ที่แห่งหนึ่งบนโลก
ในวิหารเทพเจ้าซึ่งบัดนี้ถูกทอดทิ้งไปแล้ว ยังคงมีแต่รูปปั้นของเทพธิดาผู้งดงามตั้งเอาไว้
แต่ก็มีหญิงสาวผู้งดงามราวกับเทพธิดายืนอยู่ตรงหน้ารูปปั้นนั้น ไม่สิ เธอนี่แหละคือเทพธิดา แต่เป็นสมญาที่คนทั่วไปตั้งให้
บัดนั้น มีหญิงสาวสองคนเข้ามาทางประตูวิหารที่ไม่เคยปิด พร้อมกับมีเสียงดังมาว่า "เธอคือคนที่แถวนี้เรียกว่า เทพธิดาแห่งความรักสินะ"
"ที่ตามหาฉันนี่ พวกคุณมีอะไรหรือคะ?" นันน่าร์ในชุดสาวใช้หันกลับมาถามถึงธุระของคนที่เข้ามาหาเธอ
หญิงสาวสองคนที่บอกว่ามาหานันน่าร์ได้ยินเช่นนั้นก็มองหน้ากันราวกับไม่เชื่อสายตาตนเอง
"นี่ คิดว่าที่ยัยนี่พูดเมื่่อกี้นี่มัน..." หญิงสาวในชุดเกราะแบบนักรบพูดขึ้นเบาๆ "มะ...ไม่รู้สิ แต่โฮลี่ว่าก็แค่เสแสร้งตามแบบยัยนั่นนั่นแหละ" สาวน้อยในชุด:Xดตอบ แล้วทั้งสองคนก็หันมามองที่นันน่าร์อีกครั้งด้วยสายตาที่ไม่เชื่อใจอย่างแรง
นันน่าร์เห็นก็เอามือปิดปาก แล้วพูดว่า "เอ๋ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ?" "ไม่ต้องมาเสแสร้งแสดงละครเป็นคนดีเลยนะ ยัยนางพญาบ้าอำนาจ" โฮลี่พูดขึ้นอย่างฉุนขาด
"โฮ่ ไม่เจอกันนานปากกล้าขึ้นเยอะนะ" นันน่าร์พูดขึ้น แต่คำพูดของเธอนั้น เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่างจากปกติ
หญิงสาวทั้งสองคนได้ยินถึงกับสะดุ้ง "นั่นไง มาแล้ว ของจริงมาแล้ว" อาลี่พูดขึ้นพร้อมกับคุกเข่าลง "ขะ...ขะ...ขออภัยเพคะฝ่าบาท...รีบคุกเข่าสิยะ ยัยบ้านี่" เธอรีบกดโฮลี่ที่ยังคงยืนอยู่ให้นั่งคุกเข่า
โฮลี่กับอาลี่ จริงๆแล้วสองคนนี้ก็ไม่ได้อยากที่จะคุกเข่าต่อคนคนนี้หรอก แต่ที่พวกเธอต้องทำ โดยเฉพาะอาลี่ที่เป็นคนที่ถือว่าหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญแล้ว จำเป็นต้องก้มหัวให้กับเธอคนนี้
"ฮะๆๆๆ ฉันล้อเล่นน่า ล้อเล่น ลุกขึ้นเถอะ" นันน่าร์หัวเราะแล้วบอกให้ทั้งสองลุกขึ้น โฮลี่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อาลี่นั้นลุกขึ้นอย่างช้าๆแบบมีมารยาท "ขอบพระทัยเพคะ ฝ่าบาท" เธอกล่าว
นันน่าร์ได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าแบบเซ็งๆ "ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในวังไม่เห็นจะ้ต้องทำขนาดนี้เลย" "แต่ราชินีก็ยังเป็นราชินีเพคะ สำหรับฉันแล้วไม่ว่าที่ไหนก็ต้องเคารพเช่นนั้น" อาลี่ตอบมาอย่างจริงจัง จนแม้แต่โฮลี่ยังทำหน้าเซ็งกะตายกับความตรงต่อหน้าที่ของเธอ
"เอาเถอะๆ อย่างนั้นก็ได้ ว่าแต่เธอสองคนมาที่นี่มีอะไรงั้นหรือ?" คำถามนีของนันน่าร์ทำให้ทั้งสองคนนึกขึ้นได้ เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่สงสัยกับพฤติกรรมของนันน่าร์ว่าใช่คนที่พวกเธอตามหาหรือเปล่า
อาลี่กับโฮลี่จึงบอกนันน่าร์ไปถึงเรื่องราวที่อาณาจักร
"ดูเหมือนว่าจะลำบากมากสินะทางนั้น" นันน่าร์ทำหน้าแบบเห็นใจ โฮลี่ได้ยินก็ถึงกับปรี๊ดแตก "ก็แน่สิยะ รู้มั้ยว่าท่านพี่น่ะเขาต้องลำบากเพราะเธอแค่ไหนน่ะ" นันน่าร์ได้ยินก็สะดุ้งเล็กน้อย เพราะที่โฮลี่พูดมานั้นก็ถูก มันจึงแทงใจดำจนแทบจะร้องออกมา แต่เธอก็สามารถเก็บอาการไว้ได้
"ขออภัยเพคะ แต่ที่โฮลี่กราบทูลมานั้นเป็นความจริงทั้งหมด" อาลี่ตอบตามความจริง
"แต่โทษทีนะ ฉันคงไม่กลับไปอีกซักพักแหละ" นันน่าร์ก็ตอบอย่างตรงๆเช่นกัน แม้ว่าในใจเธอจะรู้สึกผิด แต่เธอก็ต้องตอบไปตรงๆ
"แต่ ทำไมกันล่ะเพคะ..." อาลี่ถาม แต่ก็เห็นกิริยาท่าทางของราชิีนีของเธอ
นันน่าร์พอได้ยินถึงคำว่า "ทำไมล่ะ..." ก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
"คงจะไปหลงรักใครเข้าให้แล้วสิท่า คุณราชินี" โฮลี่พูดขึ้นหลังจากเห็นท่าที
"..." นันน่าร์ไม่กล่าวอะไร แต่นั้นก็เหมือนกับเป็นการยอมรับมิใช่หรือ
"แต่ว่าอยากรู้จังน้า คนที่ยัยนี่ชอบได้จะเป็นคนพิลึกแบบไหน?" ทั้งโฮลี่และอาลี่คิด
"เขาไม่ใช่คนแปลกๆอะไรแบบนั้นนะ!!!" นันน่าร์รีบตอบไปทันที
"ยังคงเป็นเหมือนเดิมเลยนะคะ ไม่ว่าใครคิดอะไรก็ต้องรู้หมด นี่คงเป็นเหตุผลที่แม่ทัพใหญ่ไม่กล้าหือสินะ" อาลี่พูดอย่างชื่นชม
นันน่าร์ได้ยินดังนั้น เธอกลับพูดว่า "แต่ว่ามันก็ไม่ดีไปหมดหรอก..." "???" ทั้งอาลี่และโฮลี่จ้องมาที่เธออย่างสงสัย จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า "ถ้าหากคนที่เราชอบเขาคิดอะไรเราก็ต้องรู้หมด และรู้แม้กระทั่งว่าเขาคิดยังไงกับเรา..." "นั่นก็ดีไม่ใช่เหรอ?" โฮลี่ถาม แต่นันน่าร์มองมาทางเธอด้วยแววตาที่เศร้านิดหน่อย "แล้วถ้าในใจเขามีแต่ผู้หญิงคนอื่นล่ะ?"
คำถามของนันน่าร์นั้นเป็นเหมือนคำตอบในตัว ทั้งสองคนได้ยินก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่า ความรู้สึกเช่นนั้นไม่มีทางสมหวังเลยแม้แต่น้อย
"แต่ไม่ต้องห่วงหรอก อีกไม่นานฉันก็จะกลับไปแล้วล่ะ" นันน่าร์ยิ้มแล้วหันมาตอบ
ทั้งสองคนได้ยินคำตอบนั้นก็สงสัยว่า ไอ้คำว่า "อีกไม่นานนั้น ไม่ใช่ว่า..."
....................................................................................................................
"เฮลิออส" เสียงของผู้หญิงที่ฟังดูเย็นชาดังแว่วมา
"ใครเรียกฉันน่ะ" เขาถามแล้วเดินตามเสียงเรียกนั้นไป แต่ในใจเขาก็คิดว่าเสียงนี้คุ้นเหลือเกิน
"เฮลิออส" เสียงยังคงเรียกชื่อเขาฝ่าความมืด แต่ตอนนี้เขาก็ได้วิ่งไล่ตามเสียงท่ามกลางความมืดนั้นไป
"อ๊ะ มีแสงแล้ว" เขาอุทานขึ้นหลังจากที่เห็นแสงอยู่ตรงหน้า แน่นอน เขารีบมุ่งหน้าไปทางนั้นทันที
หลังจากที่เขามุ่งหน้าเข้ามาในแสงเล็กๆนั้น เขาก็อยู่ในที่ที่หนึ่ง
"ที่นี่มัน...?" ทุกคนเวลาที่หลงเข้าไปในที่ที่ไม่รู้จักต้้องคิดอย่างนั้นกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เฮลิออส
เขาเข้ามาอยู่ในสถานที่ที่เป็นเหมือนกับห้องของใครบางคน ของทุกอย่างล้วนแต่มีค่า และถูกจัดไว้อย่างดี
ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องจะเป็นผู้หญิง เพราะเขาได้กลิ่นน้ำหอมลอยมาเตะจมูก
กลิ่นของมันให้ความรู้สึกที่หอมพอดีทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด เมื่อได้กลิ่นแล้วเขาจึงรู้สึกสบายจนไม่อยากไปไหน
"ไม่ได้สิ เรามาที่นี่ได้ไงกันนะ?" แล้วเขาก็เข้าสู่โหมดสงสัยต่อ "ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ฉันเป็นคนเรียกคุณมาเองแหละค่ะ" เสียงของผู้หญิงที่คุ้นหูดังมาจากข้างหลังของเขา เสียงของเธอทำให้เขาหันขวับกลับมาทันที "นันน่าร์!!!"
หลังจากที่เรียกชื่อ เขาก็เห็นคนที่เขาเรียกอยู่จริงๆ ตอนนี้เธอยิ้มให้เขาแบบปกติที่เธอเคยยิ้มให้
แต่ที่ไม่ปกติคือ เธอแต่งตัวได้สวยงามมากจนเขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนใกล้ตัวคนนี้จะสวยขนาดนี้ นั่นทำให้เขาไม่กล้ามองเธอตรงๆ
"หน้าฉันมีอะไรหรือคะ?" นันน่าร์ถาม เฮลิออสคิดขึ้นมาทันทีว่า "ถามตรงประเด็นจังนะ" แต่เขากลับตอบว่า "ปะ...เปล่าซะหน่อย" แล้วเขาก็รวบรวมสติมองที่หน้าเธออีกครั้ง
แต่ก็แน่นอน นันน่าร์ก็ยังคงอยู่ในชุดเดิม และใบหน้าของเธอก็ยังคงงดงามดังเช่นเมื่อครู่ ซึ่งทำให้เขาใจเต้นจนแทบจะทะลุออกจากอก
"แต่เดี๋ยวสิ ถ้าเรามาที่นี่ได้ งั้นนั่นก็ต้องเป็นเสียงเรียกของเธอน่ะสิ" เขาคิด และคิดจะถาม "เดี๋ยวนะ งั้นเธอ..." เขากำลังจะถาม
แต่นันน่าร์กลับส่ายหน้าแล้วบอกว่า "เปล่าค่ะ แต่ฉันแค่นึกถึงคุณเท่านั้นค่ะ"
ซึ่งเฮลิออสมานึกแล้วก็จำได้ว่า เสียงที่เขาได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงของเธอ แต่ทำไมเขาจึงรู้สึกคุ้นเคยกับมันเหลือเกิน?
นันน่าร์ก็บอกว่า "นั่นอาจจะเป็นเสียงของใครบางคนที่สำคัญต่อคุณมากๆก็ได้ค่ะ แต่ไม่ใช่ฉันแน่ค่ะ" จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า "อ้อ แล้วที่สำคัญที่ให้คุณมาที่นี่ ฉัน..." เธอดูเหมือนจะลังเลที่จะพูด เธอจึงรวบรวมความกล้าแล้วพูดไปว่า "ฉะ...ฉันรักคุณค่ะ"
"หาาาา" เฮลิออสทำหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อ แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่จริงจังของเธอแล้ว เขาก็รู้สึกเขินนิดๆ
"ตะ...แต่ว่าฉัน..." เฮลิออสเอง แม้จะรู้สึกดีใจและเขินที่มีสาวสวยที่อยู่ใกล้ตัวมาบอกชอบ แต่ตอนนี้เขา...
"ค่ะ ฉันรู้..." นันน่าร์ตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "...แต่ว่า ตอนนี้เท่านั้น ขอให้คุณมองแค่ฉันคนเดียวเถอะค่ะ แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ..." แล้วนันน่าร์ก็ก้มหน้าลง
"นัน...น่าร์?" เขาเห็นเธอเงียบไป จึงจะเข้าไปหาเธอ "!!!"
เฮลิออสรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ริมฝีปากอุ่นๆของนันน่าร์ประกบกับปากเขา
ตอนนี้ เขารู้สึกว่า ลิ้นของเธอนั้นชอนไชไปทั่วปาก นั่นทำให้เขารู้สึกดีอย่างประหลาด
ผ่านไปประมาณสามนาที เธอก็ผละออกจากเฮลิออส โดยที่ลิ้นของเธอนั้นถูไปโดนเพดานปากของเขา ทำให้เขารู้สึกเสีย ว จนเกือบทนไม่ได้
"แฮ่ก แฮ่ก" เสียงเฮลิออสและนันน่าร์หอบหลังจากที่...จูบกันนานพอให้ต้มมาม่าเสร็จ
ทั้งสองคนเงียบกันไปสักพักหนึ่ง จากนั้น นันน่าร์ก็พูดขึ้นมาว่า "ละ...แล้ว หลังจากนี้ ขอให้มีความสุขนะคะ"
"???" เฮลิออสสงสัยในคำพูดที่เหมือนจะแฝงความนัยอะไรไว้ของเธอ
"ฉันจะไปแล้วค่ะ นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้เจอกัน หลังจากนี้ขอให้มีความสุขนะคะ" เธอพูดพร้อมทั้งยิ้มให้ แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกได้ว่าที่เธอพูดมานั้น มันจะเกิดขึ้นจริงๆ
"เธอจะไปไหน?" เขาถาม แต่นันน่าร์กลับไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มให้แล้วบอกว่า "ลาก่อนค่ะ"
.........................................................................................................................
เฮลิออสตื่นขึ้น เขารู้สึกว่าทุกอย่างที่เขาฝันไปเมื่อครู่นั้น มันราวกับว่ามันเกิดขึ้นจริงๆเมื่อไม่นานมานี้
ที่สำคัญ ตอนนี้เขารู้สึกว่า ข้างๆเขามีใครบางคนอยู่ด้วย
แน่นอนว่านั่นคือ อามาร่า นั่นเอง
จากนี้เขาจะทำอย่างไรต่อไป นั่นก็เรื่องของเขา
แต่สิ่งที่กวนใจจริงๆนั้นก็ยังคงอยู่ นั่นคือ เมื่อกี้นี้ มันเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สังเกตว่า มีกลิ่นน้ำหอมที่เขาได้กลิ่นในความฝันอบอวลอยู่ในห้อง
งั้นที่เขาฝันก็เป็นความจริง?
..........................................................................................................................
"เป็นอย่างนี้จะดีเหรอ?"
"อย่างนี้แหละดีแล้ว"
"แต่พวกเขาจะลืมเธอนะ"
"ไม่เป็นไรหรอก ยังไงซะซักวันก็ต้องลืมกันอยู่แล้ว"
"เธอเองก็เป็นซะอย่างนี้แหละ คิดอะไรก็เหมือนคนที่ปลงแล้วตลอด อย่างนี้ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าเธอต้องทุกข์ใจแค่ไหนน่ะ"
"ไม่ต้องรู้หรอกว่าฉันทุกข์ใจยังไง เพราะคนที่จะต้องเศร้าเสียใจมีแค่ฉันคนเดียวก็เกินพอแล้ว"
"...ในเมื่อพูดถึงขนาดนั้นก็ช่างเถอะ ว่าแต่เธอตัดสินใจแน่แล้วเหรอ?"
"ใช่ ฉันตัดสินใจแล้ว"
"งั้นก็คงต้องยอมรับล่ะนะ อ้อ ลืมบอกไป"
"อะไร?"
"ยินดีต้อนรับกลับมาเพคะ ฝ่าบาท"
.................................................................................................................................
ในวิหารเทพเจ้าซึ่งบัดนี้ถูกทอดทิ้งไปแล้ว ยังคงมีแต่รูปปั้นของเทพธิดาผู้งดงามตั้งเอาไว้
แต่ก็มีหญิงสาวผู้งดงามราวกับเทพธิดายืนอยู่ตรงหน้ารูปปั้นนั้น ไม่สิ เธอนี่แหละคือเทพธิดา แต่เป็นสมญาที่คนทั่วไปตั้งให้
บัดนั้น มีหญิงสาวสองคนเข้ามาทางประตูวิหารที่ไม่เคยปิด พร้อมกับมีเสียงดังมาว่า "เธอคือคนที่แถวนี้เรียกว่า เทพธิดาแห่งความรักสินะ"
"ที่ตามหาฉันนี่ พวกคุณมีอะไรหรือคะ?" นันน่าร์ในชุดสาวใช้หันกลับมาถามถึงธุระของคนที่เข้ามาหาเธอ
หญิงสาวสองคนที่บอกว่ามาหานันน่าร์ได้ยินเช่นนั้นก็มองหน้ากันราวกับไม่เชื่อสายตาตนเอง
"นี่ คิดว่าที่ยัยนี่พูดเมื่่อกี้นี่มัน..." หญิงสาวในชุดเกราะแบบนักรบพูดขึ้นเบาๆ "มะ...ไม่รู้สิ แต่โฮลี่ว่าก็แค่เสแสร้งตามแบบยัยนั่นนั่นแหละ" สาวน้อยในชุด:Xดตอบ แล้วทั้งสองคนก็หันมามองที่นันน่าร์อีกครั้งด้วยสายตาที่ไม่เชื่อใจอย่างแรง
นันน่าร์เห็นก็เอามือปิดปาก แล้วพูดว่า "เอ๋ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ?" "ไม่ต้องมาเสแสร้งแสดงละครเป็นคนดีเลยนะ ยัยนางพญาบ้าอำนาจ" โฮลี่พูดขึ้นอย่างฉุนขาด
"โฮ่ ไม่เจอกันนานปากกล้าขึ้นเยอะนะ" นันน่าร์พูดขึ้น แต่คำพูดของเธอนั้น เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่างจากปกติ
หญิงสาวทั้งสองคนได้ยินถึงกับสะดุ้ง "นั่นไง มาแล้ว ของจริงมาแล้ว" อาลี่พูดขึ้นพร้อมกับคุกเข่าลง "ขะ...ขะ...ขออภัยเพคะฝ่าบาท...รีบคุกเข่าสิยะ ยัยบ้านี่" เธอรีบกดโฮลี่ที่ยังคงยืนอยู่ให้นั่งคุกเข่า
โฮลี่กับอาลี่ จริงๆแล้วสองคนนี้ก็ไม่ได้อยากที่จะคุกเข่าต่อคนคนนี้หรอก แต่ที่พวกเธอต้องทำ โดยเฉพาะอาลี่ที่เป็นคนที่ถือว่าหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญแล้ว จำเป็นต้องก้มหัวให้กับเธอคนนี้
"ฮะๆๆๆ ฉันล้อเล่นน่า ล้อเล่น ลุกขึ้นเถอะ" นันน่าร์หัวเราะแล้วบอกให้ทั้งสองลุกขึ้น โฮลี่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อาลี่นั้นลุกขึ้นอย่างช้าๆแบบมีมารยาท "ขอบพระทัยเพคะ ฝ่าบาท" เธอกล่าว
นันน่าร์ได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าแบบเซ็งๆ "ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในวังไม่เห็นจะ้ต้องทำขนาดนี้เลย" "แต่ราชินีก็ยังเป็นราชินีเพคะ สำหรับฉันแล้วไม่ว่าที่ไหนก็ต้องเคารพเช่นนั้น" อาลี่ตอบมาอย่างจริงจัง จนแม้แต่โฮลี่ยังทำหน้าเซ็งกะตายกับความตรงต่อหน้าที่ของเธอ
"เอาเถอะๆ อย่างนั้นก็ได้ ว่าแต่เธอสองคนมาที่นี่มีอะไรงั้นหรือ?" คำถามนีของนันน่าร์ทำให้ทั้งสองคนนึกขึ้นได้ เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่สงสัยกับพฤติกรรมของนันน่าร์ว่าใช่คนที่พวกเธอตามหาหรือเปล่า
อาลี่กับโฮลี่จึงบอกนันน่าร์ไปถึงเรื่องราวที่อาณาจักร
"ดูเหมือนว่าจะลำบากมากสินะทางนั้น" นันน่าร์ทำหน้าแบบเห็นใจ โฮลี่ได้ยินก็ถึงกับปรี๊ดแตก "ก็แน่สิยะ รู้มั้ยว่าท่านพี่น่ะเขาต้องลำบากเพราะเธอแค่ไหนน่ะ" นันน่าร์ได้ยินก็สะดุ้งเล็กน้อย เพราะที่โฮลี่พูดมานั้นก็ถูก มันจึงแทงใจดำจนแทบจะร้องออกมา แต่เธอก็สามารถเก็บอาการไว้ได้
"ขออภัยเพคะ แต่ที่โฮลี่กราบทูลมานั้นเป็นความจริงทั้งหมด" อาลี่ตอบตามความจริง
"แต่โทษทีนะ ฉันคงไม่กลับไปอีกซักพักแหละ" นันน่าร์ก็ตอบอย่างตรงๆเช่นกัน แม้ว่าในใจเธอจะรู้สึกผิด แต่เธอก็ต้องตอบไปตรงๆ
"แต่ ทำไมกันล่ะเพคะ..." อาลี่ถาม แต่ก็เห็นกิริยาท่าทางของราชิีนีของเธอ
นันน่าร์พอได้ยินถึงคำว่า "ทำไมล่ะ..." ก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
"คงจะไปหลงรักใครเข้าให้แล้วสิท่า คุณราชินี" โฮลี่พูดขึ้นหลังจากเห็นท่าที
"..." นันน่าร์ไม่กล่าวอะไร แต่นั้นก็เหมือนกับเป็นการยอมรับมิใช่หรือ
"แต่ว่าอยากรู้จังน้า คนที่ยัยนี่ชอบได้จะเป็นคนพิลึกแบบไหน?" ทั้งโฮลี่และอาลี่คิด
"เขาไม่ใช่คนแปลกๆอะไรแบบนั้นนะ!!!" นันน่าร์รีบตอบไปทันที
"ยังคงเป็นเหมือนเดิมเลยนะคะ ไม่ว่าใครคิดอะไรก็ต้องรู้หมด นี่คงเป็นเหตุผลที่แม่ทัพใหญ่ไม่กล้าหือสินะ" อาลี่พูดอย่างชื่นชม
นันน่าร์ได้ยินดังนั้น เธอกลับพูดว่า "แต่ว่ามันก็ไม่ดีไปหมดหรอก..." "???" ทั้งอาลี่และโฮลี่จ้องมาที่เธออย่างสงสัย จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า "ถ้าหากคนที่เราชอบเขาคิดอะไรเราก็ต้องรู้หมด และรู้แม้กระทั่งว่าเขาคิดยังไงกับเรา..." "นั่นก็ดีไม่ใช่เหรอ?" โฮลี่ถาม แต่นันน่าร์มองมาทางเธอด้วยแววตาที่เศร้านิดหน่อย "แล้วถ้าในใจเขามีแต่ผู้หญิงคนอื่นล่ะ?"
คำถามของนันน่าร์นั้นเป็นเหมือนคำตอบในตัว ทั้งสองคนได้ยินก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่า ความรู้สึกเช่นนั้นไม่มีทางสมหวังเลยแม้แต่น้อย
"แต่ไม่ต้องห่วงหรอก อีกไม่นานฉันก็จะกลับไปแล้วล่ะ" นันน่าร์ยิ้มแล้วหันมาตอบ
ทั้งสองคนได้ยินคำตอบนั้นก็สงสัยว่า ไอ้คำว่า "อีกไม่นานนั้น ไม่ใช่ว่า..."
....................................................................................................................
"เฮลิออส" เสียงของผู้หญิงที่ฟังดูเย็นชาดังแว่วมา
"ใครเรียกฉันน่ะ" เขาถามแล้วเดินตามเสียงเรียกนั้นไป แต่ในใจเขาก็คิดว่าเสียงนี้คุ้นเหลือเกิน
"เฮลิออส" เสียงยังคงเรียกชื่อเขาฝ่าความมืด แต่ตอนนี้เขาก็ได้วิ่งไล่ตามเสียงท่ามกลางความมืดนั้นไป
"อ๊ะ มีแสงแล้ว" เขาอุทานขึ้นหลังจากที่เห็นแสงอยู่ตรงหน้า แน่นอน เขารีบมุ่งหน้าไปทางนั้นทันที
หลังจากที่เขามุ่งหน้าเข้ามาในแสงเล็กๆนั้น เขาก็อยู่ในที่ที่หนึ่ง
"ที่นี่มัน...?" ทุกคนเวลาที่หลงเข้าไปในที่ที่ไม่รู้จักต้้องคิดอย่างนั้นกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เฮลิออส
เขาเข้ามาอยู่ในสถานที่ที่เป็นเหมือนกับห้องของใครบางคน ของทุกอย่างล้วนแต่มีค่า และถูกจัดไว้อย่างดี
ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องจะเป็นผู้หญิง เพราะเขาได้กลิ่นน้ำหอมลอยมาเตะจมูก
กลิ่นของมันให้ความรู้สึกที่หอมพอดีทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด เมื่อได้กลิ่นแล้วเขาจึงรู้สึกสบายจนไม่อยากไปไหน
"ไม่ได้สิ เรามาที่นี่ได้ไงกันนะ?" แล้วเขาก็เข้าสู่โหมดสงสัยต่อ "ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ฉันเป็นคนเรียกคุณมาเองแหละค่ะ" เสียงของผู้หญิงที่คุ้นหูดังมาจากข้างหลังของเขา เสียงของเธอทำให้เขาหันขวับกลับมาทันที "นันน่าร์!!!"
หลังจากที่เรียกชื่อ เขาก็เห็นคนที่เขาเรียกอยู่จริงๆ ตอนนี้เธอยิ้มให้เขาแบบปกติที่เธอเคยยิ้มให้
แต่ที่ไม่ปกติคือ เธอแต่งตัวได้สวยงามมากจนเขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนใกล้ตัวคนนี้จะสวยขนาดนี้ นั่นทำให้เขาไม่กล้ามองเธอตรงๆ
"หน้าฉันมีอะไรหรือคะ?" นันน่าร์ถาม เฮลิออสคิดขึ้นมาทันทีว่า "ถามตรงประเด็นจังนะ" แต่เขากลับตอบว่า "ปะ...เปล่าซะหน่อย" แล้วเขาก็รวบรวมสติมองที่หน้าเธออีกครั้ง
แต่ก็แน่นอน นันน่าร์ก็ยังคงอยู่ในชุดเดิม และใบหน้าของเธอก็ยังคงงดงามดังเช่นเมื่อครู่ ซึ่งทำให้เขาใจเต้นจนแทบจะทะลุออกจากอก
"แต่เดี๋ยวสิ ถ้าเรามาที่นี่ได้ งั้นนั่นก็ต้องเป็นเสียงเรียกของเธอน่ะสิ" เขาคิด และคิดจะถาม "เดี๋ยวนะ งั้นเธอ..." เขากำลังจะถาม
แต่นันน่าร์กลับส่ายหน้าแล้วบอกว่า "เปล่าค่ะ แต่ฉันแค่นึกถึงคุณเท่านั้นค่ะ"
ซึ่งเฮลิออสมานึกแล้วก็จำได้ว่า เสียงที่เขาได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงของเธอ แต่ทำไมเขาจึงรู้สึกคุ้นเคยกับมันเหลือเกิน?
นันน่าร์ก็บอกว่า "นั่นอาจจะเป็นเสียงของใครบางคนที่สำคัญต่อคุณมากๆก็ได้ค่ะ แต่ไม่ใช่ฉันแน่ค่ะ" จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า "อ้อ แล้วที่สำคัญที่ให้คุณมาที่นี่ ฉัน..." เธอดูเหมือนจะลังเลที่จะพูด เธอจึงรวบรวมความกล้าแล้วพูดไปว่า "ฉะ...ฉันรักคุณค่ะ"
"หาาาา" เฮลิออสทำหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อ แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่จริงจังของเธอแล้ว เขาก็รู้สึกเขินนิดๆ
"ตะ...แต่ว่าฉัน..." เฮลิออสเอง แม้จะรู้สึกดีใจและเขินที่มีสาวสวยที่อยู่ใกล้ตัวมาบอกชอบ แต่ตอนนี้เขา...
"ค่ะ ฉันรู้..." นันน่าร์ตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "...แต่ว่า ตอนนี้เท่านั้น ขอให้คุณมองแค่ฉันคนเดียวเถอะค่ะ แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ..." แล้วนันน่าร์ก็ก้มหน้าลง
"นัน...น่าร์?" เขาเห็นเธอเงียบไป จึงจะเข้าไปหาเธอ "!!!"
เฮลิออสรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ริมฝีปากอุ่นๆของนันน่าร์ประกบกับปากเขา
ตอนนี้ เขารู้สึกว่า ลิ้นของเธอนั้นชอนไชไปทั่วปาก นั่นทำให้เขารู้สึกดีอย่างประหลาด
ผ่านไปประมาณสามนาที เธอก็ผละออกจากเฮลิออส โดยที่ลิ้นของเธอนั้นถูไปโดนเพดานปากของเขา ทำให้เขารู้สึกเสีย ว จนเกือบทนไม่ได้
"แฮ่ก แฮ่ก" เสียงเฮลิออสและนันน่าร์หอบหลังจากที่...จูบกันนานพอให้ต้มมาม่าเสร็จ
ทั้งสองคนเงียบกันไปสักพักหนึ่ง จากนั้น นันน่าร์ก็พูดขึ้นมาว่า "ละ...แล้ว หลังจากนี้ ขอให้มีความสุขนะคะ"
"???" เฮลิออสสงสัยในคำพูดที่เหมือนจะแฝงความนัยอะไรไว้ของเธอ
"ฉันจะไปแล้วค่ะ นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะได้เจอกัน หลังจากนี้ขอให้มีความสุขนะคะ" เธอพูดพร้อมทั้งยิ้มให้ แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกได้ว่าที่เธอพูดมานั้น มันจะเกิดขึ้นจริงๆ
"เธอจะไปไหน?" เขาถาม แต่นันน่าร์กลับไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มให้แล้วบอกว่า "ลาก่อนค่ะ"
.........................................................................................................................
เฮลิออสตื่นขึ้น เขารู้สึกว่าทุกอย่างที่เขาฝันไปเมื่อครู่นั้น มันราวกับว่ามันเกิดขึ้นจริงๆเมื่อไม่นานมานี้
ที่สำคัญ ตอนนี้เขารู้สึกว่า ข้างๆเขามีใครบางคนอยู่ด้วย
แน่นอนว่านั่นคือ อามาร่า นั่นเอง
จากนี้เขาจะทำอย่างไรต่อไป นั่นก็เรื่องของเขา
แต่สิ่งที่กวนใจจริงๆนั้นก็ยังคงอยู่ นั่นคือ เมื่อกี้นี้ มันเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สังเกตว่า มีกลิ่นน้ำหอมที่เขาได้กลิ่นในความฝันอบอวลอยู่ในห้อง
งั้นที่เขาฝันก็เป็นความจริง?
..........................................................................................................................
"เป็นอย่างนี้จะดีเหรอ?"
"อย่างนี้แหละดีแล้ว"
"แต่พวกเขาจะลืมเธอนะ"
"ไม่เป็นไรหรอก ยังไงซะซักวันก็ต้องลืมกันอยู่แล้ว"
"เธอเองก็เป็นซะอย่างนี้แหละ คิดอะไรก็เหมือนคนที่ปลงแล้วตลอด อย่างนี้ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าเธอต้องทุกข์ใจแค่ไหนน่ะ"
"ไม่ต้องรู้หรอกว่าฉันทุกข์ใจยังไง เพราะคนที่จะต้องเศร้าเสียใจมีแค่ฉันคนเดียวก็เกินพอแล้ว"
"...ในเมื่อพูดถึงขนาดนั้นก็ช่างเถอะ ว่าแต่เธอตัดสินใจแน่แล้วเหรอ?"
"ใช่ ฉันตัดสินใจแล้ว"
"งั้นก็คงต้องยอมรับล่ะนะ อ้อ ลืมบอกไป"
"อะไร?"
"ยินดีต้อนรับกลับมาเพคะ ฝ่าบาท"
.................................................................................................................................
Wing of Destiny ตอนที่ 19 So long My love
[IMG]