ต้องการ
หากแต่ยังติดอยู่ในส่วนที่เธอเข้ามาเท่านั้น และสุดปลายทางก็มีคนยืนอยู่
คนที่ยืนอยู๋นั้นเป็นคนที่เธอเห็นแล้วรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที
ใช่แล้วท่านเคาท์นั่นเอง
"อายุ 16 แล้วสินะลูน่าร์" เสียงราบเรียบดังขึ้นจากสุดทาง ซึ่งผิดกับปกติที่จะเป็นเสียงแบบผู้ชายที่ชอบทำอะไรตลกๆมากกว่า แต่ลูน่าร์ก็ตอบๆไปว่า "ก็ใช่น่ะสิ ยังอุตส่าห์จำได้อีกนะ" เธอตอบอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ลึกๆแล้วกลับดีใจที่ท่านเคาท์จำวันเกิดได้
ที่สุดทางนั้นท่านเคาท์ยิ้มเล็กน้อย ลูน่าร์ที่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครอื่นนอกจากท่านเคาท์ก็ถามว่า "แล้วท่านแม่ล่ะ?" "มิลล่านอนแล้วล่ะ" "เหรอ? งั้นฉันไปก่อนนอนก่อนล่ะ" "เดี๋ยว!!" ท่านเคาท์เรียกลูน่าร์เอาไว้ "ฉันมีอะไรจะให้เป็นของขวัญ" แล้วเขาก็เดินลงมาอย่างช้าๆจนถึงหน้าลูน่าร์
ท่านเคาท์หยิบบางอย่างออกมาจากข้างหลังที่ตนได้แอบมันไว้มาตลอด มันคือตุ๊กตารูปกระต่ายน่ารักตัวหนึ่งนั่นเอง
ลูน่าร์มองไปที่ตุ๊กตาตัวนั้นแล้วเธอก็พูดอย่างไม่พอใจว่า "อะไรกัน ตัวนี้อีกแล้ว บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบน่ะ" เธอรีบพูดปฏิเสธไปทันที
"ทั้งๆที่เมื่อก่อนบอกว่าชอบแท้ๆ..." ท่านเคาท์พูดขึ้นเบาๆ แต่ลูน่าร์ก็ยังได้ยิน เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ถ้าเธอทำให้ตาของเธอต้องเสียใจเพราะเธอ เพราะถึงแม้เธอจะไม่ชอบเขา แต่เธอก็ไม่ได้เกลียดจริงๆหรอก เธอมองตุ๊กตาตัวนั้นแล้วนึกถึงวันเก่าๆ
"ท่านตาๆ ลูน่าร์อยากได้ตัวนั้นจัง"
"เอ้า เหรอ งั้นเดี๋ยวตาซึ้อให้แล้วกัน"
"ขอบคุณค่ะ หนูรักท่านตาที่สุดเลย"
"ท่านพ่ออย่าตามใจลูน่าร์สิคะ"
"ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่ตุ๊กตาตัวเดียวเองน่า"
"งั้นก็ช่างเถอะค่ะ นี่ลูน่าร์ หนูต้องรักท่านตามากๆนะ เข้าใจมั้ย?"
"ค่ะ ท่านแม่ หนูจะรักท่านตาให้มากเลยค่ะ"
"งั้นก็ดีแล้วล่ะ"
"นั่นสินะ ที่จริงเราก็ไม่ได้เกลียดอะไรเขาหรอก แต่ว่าตอนนั้นมัน ถ้าเราไม่ได้ตุ๊กตานั่นล่ะก็ เฮลี่คงไม่..." ลูน่าร์พยายามไม่นึกถึงอดีตที่เธอก็ไม่ค่อยรู้สึกสบายใจ แต่มันก็คิดไปเอง
"คนผิดจริงๆไม่ใช่ท่านตาหรอก เรารู้มาตลอด คนที่ผิดในตอนนั้นคือเรา แต่ว่า... เราก็แค่ต้องการโยนความผิดให้คนอื่นเท่านั้นเอง..." ยิ่งนึกเธอก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นความจริง "ถึงแม้จะบอกตอนนี้อาจจะนานไปหน่อย แต่มันก็สมควรล่ะ" แล้วเธอก็ตัดสินใจบางอย่าง
"ท่านตา ลูน่าร์ขอโทษ!!!"
"!!!" ท่านเคาท์เองก็มองไปที่หลานด้วยความตกใจ
"ในตอนนั้นหนูก็แค่ต้องการโยนความผิดให้คนอื่นเท่านั้นเอง หนูขอโทษ" แล้วเธอก็ร้องไห้อยู่ตรงนั้น
อาจจะดูเหมือนว่าเป็นการเสแสร้ง แต่ที่เธอร้องนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่สำนึกผิดเลย ท่านเคาท์เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มแล้วเข้าไปหา "ก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย แต่ร้องซะขนาดนี้เลย อีกอย่างเรื่องมันก็นานมาแล้ว ตอนนั้นเธอเองก็ยังเป็นเด็กนี่นา" ท่านเคาท์พูดขึ้นพลางลูบหัวของลูน่าร์อย่างเอ็นดู "ท่านตา" ลูน่าร์มองมาที่ชายคนหนึ่งซึ่งตลอดหลายปีมานี้เธอเห็นเป็นเพียงตาแก่บ้าบอ แต่ในตอนนี้เธอเห็นเขาในฐานะตาเหมือนกับตอนที่เธอยังตัวเล็ก
..............................................................................................................................
"อ้าว เธอหายแล้วเหรอ?" อามาร่าถามเพื่อนของเธอ เฮลิเบลก็ถามกลับไปว่า "หืมม? ฉันเป็นอะไรไปเหรอ?" "ก็ที่เธอ... เฮ้อ ช่างเถอะ กลับมาเป็นปกติก็ดีแล้วล่ะ งั้นราตรีสวัสดิ์นะ" "อื้ม ราตรีสวัสดิ์" เฮลิเบลตอบกลับ แต่ก็ยังงงๆกับอามาร่าว่าหมายความว่าอย่างไร แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แล้วสองสาวก็ปิดไฟนอน
.............................................................................................................................
ดูเหมือนว่าจะมีคนถูกลืมว่าเกิดวันที่ 23 กุมภาพันธ์อยู่แฮะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขออภัยจริงๆครับ พอดีแต่งด้วยความเบลอๆ มันเลยออกมางงๆอย่างที่เห็นนั่นแหละ แต่ปกติผมก็แต่งอย่างนี้อยู่แล้วนี่นะ คงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก!!!
Wing of Destiny ตอนพิเศษ Happy Birth Day
[IMG]