อเล็กซ์หลังจากอัญเชิญข้ารับใช้ได้แล้วก็แยกออกมานั่งเงียบๆที่ม้านั่งยาวภายในอาคาร โดยที่ด้านหลังของเขามีลูเทอเรียยืนอยู่เงียบๆ ซึ่งภาพขออเล็กซ์ที่อยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอนใช้แขนสองข้างวางบนพนักพิงนั้นมันแอบทำให้สาวๆใจเต้นแบบแปลกๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีแต่คนมองข้ามเขาไปหมด
ส่วนทิโมธีนั้นกำลังนั่งหัวเราะราวกับคนบ้าอยู่ที่ม้านั่งที่ห่างออกไป โดยข้างๆมีชายหนุ่มผมแดงในชุดที่ทำจากผ้าไหมนีขาวดูหรูหราอีกคนนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ ซึ่งชายคนนั้นคือฮันซำข้ารับใช้ของทิโมธี
ส่วนลอร่าผู้เกทับพวกอเล็กซ์เอาไว้ได้แต่นั่งซึ่ง เพราะเธอดันอัญเชิญเอาโจรหนุ่มนามฟอร์เรสผู้มีตำนานเป็นจอมโจรคุณธรรม ซึ่งแทบจะเรียกว่ามีเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองพวกจอมโจรคุณธรรม
“โย่ ไงท่านแม่ทัพ”
ซิลเวียพูดพลางนั่งลงข้างๆอาเธอร์ โดยข้ารับใช้ของเธอเองนั้นเป็นสาวงามในนชุดเกราะสีเทาหม่นที่หลังของเธอมีดาบยาวคาดเอาไว้และที่เอวเองก็มีดาบอีกเล่มด้วย
“ข้ารับใช้ของเธอท่าจะรบเก่งเนอะ”
อเล็กซ์พูดพลางกวาดตามองหญิงสาวผมทองยาวรวบเป็นผมหางม้า
“วีรสตรีแห่งชาวอัลซิด นักรบหญิงผู้นำชาวอัลซิลไปสู่ความรุ่งโรจ ท่านเรเทีย”
เรเทียยืนจ้องหน้าของลูเทอเรียได้ซักพักเธอก็เปลี่ยนเป็นเดินเข้าไปใกล้ๆ เริ่มใช้มือจับต้นแขนต้นขาหน้าท้องอกเอวอย่างสนใจ และสุดท้ายเธอก้ใช้มือเปลี่ยนไปจับก้นของลูเทอเรียและขยำไปมา
“นี่เจ้าเล่นอะไรน่ะ”
ลูเทอเรียพูดพลางเหลือตาไปมองเธอด้วยความสงสัย
“อ่าว ก็พูดได้นี่ นายเนี่ยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆเลยเนอะ”
“ข้าบอกไว้ก่อนว่าข้ามีภรรยาแล้ว”
“แหม่ๆ ต้องพูดว่าเคยมีซี่ เคยมี”
อเล็กซ์กับซิลเวียได้แต่นั่งมองพลางยิ้มแหยๆ เมื่อเห็นทั้งสองคนคุยกัน
“โห สุดยอดเลยคุณลูน่า!!”
เสียงร้องของเด็กสาวคนนึ่งดังขึ้นแล้วตามมาด้วยเสียงอื้ออึงของคนอื่นๆตามมา
“อะไรกันหว่า”
“ลูน่าเชิญอะไรมากันน่ะ”
“เหมือนจะเป็นการอัญเชิญเอาจักรพรรดินีที่ชื่อโซเทียร์ออกมาน่ะครับ”
“เอาจริงดิ๊!!”
“คงจะเป็นข้ารับใช้ที่แข็งแกร่งที่สุดของปีนี้สินะนั่นน่ะ”
ซิลเวียพูดพลางถอนหายใจ
“ตอบรับได้น่าตกใจมากเลยนะ สงสัยจะมีอะไรถูกชะตากันล่ะมั้ง”
อเล็กซ์พูดเสียงเรียบ
“โซเทียร์ นางเป็นใครกันหรือขอรับ”
“จักรพรรดินีนักรบในตำนานชาวฮาวัลดิทางใต้ ว่ากันว่านางเป็นทั้งนักรบผู้ยิ่งใหญ่ จอมเวทและนักฆ่าในคนเดียวกันเลยล่ะ แถมยังเล่ากันว่านางสามารถคือชีพคนตายได้และสร้างกองทัพอมตะขึ้นมา และยังสามารถอัญเชิญมังกรออกมาได้ด้วยนะ มังกรนะมังกร”
อเล็กซ์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้าเองก็ทำได้นะขอรับ อัญเชิญมังกร”
หลังจากลูเทอเรียพูดจบซิลเวียกับอเล็กซ์รีบหันมามองทางเดียวกันพลางหัวเราะแห้ง แต่จะว่าไปในชื่อตำนานหมอนี่ก็เขียนไว้นี่ “อัศวินมังกร”
“ได้สินะ มังกร”
“ขอรับ นางมีชื่อมาอาเธน่า”
“มังกรในตำนาน!!!”
อเล็กซ์ร้องเสียงดังจนดึงความสนใจทุกคนให้หันมาทางนี้จนหมด
“เรเทียเธอก็มีใช่มะ และที่มันสุดยอดแบบนั้นน่ะ มีใช่มะ มีสินะ”
ซิลเวียพูดพลางจ้องมองหญิงสาวอย่างคาดหวัง ส่วนอีกฝ่ายรีบชักดาบที่หลังออกมาโชว์
“อะ โอ้ว~!!! มีแน่นอน นี่ไงล่ะสุดยอดดาบในตำนานที่ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ ดาบที่สามารถฟันผ่าทะลุการป้องกันได้ทุกแบบ นี่ล่ะ!!”
“ฮะ ฮ่าๆๆๆๆ เป็นไงล่ะอเล็กซ์ เรเทียของฉันก็มีเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆ”
“ข้าก็มีดาบที่เพียงแค่ฟาดฟันเพียงครั้งเดียวก็สามารถสร้างคมดาบนับร้อยได้เหมือนกัน!!”
หนนี้เสียงของชายหนุ่มอีกคนก็ดังแทรกเข้ามา นั่นคือฮันซำนั่นเอง แถมเจ้าตัวยังชักเอาดาบโค้งแบบชาวอาหรับออกมาโชว์ ดาบจับของมันเป็นสีทองสวยงามติดอัญมณีสีแดงเอาไว้
“ธนูของข้าก็สามารถยิงได้ถึงดวงจันทร์เช่นกัน!!”
“ฟอร์เรส เจ้าบ้าแล้วแก้จะไปบ้าตามพวกนั้นทำไม แบบนี้ทุกคนก็รู้ความสามารถของแกหมดสิ”
ลอร่าที่นั่งซึ่งอยู่แล้วหนนี้เริ่มระเบิดออกมาแล้วเริ่มนั่งบ่นใส่คู่หูตัวเองยาวหลังจากนั้น
“ยุคสมัยของเจ้านี่ช่างสงบสุขจริงนะ”
โซเทียร์พูดพลางมองไปรอบๆแล้วเดินฝ่ากลุ่มนักเรียนออกมา เรือนผมสีดำยาวพลิ้วไหวไปตามสายลม ดวงตาสีน้ำตาลมองตรงไปด้านหน้าอย่างแน่วแน่และไม่หวั่นไหวต่อสายตาของผู้คน ชุดคลุมสีดำดูหรูหราตัดกับสีผิวขาวนวลของเธอ แต่ในตอนนั้นเองที่ดวงตาของเธอมาสะดุดเขาที่อเล็กซ์ ที่กำลังคุยอะไรบางอย่างกับซิลเวียอยู่ เธอเดินตรงมาหาอเล็กซ์แล้วจริงพูดขึ้น
“ช่างเหมือนจริง”
“หา อะไรนะ”
อเล็กซ์ถามขึ้น แต่เธอไม่ตอบอะไรทั้งนั้นแต่เดินจากไปดื้อๆเลย ส่วนลูเทอเรียได้แต่มองตามหลังของเธออย่างไม่เป็นมิตรนัก
หลังจากที่กินเวลากว่าครึ่งวันพวกนักเรียนก็แยกย้ายออกมาทันที เพราะว่าหลังจากนี้ยังมีอีกชั้นเรียนที่จะเข้ามาใช้งานต่อด้วย และเหมือนว่าจะมีอีกสองคนที่สามารถอัญเชิญข้ารับใช้ได้
“แบบนี้เราก็ต้องย้ายหอพักสินะ”
ทิโมธีพูดพลางเดินไปตามถนนของเมือง
“นั่นสินะ ถึงจะแค่เทอมเดียวแต่ก็รู้สึกเหงาๆนะ”
ซิลเวียตอบ
“หอใหม่จะเป็นยังไงนะ”
อเล็กซ์พูดขึ้นลอยๆ แต่ในตอนนั้นเองที่เขาแอบเห็นว่าพวกข้ารับใช้ทั้งสามที่เดินตามหลังมามีท่าทีสนใจสิ่งรอบๆที่แตกต่างไปจากยุคของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง รถยนต์ ตึกสูง หรือแม้แต่เสาไฟข้างทางเองก็ด้วย
“นี่พวกนาย!!”
เสียงขอลอร่าดังตามหลังพวกเขามาติดๆ ซึ่งพวกเขารีบหันกลับไปพลางเบ้หน้าใส่เธออย่างไม่รับแขก
“พวกห้องสอง มีคนอัญเชิญกาฮัดออกมาได้น่ะ”
“กาฮัด ใครล่ะน่ะ ดังกว่ามังกรอาเธน่ามะ”
“ดังว่าสิ มือสังหารในตำนานของตะวันออก ว่ากันว่าเขาเป็นทั้งนักรบและมือสังหารในคนเดียวกันล่ะนะ”
“โห สุดยอดพวก 2 in 1 แต่ยังเทียบกับโซเทียร์ของห้องเราไม่ได้หรอกเนอะ 3 in 1 ฮ่าๆๆๆๆ”
ทิโมธีพูดพลางระเบิดหัวเราะ
“โง่จังนะพวกนาย โซเทียร์ถ้านายได้ศึกษาตำนานของเธอแล้วล่ะก็มีความเกี่ยวเนื่องกับตำนานของกาฮัด ตอนที่นางไปรบกับดินแดนทางตะวันออก นางได้พบกับกาฮัลหลายครั้งในการรบ แล้วยังว่ากันว่าทั้งสองแอบมีความสัมพันธ์ลับกันอีกด้วยนะ เพราะในตำนานของกาฮัดบอกว่ากาฮัดนั้นได้มีความสัมพันธ์ลับหญิงสาวสูงศักดิ์จากต่างแดนนางหนึ่ง”
“แล้วก็ยังมีคนอัญเชิญอาราด นักรบหญิงสีแดงในตำนาน”
ลอร่าเสริม
“ไม่รู้จัก”
อเล็กซ์พูดพลางหันไปมองซิลเวีย
“หันรู้เอาไว้มั่งนะ เป็นถึงซัมมอนเนอร์แล้วด้วย!!”
ซิลเวียหันไปดุใส่อเล็กซ์ที่ทำหน้าใสซื่อใส่
“อาราด!! เป็นนักรบหญิงบ้าคลั่งในตำนานชาวออสโตเมีย เรื่องของนักรบหญิงนามอาราด ว่ากันว่าชุดเกราะของเธอเป็นสีแดงเพราะย้อมด้วยเลือดของศัตรูในสงคราม”
“ข้าเคยเจอเธอนะขอรับ ท่านอาราด”
ลูเทอเรียพูดขึ้น
“ปกตินางเป็นคนที่สงบเรียบร้อย นิสัยดีมากขอรับ แต่เมื่อนางอยู่ในสนามรบนางดูไม่ต่างจากอสูรร้ายที่คิดแต่เรื่องการทำลาย นางมีดาบวิเศษที่สามารถขยายใบดาบให้เล็กหรือใหญ่ก็ได้ตามใจชอบ แถมพลังทำลายของดาบเล่มนั้นสามารถฟันผ่าแยกแผ่นดินเกิดเป็นเหวลึกได้อีกด้วยขอรับ”
“ท่าทางจะเป็นบุคคลที่สุดยอดไปเลย ในหลายๆความหมาย”
“ฉันไม่เห็นรู้เลยแฮะว่าตำนานของลูเทอเรียจะเกี่ยวข้องกับตำนานของอาราด”
ลอร่าถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ข้าได้พบเธอตอนที่เข้าไปหลบภัยที่ออสโตเมีย และข้าก็ได้ร่วมกับกองทัพออสโตเมียรบกับอาณาจักรเพื่อนบ้านเพื่อแทนคุณที่ให้เราเข้าไปหลบซ่อนน่ะขอรับ เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น”
“ถามจริง นายรู้จักพวกวีรบุรุษในตำนานเยอะมะ”
อเล็กซ์ถาม
“ข้ารู้จักท่านอาราดเพียงคนเดียวขอรับ และการพบกันครั้งนั้นข้าจึงได้รับดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งออสโตเมียดาบลูเวอเรีย”
“ขอดูหน่อยดิ ดาบในตำนาน!!”
อเล็กซ์พูดพลางทำตาเป็นประกาย
“ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ดาบเล่มนั้นได้หายไปในการรบครั้งสุดท้ายแล้วขอรับ”
“อะไรกัน เสียดายดาบดีๆ”
“ต้องขออภัยอย่างยิ่ง”
“เท่านี้ก็หมายความว่าปีนี้มีซัมมอนเนอร์หน้าใหม่ 7 คนสินะ”
ซิลเวียพูดพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เริ่มมีดวงดาวฉายแสงขึ้นซึ่งบอกว่าใกล้ค่ำเต็มทีแล้ว
“เอาล่ะ งั้นก็ไปฉลองพร้อมกับหาเสื้อผ้าให้พวกนี้กันดีกว่า!!”
ทิโมธีร้องขึ้น และเหมือนทุกคนจะตอบรับด้วยแน่นอนรวมถึงลอร่า ทั้งสามนึงเบ้หน้าใส่เธอเพราะดูเหมือนว่าเธอคงอยากจะตีสนิทกับพวกเขา เพราะเทอมหน้าพวกเขาต้องแยกไปเรียนที่อื่นรวมถึงย้ายหอพักด้วย
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-2-27 22:41
Summoner ตอนที่2 เหล่าข้ารับใช้ (ลองเขียน)