ปีศักราชอวกาศ 2099 จักรพวรรดิญี่ปุ่นดาว JP-103 ฤดูใบไม้ผลิ เมื่อ 9 ปีก่อน
ในยามเช้าที่แสนสดใสและอากาศที่อบอุ่นของช่วงฤดูใบไม้ผลิ ร่างของเด็กสาวผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลยาวปะบ่ากำลังจ้องมองไปยังโรงเรียนของเธอที่อยู่ด้านล่างของเนินซึ่งถูกทำเป็นสวนสาธารณ ซึ่งตอนนี้ที่สนามโรงเรียนมีร่างของ B.U. รุ่นใหญ่อย่างยูกิคาเสะมายืนอยู่หลายตัว และคนที่จะได้บังคับมันนั้นก็มีแค่เพียงเหล่านักเรียนนายร้อยจากโรงเรียนฝึกราชองครักษ์เท่านั้นที่จะได้ขับมัน โดยแต่ละเครื่องนั้นยังไม่ได้ถูกลงสีใดๆทั้งนั้น เพราะการลงสีให้ยูกิคาเสะจะบ่งบอกถึงระดับฝีมือของคนขับ
“ยูอิ!! ทำอะไรอยู่ ใกล้ได้เวลาแล้วนะรีบไปกันเถอะ!!”
เสียงเรียกอันสดใสของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นเธอเป็นเด็กสาวร่างเล็กผิวเข้มตัดผมสั้นเข้าทรง
“จ๊ะ ไปกันเถอะทาเอะ”
“รู้รึเปล่าว่ายายจิซึรุน่ะนะแทบจะพ่นไฟออกปากแล้วพอรู้ว่าเธอหายไปน่ะ”
“แหม ฉันไม่ได้สำคัญกับงานในวันนี้ขนาดนั้นนะ”
“รองประธานนักเรียนนะ รองประธาน อย่างน้อยที่สุดเธอก็ต้องไปยืนเป็นตัวประดับเวทีสิ ไม่สิเธอเป็นคนที่จะทำให้เวทีมีชีวิตชีวาต่างหาก หากมีนางแว่นหน้ายักษ์ยืนแยกเขี้ยวอยู่บนเวที ก็ต้องมีดอกไม้งามยืนอยู่เป็นเวทีคู่กัน”
“เธอก็พูดเกินไปนะ”
“จะว่าไปยังมีอีกคนที่ยังไม่เห็นตัวเลย ยายฮารุโกะคงไม่ใช่ว่าหลับยาวอีกแล้วนะ”
ทาเอะพูดพลางเบ้หน้าพร้อมกับนึกภาพตอนเพื่อนของเธอมาถึงโรงเรียนแล้วโดนครูฝึกเล่นงานตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน
“เดี๋ยวอายาเสะก็คงจัดการเองเหมือนทุกที งั้นเรารีบไปกันก่อนเถอะ”
หลังจากเหล่าคณะกรรมการนักเรียนและเหล่าอาจารย์กล่าวต้อนรับพวกนักเรียนใหม่เสร็จแล้ว พวกปีสองก็เริ่มต้นการฝึกครั้งแรกกันทันที โดยเหล่าเด็กสาวกำลังแต่งตัวในห้องเปลี่ยนชุด
“ชุดสูทมันรัดสุดๆเลย คับเกินไปแล้ว”
เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีดำยาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆเมื่อเธอสวมชุดสูทนักบินรัดรูปเข้าไป
“อย่าบ่นเลยน่า ตัวเองมีเยอะก็บ่นได้ซี่ฮารุโกะ”
เด็กสาวผมสีดำยาวปะบ่าแยกเขี้ยวใส่เพื่อนของเธอพลางจ้องมองหน้าอกที่ใหญ่เกินวัยของอีกฝ่าย
“แต่ทำไมเราต้องถอดออกหมดเลยกันล่ะเนี่ย ใส่พวกชั้นในไว้ด้านในไม่ได้เหรอ แบบนี้มันรู้สึกโหวงเหวงยังไงไม่รู้สิ”
ทาเอะพูดพลางค่อยๆถอดเสื้อผ้าออก
“เอาน่า เดี๋ยวก็ชินไปเองนั่นล่ะ”
เด็กสาวสวมแว่นผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลยาวถักเปียพูดพลางสวมชุดสูท หลังจากนั้นเธอก็ถึงกับเบ้หน้าเมื่อต้องเจอกับความคับของชุดเข้าไป
“เพราะแบบนี้ไงเขาถึงมีปุ่มกลับสภาพชุดให้เวลาใส่และมันพอดีน่ะ”
ยูอิพูดพลางกดปุ่มเล็กๆที่อยู่ตรงข้อมือซ้ายของชุด และตอนนั้นเองที่ชุดเริ่มมีการขยายตัวออกจนรูปสึกพอดี ซึ่งเจ้าชุดพวกนี้คือชุดสูทสำหรับรบภาคพื้นดิน มันคือชุดที่จะช่วยให้นักบินทนแรง Gที่เกินขึ้นขณะขับรวมไปถึงดูดซับแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย
“เอ้า พวกเธอวันนี้จะเป็นวันแรกที่พวกเธอจะได้เจอกับคู่แท้ที่จะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต ราคาของมันแพงขนาดที่ว่าพวกเธอจะนั่งกินนอนกินสบายๆไปได้ทั้งชีวิตเลยล่ะ ดังนั้นใครทำพังล่ะก็มันจะโดนฉันคนนี้อัดให้ยับและโยนออกนอกประตูโรงเรียน ต่อไปนี้ถ้าใครมีแฟนก็ไปเลิกกับแฟนตัวเองซะ เพราะต่อไปนี้ยูกิคาเสะพวกนี้จะเป็นแฟนของพวกเธอ จงอยู่กับมัน จงกินกับมัน จงนอนกับมัน จงรักมันให้เหมือนรักแฟนของตัวเอง และหลังจากนี้อีกสองเดือนพวกเธอจะได้เข้าค่ายฝึก สุดโหดหินเพื่อฝึกการใช้ยูกิคาเสะ และการฝึกอื่นๆ ขอให้โชคดี เพราะทุกปีระหว่างฝึกมีคนตายอย่างน้อยหนึ่งคนเสมอ”
ครูฝึกชายพูดพลางแสยะยิ้ม และพวกเด็กสาวเองก็รู้ดีว่ามีคนตายทุกปีระหว่างการฝึก
หลังจากนั้นแต่ละคนก็เริ่มเดินไปตามเครื่องต่างๆเพื่อทำการเลือก ถึงแม้ว่ามันจะไม่ต่างกันแม้แต่น้อยทั้งรูปร่าง สเป็ค เรียกว่าออกมาจากโรงงานเดียวกันแถมเกือบจะวันเดียวกันหมดด้วย โดยครูฝึกบอกว่า “พวกแกจงใช้ใจในการเลือก”
ยูอิหยุดเท้ายืนมองร่างของยูกิคาเสะที่คุกเข่าอยู่ฝั่งซ้ายสุดและไม่ยอมขยับไปไหนแม้แต่น้อย เธอจ้องมองมันอย่างเหม่อลอย และทุกคนต่างก็คิดเหมือนกันว่ายูอิคงได้เครื่องของตัวเองแล้ว
“อ๊า ฉันรักคุณค่ะคุณ ยูกิคาเสะA ได้โปรดคบกับฉันด้วยนะคะ และฉันจะมอบครั้งแรกให้คุณ”
เสียงกระซิบของทาเอะดังขึ้นข้างหูยูอิ เธอสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับหันมามองอีกฝ่ายตาขวาง
“พูดอะไรน่ะทาเอะ!! ฉะ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะ”
“แต่ก็แอบใจเต้นใช่ไหมล่ะ”
หนนี้เสียงกระซิบของครูฝึกดังขึ้นข้างหูของยูอิบ้าง
“ครูฝึกโคจิม่า!! คุณก็เอากับเขาด้วยเหรอคะ”
“อะไรก๊าน พวกเราก็แค่พูดในสิ่งที่กำลังคิด ฮ่าๆๆๆๆ”
ทาเอะและครูฝึกพูดออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ส่วนยูอิได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น
“รักเลย”
ฮารุโกะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆพลางเดินไปกอดข้ายูกิคาเสะตัวหนึ่ง
“แกกับฉันเราจะไปสู่จุดสูงสุดแห่งราชองครักษ์ เป้าหมายคือสีดำอันทรงพลัง!!!”
ทาเอะพูดพลางขึ้นไปยืนอยู่บนหัวยูกิคาเสะที่เธอเลือก ส่วนคนอื่นๆต่างก็หัวเราะเมื่อเห็นเธอทำแบบนั้น ส่วนครูฝึกพอเห็นถึงกับรีบเอาหินปาไล่เธอลงมาทันที
“งั้นฉันเอาเครื่องนี้แล้วกัน”
จิซึรุพูดพลางเดินเข้าไปใกล้ยูกิคาเสะตัวที่เธอเลือกโดยไม่มีท่าทีอะไรพิเศษ
“เอ่อ เหตุผลที่เลือก ซักนิดสิ ฉันสงสัย”
ทาเอะถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ก็ที่เกราะขาขวามันมีรอยบิ่นอยู่ ตรงนี้ไง”
เธอพูดพลางชี้ให้คุกคนดู ส่วนทุกคนต่างก็ไปมุงตรงจุดที่เธอชี้แล้วก็ถึงกับเหงื่อตก รอยมันเล็กมากจนถ้าไม้เพ่งให้ดีๆก็คงไม่เห็น
‘ยังเห็นได้อีกนะ สมแล้วที่เป็นทั้งหัวหน้าห้องและประธานนักเรียน’
ทุกคนคิดขึ้นมาพร้อมกัน
“งั้นของฉันก็หมอนี่ล่ะ!!”
อายาเสะพูดพลางชี้ไปที่ยูกิคาเสะที่อยู่ใต้เงาอาคารตัวหนึ่ง
“ทำไมถึงตัวนั้นล่ะ”
ฮารุโกะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ก็ดูสิ หมอนี่น่ะนะตรงห้องคนขับมันเปิดอยู่นี่นา ก็นั่นไงคนรักกันเขาต้องเปิดเผยทุกอย่างใช่ม้า หมอนี่ไงเปิดเผยทุกอย่างแบบไม่ปกปิดเลย”
“โอ๊ยหลักการคิดเถอะแม่คุณ!!!”
ทาเอะร้องขึ้น
ส่วนยูอิที่กำลังยืนมองร่างของยูกิคาเสะตัวเดิมไม่ยอมกันไปมองเพื่อนร่วมชั้นกว่ายี่สิบคนที่ได้เครื่องของตัวเองกันหมดแล้ว
“ยูอิ ตัดสินใจได้รึยัง ไม่สิถึงจะตัดสินใจไม่ได้มันก็เหลือเครื่องเดียวแล้วล่ะ แล้วก็เครื่องครั้งแรกน่ะอย่าคิดมากเลยนะ ฉันว่าหมอนี่ไม่ใช่B.U.ประเภทนั้นหรอก ฉันว่าหมอนี่ต้องเป็นสุภาพบุรุษแน่ๆ อย่าคิดมากเลยนะ”
ทาเอะพูดด้วยสีหน้าจริงจังพลางจับบ่าของยูอิเอาไว้
“เธอนี่นะ เห็นB.U.เป็นอะไรกันล่ะเนี่ย แล้วอีกอย่างรสนิยมของฉันน่ะไม่ใช่เครื่องจักรนะ แต่ต้องเป็นอะไรที่เป็นสิ่งมีชีวิตสิ”
“อะไรก็ได้ที่เป็นสิ่งมีชีวิตเหรอ”
ทาเอะพูดพลางเอียงคอ
“ฉันหมายถึงมนุษย์ มนุษย์!!!”
“เหนื่อยจริงๆ ทั้งๆที่วันนี้ไม่ได้มีอะไรเลยแท้ แต่ทำไมเหนื่อยแบบนี้นะ”
ยูอิพูดพลางเดินออกมานอกโรงเรียน
“ยูอิไปซื้อของกันเถอะ!!!”
เสียงของอายาเสะดังตามหลังมาติดๆ และเมื่อยูอิหันไปมองด้านหลังก็พบกับอายาเสะและเพื่อนๆของเธอในชุดไปรเวทกันทั้งหมดเลย ซึ่งมีแต่เถอะที่อยู่ในชุดวอร์ม
“อะไรกันเนี่ยยูอิ ทำไมชุดวอร์มล่ะ ไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”
“เอ๊ะ เดี๋ยวๆ อะไรเหรอ”
“วันนี้เราจะไปซื้อชุดว่ายน้ำแล้วก็ต่อด้วยไปฉลองขึ้นปีสองพร้อมกับการได้ยูกิคาเสะยังไงล่ะ ครูฝึกโคจิม่าบอกว่าจะเลี้ยงเองเลยล่ะ!!”
“เอ๋ ฉันไม่เคยได้ยินเลยนะว่าจะมีอะไรแบบนี้”
“ไม่ต้องกลับไปเปลี่ยน ฉันเอามาให้แล้ว”
ฮารุโกะพูดพลางชูชุดไปรเวทที่ดูเรียบๆซึ่งมันเป็นชุดไปรเวทของยูอิที่เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าของหอพัก
“เดี๋ยว นั่นชุดฉันนี่ เธอไปเอาออกมาได้ยังไง”
ทาเอะยิ้มพลางชูขวานในมือขึ้นมาให้ยูอิดู
“พังเข้าไปเหรอ นี่พังเข้าไปจริงๆเหรอ!!”
หลังจากนั้นพวกนักเรียนก็รีบพุ่งเข้ามาหายูอิและโยนเธอเข้าไปในพุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ๆแล้วช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอทันที
สิบห้านาทีต่อมา ย่านการค้าใกล้ๆกับโรงเรียน ในร้านขายชุดว่ายน้ำตอนนี้แน่นไปด้วยเหล่าเด็กสาวที่กำลังช่วยกันเลือกชุดว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน และที่หน้าประตูก็มีร่างของครูฝึกที่กำลังยืนมองอย่างเงียบๆ
“มากันทุกปีเลยนะคะ”
หญิงเจ้าของร้านพูดขึ้น
“ครับ ก็ทุกปีไปเข้าค่ายที่เกาะกัน ก็มีช่วงปล่อยผีให้ได้เล่นสนุกกันบ้างล่ะครับ”
หลังจากที่ช่วยกันเลือกชุดว่ายน้ำได้แล้วพวกสาวๆก็มาต่อกันที่คาราโอเกะใกล้ๆซึ่งครูฝึกโคจิม่าเองก็ลงทุนจ่ายแบบกระเป๋าฉีกเพื่อเลี้ยงให้พวกนักเรียนที่รักของเขา และเปิดการโชว์แสดงสดร้องเพลงให้พวกนักเรียนฟัง โดยเพลงที่ใช้ร้องเป็นเพลงแนวคันทรี แถมด้วยพลังเสียงอันทรงพลังซึ่งเล่นเอาพวกนักเรียนต้องนั่งอึ้งไปตามๆกัน
และวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง วันเข้าค่าย โดยทางโรงเรียนจัดให้มาเข้าค่ายที่เพราะซึ่งใช้เป็นสถานที่ฝึกทุกปี โดยพวกนักเรียนเองก็ได้เดินทางอย่างหรูที่คนทั่วไปไม่มีโอกาส เรือนบรรทุกB.U.ถ้ามองๆแล้วมันหน้าตาเหมือนเรือนบรรทุกเครื่องบินมากแต่ขนาดของมันใหญ่โตกว่าหลายเท่า
“เอาล่ะสาวๆ ด้านหน้าคือเกาะที่พวกเธอจะใช้ฝึกกันล่ะนะ แต่ว่าคืนนี้พวกเธอจะต้องฝึกกันหนักมากเลย ดังนั้นเจ้าครูฝึกจอมโหดมันเลยให้ฉันมาบอกพวกเธอว่าช่วงกลางวันพักผ่อนเล่นสนุกกันให้เต็มที่ อ่อแล้วก็คืนนี้เหมือนแถบนี้ฝนจะตก ฝึกกันระวังๆด้วยล่ะ”
เสียงของกัปตันเรือประกาศจากหอบังคับการเรือ ส่วนพวกเด็กสาวที่ได้ยินต่างก็แสดงท่าทางดีใจกันอย่างออกนอกหน้า
“สดชื่นจังเลยน้า”
ทาเอะพูดพลางสา.ดน้ำใส่อายาเสะ แต่อีกฝ่ายได้แต่หันไปมองอีกทางหนึ่งอยู่ นั้นคือยูอิซึ่งเธอเดินมาที่หากในสภาพเอาผ้าขนหนูคลุมปิดตัวเองเอาไว้
“แล้วจะปิดเอาไว้ทำไมกันล่ะยูอิ!! แถวนี้ไม่มีตาแกโรคจิตมาแอบดู ...... ไม่ดิมีอยู่คนนึง”
อายาเสะพูดพลางหันไปเห้นครูฝึกโคจิม่าพร้อมกล้องถ่ายรูปกำลังวิ่งหามุมรอถ่ายรูปอยู่
“โอ๊ย!! ชุดนี้พวกเราช่วยเลือกกันตั้งนานนะของดีมีไว้โชว์อย่าปิดบัง!!!”
ทาเอะพูดพร้อมกับวิ่งไปกระชากผ้าขนหนูออกเผยให้เห็นชุดว่ายน้ำวันพีชสีเปิดหลัง โดยชุดสีดำมันตัดกับสีผิวขาวๆของเธอได้อย่างลงตัว และมันยังทำให้เธอดูดีมากอีกด้วย
“good job Haruko”
อายาเสะพูดพลางชูนิ้วให้ฮารุโกะผู้เลือกชุด ส่วนฮารุโกะตอบรับด้วยการใช้มือทุบที่อกเบาๆ
และเวลาฝึกก็มาถึง เหล่าเด็กสาวมายืนเตรียมพร้อมอยู่ที่โรงเก็บB.U. โดยแต่ละคนนั้นยืนประจำอยู่หน้ายูกิคาเสะของตัวเองในชุดสูท โดยด้านนอกโรงเก็บนั้นฝนกำลังตกหนัก ไม่สิต้อองเรียกมันว่าพายุเลยล่ะ
“วันนี้พวกเธอจะต้องฝึกการลงจอดฉุกเฉินในสภาพอากาศเลวร้ายกัน เอาล่ะเริ่มจากยูอิ เธอก่อนเลย ด้วยเครื่องยนต์ของยูกิคาเสะมันสามารถเร่งเครื่องเต็มที่แล้วบินวนรอบเกาะนี้ได้สบาย เธอไปก่อนเลย!!”
เมื่อสิ้นเสียงของโคจิม่ายูอิก็รีบขึ้นไปบังคับยูกิคาเสะของตัวเองทันที สำหรับการฝึกนั้นเธอผ่านมาหลายแบบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฝึกด้วยของจริง และยังฝึกลงจอดฉุกเฉินอีกด้วยถึงแม้จะเคยฝึกมาบ้างในซิมูเลชั่นก็ตาม เธอค่อยๆบังคับมันออกไปยืนด้านนอกโรงเก็บ เสียงของเม็ดฝนที่ตกกระทบเกราะด้านนอกดังก้องเข้ามาภายในห้องนักบิน หลังจากนั้นบูสเตอร์ที่เอวก็เริ่มเดินเครื่อง และในตอนนั้นเองที่ยูกิคาเสะพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง
ภายในห้องคนขับใบหน้าของยูอิแสดงให้เห็นออย่างชัดเจนถึงความเครียด ดวงตาของเธอมองสลับไปมาระหว่างตัวเลขที่แสดงบนจอกับด้านหน้า ตัวเลขนั้นบอกถึงความเร็วที่กำลังเพิ่มขึ้น โดยตอนนี้มันพุ่งขึ้นไปถึง 530 กิโลเมตร/ชั่วโมง และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยูกิคาเสะนั้นสามารถเร่งเครื่องด้วยความเร็วสูงได้ก็จริงแต่ว่าปัญหาคือมันทำได้แค่ในระยะสั้นๆ นั่นคือจุดบอดของเครื่องๆนี้ แต่ว่านั่นทำให้มันเป็น B.U. ที่ใครๆก็หวาดหวั่น หากหนีมันไม่พ้นก็มีแต่ต้องสังเวยชีวิตให้กับคมดาบเท่านั้น
“สะ สุดยอด 600 กิโลเมตรแล้ว”
ทาเอะพูด พลางมองจอมอนิเตอร์เล็กๆที่ถูกติดตั้งเอาไว้สำหรับสังเกตการณ์ และในตอนนั้นเองที่เสียงเครื่องยนต์ของยูกิคาเสะดังตามขึ้นมาแว่วๆท่ามกลางเสียงฝน ซึ่งในตอนนั้นเองที่เลขบอกความเร็วกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว โดยความเร็วสูงสุดที่เธอทำได้คือ 630 กิโลเมตร/ชั่วโมง ร่างของยูกิคาเสะลงจอดบนลานจอดได้อย่างสวยงามท่ามกลางเสียงโห่ร้องอย่างดีใจของเพื่อนร่วมชั้น แต่ในตอนนั้นเองที่ทุกคนต้องเงียบเสียงเมื่อเห็นควันสีดำที่ลอยออกมาจากบูสเตอร์ และใบหน้าที่ดูเศร้าๆของยูอิที่ออกมาจากห้องคนขับ
“สุเมรากิ!!”
เสียงของครูฝึกดังขึ้น ยูอิที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบลงมาจากห้องคนขับและมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขาพลางเม้มปากแน่น เพราะทำเครื่องพังแบบนี้เธอจะต้องโดนดุแล้วโดนไล่ออกจากโรงเรียนแน่ๆ
“ทำได้ดีมาก ฉันจะเสนอชื่อไปให้เบื้องบน เจ้านี่ใช้สีเทาๆคงจะไม่เหมาะซะแล้วล่ะ คงต้องให้ใช้ม่วง ไม่สิสีแดงล่ะมั้ง”
เขาพูดพลางเดินจากไป ส่วนเพื่อนร่วมชั้นพอได้ยินต่างก็เข้ามาแสดงความยินดีกับเธอที่ได้ขึ้นเป็นSทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบ
“ยินดีด้วยนะ เท่านี้เธอก็ได้เป็นถึงราชองครักษ์ระดับสี่แล้วสินะ จู่ๆก็ได้เป็น S ในหมู่ S ซะแล้วซี่ แบบนี้เพื่อนอย่างฉันก็ได้หน้าไปด้วยน่ะสิ”
อายาเสะพูดพลางเข้ามากอดคอยูอิเอาไว้
“เป็นใหญ่เป็นโตแล้วอย่าลืมเพื่อนกันซะล่ะ”
ทาเอะพูดพลางชกท้องเธอเบาๆ
“ยอดมาก”
ฮารุโกะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ฉันล่ะยอมคุณจริงๆค่ะ เก่งเสมอต้นเสมอปลายสมเป็นคุณจริงๆ”
จิซึรุพูดพลางยิ้มให้อีกฝ่าย
และหลังจากนั้นการฝึกก็ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นและแต่ละคนก็ไม่อยากจะน้อยหน้ากว่ากัน โดยจนถึงตอนนี้นอกจากยูอิก็ยังมีอายาเสะและฮารุโกะที่ถูกเสนอชื่อให้รับเครื่องสีม่วง
แต่แล้วการฝึกก็ต้องจบลงอย่างรวดเร็ว
ตูม!!!
ร่างของยูกิคาเสะเครื่องหนึ่งพุ่งชนเข้ากับพื้นของลานจอดอย่างแรง เปลวไฟลุกไหม้เสียงกรีดร้องของนักบินที่ยังรอดชีวิตหนึ่งขึ้นเมื่อเปลวไฟเข้าไปภายในห้องนักบินโดยที่ไม่มีใครเข้าไปช่วยเธอได้เลย
“ความผิดพลาดในการฝึกมันเกิดขึ้นได้ตลอดนั่นล่ะ ถ้าหากว่าใครไม่พร้อมจะเจอเรื่องแบบนี้ก็ลาออกไปซะ เดี๋ยวทางทัพเรือจะส่งพวกเธอกลับเอง”
และในวันต่อมามีนักเรียนแปดคนออกจากค่ายฝึก โดยทุกคนต่างก็ไปส่งพวกเธอด้วยน้ำตา เพื่อนที่อยู่ด้วยกันมากว่าหนึ่งปีแต่ในเวลาที่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็ต้องลาจากไปแล้วถึงเก้าคน
และในบ่ายวันเดียวกันพวกเธอก็เข้าฝึกการรบโดยใช้B.U. โดยใช้กระสุนสีและดาบซ้อม โดยแต่ละคนต่างก็ติดตั้งอาวุธตามความถนัดของตัวเอง โดยยูอิติดดาบยาวสองเล่มเอาไว้ทีหลังและพกปืนกลขนาด 35mm มาด้วยอีกสองกระบอก
การฝึกยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้นและดุเดือด แต่แล้วในคืนวันสุดท้ายของการเข้าค่ายขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารคำกันอยู่ โดยทุกคนพยายามจะลืมเรื่องในวันแรกไปให้หมดๆเลยไม่มีใครพูดถึงมันแม้แต่คนเดียว
“นี่คือการรายงานสดค่ะ ตอนนี้กองทัพรัสเซียเข้าโจมตีดาวด่านหน้าของไทยแล้วค่ะ ย้ำอีกครั้งกองทัพรัสเซียเข้าโจมตีดาวด่านหน้าของไทยแล้วค่ะ และตอนนี้ยังมีข่าวว่ากองอัพอังกฤษเองก็ทำการบุกเยอรมันด้วยเช่นกัน”
นักข่าวภาคสนามคนหนึ่งกำลังรายงานข่าวโดยด้านหลังของเธอมีร่าง B.U. ของไทยอย่างไวเปอร์กำลังยืนคุ้มกันอยู่
“เฮ้ยคุณนักข่าว จะมาทำอะไรตรงนี้ เดี๋ยวก็โดนลูกหลงหรอก”
เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น โดยเขาออกมาจากห้องนักบินของไวเปอร์ในสภาพกางเกงในตัวเดียว และในตอนนั้นภาพข่าวก็ตัดไปยังห้องส่งพร้อมกับใบหน้าของผู้ประกาศข่าวที่ไม่สู้ดีนัก
“ตอนนี้ทางคณะรัฐบาลประกาศสภาวะฉุกเฉินในดาวทุกดวงและเรียกรวมพลกองทัพทั้งหมดรวมถึงนักเรียนวิชาทหารทั้งหมดตั้งแต่ระดับชั้นปีที่สองขึ้นไป และเมื่อไม่กี่นาทีก่อนมีการยืนยันมาแล้วค่ะว่ากองทัพของอิตาลีปฏิเสธการเป็นพันธมิตรและประกาศอย่างแข็งกร้าวว่าจะเข้าร่วมกับทางจีนและจะเข้าร่วมแผนการบุกโจมตีญี่ปุ่นในไม่ช้านี้ โดยทางคณะรัฐบาลกำลังเร่งขอความช่วยเหลือจากนานาชาติแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับใดๆทั้งสิน”
“ไม่จริงน่า สงครามเป็นไปได้ยังไง”
เสียงของนักเรียนคนหนึ่งดังขึ้น
“อะไรกัน ยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลย”
“ไม่นะ!!”
เหล่านักเรียนเริ่มแต่ตื่นกับการประกาศข่าวดังกร่าว ส่วนเหล่าครูฝึกเองก็รีบทำการติดต่อไปยังส่วนกลางทันทีเช่นกัน
“ท่านครับ เด็กพวกนี้ยังไม่พร้อมที่จะออกรบนะครับ”
“ผมทราบดีครับเรื่องนั้น”
“แต่ว่าท่านครับ ท่านครับ”
“โธ่ โว๊ย!!”
เสียงของครูฝึกดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระจกแตกดังขึ้น
“สงคราม จริงๆสินะ”
ยูอิพูดเสียงเรียบกับตัวเอง
“เอาล่ะพวกเธอจะถูกส่งกลับบ้านทันที กลับไปบอกลาครอบครัวซะ ตอนนี้ทางกองทัพได้ทำการบรรจุพวกเธอเป็นทหารกองราชองครักษ์อย่างเป็นทางการแล้ว สามคนที่ฉันเสนอชื่อไปเครื่องของพวกเธอจะถูกส่งเข้าโรงงานทันทีเพื่อทำการปรับแต่งใหม่ ส่วนคนอื่นๆจะได้รับเครื่องสีขาวและได้เป็นองครักษ์ระดับหนึ่ง.......”
ครูฝึกพูดพลางกำหมัดแน่นจนมีเลือดซึมออกมา
“ขอโทษ ขอโทษนะ ฉันทำอะไรไม่ได้เลย ขอโทษจริงๆ”
“ท่านแม่ หนูไปก่อนนะคะ”
ยูอิพูดพลางเดินออกจากคฤหาสน์สไตล์ญี่ปุ่นซึ่งเป็นบ้านของเธอ โดยด้านหลังมีร่างของผู้เป็นแม่และเหล่าคนรับใช้ออกมาส่งเธอ
“ลากันง่ายๆเลยน้า”
เสียงของทาเอะดังขึ้นขณะที่ยูอิกำลังจะเดินพ้นเขตกำแพงบ้าน
“ทาเอะ แล้วทางบ้านเธอล่ะ”
“ฉันไม่บอกลาหรอก เพราะฉันยังไม่คิดที่จะตาย และจะรอดกลับมาให้ได้ก็เลยไม่ได้แวะกลับไปที่บ้านน่ะ”
“ฉันก็เหมือนกัน ฉันยังไม่คิดที่จะมาจบลงตรงนี้เหมือนกัน”
“เอาล่ะ ต่อไปนี้พวกเธอจะอยู่ภายใต้การดูแลของฉัน ต่อไปนี้พวกเธอจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของฉันทุกอย่างเข้าใจไหม!!”
นายทหารบังคับหมวดหญิงคนหนึ่งพูด โดยนักเรียนในชั้นของยูอิทั้งหมดถูกส่งมาหน่วยเดียวกันทั้งหมด โดยเธอคนนี้บังคับเครื่องสีทองนั่นหมายความว่าเธอเป็นราชองครักษ์ระดับห้านั่นเอง
“ไปด้วยกันนะ ยูกิคาเสะ ไปสู่สงคราม”
ยูอิพูดพลางจับจ้องไปยังยูกิคาเสะของเธอซึ่งถูกลงสีแดงเอาไว้อย่างสวยงาม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-3-20 15:22
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-3-20 15:24
Valkyrie::Royal Guard ตอนที่1 สงครามที่เริ่มปะทุ