กลางดึกของคืนหนึ่ง
ไอโอ เจ้าหญิงอันดับสองแห่งอาณาจักรอะไรซักอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึงชื่อ เธอมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าปลอดเวรยามแล้ว เธอก็วิ่งออกมาจากมุมเสาต้นหนึ่ง
จุดมุ่งหมายของเธอคือรูปของราชินีหรือรูปของเสด็จแม่ของเธอนั่นเอง
เธอเข้าไปใกล้แล้วเลื่อนภาพนั้นขึ้นอย่างช้าๆและเบาที่สุด จนเห็นเป็นทางลับข้างใน
ทางลับนี้เป็นทางลับที่เธอเจอเข้าโดยบังเอิญเมื่อนานมาแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้บอกใครว่ามีมันอยู่ เพราะเธอรู้ว่า้ถ้าบอกคนอื่นเขาจะต้องไปสำรวจและทำให้เธอหนีเที่ยวไม่ได้
ใช่แล้ว ทางลับที่ว่านี้เป็นทางที่ไอโอใช้หนีเที่ยวบ่อยๆนั่นเอง
เธอเดินหายเข้าไปในทางลับแล้วรูปภาพปิดลงอย่างช้าๆ
................................................................................................................
รุ่งเช้า ทั่วทั้งวังกำลังวุ่นวายกัน
อลิซาเบธที่พึ่งกลับมาได้ไม่นานเห็นเช่นนั้นก็เข้าไปสืบถาม "มีอะไรหรือพวกท่าน? เห็นวุ่นวายแต่เช้าเชียว" ข้าราชบริพารที่ถูกถามก็ได้แต่ทำหน้าเซ็งๆ แต่ก็กราบทูลตอบไปว่า "ก็เจ้าหญิงไอโอน่ะสิพะยะค่ะ หายไปอีกแล้ว" อลิซาเบธได้ยินดังนั้นก็หน้าเปลี่ยนสีแล้วถามว่า "อะไรนะ ไอโอหายตัวไป" เธอถามด้วยความเป็นห่วงน้องสาวจึงมีท่าทีที่เป็นห่วงออกทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด
แต่เมื่อเธอมองไปรอบๆ กลับไม่มีใครที่มีท่าทีเป็นห่วงเท่าไหร่ มีแต่ทำหน้าแบบเซ็งๆกันไปหมด "แล้วทำไมทุกคนถึง..." เธอถามเพราะคิดว่าทำไมทุกคนถึงทำเหมือนกับว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ข้าราชบริพารที่อยู่ข้างหน้าเธอคนนั้นก็ก้มแล้วกราบทูลว่า "เจ้าหญิงอลิซาเบธพึ่งกลับมาอาจจะยังไม่ทราบ แต่เจ้าหญิงไอโอหายตัวไปอย่างนี้ประจำพะยะค่ะ" อลิซาเบธยิ่งได้ยินดังนั้นก็ยิ่งเป็นห่วง ก่อนที่เธอจะพูดอะไรต่อ ข้าราชบริพารคนนั้นก็ชิงกราบทูลก่อนว่า "แต่ไมต้องกังวลไปหรอกพะยะค่ะ อีกไม่นานเจ้าหญิงก็คงจะกลับมาอีกตามเคย..." แล้วเขาก็หลบหน้าไปทางอื่น ได้แต่สร้างความสงสัยให้แต่อลิซาเบธต่อไป
"งั้นหรือคะ พี่ไอโอหนีไปอีกแล้วสินะคะ" เจ้าหญิงอันดับสามกล่าวขึ้นอย่างไม่ค่อยสนใจเท่านไหร่ เธอยังคงนั่งเย็บตุ๊กตาทำเองต่อไปบนเตียงของเธอ อลิซาเบธกลับกล่าวขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า "อะไรกันโมนิก้า พี่สาวเธอหายไปทั้งคนเลยนะ ไม่เป็นห่วงบ้างหรือไง?" โมนิก้าได้ยินดังนั้นก็หันมามองพี่สาวของตน แล้วพูดว่า "ถึงห่วงไปก็เท่านั้นแหละค่ะ พี่ไอโอชอบไปไหนมาไหนไม่บอกใครอยู่แล้วก็น่าจะรู้นี่คะ อีกอย่างเดี๋ยวเขาก็กลับมาเองแหละ" เธอพูดเสร็จก็ัหันกลับไปเย็บตุ๊กตารูปหมีต่อ อลิซาเบธก็ได้แต่ิคิดว่า "นั่นสิ ถ้าขนาดโมนิก้าพูดแบบนี้แล้วคงไม่มีอะไรต้องห่วงเท่าไหร่หรอกมั้ง" แต่ถึงเธอจะคิดอย่างนั้น เธอก็ยังเป็นห่วงน้องสาวของเธออยู่ดี
ทางด้านพระราชาเอง เมื่อได้ข่าวว่าเจ้าหญิงหายตัวไปอีกแล้วก็ได้แต่กุมศีรษะอย่างปวดหัว "เอาอีกแล้วรึ?" พวกข้าราชบริพารที่เห็นต่างก็เข้าพระทัยของพระองค์ดี จึงได้แต่ถอนหายใจกันอย่างทุกข์ใจกับการกระทำของเจ้าหญิงอันดับสอง
....................................................................................................................
"ว่าแต่ท่านพี่กลับมายังไงเหรอ?" โมนิก้าถาม เพราะเธอไม่เคยออกไปข้างนอกจึงอยากให้พี่สาวที่พึ่งกลับมาจากต่างเมืองเล่าให้ฟัง
"ไม่รู้เหมือนกัน" อลิซาเบธพูดขึ้น โมนิก้าได้ยินก็รู้สึกสงสัยไม่น้อย "แล้วท่านพี่กลับมาได้ไงกันล่ะ?" อลิซาเบธก็ส่ายหัวแล้วตอบไปว่า "ไม่รู้สิ จำได้แค่ว่าตอนคุยอยู่กับคุณกันยา..." เธอทำท่านึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น
"เป็นอะไรไปลิซ่า?" "สงสัยฉันต้องกลับไปแล้วล่ะค่ะ" กันยาได้ยินดังนั้นก็มองไปที่จดหมาย แต่จู่ๆทั้งคู่ก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล
"ลิซ่า หนีไปซะ!!!" กันยารีบพูดขึ้น แต่ลิซ่าได้แต่สงสัยที่่จู่ๆกันยาก็เปลี่ยนท่าที "อะไรกันคะ?" เธอยังคงถามด้วยความสงสัย "ช่วยไม่ได้" กันยาคิด
รอบตัวของลิซ่าปรากฏแสงขึ้นมา จากนั้นแสงก็ห่อหุ้มเธอไว้ ความทรงจำของเธอหยุดอยู่แค่นั้น
คุณกันยาเป็นอย่างไรบ้าง? เธอคิดเช่นนั้น แต่ก็หายเป็นห่วงได้นิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าที่กันยาส่งเธอมานั้นจะต้องไม่เป็นไรแน่ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอไปเอาความมั่นใจเช่นนั้นมาจากไหน
โมนิก้าเห็นพี่ที่เงียบไปนานและมีสีหน้ากังวลจู่ๆยิ้มขึ้นก็สงสัย "มีอะไรคะ?" เธอถาม แต่อลิซาเบธก็ยิ้มแล้วบอกว่า "ไม่มีอะไรหรอก"
แม้จะเห็นว่าแปลก แต่ในเมื่อเจ้าตัวบอกว่าไม่มีอะไรเธอก็ไม่อยากเซ้าซี้ แต่เธอก็วกกลับมาคำถามเดิมว่า "แล้วพี่กลับมายังไงคะ?"
"นั่นสิ กลับมายังไงกันนะ?" อลิซาเบธพูดขึนพร้อมทั้งเอานิ้วแตะปากเบาๆ พลางนึก "แต่เรื่องนั้นช่างเถอะ พี่มีเรื่องเล่าอีกเยอะแยะเลยล่ะะ อยากฟังมั้ย?"
โมนิก้าได้ิยินดังนั้นก็ดีใจและบอกว่า "ฟังสิๆ" แล้วเธอก็นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ
อลิซาเบธรู้ดีว่าน้องสาวคนเล็กไม่เคยได้ออกไปไหนเลยนอกจากอยู่แต่ในปราสาท เธอจึงเลือกที่จะเล่าเรื่องราวของเมืองต่างๆที่เธอเคยเห็นให้ฟัง
ดูเหมือนว่าใครบางคนจะถูกลืมแฮะ
.........................................................................................................
"มาตรงเวลาดีนี่" ชายคนหนึ่งพูดขึ้น เขาอยู่ในชุดสีดำแบบทหารยุดสมัยก่อน ที่หลังเขาคาดดาบไว้แนวขวางหนึ่งเล่ม มือของเขาถือดาบที่อยู่ในฝักอีกหนึ่งเล่ม
หญิงสาวที่พึ่งมาถึงลงจากม้าตัวสีขาว เธอหยุดลูบมันก่อนทีหนึ่งและปล่อยมันไว้แถวนั้น "ค่ะ อาจารย์" เธอผู้อยู่ในชุดคล้ายๆกันกับเขาพูดขึ้นพร้อมกับก้มตัวเป็นการแสดงความเคารพทีหนึ่ง "ขอความกรุณาด้วยค่ะ" เธอพูดขึ้นพร้อมทั้งชักดาบวิ่งเข้าใส่เขา
เธอฟันใส่เขาอย่างไม่ลังเล แต่เขาก็หลบได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ขยับตัวนิดหน่อย "เสร็จล่ะ" เธอคิด จากนั้นรีบเปลี่ยนคมดาบเข้าหาตัวเขาที่หลบดาบเมื่อครู่ไปได้
อธิบายให้เห็นภาพคือ เธอฟันดาบแรกตรงๆ เขาหลบได้ จากนั้นเธอที่ยังฟันไปไม่สุดก็พลิกดาบฟันเขาในแนวนอนต่อ
เขาคนนั้นรู้ทันจึงกระโดดถอยหลบไปสามก้าว แต่เธอก็วิ่งตามมาติดๆและฟันในแนวนอนอีกครั้ง
อธิบายอีกหน่อย ที่ทำเช่นนั้นเพราะการฟันแนวนอนนั้นสามารถฟันได้เป็นวงกว้างรอบตัว และทำให้ยากต่อการโจมตีกลับของอีกฝ่าย ซึ่งถ้าฟันในแนวตั้งแล้ว คนที่สามารถหลบได้อย่างชำนาญจะหลบอย่างฉิวเฉียดและเข้ามาโจมตีกลับได้ แต่ถ้าฟันแนวนอนนอกจากจะโจมตีกลับได้ยากแล้ว ยังกดดันให้อีกฝ่ายต้องป้องกันหรือไม่ก็ให้ถอยไปได้อย่างดี
แต่ว่าเขากลับถอยไปแค่ก้าวเดียว แล้วเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อยก็สามารถหลบดาบได้แล้ว "แย่ล่ะ!!" เธอคิด เพราะว่าเธอออกแรงฟันเต็มที่ไม่สามารถชักดาบกลับมาได้ในทันที
"เธอแพ้แล้ว" ชายคนนั้นกล่าวขึ้น มือของเขาถือดาบปลายจ่ออยู่ที่คอของเธอคนนั้น เธอจึงลดดาบลงและนั่งลงฮวบ "หวา แ้พ้ซะแล้ว อาจารย์เก่งจัง" เธอพูดอย่างอ่อนแรง แต่ก็ยังกล่าวชมอีกฝ่ายที่ชนะเธอได้อย่างง่ายดาย "ไม่หรอก เธอเองก็เก่งขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ" เขาพูด "แต่ว่าเธอยังไม่รอบคอบพอ อย่างการฟันเมื่อกี้แม้ว่ามันจะได้ผลดีมาก แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนที่เข้าในเรื่องการโจมตีด้วยดาบดีก็สามารถหลบได้ง่ายๆ และเธอก็จะถูกรุกกลับได้ง่ายๆเช่นกัน" เขาอธิบายถึงข้อดีและข้อเสียของการโจมตีของเธอ เขาสามารถมองได้อย่างทะลุปรุโปร่ง "แต่หนูไม่เห็นจะเก่งขึ้นเลย" เธอคนนั้นพูดขึ้น เพราะเธอรู้สึกว่า ถ้าเธอเก่งขึ้นทำไมถึงเอาชนะอาจารย์ไม่ได้ "เธอน่ะเก่งขึ้น แต่ว่าเธอยังต้องฝึกเรื่องประสบการณ์อีกเยอะ" เขาบอกเพื่อแก้ความสงสัย "ของแบบนี้ต่อให้รู้ไปแต่ไม่ได้ใช้มันก็ไม่มีประโยชน์ แต่หากมีประสบการณ์ตรงเธอก็จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและก็จะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของวิชาดาบ...ได้" ท่อนหลังเขาแทบจะหยุดพูด เพราะเมื่อเขาหันกลับไปมองลูกศิษย์ก็พบว่าเธอกำลังนั่งเล่นกับม้าของเธออยู่ "นี่ฟังกันบ้างสิ" "ไม่ค่ะ หนูฟังแบบนั้นมาจนจำได้แล้วล่ะ อะไรนะ 'ของแบบนี้ต่อให้รู้ไปแต่ไม่ได้ใช้ก็ไม่มีประโยชน์ แต่หากมีประสบการณ์ตรงเธอก็จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและก็จะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของดาบได้' สินะคะ" เธอหันมามองเขาหลังจากพูดเสร็จ แล้วเธอก็ยิ้มให้เขา ซึ่งเขาก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะเธอพูดมามันก็จริง "ก็มันทำไงได้ ฉันพูดไม่ค่อยเก่งนี่" เขาบอก "แต่พอเป็นเรื่องสอนคนอื่นเนี่ยกลับคล่องเชียวนะคะ" เธอพูดขึ้นพร้อมทำหน้าแหยๆ "ก็นั่นแหละที่มันมาจากประสบการณ์ มันก็เลยออกมาเอง" เขาบอกไปอย่างรวดเร็วแก้เก้อ "งั้นถ้าอยากเก่งเรื่องอย่างว่าก็ต้อง..." "เฮ้ยๆ เรื่องอย่างว่านี่มันอะไร?" เขาปั้นหน้าจริงจังถาม "ก็เรื่องนั้นไงคะ" แล้วเธอก็ยิ้มอย่างยั่วยวนกวน... แต่ถึงกระนั้นก็แฝงด้วยความน่ารักเอาไว้ "ดูๆไปยัยนี่ก็น่ารักดีนะ..." เขานึกแล้วก็ยิ้ม เธอเห็นเช่นนันก็จ้องอาจารย์ตาเขม็งแล้วพูดว่า "คิดอะไรคะ?" เขาได้ยินดังนั้นก็หน้าแดงแล้วรีบหันไปทางอื่น "ปะ...เปล่าซะหน่อย" เขารีบปฏิเสธ แต่เธอก็ยังแซวต่อ "อาจารย์คงจะจินตนาการอะไรแปลกถึงหนูสินะคะ" แต่เธอกลับพูดทั้งยิ้ม เขาก็ได้แต่ปฏิเสธ "บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ" "อาจารย์ลามก" "ก็บอกว่าไม่ใช่ไง!!!" เขาก็ยังคงปฏิเสธเสียงแข็งเ่ช่นเดิม "ฮะๆๆ " เธอได้แต่หัวเราะแล้ววิ่งหนีรักษาระยะห่างเพราะเขาไล่ตามมาติดๆ
"เจอนี่เป็นไง ย้ากก!!!" เขาตะโกนพร้อมทั้งฟาดดาบลง จากนั้นก็มีลูกไฟพุ่งออกไปใส่เป้าหมาย "อ๊า!! ขี้โกงนี่!" เธอพูดขึ้น จากนั้นก็ฟาดดาบลงซัดลูกไฟอีกลูกไป
ตูม เสียงลูกไฟสองลูกปะทะกันก่อนจะสลายไป
"โฮ่ ดูเหมือนเธอจะเก่งนี่ ใช้นี่ได้ด้วย" เขาพูดขึ้นพร้อมทั้งยิ้มแล้วจ้องมาทางลูกศิษย์สาว เธอเห็นเช่นนั้นรู้สึกหนาววูบ เพราะรอยยิ้มของเขา "อ๊ะ!!! เผลอไป" เธอคิด แต่เธอก็ได้แต่ยิ้ม "แฮะๆๆ นั่นสิคะ" แต่ใจเธอร้องว่า "ทำไงดี อาจารย์รู้จนได้ว่าเราแอบฝึกวิชาของอาจารย์ แย่ล่ะ แล้วนี่เรายังเอาไปดัดแปลงเป็นแบบของเราเองด้วย ทำไงดีๆ"
"ไอโอ!!" เขาเรียก "ค่ะ อาจารย์" เธอรีบยืนตัวตรงตอนตอบกลับ เพราะเกร็งไปทั้งตัวเพราะไม่รู้ว่าอาจารย์จะลงโทษอะไรจนเขาเข้ามาใกล้ๆ เธอหลับตาลงเพราะไม่รู้เขาจะลงโทษอะไร
หญิงสาวหรือที่แท้ก็คือเจ้าหญิงไอโอที่หนีออกมานอกวัง แอบออกมาที่นี่นี่เอง
เธอลืมตาข้างหนึ่งขึ้น อย่างลุ้นว่าจะโดนลงโทษอย่างไรบ้าง และเธอก็ต้องตกใจที่มีมือมาแตะที่ไหล่ "อ๊ะ ต่อไปหนู่จะไม่ทำแล้วค่ะ หนูจะ..." เธอพูดตอบกลับอย่างรวดเร็วอย่างสำนึกผิด แต่ก็หยุดลงเพราะอีกฝ่ายกำลังจะพูด "เธอมีพรสวรรค์ดีมากไอโอ" เขากล่าวชม เธอจึงมองหน้าเขาที่ยืนอยู่ข้างหน้า
ไอโอเห็นอาจารย์ของเธอยืนยิ้ม มือข้างหนึ่งจับไหล่ของเธอไว้
เธอพึ่งสังเกตเห็นว่าอาจารย์ของตนนั้นจริงๆแล้วก็เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอจึงรู้สึกเขินที่จ้องหน้าเขาตรงๆ "อะ...เอ่อ...อาจารย์...คะ" เธอพูดขึ้นพร้อมกับหลบหน้าเขา
"อ๊ะ ขอโทษที" เขารีบเอามือลง แล้วกล่าวขอโทษ "แต่ว่่าเธอนี่สุดยอดนะ ทั้งๆที่ไม่ได้รับการฝึกสอนแต่กลับใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว น่าเสียดายนะที่ฉันไม่ได้สอนเพราะคิดว่ามันไม่เหมาะกับเธอน่ะ" เขาพูดพร้อมกับหลับตาแล้วถอนหายใจในความทึ่มของตัวเองที่ไม่ยอมให้เธอฝึกวิชานี้เพราะความเห็นส่วนตัวจนลืมไปว่าไอโอนั้นมีพรสวรรค์ในด้านนี้
ทั้งสองคนนั้นไม่รู้ตัวว่าถูกสายตาคู่หนึ่งจ้องมองด้วยความไม่พอใจ
"อ๊ะ ใช่ ถ้าเป็นเธอถึงฉันจะไม่สอนก็คงเข้าใจได้มั้ง" ว่าแล้วเขาก็หยิบม้วนกระดาษคล้ายๆคัมภีร์อะไรซักอย่างออกมา "นี่เป็นวิชาดาบที่ฉันเขียนขึ้นมาให้เธอโดยเฉพาะ ถ้าเธอฝึกบ่อยๆจะต้องเก่งขึ้นแน่นอน" เขายิ้มแล้วยื่นม้วนกระดาษนั้นให้ ซึ่งไอโอก็ยื่นมือไปรับเอาไว้ แล้วเอามันมาแนบอก เพราะเธอรู้สึกแปลกๆจากเขา
ความรู้สึกที่บอกไม่ได้นี้ มันบอกเธอว่าคำพูดแบบนั้นมันดูแปลกๆ ราวกับว่าเขาจะจากไป
"จากนี้ไปขอให้ตั้งใจฝึกให้ดีล่ะ ฉันได้เวลาไปแล้ว" เขายิ้มแล้วพูดมา
นั่น ไม่ผิด ความรู้สึกสังหรณ์ของเธอไม่มีผิดเลยซักนิด แม้เธอจะอายุแค่นี้ แต่เธอเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ที่ว่ากันว่าได้รับพลังบางอย่างมาจากเทพเจ้า ย่อมต้องมีลางสังหรณ์เหนือคนธรรมดา และต่อให้ไม่มีลางสังหรณ์เธอก็รู้ได้อยู่ดี
มันแปลกตั้งแต่เธอเริ่มเข้ามาแล้ว ปกติเขาจะต้องนั่งรอเธออยู่ใต้ต้นไม้ซักต้นอย่างสบายใจ แต่นี้เขากลับยืนรอเธอแทน แล้วไหนจะแนะนำเรื่องต่างๆอย่างค่อนข้างละเอียดแบบเน้นๆราวกับว่าจะให้เธอจำไว้อย่างไม่มีวันลืม แล้วไหนจะสายตาที่มองมาอย่างแปลกเหมือนกับจะมีอะไรบอก
ที่แท้เขาก็พยายามจะบอกเธอนี่เองว่าเขาจะจากเธอไป
แต่เธอก็ยังพยายามคิดว่าเขาคงจะพูดเล่นแบบที่ผ่านๆมา "แหม...พูดเล่นอะไรคะอาจารย์" ถึงแม้จะยิ้ม แต่เธอก็เริ่มหวั่นๆกับคำตอบ
"ที่จริงก็อย่างที่บอกนะ ฉันว่าเธอเรียกฉันว่าอาจารย์มันก็กระไรอยู่ เพราะว่าฉันก็มีชื่อของฉันเหมือนกัน ลีออน เรียกซะมั่งสิ ยัยลูกศิษย์จอมดื้อ" เขากอดอกแล้วพูดขึ้นเสียงดัง เพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น
แต่ทว่า เธอกลับได้แต่จ้องเขาด้วยแววตาที่อยากจะถามอะไรบางอย่าง ซึ่งเขาก็รู้ได้เลยว่านั่นเรื่องอะไร
"เอาน่า ไอโอ ไม่ได้จากไปแบบตลอดสักหน่อย สักวันเธอกับฉันก็ได้พบกันอีก" ถึงลีออนจะพูดไปแบบนั้น แต่เขาก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
"จะไปไหนกันคะ?" เธอถามเสียงสั่น พร้อมส่งสายตาวิงวอนขอให้ตอบ ลีออนกลับไม่พูดอะไร พลางมองม้วนคัมภีร์ที่มือของไอโอซึ่งตอนนี้เธอกอดมันไว้แน่นราวกับเด็กรับของมาแล้วหวงไว้อย่างนั้น "จากนี้ไปก็ตั้งใจฝึกด้วยล่ะ" เขาพูดแค่นั้นแล้วตัดสินใจหันหลังให้แล้วเดินจากไป
ตอนนี้สำหรับไอโอเหมือนเวลาหยุดนิ่ง
สำหรับเจ้าหญิงแสนซนอย่างเธอ หลายคนอาจจะคิดว่าเธอนั้นคงไม่มีความอ่อนโยน แต่ว่าจริงๆแล้วเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งนะ
ตอนแรกๆที่เธอหนีออกจากวังมา เธอไม่รู้อะไรเลยจึงหลงเข้าไปในป่า และเจอกับสัตว์ร้ายเข้า แต่ก็ได้ลีออนช่วยเอาไว้
แม้ตอนนั้นเธอจะยังเด็กมาก แต่เธอก็จำได้ว่านั่นคือลีออนไม่ผิด นั่นจึงเป็นความประทับใจและแรงบันดาลใจให้เธอหนีออกมาฝึกกับเขาบ่อยครั้ง
แต่ตอนนี้เธอรู้แล้ว ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงข้ออ้าง
จริงแล้วตั้งแต่ที่พบกับลีออนครั้งแรก เธอก็ตกหลุมรักเขาแล้ว แต่ด้วยความสับสนในวัยเด็กเธอจึงยังไม่แน่ใจกับมัน และคิดว่านั่นมันเป็นความประทับใจ
แต่ตอนหลัง เธอก็ต้องหนีออกมาบ่อยๆ เพราะต้องมาฝึกวิชาดาบกับเขา และเรียนรู้สิ่งต่างๆจากเขา โดยที่เก็บความรู้สึกชอบนั้นเอาไว้ฝ่ายเดียว
เรื่องอายุนั้นไม่สำคัญ เธอคิดอย่างนั้น เพราะอย่างน้อยเธออยู่กับเขาแล้วเธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก และเธอก็ไม่ได้รังเกียจเขาเลย
แต่ตอนนี้ความสุขที่เธอพบมาตลอดกำลังจะเดินจากไปแล้ว
มีพบก็ต้องมีพราก แม้เธอจะรู้ แต่เธอก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้
เธอยังไม่ได้บอกเขาเลยว่าเธอรู้สึกอย่างไร
"เดี๋ยวก่อน อา...ลีออน" เธอเกือบเรียกเขาว่าอาจารย์ แต่ก็กลับคำทัน
ลีออนหยุดแล้วหันมา "มีอะ...ไอโอ..." เขากำลังจะถามแต่ว่าเขาก็หยุดและเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อเธอแทน เพราะเธอวิ่งเข้ามากอดเขาแน่น
"ฉันรักคุณค่ะ ลีออน" เธอพูดไปอย่างไม่ลังเล เพราะเธอไม่อยากให้เขาจากไปทั้งอย่างนั้น อย่างน้อยก็บอกให้เขาได้รู้ก็พอ
ลีออนได้แต่มองเธอด้วยแววตาที่เอ็นดูมากกว่าที่จะเขินหรือดีใจ เขาหลับตาแล้วผลักไอโอออกเบาๆ
"เสียใจด้วยนะ" ลีออนยิ้ม ไอโอทำท่าจะถาม แต่ลีออนก็รีบชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า "เห็นอย่างนี้แต่ฉันก็มีอายุพอๆกับพ่อของเธอนะ ไม่สิ อาจจะมากกว่าจนเป็นปู่ด้วยซ้ำ" เขาพูดมาง่ายๆ แต่นั่นกลับทำให้ไอโอยืนกรานว่า "ต่อใ้ห้คุณเป็นปู่หรือเป็นอะไรก็เถอะ แต่ฉันก็ยังรักคุณค่ะ" เมื่อเห็นความตั้งใจของอีกฝ่ายเช่นนั้น ลีออนเองก็ไม่รู้จะทำไงดี เขาจึงบอกไปว่า "แต่ว่าฉันมีลูกมีเมียแล้วนะ ถึงตอนนี้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็เถอะ" แล้วเขา่ก็มองไปบนฟ้าแล้วยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะมองมาทางไอโอที่ตกใจกับคำพูดเมื่อครู่ เมื่อเห็นเป็นโอกาสลีออนก็พูดต่อว่า "เธอน่ะ คงจะอายุพอๆกับลูกสาวฉัน ที่ฉันใจดีกับเธอน่ะก็เพราะอย่างนั้นแหละ" เขาพูดแล้วก็มองไปที่เธอซึ่งตอนนี้ยังคงสับสนอยู่
"แล้วไงล่ะ หนูไม่สนหรอกเรื่องพรรค์นั้นน่ะ" เธอยังคงยืนยันมาอย่างนั้น ลีออนเองก็ตกใจกับความดื้อเพราะเขาไม่คิดว่าลูกศิษย์จะดื้อขนาดนี้
"งั้นก็ตามใจแล้วกัน เตือนแล้วนะ" เขาพูดขึ้นมาอย่างระอากับอาการเอาแต่ใจของไอโอ "แต่ถ้าสักวันหนึ่งเธอ..." แต่เขาก็หยุดพูด "อะไรคะ?" ไอโอถาม แต่ลีออนก็ได้แต่ส่ายหน้า "เปล่า ไม่มีอะไร"
แต่จริงๆที่เขาจะพูดก็คือ แต่ถ้าวันหนึ่งเธอเกิดรักใครสักคนขึ้นมาจริงๆ เธอเองก็จะทุกข์ใจนะ แต่เขาก็ไม่พูดมันออกไปเพราะคิดว่า เรื่องแบบนี้เธอคงจะเข้าใจเองซักวัน "อย่าลืมล่ะ เธอต้องตั้งใจฝึกให้ดี แล้วก็ลาก่อน" เขาพูดและหันหลังแล้วเดินหายไป
ถึงจะเสียใจ แต่เธอก็ไม่ได้ร้องไห้ เพราะเธอคิดว่าไม่ได้จากกันตลอด แล้วเขาก็คงต้องกลับมาอีกซักวันแน่
แล้วเธอก็มองม้วนคัมภีร์ในมือ "ไม่มีเวลามาเสียใจหรอกนะไอโอ" เธอตัดสินใจที่จะฝึกวิชาดาบตามที่เขาสั่งเสียไว้
........................................................................................................................
หลายเดือนผ่านไป
สงครามยังคงไม่สิ้นสุด แต่มันกลับลุกลามไปเรื่อยๆ
ที่หุบเขาแห่งหนึ่งบนโลก
กองทัพหุ่นยนต์ที่นำโดยแม่ทัพได้เดินทางผ่านโดยใช้เส้นทางนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะถูกขัดขวาง
"เกิดอะไรขึ้น?" แม่ทัพดูนอร์ถาม เพราะทางนี้เป็นทางแคบ แล้วขบวนทัพก็มีทหารจำนวนมาก ทำให้แถวยาวจนมองไม่เห็นหน้าหลัง
ลูกน้องคนหนึ่งก็รีบรายงานด้วยสีหน้าที่ตื่นกลัว "มะ...แม่ทัพครับ" เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็ถามกลับไปทันที "อะไร?" "คือว่ากองหน้าของเราถูกจู่โจมครับ"
"แล้วศัตรูมีกองกำลังเท่าไหร่?" เขาถามเพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นหุ่นยนต์เ่ช่นกัน แต่ดูจากสีหน้าของลูกน้องที่ไม่ยอมตอบแล้วเขาก็เปลี่ยนใจ "หรือว่าจะไม่ใช่หุ่น?" "ครับ" ลูกน้องตอบอย่างลังเล "แล้วจำนวนล่ะ?" แต่เมื่อถูกถามถึงจำนวน ลูกน้องถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย "เอ่อ..." แต่เมื่อแม่ทัพตวาดถามอีกว่า "จำนวนเท่าไหร่?!" เขาก็ต้องรายงาน "คะ...แค่คนเดียวครับ" "หา?!" แม่ทัพดูนอร์ถึงกับตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีใครที่มีฝีมือขนาดนี้
ที่กองหน้าของของกองทัพ เหล่าทหารที่ขับหุ่นยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้จำนวนมากกำลังถอยกลับ เพราะเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ซากของหุ่นยนต์ที่ถูกทำลายนับสิบเครื่องในคราวเดียว
"ข้าชื่อของข้าคือหน้ากากไอโอ" เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย จนเห็นแต่เงาของคนแต่ส่วนหัวเป็นวัว ซึ่งนั่นแหละที่ทำไมเหล่าทหารถึงกับถอยด้วยความตกใจ เมื่อฝุ่นจางลงแล้วจึงรู้ว่า จริงๆแล้วเป็นคนใส่หน้ากาก "ข้าคือดาบที่จะมาตัดสินเหล่าร้าย"
ว่ากันว่าไอโอเป็นชื่อผู้หญิงที่ถูกสาปให้กลายเป็นวัวและวิ่งไปเรื่อยๆ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมหน้ากากของเธอคนนั้นถึงเป็นวัว
ถึงแม้จะเป็นคำพูดแปลกๆที่ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ แต่กองหน้าพวกนั้นก็ไม่กล้าที่จะเข้าไป เพราะอย่างที่เห็น หน่อยกล้าตายเข้าไปลองของต่างก็ถูกซัดกลับมาจนขยับไม่ได้เป็นกองๆ
"ไม่เข้้ามาฉันเข้าไปล่ะนะ" เธอพูดพลางถือดาบเดินเข้าไปไกล้ "อ๊ะ!!!" แต่เธอกลับสะดุดก้อนหินที่อยู่ตรงปลายเท้าเธอจนล้มคะมำ "อ๊าา เจ็บๆๆ" เธอลุกขึ้นนั่งแล้วเอามือกุมหน้าผาก ซึ่งไม่มีอะไรบังแล้ว
"อ้าว เป็นผู้หญิงหรอกกเหรอ?" "แถมเปิ่นซะด้วย" "นั่นสิ น่าตาก็น่ารักดีนะ ชื่ออะไรจ้ะ?" พวกทหารบางคนเริ่มออกลายเมื่อเห็นใบหน้าของเธอ
"หวา หน้ากากๆ" ว่าแล้วเธอก็รีบคลานไปหยิบมันมาใส่ "เมื่อกี้พวกแกไม่เห็นอะไรใช่มั้ย?" เธอถามอย่างลุกลี้ลุกลน "ก็เห็นน่ะสิ" ทหารหลายคนตอบ "งั้นก็ลืมไปซะ!!!" เธอสั่ง "แล้วจะให้ลืมได้ไง" พวกเขาถาม "เออ...ก็จริง"
แต่ก็มีทหารคนหนึ่งขับหุ่นมาหน้าคนอื่นแล้วพูดว่า "่โฮ่ ว่าแต่น้องสาว เธอสนใจจะไปมีความสุขกับพวกเราหรือเปล่าจ๊ะ?" เขาพูดชักชวนอย่างหื่นกาม "ที่กองทัพพวกเราไม่มีผู้หญิง ถ้าเธอมาเข้ากับพวกเราล่ะก็ รับรองขึ้นสวรรค์แน่..." ตูม เสียงระเบิดดังขึ้น และหุ่นตัวนั้นไหม้เป็นตอตะโก
"ที่แท้พวกแกก็เป็นแค่พวกต่ำช้าสินะ" เธอพูดพร้อมทั้งเดินเข้ามาใกล้ แต่ก็สะดุดหินอีก ซึ่งเหล่าทหารที่อยู่ในสถานการณ์เครียดถึงกับเหงื่อตก
"อย่าไปสนน่า!!!" เธอตวาดใส่เล่นเอาคนที่ได้ยินสะดุ้งโหยง แล้วก็ยกดาบขึ้น "งั้นก็ช่วยเป็นแบบตะกี้ให้หมดแล้วกัน" เธอพูดแล้วฟาดดาบลงพื้น
เมื่อนั้น พลันปรากฏลูกไปขนาดใหญ่หลายลูกกลิ้งออกมาจากดาบแล้วเข้าไปทำลายหุ่น ซึ่งนั่นทำให้หุ่นเสียหายไปหลายตัว
"ตั้งขบวนทัพดีๆ" มีเสียงดังมาเตือน แต่เจอแบบนี้เป็นใคร ใครก็กลัว จึงต่างคนต่างพยายามหนี
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้เธอมาอยู่กลางวงของศัตรู
"แผนของแม่ทัพใหญ่ได้ผลจริงด้วย" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากที่ล้อมเธอเอาไว้ได้
หญิงสาวผู้ใส่หน้ากากวัวมองไปรอบๆก็เห็นว่าตัวเองถูกล้อมเอาไว้แล้ว "ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองรึ?" เธอพูดขึ้น
"รีบยอมแพ้ซะ แล้วเราจะไว้ชีวิต" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น "ใช่ แล้วพวกเราก็จะขอลงโทษที่เธอทำกับพวกเราด้วยเรื่องอย่างว่าด้วย" ทหารอีกคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทางหื่น ตุบ เสียงของหุ่นตัวนั้นถูกหุ่นของเพื่อนที่อยู่ข้างๆถีบให้ล้มลงไป "ไอ้นี่ทำเสียหมด อยากถูกแบบหมอนั่นเรอะ" เขาพูดเพราะรู้ว่าถ้าไปยั่วแล้วจะเกิดอะไรขึ้น "เสียใจด้วย แต่ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น" เธอตอบอย่างไม่ลังเล "ช่วยไม่ได้เช่นกัน พวกเราจับตัวเธอไว้ให้ได้" เขาสั่งพรรคพวกให้รุมจับตัวเธอ
"คิดจะใช้กำลังกับฉันยังเร็วไปร้อยปี" เธอพูดขึ้น จากนั้นกระโดดสูงขึ้น
แม่ทัพดูนอร์เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็รีบบอกว่า "คงไม่ใช่..." แล้วเขาก็ทำท่าตกใจ
รอบๆตัวเธอมีคลื่นพลังจำนวนมหาศาลพุ่งไปรอบๆ พลังนั้นมองเป็นเป็นแสงใสๆเป็นรูปวงรีรอบตัว แสงใสๆนั้นก็ประกอบไปด้วยแสงสีม่วง ชมพู ส้ม ฯลฯ
หุ่นที่โดนพลังนั้นเข้าไปก็ถึงกับเสียหายจนขยับไม่ได้ไปเป็นวงกว้าง ซึ่งกินไปถึงเกือบครึ่งกองทัพ
"บิ๊กแบงเวฟ!!!" แม่ทัพใหญ่พูดขึ้นมาอย่างตกใจ พลางจดรายละเอียดข้อมูลที่เห็นไว้ในสมุดพกเล็กๆที่พกมาด้วย
อย่างน้อยนี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า การศึกษาไม่จำเป็นต้องไปเรียนเท่านั้น แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่แล้วก็สามารถศึกษาได้ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้เรียนนะ
"วี๊ด" เสียงเป่าปากของเธอดังขึ้น ท่ามกลางความอลหม่าน ม้าตัวสีขาวก็วิ่งลงมาจากหน้าผา
ไวเท่าความคิด เธอก็กระโดดขึ้นขี่มันและควบมันปีนขึ้นหน้าผาอีกฟากหนีไป
"คงต้องบอกว่าสุดยอดล่ะนะ" ทหารที่รอดจากคลื่นพลังมองแล้วพูด "ใช่ แต่ในหลายๆความหมาย" เพราะพวกเขาไม่อยากเชื่อว่ามีม้าตัวไหนในโลกที่สามารถปีนขึ้นหน้าผาตรงๆแบบนั้นได้
ส่วนแม่ทัพก็ (ดูภาพประกอบแล้วกันนะ)
.................................................................................................................
ไอโอ เจ้าหญิงอันดับสองแห่งอาณาจักรอะไรซักอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึงชื่อ เธอมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าปลอดเวรยามแล้ว เธอก็วิ่งออกมาจากมุมเสาต้นหนึ่ง
จุดมุ่งหมายของเธอคือรูปของราชินีหรือรูปของเสด็จแม่ของเธอนั่นเอง
เธอเข้าไปใกล้แล้วเลื่อนภาพนั้นขึ้นอย่างช้าๆและเบาที่สุด จนเห็นเป็นทางลับข้างใน
ทางลับนี้เป็นทางลับที่เธอเจอเข้าโดยบังเอิญเมื่อนานมาแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้บอกใครว่ามีมันอยู่ เพราะเธอรู้ว่า้ถ้าบอกคนอื่นเขาจะต้องไปสำรวจและทำให้เธอหนีเที่ยวไม่ได้
ใช่แล้ว ทางลับที่ว่านี้เป็นทางที่ไอโอใช้หนีเที่ยวบ่อยๆนั่นเอง
เธอเดินหายเข้าไปในทางลับแล้วรูปภาพปิดลงอย่างช้าๆ
................................................................................................................
รุ่งเช้า ทั่วทั้งวังกำลังวุ่นวายกัน
อลิซาเบธที่พึ่งกลับมาได้ไม่นานเห็นเช่นนั้นก็เข้าไปสืบถาม "มีอะไรหรือพวกท่าน? เห็นวุ่นวายแต่เช้าเชียว" ข้าราชบริพารที่ถูกถามก็ได้แต่ทำหน้าเซ็งๆ แต่ก็กราบทูลตอบไปว่า "ก็เจ้าหญิงไอโอน่ะสิพะยะค่ะ หายไปอีกแล้ว" อลิซาเบธได้ยินดังนั้นก็หน้าเปลี่ยนสีแล้วถามว่า "อะไรนะ ไอโอหายตัวไป" เธอถามด้วยความเป็นห่วงน้องสาวจึงมีท่าทีที่เป็นห่วงออกทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด
แต่เมื่อเธอมองไปรอบๆ กลับไม่มีใครที่มีท่าทีเป็นห่วงเท่าไหร่ มีแต่ทำหน้าแบบเซ็งๆกันไปหมด "แล้วทำไมทุกคนถึง..." เธอถามเพราะคิดว่าทำไมทุกคนถึงทำเหมือนกับว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ข้าราชบริพารที่อยู่ข้างหน้าเธอคนนั้นก็ก้มแล้วกราบทูลว่า "เจ้าหญิงอลิซาเบธพึ่งกลับมาอาจจะยังไม่ทราบ แต่เจ้าหญิงไอโอหายตัวไปอย่างนี้ประจำพะยะค่ะ" อลิซาเบธยิ่งได้ยินดังนั้นก็ยิ่งเป็นห่วง ก่อนที่เธอจะพูดอะไรต่อ ข้าราชบริพารคนนั้นก็ชิงกราบทูลก่อนว่า "แต่ไมต้องกังวลไปหรอกพะยะค่ะ อีกไม่นานเจ้าหญิงก็คงจะกลับมาอีกตามเคย..." แล้วเขาก็หลบหน้าไปทางอื่น ได้แต่สร้างความสงสัยให้แต่อลิซาเบธต่อไป
"งั้นหรือคะ พี่ไอโอหนีไปอีกแล้วสินะคะ" เจ้าหญิงอันดับสามกล่าวขึ้นอย่างไม่ค่อยสนใจเท่านไหร่ เธอยังคงนั่งเย็บตุ๊กตาทำเองต่อไปบนเตียงของเธอ อลิซาเบธกลับกล่าวขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า "อะไรกันโมนิก้า พี่สาวเธอหายไปทั้งคนเลยนะ ไม่เป็นห่วงบ้างหรือไง?" โมนิก้าได้ยินดังนั้นก็หันมามองพี่สาวของตน แล้วพูดว่า "ถึงห่วงไปก็เท่านั้นแหละค่ะ พี่ไอโอชอบไปไหนมาไหนไม่บอกใครอยู่แล้วก็น่าจะรู้นี่คะ อีกอย่างเดี๋ยวเขาก็กลับมาเองแหละ" เธอพูดเสร็จก็ัหันกลับไปเย็บตุ๊กตารูปหมีต่อ อลิซาเบธก็ได้แต่ิคิดว่า "นั่นสิ ถ้าขนาดโมนิก้าพูดแบบนี้แล้วคงไม่มีอะไรต้องห่วงเท่าไหร่หรอกมั้ง" แต่ถึงเธอจะคิดอย่างนั้น เธอก็ยังเป็นห่วงน้องสาวของเธออยู่ดี
ทางด้านพระราชาเอง เมื่อได้ข่าวว่าเจ้าหญิงหายตัวไปอีกแล้วก็ได้แต่กุมศีรษะอย่างปวดหัว "เอาอีกแล้วรึ?" พวกข้าราชบริพารที่เห็นต่างก็เข้าพระทัยของพระองค์ดี จึงได้แต่ถอนหายใจกันอย่างทุกข์ใจกับการกระทำของเจ้าหญิงอันดับสอง
....................................................................................................................
"ว่าแต่ท่านพี่กลับมายังไงเหรอ?" โมนิก้าถาม เพราะเธอไม่เคยออกไปข้างนอกจึงอยากให้พี่สาวที่พึ่งกลับมาจากต่างเมืองเล่าให้ฟัง
"ไม่รู้เหมือนกัน" อลิซาเบธพูดขึ้น โมนิก้าได้ยินก็รู้สึกสงสัยไม่น้อย "แล้วท่านพี่กลับมาได้ไงกันล่ะ?" อลิซาเบธก็ส่ายหัวแล้วตอบไปว่า "ไม่รู้สิ จำได้แค่ว่าตอนคุยอยู่กับคุณกันยา..." เธอทำท่านึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น
"เป็นอะไรไปลิซ่า?" "สงสัยฉันต้องกลับไปแล้วล่ะค่ะ" กันยาได้ยินดังนั้นก็มองไปที่จดหมาย แต่จู่ๆทั้งคู่ก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล
"ลิซ่า หนีไปซะ!!!" กันยารีบพูดขึ้น แต่ลิซ่าได้แต่สงสัยที่่จู่ๆกันยาก็เปลี่ยนท่าที "อะไรกันคะ?" เธอยังคงถามด้วยความสงสัย "ช่วยไม่ได้" กันยาคิด
รอบตัวของลิซ่าปรากฏแสงขึ้นมา จากนั้นแสงก็ห่อหุ้มเธอไว้ ความทรงจำของเธอหยุดอยู่แค่นั้น
คุณกันยาเป็นอย่างไรบ้าง? เธอคิดเช่นนั้น แต่ก็หายเป็นห่วงได้นิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าที่กันยาส่งเธอมานั้นจะต้องไม่เป็นไรแน่ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอไปเอาความมั่นใจเช่นนั้นมาจากไหน
โมนิก้าเห็นพี่ที่เงียบไปนานและมีสีหน้ากังวลจู่ๆยิ้มขึ้นก็สงสัย "มีอะไรคะ?" เธอถาม แต่อลิซาเบธก็ยิ้มแล้วบอกว่า "ไม่มีอะไรหรอก"
แม้จะเห็นว่าแปลก แต่ในเมื่อเจ้าตัวบอกว่าไม่มีอะไรเธอก็ไม่อยากเซ้าซี้ แต่เธอก็วกกลับมาคำถามเดิมว่า "แล้วพี่กลับมายังไงคะ?"
"นั่นสิ กลับมายังไงกันนะ?" อลิซาเบธพูดขึนพร้อมทั้งเอานิ้วแตะปากเบาๆ พลางนึก "แต่เรื่องนั้นช่างเถอะ พี่มีเรื่องเล่าอีกเยอะแยะเลยล่ะะ อยากฟังมั้ย?"
โมนิก้าได้ิยินดังนั้นก็ดีใจและบอกว่า "ฟังสิๆ" แล้วเธอก็นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ
อลิซาเบธรู้ดีว่าน้องสาวคนเล็กไม่เคยได้ออกไปไหนเลยนอกจากอยู่แต่ในปราสาท เธอจึงเลือกที่จะเล่าเรื่องราวของเมืองต่างๆที่เธอเคยเห็นให้ฟัง
ดูเหมือนว่าใครบางคนจะถูกลืมแฮะ
.........................................................................................................
"มาตรงเวลาดีนี่" ชายคนหนึ่งพูดขึ้น เขาอยู่ในชุดสีดำแบบทหารยุดสมัยก่อน ที่หลังเขาคาดดาบไว้แนวขวางหนึ่งเล่ม มือของเขาถือดาบที่อยู่ในฝักอีกหนึ่งเล่ม
หญิงสาวที่พึ่งมาถึงลงจากม้าตัวสีขาว เธอหยุดลูบมันก่อนทีหนึ่งและปล่อยมันไว้แถวนั้น "ค่ะ อาจารย์" เธอผู้อยู่ในชุดคล้ายๆกันกับเขาพูดขึ้นพร้อมกับก้มตัวเป็นการแสดงความเคารพทีหนึ่ง "ขอความกรุณาด้วยค่ะ" เธอพูดขึ้นพร้อมทั้งชักดาบวิ่งเข้าใส่เขา
เธอฟันใส่เขาอย่างไม่ลังเล แต่เขาก็หลบได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ขยับตัวนิดหน่อย "เสร็จล่ะ" เธอคิด จากนั้นรีบเปลี่ยนคมดาบเข้าหาตัวเขาที่หลบดาบเมื่อครู่ไปได้
อธิบายให้เห็นภาพคือ เธอฟันดาบแรกตรงๆ เขาหลบได้ จากนั้นเธอที่ยังฟันไปไม่สุดก็พลิกดาบฟันเขาในแนวนอนต่อ
เขาคนนั้นรู้ทันจึงกระโดดถอยหลบไปสามก้าว แต่เธอก็วิ่งตามมาติดๆและฟันในแนวนอนอีกครั้ง
อธิบายอีกหน่อย ที่ทำเช่นนั้นเพราะการฟันแนวนอนนั้นสามารถฟันได้เป็นวงกว้างรอบตัว และทำให้ยากต่อการโจมตีกลับของอีกฝ่าย ซึ่งถ้าฟันในแนวตั้งแล้ว คนที่สามารถหลบได้อย่างชำนาญจะหลบอย่างฉิวเฉียดและเข้ามาโจมตีกลับได้ แต่ถ้าฟันแนวนอนนอกจากจะโจมตีกลับได้ยากแล้ว ยังกดดันให้อีกฝ่ายต้องป้องกันหรือไม่ก็ให้ถอยไปได้อย่างดี
แต่ว่าเขากลับถอยไปแค่ก้าวเดียว แล้วเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อยก็สามารถหลบดาบได้แล้ว "แย่ล่ะ!!" เธอคิด เพราะว่าเธอออกแรงฟันเต็มที่ไม่สามารถชักดาบกลับมาได้ในทันที
"เธอแพ้แล้ว" ชายคนนั้นกล่าวขึ้น มือของเขาถือดาบปลายจ่ออยู่ที่คอของเธอคนนั้น เธอจึงลดดาบลงและนั่งลงฮวบ "หวา แ้พ้ซะแล้ว อาจารย์เก่งจัง" เธอพูดอย่างอ่อนแรง แต่ก็ยังกล่าวชมอีกฝ่ายที่ชนะเธอได้อย่างง่ายดาย "ไม่หรอก เธอเองก็เก่งขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ" เขาพูด "แต่ว่าเธอยังไม่รอบคอบพอ อย่างการฟันเมื่อกี้แม้ว่ามันจะได้ผลดีมาก แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนที่เข้าในเรื่องการโจมตีด้วยดาบดีก็สามารถหลบได้ง่ายๆ และเธอก็จะถูกรุกกลับได้ง่ายๆเช่นกัน" เขาอธิบายถึงข้อดีและข้อเสียของการโจมตีของเธอ เขาสามารถมองได้อย่างทะลุปรุโปร่ง "แต่หนูไม่เห็นจะเก่งขึ้นเลย" เธอคนนั้นพูดขึ้น เพราะเธอรู้สึกว่า ถ้าเธอเก่งขึ้นทำไมถึงเอาชนะอาจารย์ไม่ได้ "เธอน่ะเก่งขึ้น แต่ว่าเธอยังต้องฝึกเรื่องประสบการณ์อีกเยอะ" เขาบอกเพื่อแก้ความสงสัย "ของแบบนี้ต่อให้รู้ไปแต่ไม่ได้ใช้มันก็ไม่มีประโยชน์ แต่หากมีประสบการณ์ตรงเธอก็จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและก็จะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของวิชาดาบ...ได้" ท่อนหลังเขาแทบจะหยุดพูด เพราะเมื่อเขาหันกลับไปมองลูกศิษย์ก็พบว่าเธอกำลังนั่งเล่นกับม้าของเธออยู่ "นี่ฟังกันบ้างสิ" "ไม่ค่ะ หนูฟังแบบนั้นมาจนจำได้แล้วล่ะ อะไรนะ 'ของแบบนี้ต่อให้รู้ไปแต่ไม่ได้ใช้ก็ไม่มีประโยชน์ แต่หากมีประสบการณ์ตรงเธอก็จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและก็จะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของดาบได้' สินะคะ" เธอหันมามองเขาหลังจากพูดเสร็จ แล้วเธอก็ยิ้มให้เขา ซึ่งเขาก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะเธอพูดมามันก็จริง "ก็มันทำไงได้ ฉันพูดไม่ค่อยเก่งนี่" เขาบอก "แต่พอเป็นเรื่องสอนคนอื่นเนี่ยกลับคล่องเชียวนะคะ" เธอพูดขึ้นพร้อมทำหน้าแหยๆ "ก็นั่นแหละที่มันมาจากประสบการณ์ มันก็เลยออกมาเอง" เขาบอกไปอย่างรวดเร็วแก้เก้อ "งั้นถ้าอยากเก่งเรื่องอย่างว่าก็ต้อง..." "เฮ้ยๆ เรื่องอย่างว่านี่มันอะไร?" เขาปั้นหน้าจริงจังถาม "ก็เรื่องนั้นไงคะ" แล้วเธอก็ยิ้มอย่างยั่วยวนกวน... แต่ถึงกระนั้นก็แฝงด้วยความน่ารักเอาไว้ "ดูๆไปยัยนี่ก็น่ารักดีนะ..." เขานึกแล้วก็ยิ้ม เธอเห็นเช่นนันก็จ้องอาจารย์ตาเขม็งแล้วพูดว่า "คิดอะไรคะ?" เขาได้ยินดังนั้นก็หน้าแดงแล้วรีบหันไปทางอื่น "ปะ...เปล่าซะหน่อย" เขารีบปฏิเสธ แต่เธอก็ยังแซวต่อ "อาจารย์คงจะจินตนาการอะไรแปลกถึงหนูสินะคะ" แต่เธอกลับพูดทั้งยิ้ม เขาก็ได้แต่ปฏิเสธ "บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ" "อาจารย์ลามก" "ก็บอกว่าไม่ใช่ไง!!!" เขาก็ยังคงปฏิเสธเสียงแข็งเ่ช่นเดิม "ฮะๆๆ " เธอได้แต่หัวเราะแล้ววิ่งหนีรักษาระยะห่างเพราะเขาไล่ตามมาติดๆ
"เจอนี่เป็นไง ย้ากก!!!" เขาตะโกนพร้อมทั้งฟาดดาบลง จากนั้นก็มีลูกไฟพุ่งออกไปใส่เป้าหมาย "อ๊า!! ขี้โกงนี่!" เธอพูดขึ้น จากนั้นก็ฟาดดาบลงซัดลูกไฟอีกลูกไป
ตูม เสียงลูกไฟสองลูกปะทะกันก่อนจะสลายไป
"โฮ่ ดูเหมือนเธอจะเก่งนี่ ใช้นี่ได้ด้วย" เขาพูดขึ้นพร้อมทั้งยิ้มแล้วจ้องมาทางลูกศิษย์สาว เธอเห็นเช่นนั้นรู้สึกหนาววูบ เพราะรอยยิ้มของเขา "อ๊ะ!!! เผลอไป" เธอคิด แต่เธอก็ได้แต่ยิ้ม "แฮะๆๆ นั่นสิคะ" แต่ใจเธอร้องว่า "ทำไงดี อาจารย์รู้จนได้ว่าเราแอบฝึกวิชาของอาจารย์ แย่ล่ะ แล้วนี่เรายังเอาไปดัดแปลงเป็นแบบของเราเองด้วย ทำไงดีๆ"
"ไอโอ!!" เขาเรียก "ค่ะ อาจารย์" เธอรีบยืนตัวตรงตอนตอบกลับ เพราะเกร็งไปทั้งตัวเพราะไม่รู้ว่าอาจารย์จะลงโทษอะไรจนเขาเข้ามาใกล้ๆ เธอหลับตาลงเพราะไม่รู้เขาจะลงโทษอะไร
หญิงสาวหรือที่แท้ก็คือเจ้าหญิงไอโอที่หนีออกมานอกวัง แอบออกมาที่นี่นี่เอง
เธอลืมตาข้างหนึ่งขึ้น อย่างลุ้นว่าจะโดนลงโทษอย่างไรบ้าง และเธอก็ต้องตกใจที่มีมือมาแตะที่ไหล่ "อ๊ะ ต่อไปหนู่จะไม่ทำแล้วค่ะ หนูจะ..." เธอพูดตอบกลับอย่างรวดเร็วอย่างสำนึกผิด แต่ก็หยุดลงเพราะอีกฝ่ายกำลังจะพูด "เธอมีพรสวรรค์ดีมากไอโอ" เขากล่าวชม เธอจึงมองหน้าเขาที่ยืนอยู่ข้างหน้า
ไอโอเห็นอาจารย์ของเธอยืนยิ้ม มือข้างหนึ่งจับไหล่ของเธอไว้
เธอพึ่งสังเกตเห็นว่าอาจารย์ของตนนั้นจริงๆแล้วก็เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอจึงรู้สึกเขินที่จ้องหน้าเขาตรงๆ "อะ...เอ่อ...อาจารย์...คะ" เธอพูดขึ้นพร้อมกับหลบหน้าเขา
"อ๊ะ ขอโทษที" เขารีบเอามือลง แล้วกล่าวขอโทษ "แต่ว่่าเธอนี่สุดยอดนะ ทั้งๆที่ไม่ได้รับการฝึกสอนแต่กลับใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว น่าเสียดายนะที่ฉันไม่ได้สอนเพราะคิดว่ามันไม่เหมาะกับเธอน่ะ" เขาพูดพร้อมกับหลับตาแล้วถอนหายใจในความทึ่มของตัวเองที่ไม่ยอมให้เธอฝึกวิชานี้เพราะความเห็นส่วนตัวจนลืมไปว่าไอโอนั้นมีพรสวรรค์ในด้านนี้
ทั้งสองคนนั้นไม่รู้ตัวว่าถูกสายตาคู่หนึ่งจ้องมองด้วยความไม่พอใจ
"อ๊ะ ใช่ ถ้าเป็นเธอถึงฉันจะไม่สอนก็คงเข้าใจได้มั้ง" ว่าแล้วเขาก็หยิบม้วนกระดาษคล้ายๆคัมภีร์อะไรซักอย่างออกมา "นี่เป็นวิชาดาบที่ฉันเขียนขึ้นมาให้เธอโดยเฉพาะ ถ้าเธอฝึกบ่อยๆจะต้องเก่งขึ้นแน่นอน" เขายิ้มแล้วยื่นม้วนกระดาษนั้นให้ ซึ่งไอโอก็ยื่นมือไปรับเอาไว้ แล้วเอามันมาแนบอก เพราะเธอรู้สึกแปลกๆจากเขา
ความรู้สึกที่บอกไม่ได้นี้ มันบอกเธอว่าคำพูดแบบนั้นมันดูแปลกๆ ราวกับว่าเขาจะจากไป
"จากนี้ไปขอให้ตั้งใจฝึกให้ดีล่ะ ฉันได้เวลาไปแล้ว" เขายิ้มแล้วพูดมา
นั่น ไม่ผิด ความรู้สึกสังหรณ์ของเธอไม่มีผิดเลยซักนิด แม้เธอจะอายุแค่นี้ แต่เธอเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ที่ว่ากันว่าได้รับพลังบางอย่างมาจากเทพเจ้า ย่อมต้องมีลางสังหรณ์เหนือคนธรรมดา และต่อให้ไม่มีลางสังหรณ์เธอก็รู้ได้อยู่ดี
มันแปลกตั้งแต่เธอเริ่มเข้ามาแล้ว ปกติเขาจะต้องนั่งรอเธออยู่ใต้ต้นไม้ซักต้นอย่างสบายใจ แต่นี้เขากลับยืนรอเธอแทน แล้วไหนจะแนะนำเรื่องต่างๆอย่างค่อนข้างละเอียดแบบเน้นๆราวกับว่าจะให้เธอจำไว้อย่างไม่มีวันลืม แล้วไหนจะสายตาที่มองมาอย่างแปลกเหมือนกับจะมีอะไรบอก
ที่แท้เขาก็พยายามจะบอกเธอนี่เองว่าเขาจะจากเธอไป
แต่เธอก็ยังพยายามคิดว่าเขาคงจะพูดเล่นแบบที่ผ่านๆมา "แหม...พูดเล่นอะไรคะอาจารย์" ถึงแม้จะยิ้ม แต่เธอก็เริ่มหวั่นๆกับคำตอบ
"ที่จริงก็อย่างที่บอกนะ ฉันว่าเธอเรียกฉันว่าอาจารย์มันก็กระไรอยู่ เพราะว่าฉันก็มีชื่อของฉันเหมือนกัน ลีออน เรียกซะมั่งสิ ยัยลูกศิษย์จอมดื้อ" เขากอดอกแล้วพูดขึ้นเสียงดัง เพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น
แต่ทว่า เธอกลับได้แต่จ้องเขาด้วยแววตาที่อยากจะถามอะไรบางอย่าง ซึ่งเขาก็รู้ได้เลยว่านั่นเรื่องอะไร
"เอาน่า ไอโอ ไม่ได้จากไปแบบตลอดสักหน่อย สักวันเธอกับฉันก็ได้พบกันอีก" ถึงลีออนจะพูดไปแบบนั้น แต่เขาก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
"จะไปไหนกันคะ?" เธอถามเสียงสั่น พร้อมส่งสายตาวิงวอนขอให้ตอบ ลีออนกลับไม่พูดอะไร พลางมองม้วนคัมภีร์ที่มือของไอโอซึ่งตอนนี้เธอกอดมันไว้แน่นราวกับเด็กรับของมาแล้วหวงไว้อย่างนั้น "จากนี้ไปก็ตั้งใจฝึกด้วยล่ะ" เขาพูดแค่นั้นแล้วตัดสินใจหันหลังให้แล้วเดินจากไป
ตอนนี้สำหรับไอโอเหมือนเวลาหยุดนิ่ง
สำหรับเจ้าหญิงแสนซนอย่างเธอ หลายคนอาจจะคิดว่าเธอนั้นคงไม่มีความอ่อนโยน แต่ว่าจริงๆแล้วเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งนะ
ตอนแรกๆที่เธอหนีออกจากวังมา เธอไม่รู้อะไรเลยจึงหลงเข้าไปในป่า และเจอกับสัตว์ร้ายเข้า แต่ก็ได้ลีออนช่วยเอาไว้
แม้ตอนนั้นเธอจะยังเด็กมาก แต่เธอก็จำได้ว่านั่นคือลีออนไม่ผิด นั่นจึงเป็นความประทับใจและแรงบันดาลใจให้เธอหนีออกมาฝึกกับเขาบ่อยครั้ง
แต่ตอนนี้เธอรู้แล้ว ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงข้ออ้าง
จริงแล้วตั้งแต่ที่พบกับลีออนครั้งแรก เธอก็ตกหลุมรักเขาแล้ว แต่ด้วยความสับสนในวัยเด็กเธอจึงยังไม่แน่ใจกับมัน และคิดว่านั่นมันเป็นความประทับใจ
แต่ตอนหลัง เธอก็ต้องหนีออกมาบ่อยๆ เพราะต้องมาฝึกวิชาดาบกับเขา และเรียนรู้สิ่งต่างๆจากเขา โดยที่เก็บความรู้สึกชอบนั้นเอาไว้ฝ่ายเดียว
เรื่องอายุนั้นไม่สำคัญ เธอคิดอย่างนั้น เพราะอย่างน้อยเธออยู่กับเขาแล้วเธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก และเธอก็ไม่ได้รังเกียจเขาเลย
แต่ตอนนี้ความสุขที่เธอพบมาตลอดกำลังจะเดินจากไปแล้ว
มีพบก็ต้องมีพราก แม้เธอจะรู้ แต่เธอก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้
เธอยังไม่ได้บอกเขาเลยว่าเธอรู้สึกอย่างไร
"เดี๋ยวก่อน อา...ลีออน" เธอเกือบเรียกเขาว่าอาจารย์ แต่ก็กลับคำทัน
ลีออนหยุดแล้วหันมา "มีอะ...ไอโอ..." เขากำลังจะถามแต่ว่าเขาก็หยุดและเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อเธอแทน เพราะเธอวิ่งเข้ามากอดเขาแน่น
"ฉันรักคุณค่ะ ลีออน" เธอพูดไปอย่างไม่ลังเล เพราะเธอไม่อยากให้เขาจากไปทั้งอย่างนั้น อย่างน้อยก็บอกให้เขาได้รู้ก็พอ
ลีออนได้แต่มองเธอด้วยแววตาที่เอ็นดูมากกว่าที่จะเขินหรือดีใจ เขาหลับตาแล้วผลักไอโอออกเบาๆ
"เสียใจด้วยนะ" ลีออนยิ้ม ไอโอทำท่าจะถาม แต่ลีออนก็รีบชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า "เห็นอย่างนี้แต่ฉันก็มีอายุพอๆกับพ่อของเธอนะ ไม่สิ อาจจะมากกว่าจนเป็นปู่ด้วยซ้ำ" เขาพูดมาง่ายๆ แต่นั่นกลับทำให้ไอโอยืนกรานว่า "ต่อใ้ห้คุณเป็นปู่หรือเป็นอะไรก็เถอะ แต่ฉันก็ยังรักคุณค่ะ" เมื่อเห็นความตั้งใจของอีกฝ่ายเช่นนั้น ลีออนเองก็ไม่รู้จะทำไงดี เขาจึงบอกไปว่า "แต่ว่าฉันมีลูกมีเมียแล้วนะ ถึงตอนนี้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็เถอะ" แล้วเขา่ก็มองไปบนฟ้าแล้วยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะมองมาทางไอโอที่ตกใจกับคำพูดเมื่อครู่ เมื่อเห็นเป็นโอกาสลีออนก็พูดต่อว่า "เธอน่ะ คงจะอายุพอๆกับลูกสาวฉัน ที่ฉันใจดีกับเธอน่ะก็เพราะอย่างนั้นแหละ" เขาพูดแล้วก็มองไปที่เธอซึ่งตอนนี้ยังคงสับสนอยู่
"แล้วไงล่ะ หนูไม่สนหรอกเรื่องพรรค์นั้นน่ะ" เธอยังคงยืนยันมาอย่างนั้น ลีออนเองก็ตกใจกับความดื้อเพราะเขาไม่คิดว่าลูกศิษย์จะดื้อขนาดนี้
"งั้นก็ตามใจแล้วกัน เตือนแล้วนะ" เขาพูดขึ้นมาอย่างระอากับอาการเอาแต่ใจของไอโอ "แต่ถ้าสักวันหนึ่งเธอ..." แต่เขาก็หยุดพูด "อะไรคะ?" ไอโอถาม แต่ลีออนก็ได้แต่ส่ายหน้า "เปล่า ไม่มีอะไร"
แต่จริงๆที่เขาจะพูดก็คือ แต่ถ้าวันหนึ่งเธอเกิดรักใครสักคนขึ้นมาจริงๆ เธอเองก็จะทุกข์ใจนะ แต่เขาก็ไม่พูดมันออกไปเพราะคิดว่า เรื่องแบบนี้เธอคงจะเข้าใจเองซักวัน "อย่าลืมล่ะ เธอต้องตั้งใจฝึกให้ดี แล้วก็ลาก่อน" เขาพูดและหันหลังแล้วเดินหายไป
ถึงจะเสียใจ แต่เธอก็ไม่ได้ร้องไห้ เพราะเธอคิดว่าไม่ได้จากกันตลอด แล้วเขาก็คงต้องกลับมาอีกซักวันแน่
แล้วเธอก็มองม้วนคัมภีร์ในมือ "ไม่มีเวลามาเสียใจหรอกนะไอโอ" เธอตัดสินใจที่จะฝึกวิชาดาบตามที่เขาสั่งเสียไว้
........................................................................................................................
หลายเดือนผ่านไป
สงครามยังคงไม่สิ้นสุด แต่มันกลับลุกลามไปเรื่อยๆ
ที่หุบเขาแห่งหนึ่งบนโลก
กองทัพหุ่นยนต์ที่นำโดยแม่ทัพได้เดินทางผ่านโดยใช้เส้นทางนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะถูกขัดขวาง
"เกิดอะไรขึ้น?" แม่ทัพดูนอร์ถาม เพราะทางนี้เป็นทางแคบ แล้วขบวนทัพก็มีทหารจำนวนมาก ทำให้แถวยาวจนมองไม่เห็นหน้าหลัง
ลูกน้องคนหนึ่งก็รีบรายงานด้วยสีหน้าที่ตื่นกลัว "มะ...แม่ทัพครับ" เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็ถามกลับไปทันที "อะไร?" "คือว่ากองหน้าของเราถูกจู่โจมครับ"
"แล้วศัตรูมีกองกำลังเท่าไหร่?" เขาถามเพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นหุ่นยนต์เ่ช่นกัน แต่ดูจากสีหน้าของลูกน้องที่ไม่ยอมตอบแล้วเขาก็เปลี่ยนใจ "หรือว่าจะไม่ใช่หุ่น?" "ครับ" ลูกน้องตอบอย่างลังเล "แล้วจำนวนล่ะ?" แต่เมื่อถูกถามถึงจำนวน ลูกน้องถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย "เอ่อ..." แต่เมื่อแม่ทัพตวาดถามอีกว่า "จำนวนเท่าไหร่?!" เขาก็ต้องรายงาน "คะ...แค่คนเดียวครับ" "หา?!" แม่ทัพดูนอร์ถึงกับตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีใครที่มีฝีมือขนาดนี้
ที่กองหน้าของของกองทัพ เหล่าทหารที่ขับหุ่นยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้จำนวนมากกำลังถอยกลับ เพราะเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ซากของหุ่นยนต์ที่ถูกทำลายนับสิบเครื่องในคราวเดียว
"ข้าชื่อของข้าคือหน้ากากไอโอ" เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย จนเห็นแต่เงาของคนแต่ส่วนหัวเป็นวัว ซึ่งนั่นแหละที่ทำไมเหล่าทหารถึงกับถอยด้วยความตกใจ เมื่อฝุ่นจางลงแล้วจึงรู้ว่า จริงๆแล้วเป็นคนใส่หน้ากาก "ข้าคือดาบที่จะมาตัดสินเหล่าร้าย"
ว่ากันว่าไอโอเป็นชื่อผู้หญิงที่ถูกสาปให้กลายเป็นวัวและวิ่งไปเรื่อยๆ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมหน้ากากของเธอคนนั้นถึงเป็นวัว
ถึงแม้จะเป็นคำพูดแปลกๆที่ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ แต่กองหน้าพวกนั้นก็ไม่กล้าที่จะเข้าไป เพราะอย่างที่เห็น หน่อยกล้าตายเข้าไปลองของต่างก็ถูกซัดกลับมาจนขยับไม่ได้เป็นกองๆ
"ไม่เข้้ามาฉันเข้าไปล่ะนะ" เธอพูดพลางถือดาบเดินเข้าไปไกล้ "อ๊ะ!!!" แต่เธอกลับสะดุดก้อนหินที่อยู่ตรงปลายเท้าเธอจนล้มคะมำ "อ๊าา เจ็บๆๆ" เธอลุกขึ้นนั่งแล้วเอามือกุมหน้าผาก ซึ่งไม่มีอะไรบังแล้ว
"อ้าว เป็นผู้หญิงหรอกกเหรอ?" "แถมเปิ่นซะด้วย" "นั่นสิ น่าตาก็น่ารักดีนะ ชื่ออะไรจ้ะ?" พวกทหารบางคนเริ่มออกลายเมื่อเห็นใบหน้าของเธอ
"หวา หน้ากากๆ" ว่าแล้วเธอก็รีบคลานไปหยิบมันมาใส่ "เมื่อกี้พวกแกไม่เห็นอะไรใช่มั้ย?" เธอถามอย่างลุกลี้ลุกลน "ก็เห็นน่ะสิ" ทหารหลายคนตอบ "งั้นก็ลืมไปซะ!!!" เธอสั่ง "แล้วจะให้ลืมได้ไง" พวกเขาถาม "เออ...ก็จริง"
แต่ก็มีทหารคนหนึ่งขับหุ่นมาหน้าคนอื่นแล้วพูดว่า "่โฮ่ ว่าแต่น้องสาว เธอสนใจจะไปมีความสุขกับพวกเราหรือเปล่าจ๊ะ?" เขาพูดชักชวนอย่างหื่นกาม "ที่กองทัพพวกเราไม่มีผู้หญิง ถ้าเธอมาเข้ากับพวกเราล่ะก็ รับรองขึ้นสวรรค์แน่..." ตูม เสียงระเบิดดังขึ้น และหุ่นตัวนั้นไหม้เป็นตอตะโก
"ที่แท้พวกแกก็เป็นแค่พวกต่ำช้าสินะ" เธอพูดพร้อมทั้งเดินเข้ามาใกล้ แต่ก็สะดุดหินอีก ซึ่งเหล่าทหารที่อยู่ในสถานการณ์เครียดถึงกับเหงื่อตก
"อย่าไปสนน่า!!!" เธอตวาดใส่เล่นเอาคนที่ได้ยินสะดุ้งโหยง แล้วก็ยกดาบขึ้น "งั้นก็ช่วยเป็นแบบตะกี้ให้หมดแล้วกัน" เธอพูดแล้วฟาดดาบลงพื้น
เมื่อนั้น พลันปรากฏลูกไปขนาดใหญ่หลายลูกกลิ้งออกมาจากดาบแล้วเข้าไปทำลายหุ่น ซึ่งนั่นทำให้หุ่นเสียหายไปหลายตัว
"ตั้งขบวนทัพดีๆ" มีเสียงดังมาเตือน แต่เจอแบบนี้เป็นใคร ใครก็กลัว จึงต่างคนต่างพยายามหนี
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้เธอมาอยู่กลางวงของศัตรู
"แผนของแม่ทัพใหญ่ได้ผลจริงด้วย" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากที่ล้อมเธอเอาไว้ได้
หญิงสาวผู้ใส่หน้ากากวัวมองไปรอบๆก็เห็นว่าตัวเองถูกล้อมเอาไว้แล้ว "ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองรึ?" เธอพูดขึ้น
"รีบยอมแพ้ซะ แล้วเราจะไว้ชีวิต" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น "ใช่ แล้วพวกเราก็จะขอลงโทษที่เธอทำกับพวกเราด้วยเรื่องอย่างว่าด้วย" ทหารอีกคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทางหื่น ตุบ เสียงของหุ่นตัวนั้นถูกหุ่นของเพื่อนที่อยู่ข้างๆถีบให้ล้มลงไป "ไอ้นี่ทำเสียหมด อยากถูกแบบหมอนั่นเรอะ" เขาพูดเพราะรู้ว่าถ้าไปยั่วแล้วจะเกิดอะไรขึ้น "เสียใจด้วย แต่ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น" เธอตอบอย่างไม่ลังเล "ช่วยไม่ได้เช่นกัน พวกเราจับตัวเธอไว้ให้ได้" เขาสั่งพรรคพวกให้รุมจับตัวเธอ
"คิดจะใช้กำลังกับฉันยังเร็วไปร้อยปี" เธอพูดขึ้น จากนั้นกระโดดสูงขึ้น
แม่ทัพดูนอร์เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็รีบบอกว่า "คงไม่ใช่..." แล้วเขาก็ทำท่าตกใจ
รอบๆตัวเธอมีคลื่นพลังจำนวนมหาศาลพุ่งไปรอบๆ พลังนั้นมองเป็นเป็นแสงใสๆเป็นรูปวงรีรอบตัว แสงใสๆนั้นก็ประกอบไปด้วยแสงสีม่วง ชมพู ส้ม ฯลฯ
หุ่นที่โดนพลังนั้นเข้าไปก็ถึงกับเสียหายจนขยับไม่ได้ไปเป็นวงกว้าง ซึ่งกินไปถึงเกือบครึ่งกองทัพ
"บิ๊กแบงเวฟ!!!" แม่ทัพใหญ่พูดขึ้นมาอย่างตกใจ พลางจดรายละเอียดข้อมูลที่เห็นไว้ในสมุดพกเล็กๆที่พกมาด้วย
อย่างน้อยนี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า การศึกษาไม่จำเป็นต้องไปเรียนเท่านั้น แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่แล้วก็สามารถศึกษาได้ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้เรียนนะ
"วี๊ด" เสียงเป่าปากของเธอดังขึ้น ท่ามกลางความอลหม่าน ม้าตัวสีขาวก็วิ่งลงมาจากหน้าผา
ไวเท่าความคิด เธอก็กระโดดขึ้นขี่มันและควบมันปีนขึ้นหน้าผาอีกฟากหนีไป
"คงต้องบอกว่าสุดยอดล่ะนะ" ทหารที่รอดจากคลื่นพลังมองแล้วพูด "ใช่ แต่ในหลายๆความหมาย" เพราะพวกเขาไม่อยากเชื่อว่ามีม้าตัวไหนในโลกที่สามารถปีนขึ้นหน้าผาตรงๆแบบนั้นได้
ส่วนแม่ทัพก็ (ดูภาพประกอบแล้วกันนะ)
.................................................................................................................
Wing of Destiny ตอนที่ 26 กำเนิดนักดาบ...(อ่านว่าจุดๆๆ)
[IMG]