ต่อเลยแล้วกัน
โคริที่ใช้ลิ้นเลียไอติมลิ้มรสชาดอยู่นั้น เธอก็รู้สึกถึงความหวานและหอมในเวลาเดียวกัน เธอรู้สึกว่าเธอไม่สามารถหยุดลิ้นตัวเองได้
คนที่เห็นต่างมองเธอเลียไอศครีมกรวยนั้นอย่างลุ้นอะไรบางอย่าง เพราะตอนที่เธอเลียนั้นมันชวนให้นึกไปไกล
ผ่านไปประมาณไม่ถึงสามนาที โคริก็กินไอศครีมรสวานิลลาที่ควิซเอามาให้จนหมด "อร่อยดีค่ะ" โคริพูดขึ้นหน้าตาเฉย "ขอบคุณที่เลี้ยงนะคะ" เธอกล่าวขอบคุณ แต่ควิซรีบปฏิเสธขึ้นมาเพราะจริงๆแล้วตนไม่ได้เป็นคนเลี้ยง แต่เป็นคุณคนขายของต่างหาก "เปล่าครับ จริงๆแล้วคุณเจ้าของร้านคนเมื่อกี้..." เขาหันกลับไปเพื่อชี้ไปที่ชายใจดีที่ให้ไอศครีมสองอันแก่เขาโดยไม่คิดเงินสักแดงเดียว แต่ว่าเมื่อเขาหันกลับไปดูก็กลับไม่พบใครเลย "อ้าว ไปไหนแล้วนะ" เขาพูดขึ้นอย่างสงสัย แต่ในใจก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคนขายของแบบนี้ก็มักจะพเนจรร่อนเร่ขายไปเรื่อยๆอยู่แล้ว แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณมาก
หลังจากที่รอให้ควิซกินไอศครีมรสช็อคโกแลตชิพจนหมด ทั้งสองคนก็ออกเดินเที่ยวต่อ
"แต่ว่านะครับ" ควิซที่ระหว่างเดินไปก็มองมาทางโคริ "พวกเรามาเดินแบบนี้นี่คนทั่วไปอาจจะนึกว่าเป็นคู่รักกันก็ได้" เขาพูดอย่างเขินๆ แต่จริงๆก็ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง แต่โคริกลับพูดว่า "หรือคะ?" เล่นเอาเขาเงียบไป
ไม่ไกลจากทั้งสองคน มีชายหนึ่งคนกับผู้หญิงอีกหนึ่งคนกำลังเดินอยู่ด้วยกัน ผู้ชายใส่เสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงยีนขายาว ส่วนผู้หญิงมีผมสีทอง ใส่ชุดสีดำทั้งชุดทั้งเสื้อและกระโปรงที่ยาวเรี่ยพื้น
โคริเห็นทั้งสองคนก็หยุดชะงัก สายตาของเธอมองผู้ชายคนนั้นอย่างเพ่งพินิจ แต่เพียงแค่มองเธอก็เปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความตื้นตัน "ไปอะไรไปครับศาสตราจารย์โคริ?" ควิซเห็นโคริแปลกไปจึงถามด้วยความเป็นห่วง แต่เธอไม่ตอบ เธอกลับรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว "เอ๋ เดี๋ยวสิครับศาสตราจารย์..." แต่ไม่ทันได้ห้าม โคริก็วิ่งเข้าไปกอดผู้ชายคนนั้นเสียแล้ว ซึ่งเขาเองก็ตกใจไม่น้อยที่คนเย็นชาอย่างเธอกลับไปกอดผู้ชายอย่างไม่มีเหตุผล "เดี๋ยวสิ...เหตุผลเหรอ ถ้าเหตุผลล่ะก็..." เขาจำได้ว่าโคริเคยบอกเขาเรื่องสามีของเธอ และเมื่อเธอพูดถึงเขาเธอก็ดูมีความสุขและยิ้มอย่างที่ไม่ว่าใครก็คงจะไม่ได้เห็น
เด็กหนุ่มคนนั้นเองก็ดูตกใจไม่น้อยที่จู่ๆก็มีสาวสวยวิ่งเข้ามากอด ซึ่งนั่นทำให้สาวที่อยู่ข้างเกิดความไม่พอใจ จึงใช้สายตามองไปที่เขาเหมือนจะถามว่า "นี่มันอะไร?" ซึ่งเขาก็ได้แต่ส่ายหน้าและปฏิเสธว่า "ไม่รู้เหมือนกันลูน่าร์ จู่ๆเธอก็..." แล้วเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
ความรู้สึกนี้ เขารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก มันเหมือนกับเขาได้เติมเต็มสิ่งที่หายไปในห้องหัวใจมานานมาก นานตั้งแต่เขายังเด็กๆ
"ท่านแม่ นี่อะไรเหรอ?"
"มันเป็นของพ่อลูกน่ะ เขาให้ไว้ก่อนจะจากไป"
"แล้วท่านพ่อไปไหนล่ะ?"
"ไม่รู้สิ แต่เขาคงไปอยู่ในที่ที่นึงนั่นแหละ"
"แล้วท่านแม่ไม่เหงาเหรอ?"
"ไม่เป็นไร แม่ มีลูกอยู่ทั้งคน มีกันแค่นี้ก็พอแล้ว"
เฮลิออสที่จู่ๆก็มีความทรงจำในอดีตผุดขึ้นมา แม้เขาจะจำไม่ได้ว่าใบหน้าของเธอเป็นอย่างไร รอยยิ้มของเธอเขาจำได้ดี และความอบอุ่นที่เขาได้รับจากเธอ แม้ตอนนั้นจะเด็กมาก แต่ความรู้สึกในตอนนั้นกับในตอนนี้มันไม่ต่างกันเลย "ท่านแม่..." เขาพูดขึ้นแล้วมองผู้หญิงที่กอดเขาอยู่ "ในที่สุดก็ได้พบกันสักที แม่รอมานานมากรู้ไหม" เธอพูดขึ้นทั้งๆที่ยังกอดเขาอยู่
แต่ทว่าในสายตาคนทั่วไป เมื่อเห็นสาวสวยอย่างโคริมากอดชายหนุ่มอย่างเฮลิออส ทุกคนไม่มีใครคิดว่าเป็นแม่ลูกกัน แต่กลับเห็นว่าเป็นคนรักกำลังกอดกันต่างหาก ใช่แล้ว แม้แต่ลูน่าร์เองก็คิดอย่างนั้น
เธอรู้สึกหงุดหงิดมากที่จู่ๆก็มีผู้หญิงจากไหนก็ไม่รู้มากอดเฮลิออสของเธอ นี่อาจจะเรียกว่าเป็นอาการหึงก็ได้
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังควบคุมตัวเองได้ และพยายามเข้าไปถามถึงสาเหตุ "นี่คุณ..." แต่เธอกลับได้ยินเฮลิออสเรียกเธอคนนั้นว่า "แม่" เธอจึงรู้สึกตกใจไม่น้อย "เอ๋???" เธอสงสัย เพราะเธอไม่มีทางเชื่อว่าหญิงสาวสวยขนาดนี้ที่ดูแล้วอายุก็น่าจะพอๆกับพวกเธอจะเป็นแม่ของเฮลิออสได้ แต่เมื่อเธอคนนั้นยืนยันว่าเธอเป็นแม่ของเฮลิออส ก็ทำให้ลูน่าร์เริ่มเปลี่ยนใจ "งั้นผู้หญิงคนนี้คือแม่ของเฮลี่?" เธอคิด แล้วมองทั้งสองคนกอดกันอย่างงงๆ
ที่ลูน่าร์เชื่อง่ายอย่างนั้น เพราะแม่ของเธอเองก็ยังดูไม่ต่างจากเมื่อสิบกว่าปีก่อนเลยตั้งแต่ที่เธอจำความได้ แต่นั่นเป็นเพราะแม่ของเธอมีเชื้อสายของปิศาจจิ้งจอกอยู่ด้วย แต่ในกรณีนี้ล่ะ จะเป็นอะไร ปิศาจก็ไม่น่าใช่
ในที่สุดจุดประสงค์จริงๆของการลงมาที่โลกครั้งนี้ของโคริจะกระจ่างแล้ว เธอมาตามหาลูกชายของเธอนั่นเอง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เทพธิดาแห่งน้ำแข็งได้อยู่ในทุ่งน้ำแข็งที่ตนสร้างขึ้น
ต่อมาวันหนึ่ง ก็มีชายหนุ่มหลงเข้ามา เธอได้ช่วยเขาไว้ และได้สอนเขาหลายอย่าง
แต่เทพธิดากลับมีนิสัยเย็นชาต่อสิ่งรอบข้างราวกับน้ำแข็ง แม้จริงๆแล้วเธอจะใจดีก็ตาม
แต่ทว่า เมื่อเธอได้พบกับชายหนุ่ม เขาก็เริ่มทำให้เธอเปลี่ยนไป จากที่ไม่เคยยิ้ม เธอก็ยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่ออยู่กันนานวันเข้า ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ได้กลายเป็นความรัก จนในที่สุด เทพธิดาแห่งน้ำแข็งก็ได้มอบความบริสุทธิ์ของเธอให้กับเขา
วันหนึ่งเขาก็ได้จากไปเพราะเหตุผลบางอย่าง เขาได้มอบของเอาไว้อย่างหนึ่ง แล้วเขาก็ได้จากไป
เขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว เทพธิดาแห่งน้ำแข็งนั้นมีครรภ์กับเขา แต่เธอเลือกที่จะไม่บอกเพื่อให้เขาไม่ต้องกังวล
เวลาผ่านไป เธอก็ให้กำเนิดลูกชาย และเธอก็ตั้งชื่อเขาว่า เฮลิออส...
แต่เธอรู้สึกได้ว่าสักวันเขาก็ต้องจากเธอไป เธอจึงได้มอบของไว้ให้เขาซึ่งก็คือของที่ชายคนนั้นมอบให้เธอ อย่างน้อยก็เผื่อว่าวันหนึ่งจะได้เจอกันอีก
หลังจากนั้นไม่นาน ลูกชายของเธอก็หายตัวไปอย่างที่เธอรู้สึกสังหรณ์ แต่เธอกลับไม่ได้เสียใจ เพราะเธอกลับมาเป็นคนเย็นชาอีกครั้ง
เธอตัดสินใจออกจากทุ่งน้ำแข็งที่เธอสร้างขึ้น อย่างน้อยก็เพื่อออกตามหาเบาะแสของสามีและลูกชาย
ด้วยความสามารถของเธอ ในที่สุดเธอก็ได้เป็นศาสตราจารย์คอยทำงานให้กับสำนักงานสร้างหุ่นยนต์บนดวงจันทร์
และในวันนี้เธอก็ได้พบกับลูกชายของเธออีกครั้ง แม้ว่าเขาจะโตขึ้น แต่เธอก็สามารถรู้ได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว
ที่บ้านของอามาร่า
อามาร่ามองโคริที่กอดเฮลิออสไม่ยอมปล่อย ที่ข้างก็มีลูน่าร์ที่มีท่าทีไม่ค่อยพอใจและควิซที่ต้องตามโคริมาด้วย เธอนั่งกอดอก กระตุกคิ้วเล็กน้อยแล้วถามว่า "นี่มันอะไรกัน?" เสียงของเธอมีแววไม่พอใจ เพราะเฮลิออสเมื่อเช้าก็ลูน่าร์ พอตกเย็นก็พาผู้หญิงเข้าบ้านเธออีก
"แฮะๆ คือว่าเรื่องมันยาวน่ะ" เฮลิออสซึ่งถูกกอดอยู่ก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ เพราะไม่รู้จะอธิบายเรื่องราวให้เธอฟังยังไงดี ครั้นจะบอกว่าเป็นแม่เธอก็คงไม่เชื่อ แต่ถ้าเป็นแฟน ลูน่าร์ก็อยู่ข้างๆเตรียมเล่นเต็มที่ ควิซที่ดูเหตุการณ์อยู่ทั้งหมดและเข้าใจในความคิดของเขา เขาก็บอกว่า "คุณผู้หญิง คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่จริงๆแล้วเธอคนนี้เป็นถึงศาสตราจารย์เชียวนะครับ ชื่อศาสตราจารย์โคริ" "แล้วไง?" อามาร่ายิงคำถามถึงเหตุผลต่อมาทั้นที แต่เขาก็พูดต่อไป "อาจจะตกใจนิดหน่อย แต่ผู้ชายคนนี้น่ะ เป็นสามีของเธอครับ!!!" ควิซตอบอย่างหนักแน่น แต่อามาร่ากับเฮลิออสถึงกับอ้าปากค้าง ส่วนลูน่าร์ที่แม้จะรู้ความจริงอยู่แล้วนิดหน่อยก็ถึงกับจ้องไปที่เฮลิออสด้วยสายตาอาฆาต "เฮ้ย ไม่ใช่แล้วๆ ผมไม่ได้เป็นสามีของเธอคนนี้ซะหน่อย" เฮลิออสรีบปฏิเสธเพราะกลัวลูน่าร์กับอามาร่าเข้าใจผิด ถ้าทั้งสองเข้าใจผิดล่ะก็เขาตายแน่
โคริที่กอดเฮลิออสอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดเธอก็ยอมปล่อย เธอใช้สายตาที่เย็นชามองไปทางควิซเป็นความหมายให้หยุดพูด ซึ่งเขาก็หุบปากไว้ทันที
จากนั้นเธอจึงหันมามองทางอามาร่าที่หายค้างแล้วมาจ้องเล่นงานเฮลิออสแทน โคริบอกกับเธอว่า "จริงๆแล้วฉันกับเขาไม่ใช่สามีภรรยากันหรอกค่ะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย อามาร่าได้ยินก็ถอนหายใจดังฟู่อย่างโล่งอก "เฮ้อ คงเป็นพี่น้องกันสินะ เพราะอย่างน้อยก็มีส่วนคล้ายกัน อย่างตากับใบหน้าล่ะมั้ง" อามาร่าคิดอย่างโล่งใจ "แต่ว่าเขาเป็นลูกชายของฉันค่ะ" เธอพูดมาอย่างเรียบเฉยอีกตามเคย
แต่ว่าคราวนี้ ทั้งอามาร่า ควิซ และลูน่าร์กลับอ้าปากค้าง โดยเฉพาะอามาร่าที่ดูตกใจกว่าคนอื่น เพราะอย่างน้อยควิซกับลูน่าร์ก็พอจะจับเค้าความได้อยู่บ้าง
ในโลกนี้ยังมีหลายสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ มีคนเคยกล่าวไว้อย่างนั้น และเรื่องนี้ก็คงเป็นหนึ่งในนั้น
บ้านหลังนี้ยังคงพบกับเรื่องแปลกต่อไป
ที่ปราสาทบนดวงจันทร์
"มีแม่ก็ดีอย่างนี้แหละ ว่าแต่แม่ของเราล่ะ" นันน่าร์พูดขึ้นเบาจนแทบจะเป็นการพูดตัวเองพูดขึ้นพลางนึกถึงแม่ของเธอ
อาลี่กับโฮลี่ที่ตอนนี้เป็นผู้ช่วยของเธอแทนพี่สาวเรเดียนที่ลาออกไป ได้ยินเสียงอุบอิบของเธอก็ถามว่า "เป็นอะไรไปเพคะ?"
"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดว่ามีแม่นี่ดีจังน่ะ ว่าแต่พวกเธอมีแม่กันหรือเปล่า?" นันน่าร์ถามผู้ช่วยของเธอ "ก็ต้องมีอยู่แล้วสิเพคะ" อาลี่ตอบ แต่นั่นเธอก็ตอบส่วนของโฮลี่และเรเดียนด้วย เพราะทั้งสามเป็นพี่น้องกัน "นั่นสินะ ก็ต้องมีอยู่แล้ว" นันน่าร์พูดขึ้นย้ำ "แต่ว่าแม่ของฉันนี่เป็นใครฉันยังไม่รู้เลย" เธอพูดขึ้นด้วยเสียงที่เศร้าลง สายตาของเธอก็มีแววเศร้าปรากฏ ผู้ช่วยทั้งสองเข้าใจก็ได้แต่นิ่งเงียบ "แต่ว่า..." นันน่าร์พูดขึ้น ทั้งสองก็ตั้งใจฟัง "จะมีก็แต่พ่อที่ไม่ชอบอยู่บ้านเท่านั้นล่ะ" เธอพูดพร้อมทั้งยิ้มอย่างอบอุ่น เพราะถึงเธอจะไม่มีแม่ แต่เธอก็ยังมีพ่อคอยเลี้ยงดูเธอมาตลอด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยอยู่บ้านก็เถอะ
"ฮัดชิ้ว!" ลีออนจามขึ้น เขาเอามือขยี้จมูก จากนั้นก็พูดว่า "ใครมานินทาฉันกัน อย่าให้รู้นะ" แล้วเขาก็เดินต่อไป
..............................................................................................................................
โคริที่ใช้ลิ้นเลียไอติมลิ้มรสชาดอยู่นั้น เธอก็รู้สึกถึงความหวานและหอมในเวลาเดียวกัน เธอรู้สึกว่าเธอไม่สามารถหยุดลิ้นตัวเองได้
คนที่เห็นต่างมองเธอเลียไอศครีมกรวยนั้นอย่างลุ้นอะไรบางอย่าง เพราะตอนที่เธอเลียนั้นมันชวนให้นึกไปไกล
ผ่านไปประมาณไม่ถึงสามนาที โคริก็กินไอศครีมรสวานิลลาที่ควิซเอามาให้จนหมด "อร่อยดีค่ะ" โคริพูดขึ้นหน้าตาเฉย "ขอบคุณที่เลี้ยงนะคะ" เธอกล่าวขอบคุณ แต่ควิซรีบปฏิเสธขึ้นมาเพราะจริงๆแล้วตนไม่ได้เป็นคนเลี้ยง แต่เป็นคุณคนขายของต่างหาก "เปล่าครับ จริงๆแล้วคุณเจ้าของร้านคนเมื่อกี้..." เขาหันกลับไปเพื่อชี้ไปที่ชายใจดีที่ให้ไอศครีมสองอันแก่เขาโดยไม่คิดเงินสักแดงเดียว แต่ว่าเมื่อเขาหันกลับไปดูก็กลับไม่พบใครเลย "อ้าว ไปไหนแล้วนะ" เขาพูดขึ้นอย่างสงสัย แต่ในใจก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคนขายของแบบนี้ก็มักจะพเนจรร่อนเร่ขายไปเรื่อยๆอยู่แล้ว แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณมาก
หลังจากที่รอให้ควิซกินไอศครีมรสช็อคโกแลตชิพจนหมด ทั้งสองคนก็ออกเดินเที่ยวต่อ
"แต่ว่านะครับ" ควิซที่ระหว่างเดินไปก็มองมาทางโคริ "พวกเรามาเดินแบบนี้นี่คนทั่วไปอาจจะนึกว่าเป็นคู่รักกันก็ได้" เขาพูดอย่างเขินๆ แต่จริงๆก็ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง แต่โคริกลับพูดว่า "หรือคะ?" เล่นเอาเขาเงียบไป
ไม่ไกลจากทั้งสองคน มีชายหนึ่งคนกับผู้หญิงอีกหนึ่งคนกำลังเดินอยู่ด้วยกัน ผู้ชายใส่เสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงยีนขายาว ส่วนผู้หญิงมีผมสีทอง ใส่ชุดสีดำทั้งชุดทั้งเสื้อและกระโปรงที่ยาวเรี่ยพื้น
โคริเห็นทั้งสองคนก็หยุดชะงัก สายตาของเธอมองผู้ชายคนนั้นอย่างเพ่งพินิจ แต่เพียงแค่มองเธอก็เปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความตื้นตัน "ไปอะไรไปครับศาสตราจารย์โคริ?" ควิซเห็นโคริแปลกไปจึงถามด้วยความเป็นห่วง แต่เธอไม่ตอบ เธอกลับรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว "เอ๋ เดี๋ยวสิครับศาสตราจารย์..." แต่ไม่ทันได้ห้าม โคริก็วิ่งเข้าไปกอดผู้ชายคนนั้นเสียแล้ว ซึ่งเขาเองก็ตกใจไม่น้อยที่คนเย็นชาอย่างเธอกลับไปกอดผู้ชายอย่างไม่มีเหตุผล "เดี๋ยวสิ...เหตุผลเหรอ ถ้าเหตุผลล่ะก็..." เขาจำได้ว่าโคริเคยบอกเขาเรื่องสามีของเธอ และเมื่อเธอพูดถึงเขาเธอก็ดูมีความสุขและยิ้มอย่างที่ไม่ว่าใครก็คงจะไม่ได้เห็น
เด็กหนุ่มคนนั้นเองก็ดูตกใจไม่น้อยที่จู่ๆก็มีสาวสวยวิ่งเข้ามากอด ซึ่งนั่นทำให้สาวที่อยู่ข้างเกิดความไม่พอใจ จึงใช้สายตามองไปที่เขาเหมือนจะถามว่า "นี่มันอะไร?" ซึ่งเขาก็ได้แต่ส่ายหน้าและปฏิเสธว่า "ไม่รู้เหมือนกันลูน่าร์ จู่ๆเธอก็..." แล้วเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
ความรู้สึกนี้ เขารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก มันเหมือนกับเขาได้เติมเต็มสิ่งที่หายไปในห้องหัวใจมานานมาก นานตั้งแต่เขายังเด็กๆ
"ท่านแม่ นี่อะไรเหรอ?"
"มันเป็นของพ่อลูกน่ะ เขาให้ไว้ก่อนจะจากไป"
"แล้วท่านพ่อไปไหนล่ะ?"
"ไม่รู้สิ แต่เขาคงไปอยู่ในที่ที่นึงนั่นแหละ"
"แล้วท่านแม่ไม่เหงาเหรอ?"
"ไม่เป็นไร แม่ มีลูกอยู่ทั้งคน มีกันแค่นี้ก็พอแล้ว"
เฮลิออสที่จู่ๆก็มีความทรงจำในอดีตผุดขึ้นมา แม้เขาจะจำไม่ได้ว่าใบหน้าของเธอเป็นอย่างไร รอยยิ้มของเธอเขาจำได้ดี และความอบอุ่นที่เขาได้รับจากเธอ แม้ตอนนั้นจะเด็กมาก แต่ความรู้สึกในตอนนั้นกับในตอนนี้มันไม่ต่างกันเลย "ท่านแม่..." เขาพูดขึ้นแล้วมองผู้หญิงที่กอดเขาอยู่ "ในที่สุดก็ได้พบกันสักที แม่รอมานานมากรู้ไหม" เธอพูดขึ้นทั้งๆที่ยังกอดเขาอยู่
แต่ทว่าในสายตาคนทั่วไป เมื่อเห็นสาวสวยอย่างโคริมากอดชายหนุ่มอย่างเฮลิออส ทุกคนไม่มีใครคิดว่าเป็นแม่ลูกกัน แต่กลับเห็นว่าเป็นคนรักกำลังกอดกันต่างหาก ใช่แล้ว แม้แต่ลูน่าร์เองก็คิดอย่างนั้น
เธอรู้สึกหงุดหงิดมากที่จู่ๆก็มีผู้หญิงจากไหนก็ไม่รู้มากอดเฮลิออสของเธอ นี่อาจจะเรียกว่าเป็นอาการหึงก็ได้
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังควบคุมตัวเองได้ และพยายามเข้าไปถามถึงสาเหตุ "นี่คุณ..." แต่เธอกลับได้ยินเฮลิออสเรียกเธอคนนั้นว่า "แม่" เธอจึงรู้สึกตกใจไม่น้อย "เอ๋???" เธอสงสัย เพราะเธอไม่มีทางเชื่อว่าหญิงสาวสวยขนาดนี้ที่ดูแล้วอายุก็น่าจะพอๆกับพวกเธอจะเป็นแม่ของเฮลิออสได้ แต่เมื่อเธอคนนั้นยืนยันว่าเธอเป็นแม่ของเฮลิออส ก็ทำให้ลูน่าร์เริ่มเปลี่ยนใจ "งั้นผู้หญิงคนนี้คือแม่ของเฮลี่?" เธอคิด แล้วมองทั้งสองคนกอดกันอย่างงงๆ
ที่ลูน่าร์เชื่อง่ายอย่างนั้น เพราะแม่ของเธอเองก็ยังดูไม่ต่างจากเมื่อสิบกว่าปีก่อนเลยตั้งแต่ที่เธอจำความได้ แต่นั่นเป็นเพราะแม่ของเธอมีเชื้อสายของปิศาจจิ้งจอกอยู่ด้วย แต่ในกรณีนี้ล่ะ จะเป็นอะไร ปิศาจก็ไม่น่าใช่
ในที่สุดจุดประสงค์จริงๆของการลงมาที่โลกครั้งนี้ของโคริจะกระจ่างแล้ว เธอมาตามหาลูกชายของเธอนั่นเอง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เทพธิดาแห่งน้ำแข็งได้อยู่ในทุ่งน้ำแข็งที่ตนสร้างขึ้น
ต่อมาวันหนึ่ง ก็มีชายหนุ่มหลงเข้ามา เธอได้ช่วยเขาไว้ และได้สอนเขาหลายอย่าง
แต่เทพธิดากลับมีนิสัยเย็นชาต่อสิ่งรอบข้างราวกับน้ำแข็ง แม้จริงๆแล้วเธอจะใจดีก็ตาม
แต่ทว่า เมื่อเธอได้พบกับชายหนุ่ม เขาก็เริ่มทำให้เธอเปลี่ยนไป จากที่ไม่เคยยิ้ม เธอก็ยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่ออยู่กันนานวันเข้า ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ได้กลายเป็นความรัก จนในที่สุด เทพธิดาแห่งน้ำแข็งก็ได้มอบความบริสุทธิ์ของเธอให้กับเขา
วันหนึ่งเขาก็ได้จากไปเพราะเหตุผลบางอย่าง เขาได้มอบของเอาไว้อย่างหนึ่ง แล้วเขาก็ได้จากไป
เขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว เทพธิดาแห่งน้ำแข็งนั้นมีครรภ์กับเขา แต่เธอเลือกที่จะไม่บอกเพื่อให้เขาไม่ต้องกังวล
เวลาผ่านไป เธอก็ให้กำเนิดลูกชาย และเธอก็ตั้งชื่อเขาว่า เฮลิออส...
แต่เธอรู้สึกได้ว่าสักวันเขาก็ต้องจากเธอไป เธอจึงได้มอบของไว้ให้เขาซึ่งก็คือของที่ชายคนนั้นมอบให้เธอ อย่างน้อยก็เผื่อว่าวันหนึ่งจะได้เจอกันอีก
หลังจากนั้นไม่นาน ลูกชายของเธอก็หายตัวไปอย่างที่เธอรู้สึกสังหรณ์ แต่เธอกลับไม่ได้เสียใจ เพราะเธอกลับมาเป็นคนเย็นชาอีกครั้ง
เธอตัดสินใจออกจากทุ่งน้ำแข็งที่เธอสร้างขึ้น อย่างน้อยก็เพื่อออกตามหาเบาะแสของสามีและลูกชาย
ด้วยความสามารถของเธอ ในที่สุดเธอก็ได้เป็นศาสตราจารย์คอยทำงานให้กับสำนักงานสร้างหุ่นยนต์บนดวงจันทร์
และในวันนี้เธอก็ได้พบกับลูกชายของเธออีกครั้ง แม้ว่าเขาจะโตขึ้น แต่เธอก็สามารถรู้ได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว
ที่บ้านของอามาร่า
อามาร่ามองโคริที่กอดเฮลิออสไม่ยอมปล่อย ที่ข้างก็มีลูน่าร์ที่มีท่าทีไม่ค่อยพอใจและควิซที่ต้องตามโคริมาด้วย เธอนั่งกอดอก กระตุกคิ้วเล็กน้อยแล้วถามว่า "นี่มันอะไรกัน?" เสียงของเธอมีแววไม่พอใจ เพราะเฮลิออสเมื่อเช้าก็ลูน่าร์ พอตกเย็นก็พาผู้หญิงเข้าบ้านเธออีก
"แฮะๆ คือว่าเรื่องมันยาวน่ะ" เฮลิออสซึ่งถูกกอดอยู่ก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ เพราะไม่รู้จะอธิบายเรื่องราวให้เธอฟังยังไงดี ครั้นจะบอกว่าเป็นแม่เธอก็คงไม่เชื่อ แต่ถ้าเป็นแฟน ลูน่าร์ก็อยู่ข้างๆเตรียมเล่นเต็มที่ ควิซที่ดูเหตุการณ์อยู่ทั้งหมดและเข้าใจในความคิดของเขา เขาก็บอกว่า "คุณผู้หญิง คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่จริงๆแล้วเธอคนนี้เป็นถึงศาสตราจารย์เชียวนะครับ ชื่อศาสตราจารย์โคริ" "แล้วไง?" อามาร่ายิงคำถามถึงเหตุผลต่อมาทั้นที แต่เขาก็พูดต่อไป "อาจจะตกใจนิดหน่อย แต่ผู้ชายคนนี้น่ะ เป็นสามีของเธอครับ!!!" ควิซตอบอย่างหนักแน่น แต่อามาร่ากับเฮลิออสถึงกับอ้าปากค้าง ส่วนลูน่าร์ที่แม้จะรู้ความจริงอยู่แล้วนิดหน่อยก็ถึงกับจ้องไปที่เฮลิออสด้วยสายตาอาฆาต "เฮ้ย ไม่ใช่แล้วๆ ผมไม่ได้เป็นสามีของเธอคนนี้ซะหน่อย" เฮลิออสรีบปฏิเสธเพราะกลัวลูน่าร์กับอามาร่าเข้าใจผิด ถ้าทั้งสองเข้าใจผิดล่ะก็เขาตายแน่
โคริที่กอดเฮลิออสอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดเธอก็ยอมปล่อย เธอใช้สายตาที่เย็นชามองไปทางควิซเป็นความหมายให้หยุดพูด ซึ่งเขาก็หุบปากไว้ทันที
จากนั้นเธอจึงหันมามองทางอามาร่าที่หายค้างแล้วมาจ้องเล่นงานเฮลิออสแทน โคริบอกกับเธอว่า "จริงๆแล้วฉันกับเขาไม่ใช่สามีภรรยากันหรอกค่ะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย อามาร่าได้ยินก็ถอนหายใจดังฟู่อย่างโล่งอก "เฮ้อ คงเป็นพี่น้องกันสินะ เพราะอย่างน้อยก็มีส่วนคล้ายกัน อย่างตากับใบหน้าล่ะมั้ง" อามาร่าคิดอย่างโล่งใจ "แต่ว่าเขาเป็นลูกชายของฉันค่ะ" เธอพูดมาอย่างเรียบเฉยอีกตามเคย
แต่ว่าคราวนี้ ทั้งอามาร่า ควิซ และลูน่าร์กลับอ้าปากค้าง โดยเฉพาะอามาร่าที่ดูตกใจกว่าคนอื่น เพราะอย่างน้อยควิซกับลูน่าร์ก็พอจะจับเค้าความได้อยู่บ้าง
ในโลกนี้ยังมีหลายสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ มีคนเคยกล่าวไว้อย่างนั้น และเรื่องนี้ก็คงเป็นหนึ่งในนั้น
บ้านหลังนี้ยังคงพบกับเรื่องแปลกต่อไป
ที่ปราสาทบนดวงจันทร์
"มีแม่ก็ดีอย่างนี้แหละ ว่าแต่แม่ของเราล่ะ" นันน่าร์พูดขึ้นเบาจนแทบจะเป็นการพูดตัวเองพูดขึ้นพลางนึกถึงแม่ของเธอ
อาลี่กับโฮลี่ที่ตอนนี้เป็นผู้ช่วยของเธอแทนพี่สาวเรเดียนที่ลาออกไป ได้ยินเสียงอุบอิบของเธอก็ถามว่า "เป็นอะไรไปเพคะ?"
"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดว่ามีแม่นี่ดีจังน่ะ ว่าแต่พวกเธอมีแม่กันหรือเปล่า?" นันน่าร์ถามผู้ช่วยของเธอ "ก็ต้องมีอยู่แล้วสิเพคะ" อาลี่ตอบ แต่นั่นเธอก็ตอบส่วนของโฮลี่และเรเดียนด้วย เพราะทั้งสามเป็นพี่น้องกัน "นั่นสินะ ก็ต้องมีอยู่แล้ว" นันน่าร์พูดขึ้นย้ำ "แต่ว่าแม่ของฉันนี่เป็นใครฉันยังไม่รู้เลย" เธอพูดขึ้นด้วยเสียงที่เศร้าลง สายตาของเธอก็มีแววเศร้าปรากฏ ผู้ช่วยทั้งสองเข้าใจก็ได้แต่นิ่งเงียบ "แต่ว่า..." นันน่าร์พูดขึ้น ทั้งสองก็ตั้งใจฟัง "จะมีก็แต่พ่อที่ไม่ชอบอยู่บ้านเท่านั้นล่ะ" เธอพูดพร้อมทั้งยิ้มอย่างอบอุ่น เพราะถึงเธอจะไม่มีแม่ แต่เธอก็ยังมีพ่อคอยเลี้ยงดูเธอมาตลอด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยอยู่บ้านก็เถอะ
"ฮัดชิ้ว!" ลีออนจามขึ้น เขาเอามือขยี้จมูก จากนั้นก็พูดว่า "ใครมานินทาฉันกัน อย่าให้รู้นะ" แล้วเขาก็เดินต่อไป
..............................................................................................................................
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ffviicc เมื่อ 2013-3-9 00:58
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ffviicc เมื่อ 2013-3-9 00:59
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ffviicc เมื่อ 2013-3-10 12:58
Wing of Destiny ตอนที่ 28 เรื่องไม่น่าเชื่อบนโลกยังมีอีกมาก
[IMG]