คำเตือน!!นี่คือแฟนฟิกชั่น เป็นส่วนเนื้อเรื่องที่เขียนขึ้นใหม่
อาจมีการเติม/เพิ่มตัวละครและสถานที่ภายในเรื่องขึ้นมานะครับ ^_^
Hayateno gotoku cross time ตอนที่ 5 ชีวิตชั้นมีค่าแค่ไหนนะ?
“ขอโทษครับ!!” ฮายาเตะก้มหัวขอโทษลูกะที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมตั้งแต่ตอนที่แล้ว
“เชอะ!!” ลูกะส่งเสียงจากลำคอแล้วหันหน้าหนีฮายาเตะ “ชั้นไม่ฟังคำพูดของคนที่ทิ้งชั้นไว้คนเดียวหรอก”
“เอ๋? ” ฮายาเตะตกใจ “งั้นจะให้ผมทำอะไรก็ยอมครับ” ฮายาเตะร้องแต่ลูกะไม่สนใจยังเมินฮายาเตะอยู่
แล้วนางิก็เข้ามาเขกหัวลูกะทันที “โอ๊ย!! ทำอะไรนะนางิ!!”ลูกะเอามือกุมหัวที่โดนเขก
“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะเธอ คิดจะอ้อนฮายาเตะนะยังเร็วไปยะ” นางิพูด
“ชิ...” ลูกะได้กระเดาะลิ้นด้วยความเสียดายแล้วหันมาพูดกับฮายาเตะ
“งั้นเอาเป็นว่าเที่ยงนี้ขอเป็นอะไรอร่อยๆแล้วกันนะ”
“คงไม่ได้หรอกค่ะ” มาเรียพูดแทรกเข้ามา “เพราะคุณต้องอดอาหารเพื่อเตรียมการตรวจร่างกายน่ะค่ะ”
คำพูดนั้นทำเอาลูกะถึงกับซึมไปเลย ฮายาเตะเห็นจึงรีบเข้าไปปลอบ
“ไม่ต้องห่วงครับ เย็นนี้ผมจะเตรียมสุดยอดอาหาร
ที่ทำจะทำให้คุณซุยเร็นจิประทับใจเลยครับ”ลูกะได้ยินก็ค่อยๆฟื้นตัวกลับมา
“แล้วหลังช่วงบ่ายพวกจะไปเยี่ยมท่านปู่ของตระ:Xลเรานะค่ะ
อาจจะกลับดึกหน่อยนะค่ะ” มาเรียยิ้มแล้วพูดขึ้นมาต่อ
ทำให้ลูกะถึงกับทรุดลงอีกครั้ง “เอ๋เดี๋ยวซิมาเรีย! ชั้นไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย?”
นางิที่เพิ่งจะได้รู้เรื่องนี้ก็ถามมาเรียด้วยความตกใจ
“ก็เมื่อเช้าท่านปู่เขาติดต่อมาว่ามีเรื่องสำคัญที่จะบอกนะค่ะแล้วก็ให้พาพ่อบ้านคนใหม่มาด้วยค่ะ”
“เฮ้อ...” นางิถอนหายใจแล้วถามมาเรียต่อ “แล้วลูกะละ?จะทิ้งให้เธออยู่เฝ้าที่นี่คนเดียวมันก็น่าสงสารนะ”
“ใช่ๆ ไม่สงสารชั้นบ้างเหรอ?” ลูกะพูดแล้วก็พยายามจ้องมองมาเรียด้วยสายตาอ้อนวอน
เพื่อตัวเองจะได้ไม่ต้องถูกทิ้งไว้คนเดียวและจะได้อยู่กับพวกนางิด้วย
แล้วในตอนนั้นเอง “กริ๊งๆๆ”เสียงโทรศัพท์ของลูกะดังขึ้น
ลูกะจึงรีบหยิบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู “แปปหนึ่งนะค่ะ”ลูกะพูดแล้วรีบหันไปรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล? ชิอิริเหรอ?มีอะไรละ...” ลูกะฟังอีกฝ่ายพูดซักพักก็พูดอย่างอ่อนแรง“ต้องขอเจ้าของบ้านนะ....”
ลูกะพูดเสร็จก็ยื่นโทรศัพท์ให้มาเรีย “คือว่าเพื่อนของชั้นอยากคุยด้วยค่ะ” มาเรียก็รับมาแล้วคุย
“สวัสดีค่ะ..... ได้ค่ะเดี๋ยวดิชั้นจะบอกสถานที่ให้ค่ะ แล้วจะบอกกับยามไว้ให้ว่าจะมีคนมานะคะ”
แล้วหลังจากนั้นก็คุยกันอีกซักพัก พอคุยธุระเสร็จมาเรียก็ส่งโทรศัพท์คืนให้ลูกะแล้วพูด
“เพื่อนของคุณบอกว่าจะมาเยี่ยมช่วงเย็นๆนะคะ แบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องอยู่คนเดียวแล้วนะค่ะ”มาเรียยิ้ม
แม้จะเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนแต่ลูกะไม่ได้รู้สึกดีอะไรเลย
“งั้นพวกเราขอไปเตรียมตัวก่อนละค่ะ”มารียพูดแล้วผลักนางิที่มีท่าทีไม่อยากไป
“เอ๋!? แต่ว่า...”นางิมีท่าทีอิดออดแต่มาเรียไม่สนใจ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ฮายาเตะก้มหัวให้ลูกะเล็กน้อย ก่อนเดินตามพวกนางิไปทิ้งไว้ให้ลูกะอยู่คนเดียวอีกครั้ง
ลูกะที่ยังตกใจกับการโทรมาของคนรู้จักไม่พอ ยังโดนทิ้งแบบไม่ใยดีอีก
จะให้ปฏิเสธเพื่อนว่าตัวเองไม่ว่างก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้เธอก็ว่างสุดๆ“โถ่....” ลูกะได้แต่ถอนหายใจด้วยความเสียดาย
ฮายาเตะเดินมาได้ซักพักก็หันไปถามถามนางิ
“เอ่อ....คุณซุยเร็นจิจะไม่เป็นไรเหรอครับ?โดนทิ้งไว้คนเดียวแบบนี้...”
“ไม่รู้ซิ” นางิพูดแล้วมองย้อนกลับไป “เพราะงั้นก็รีบไปรีบกลับแล้วกัน”
“ถ้ายิ่งไปถึงเร็ว ธุระก็ยิ่งเสร็จเร็วนะคะ” มาเรียยิ้ม
“งั้นก็รีบไปกันเถอะ!!”นางิชูมือพูดเหมือนกับว่านางิกำลังจะไปสู้กับจอมมารยังไงยังนั้นแล้วรีบเดินนำไป
ส่วนฮายาก็ตอบรับอย่างแข็งขัน มาเรียเห็นก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ
“ถ้าปกติเป็นอย่างนี้ได้ก็ซิคะ” มาเรียถอนหายใจแล้วเดินตามนางิไป
ห้องพักห้องหนึ่งในคฤหาสน์
“ตอนนี้แผลของคุณดีขึ้นมากเลยครับ อีกไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้แล้วครับ”
หมอบอกกับลูกะที่นอนอยู่บนเตียงพลางค่อยๆเก็บอุปกรณ์ต่างๆลงกระเป๋า
“จริงเหรอคะ?” ลูกะลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วถาม แล้วหมอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้
สวมหมวกทรงกลมเหมือนของชาลี แชปลิน แล้วพูด “ครับขอแค่ช่วงนี้ทานอาหารดีๆ
พักผ่อนมากๆ และอย่าเครียดก็พอครับ” เขาพูดเสร็จก็ก้มหัวให้เล็กน้อย“งั้นกระผมขอตัวครับ”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” ลูกะลุงลงจากเตียงแล้วก้มขอบคุณเช่นกัน
หลังจากที่หมอออกไปซักพัก ลูกะก็นั่งฮัมเพลงโยกขาอย่างมีความสุขกับข่าวดีของตน
จนกระทั่งโทรศัพท์ในห้องดังขึ้นในตอนแรกลูกะก็ลังเลที่จะรับเพราะไม่กล้าที่จะจับโทรศัพท์
ที่หน้าตาเหมือนจะแพงกว่าเงินเดือนของเธอทั้งเดือนแล้วก็ตัดสินใจรับในที่สุด
แต่ลูกะก็ถือแบบเบามือจนมือสั่น “สวัสดีค่ะ...” เสียงของลูกะก็สั่นตามมือเหมือนกัน
“มีคนมาขอพบครับ ช่วยยืนยันด้วยว่าเป็นคนรู้จักด้วยครับ”แล้วอยู่ๆจอทีวีในห้องก็เปิดขึ้น
ทำเอาลูกะเริ่มจะสงสัยว่าคฤหาสน์หลังนี้มีความเป็นส่วนตัวแน่รึเปล่า?ไหนดูซิ?ลูกะคิดแล้วมองไปในจอทีวี
คนที่ยืนกุมมือแล้วก็ทำหน้าประหม่าอยู่หน้าสุดเพื่อนสมัยเด็กของลูกะโนมิกิยะ ชิอิริ
เธอเป็นเด็กผู้หญิงผมสั้นสวมแว่นตาตัวพอๆกับเธอ หน้าตาน่ารักแต่ขณะเดียวกันก็ดูคล้ายเด็กผู้ชาย
ชิอิริสวมเสื้อกันหนาวและกระโปรงสั้นไว้
อีกคนทียืนชะโงกหัวพยายามมองมาที่กล้องจากข้างหลังชิอิริ โซโนะซากิโยริโกะ
เพื่อนของชิอิริและลูกะ เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวสูงพอๆกัน
แต่ดูเป็นผู้หญิงมากกว่าชิอิริ หน้าตาของเธอดูแลดูเหมือนลูกคุณหนูผู้อ่อนประสบการณ์
ผมของเธอมีปลายที่หยักศก ข้างหลังไว้ยาวปลายผมหยิกเล็กน้อย
เธอสวมชุดกลาสี สีชมพูไว้ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะกลับมาจากโรงเรียนของเธอ
ลูกะเคยได้ยินว่าโรงเรียนที่โยริโกะเรียนอยู่ เป็นโรงเรียนสำหรับลูกคนรวยเท่านั้น
เหมือนโยริโกะจะเคยบอกชื่อโรงเรียนอยู่เหมือนกันแต่ลูกะจำไม่ได้
“ใช่ค่ะพวกเธอเป็นคนรู้จักชั้นเองค่ะ”ลูกะตอบกลับทางโทรศัพย์“รับทราบครับ”
แล้วยามก็คุยอะไรซักอย่างกับพวกชิอิริ พอพวกเธอได้ยินที่ยามพูดก็มีสีหน้าดีใจ
แล้วโค้งให้ยามก่อนแล้วก็เดินเข้ามา
แล้วยามก็พูดกับลูกะ “แขกคุณจะรอที่ห้องรับรองแขกนะครับ” แล้วจอก็ดับไป
พอทีวีดับไปลูกะก็ยืนกอดอกหัวเราะเบาๆ
“ฮึๆ เป็นไปตามที่คิดเลย”ลูกะพูดกับตัวเอง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือชูขึ้นมา
“เพราะคนที่นี้ไม่เคยคิดจะบอกสถานที่หรือตำแหย่งอะไรในบ้านนี้เลยเลย....“
ลูกะด้วยน้ำเสียงน้อยใจพูดแล้วเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา
“แต่ด้วยพลังของเทคโนโลยี ชั้นจะโทรหานางิเพื่อถามทางนี่แหละ ”ลูกะพูดเสร็จก็นึกขึ้นได้อย่างหนึ่ง
“นี่เรายังไม่มีเบอร์นางินี่นา....” ลูกะเมื่อคิดได้ก็ได้แต่เอามือยันกำแพงด้วยความสิ้นหวัง
“เมี๋ยว?” เสียงเหมือนสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ดัดจริตทำเป็นร้องเสียงแมวดังขึ้นนอกห้อง
ลูกะสงสัยจึงเปิดประตูออกไป “เสียงอะไรนะ?”ลูกะถามตัวเองแล้วเปิดประตูห้องออกไป
“เมี๋ยว...” “เอ๊ะ?”ลูกะได้เผชิญหน้ากับเสือขาวอีกครั้งระหว่างที่ลูกะยืนอึ้งอยู่
เสือตัวนั้นก็ใช้เท้าชี้ไปที่ทางงเดิน “ก...แกจะ บบบบบอกทางชั้นเหรอ?” ลูกะพูดเสียงสั่นด้วยความกลัว
ตั้งแต่เป็นไอดอลมาก็ไม่เคยเจอเสือตรงๆแบบนี้ซะที ไม่ซิคนสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ได้เจอแน่ๆ
ลูกะพูดกับตัวเองในใจ แล้วจ้องไปที่เสืออีกซักพักหนึ่งอย่างหวั่นๆว่ามันจะกินเธอไหม?
เสือเห็นลูกะจ้องใส่ก็ทำท่าถอนหายใจ?แล้วใช้ขาชี้ไปที่ทางเดินด้านขวาแล้วเดินไปตามทางที่มันชี้
ลูกะก็มองตามันเดินไปซักพักเสือก็ร้องเหมือนจะบอกให้ตามมา
“อ...อืม?” อยู่ดีๆลูกะก็ตอบมันกลับเหมือนว่าคุยกับเสือรู้เรื่องโดยไม่รู้ตัว
แล้วก็เดินตามันไปพอผ่านไปได้ซักพักก็เดินมาถึงห้องๆหนึ่งซึ้งหน้าประตูมีป้ายเขียนติดว่าห้องรับรองแขก 1
ลูกะเห็นก็ดีใจ “ว้าวมาถึงแล้ว!! ขอบใจมากเลยนะ...”ลูกะพูดแล้วเอื้อมมือไปหาเสือตัวนั้น
ก่อนจะนึกออกว่าอีกฝ่ายเป็นเสือจึงหยุดมือไว้ก่อนแล้วมองหน้าเสือเหมือนจะถามว่าได้ไหม?
เสือก็จ้องตอบแล้วหลับตาลงแล้วพ้นลมทางจมูกเหมือนจะบอกว่าได้ซิ
ลูกะเห็นจึงค่อยๆเอามือไปลูบหัวมันช้าๆเมื่อเห็นว่าเสือทำท่าดีใจก็โล่งอก
พอลูบได้ซักพักก็ติดลมจนลืมว่าพวกชิอิริรออยู่ เมื่อรู้ตัวจึงรีบเอามือออกจากเสือแล้วเดินไปที่ห้องรับรองแขก1
ลูกะจับลูกบิดก็หันมาบอกลาเสือ ”แล้วมาเล่นกันอีกนะ”เสือได้ยินก็เดินออกไปก็ร้อง เมียว แล้วเดินจากไป
แล้วลูกะก็บิดลูกบิดประตู แต่ระหว่างนั้นเอง“เดี๋ยวซิถ้าเข้าไปตามปกติละก็....” แล้วลูกะก็เริ่มวาดภาพในหัว
“ว่ายังไงทุกคน” ลูกะเดินเข้าไปทักทายอย่างแจ่มใสดั่งปกติ “อ้าว?สบายดีซินะลูกะ”ชิอิริทักทายตอบ
“สวัสดีจ๊ะลูกะจัง” โยริโกะทักทายต่อ …..
ไม่ได้ๆ ลูกะกลับสู่โลกความจริง แบบนั้นมันดูธรรมดาไปเป็นเหตุการณ์ที่เจอบ่อยไปแล้วละ ลูกะพูดกับตัวเอง
แล้วนึกถึงเหตุการณ์เมือสมัยก่อนที่ลูกะยังฝึกเป็นไอดอลอยู่ก็มีเรื่องให้เข้าโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ
การพบกันแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
ตอนนี้เราก็อุตส่าห์ได้มาพักในคฤหาสน์สุดหรูมีทั้งพ่อบ้าน และเมดคอยรับใช้แล้วทั้งที
รู้แล้วต้องเข้าไปแบบมาดผู้ดีซินะ ลูกะคิดแล้วปล่อยมือออกจากลูกบิดประตูและค่อยๆจัดแจงเสื้อผ้า
และทรงผมให้เรียบร้อยเสร็จแล้วก็เปิดประตูเข้าไป
“ว่ายังไงบ้างทุกคน”ลูกะเดินเข้าไปข้างในห้องอย่างสง่างามก้าวแต่ก้าวเท่ากัน พร้อมกับรอยยิ้ม
แต่ข้างในห้องกลับไม่มีใครอยู่เลย “เอ๋?” ลูกะเดินเข้าไปในห้องแล้วลองพยายามมองหาชิอิริหรือไม่ก็โยริโกะดู
“ผิดห้องเหรอ? ไปห้องน้ำเหรอ?” ลูกะที่ไม่เห็นใครก็เริ่มกังวลนิดๆแล้วก็เดินวนไปวนมาในห้องอยู่หลายรอบ
ก่อนเดินออกไปหน้าห้องแล้วมองไปที่ประตู“นี่ก็ห้องรับรองแขกถูกแล้วนี่นา เดี๋ยวก่อนนะ...”
แล้วลูกะก็สังเกตเห็นตัวเลขหนึ่งข้างหลังป้ายห้อง อย่าบอกนะว่า.... กว่าลูกะรู้ตัวก็ช้าไปพอสมควร
ห้องรับรองแขก 1 ถ้ามันมีตัวเลขอยู่ก็แปลว่ามันต้องมีหลายห้องแน่ๆลูกะจึงค่อยๆสงบใจลงแล้วคิด
ไม่หรอกๆ ก็เป็นคฤหาสน์นี่นา จะมีห้องรับรองแขกซักห้องสองห้องก็ไม่แปลกหรอก
ลูกะใช้มือแตะหน้าผากแล้วส่ายหัวไปมาเพื่อจะบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย
ลูกะคิดเสร็จแล้วเดินไปหน้าห้องถัดไปแล้วเตรียมตัวอีกครั้ง
เสร็จแล้วก็เข้าไปตามแบบแผนเดิมที่วางไว้ “ว่ายังไงบ้างทุกคน........”แต่ก็ไมพบใครอีกเช่นกัน
ลูกะจึงรีบเดินออกไปนอกห้องแล้วมองไปตามทางเดินก็พบกลับความจริงอันน่าตกใจ
ในระยะอีกเกือบ 50 เมตร ทุกๆห้องล้วนเป็นห้องรับรองแขกทั้งนั้น
“หนอย!!! พวกคนรวย!!!!” ลูกะตะโกนสาปแช่งเหล่าผู้คนที่ใช้พื้นที่และกำลังเงินอย่างเปล่าประโยชน์สุดๆ
แต่ก็แค่ในใจละนะ.....
ณสถานที่แห่งหนึ่งบนภูเขาสูงที่ไกลออกไปจากตัวเมือง
ที่ๆรถไม่สามารถเข้าออกได้มีปราสาทหลังมหึมาตั้งตระหง่านอยู่
“ฮัดชิ่ว....” “ท่านปู่เป็นหวัดเหรอคะ?”มาเรียถามชายแก่ที่พึ่งจามไปด้วยความเป็นห่วง
“ดีเลยตาแก่รีบๆตายไปได้แล้วละ”ผิดกับนางิที่ตอบกลับอย่างเยือกเย็นและโหดร้าย
ชนิดที่ว่าคนแก่ธรรมดาได้ยินต้องตรอมใจตายแน่ๆ
ชายแก่คนนั้นได้ยินก็ร้องออกมาแล้วเข้าไปซบอกมาเรีย “แง!!มาเรียหลานสาวแกล้งชั้นอีกแล้วอะ”
ส่วนมาเรียก็ได้แต่พูด แหมๆ
“เปล่าซักหน่อย” นางิตอบแล้วหันกลับไปมองหนังสือพิมพ์อย่างไม่ใยดี
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย gaganehehe เมื่อ 2013-3-4 19:21
Hayate no gotoku cross time ตอนที่ 5