ก็...ปิดเทอม์แล้ว...เที่ยวเผลิน
ลืมเขียน![](https://c.2th.me/old/static/image/smiley/onion/025.gif)
![](https://c.2th.me/old/static/image/smiley/onion/025.gif)
น้อมรับข้อกล่าวหาอย่างยืดอก![](https://c.2th.me/old/static/image/smiley/onion/032.gif)
![](https://c.2th.me/old/static/image/smiley/onion/032.gif)
![](http://usercontent.2th.me/a/i/hd67v9hk/2th.me_856721.jpg)
“ฮ้าว”ผมหาวง่วงด้วยความอ่อนเพลียความรู้สึกเหมือนเปลือกตาจะปิดลงมาทำให้ผมต้องฟุบหน้าลงโต๊ะแต่แล้วหัวผมก็ถูกกระแทกอย่างแรงจนเจ็บชา เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นครูสาวถือหนังสือคณิตศาสตร์ที่จ้องมองผมด้วยแววตาดุดันจนผมขนลุก
“โอ! กล้ามากนะที่มาฟุบหน้าต่อหน้าครูเนี้ย!?”ครูว่าแล้วนักเรียนในห้องก็หัวเราะขบขันกับการกระทำของผม“ไหน!? ครูสอนถึงไหนแล้ว?”
“เออ…หน้า…หน้า…”ผมหันมองซ้ายขวาเหมือนหาที่พึ่งพิงจึงยิ่งดูตลกเข้าไปใหญ่ผมพยายามมองหนังสือเพื่อนที่อยู่ข้างๆว่ากำลังเปิดหน้าอะไร “หน้า 136ครับครู”
“หรอ?แล้วครูสอนเรื่องอะไร?”ครูถามต่อและดูเหมือนเป็นการพยายามต้อนให้ผมจนมุมผมมองส่งสายตาทำปากถามเพื่อน กลับเห็นแต่คนหลบหน้าหลบตาจนผมหมดปัญญาแต่แล้วด้านหลังห้อง ฟ้าที่นั่งมองผมมือเท้าคางก็กระเพื่อมปากบอกใบผม
“เรื่องทฤษฎีพีทาโกรัสครับ…”
“หรอ? แล้วสมการพีทาโกรัสเขาว่ายังไงละ?”
‘นีครูต้องการจะเอาชนะผมยังงั้นสินะ!!’
ผมหันกลับไปหาฟ้าอีกครั้ง สิ่งที่ปรากฏคือฟ้านอนเอนหลังเงยหน้ามองเผดานว่ากันง่ายๆคือ‘แกล้งตาย’ผมถอนหายใจและหันกลับมาอย่างยอมจำนน“ไม่รู้…ครับ”
โป๊ก! สันหนังสือกระแทกกลางหัวผมจนเกิดเสียงดังทั้งห้องหัวเราะสนุกสนานเหมือนผมเป็นตัวตลกจนผมรู้สึกอาย
“ไม่ยอมฟังก็ตอบไม่ได้หรอก…เอ้า! เรามาขึ้นทฤษฎีพีทาโกรัสกันทฤษฎีพีทาโกรัสเป็นทฤษฎีที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแสดงความสัมพันธ์แบบยุคลิคระหว่างด้านทั้งสามของสามเหลี่ยมมุมฉาก… ซึ่งกำลังสองของ…”
‘อะไรฟร๊ะ!? พึ่งจะขึ้นบทเองไม่ใช่หรอ? แบบนี้ใครๆในห้องก็ตอบไม่ได้หรอกโว๊ย!!’ผมกำหมัดแน่นมองครูผู้สอนอย่างคับแค้นใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อเวลาผ่านเลยไป ด้วยความว่างเปล่าในหัวสมองที่ไม่ได้สนใจบทเรียนก็ค่อยๆผุดเรื่องเก่าๆออกมาและก็คงไม่พ้นเรื่องที่ห้างนั้น
หลังจากการระเบิดครั้งนั้น แน่นอน! ความชุลมุนวุ่นวายย่อมตามมาทั้งตำรวจ นักดับเพลิง พยาบาลและป่อเต็กตึ๊ง รุมล้อมห้างสรรพสินค้าเต็มไปหมดส่วนพวกผมหลังจากเจอแรงเพลิงของระเบิดก็ถึงกับขวัญกระเจิงวิ่งเข้าห้างอย่างรวดเร็ว
เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลงผม ฟ้าและน้ำที่เริ่มรวบรวมสติได้ก็มองหาหญิงสาวผู้ฝากกระเป๋าไว้แต่ก็ไม่เจอเมื่อเราทั้งสามปรึกษากันก็ตัดสินใจได้ว่าจะส่งมันให้กับตำรวจ… ก็แน่ละใครจะไปอยากรับของคนแปลกหน้ากันละ ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพรรคนั้นหรอก!มีแต่จะซวยเปล่าๆ
หลังจากเหตุการณ์นั้น ถึงเราจะเอาแต่พูดคุยเรื่องของกระเป๋ากับผู้หญิงคนนั้นแต่พวกเราก็สนิทกันมากขึ้นทีละนิดๆจนในที่สุดมะวานนี้ผมก็ตัดสินใจขอคบกับเธอโดยมีฟ้าที่ยืนมือล่วงกระเป๋ากางเกงเป็นสักขีพยานและแน่นอน เธอตกลงแม้จะยังมีท่าที่เขินอายดูเหมือนจะปฏิเสธแต่สุดท้ายเธอก็ตอบตกลงทำเอาผมช็อคตกใจไม่ใช่น้อยผมหน้ามืดแทบเป็นลมด้วยซ้ำถ้าฟ้าที่ยืนดูอยู่เห็นผมทำท่าแปลกๆเลยเดินมาบีบไหล่จนสติกลับมาผมคงหน้าทิ่มไปแล้ว
“3 วัน….งั้นหรอ….”ผมที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้าย คนที่3 นับจากด้านหลังก็เอียงหน้าหันมองนอกหน้าต่างภาพของตึกอาคารสูงร้อยๆกว่าตึกกับเสียงสายลมยามกลางวันทำให้ผมเคลิ้ม
โป๊ก!!
“เหม่ออะไรของเธออีกโอ? อยากไปพบครูที่ห้องใช่ไม?”
“ขอโทษครับๆ” แล้วเสียงฮาของห้องก็กลับมาอีกครั้ง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันนั้นหลังเลิกเรียนผม ฟ้าและน้ำเราสามคนก็คุยตกลงกันว่าจะไปเดินแถวตลาดเพื่อเป็นเพื่อนน้ำที่ต้องซื้อของต่างๆนาๆฟ้าที่จริงไม่น่าจะมาเกี่ยวด้วยใช่ไมละ? ป่าวเลย!อันที่จริงผมขอให้มันมาด้วยซ้ำเพราะแถวๆตลาดนั้นค่อนข้างอันตรายพอสมควรสำหรับพวกผม หลังจากที่พวกเราสามคนซื้อของเสร็จแล้วก็ตัดสินใจจะแยกย้ายกันโดยเดินไปขึ้นรถโดยสารที่อยู่หลังตลาด
แต่ป้ายรถโดยสารบริเวณนั้นเป็นป่าสูงจากพื้นที่โล่ง ไม่มีตึกราบ้านช่องดูเป็นธรรมชาติแต่ก็ยังไม่เหมาะจะให้สตรีมายืนรอคนเดียวเราสามคนนั่งคุยรอเพื่อส่งน้ำขึ้นรถก่อน แต่ทำไมวันนี้ดูรถมันน้อยเกินไปผมสังเกตเห็นว่าบริเวณนี้รถเริ่มน้อยลงทุกทีๆพร้อมกับคนที่เริ่มบางตาลงผมรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเสียเท่าไรเลยจับมือน้ำแล้วจูงมือเธอเพื่อจะไปยังป้ายอีกป้ายหนึ่งที่มีคนรอเยอะกว่าแต่ทว่าระหว่างทางนั้นเองที่จู่ๆก็มีรถมอเตอร์ไซขับมาจอดเทียบฟุตบาท
เมื่อหันมองผมก็คนใส่หมวกกันน็อคเต็มใบรูปร่างสูงโปร่งไหล่กว่างดูเป็นผู้ชาย เสื้อยืดแขนยาวสีม่วงกางเกงยีนสีดำตัดขาเดฟเดินดิ่งมาจากรถพร้อมกับเหมือนจะล่วงอะไรซักอย่างจากกระเป๋าหลังแต่ผมคงไม่รอให้มันล่วงอะไรที่มันต้องการเสร็จก่อนหรอก! ผมรีบวิ่งใส่สวนกับมันที่เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและก็จริงอย่างที่ผมคิดมันหยิบมีดสั้นออกมา
ฟิบ! มันเหวี่ยงอย่างรวดเร็วทำให้ผมต้องชะงักและเดินถอยห่าง ผมไม่รู้ว่าผมไปทำท่ากวนประสาทอะไรมันไว้หรือป่าวมันถึงได้พยายามเอาของมีคมมาเหวี่ยงใส่ผมแบบนี้แต่เมื่อมันเอาอาวุธมาแถมยังใส่หมวกปิดมิดชิดอีกดูเหมือนจะไม่ต้องพูดกันฟ้าเดินดิ่งหาพวกมันอย่างไม่เกรงกลัวหน้าอินหน้าพรมเมื่อมันเห็นฟ้าที่เดินเข้ามามันก็เหวี่ยงมีดยาวเท่าศอกใส่ทันทีฟ้าผงะถอยเล็กน้อยรอให้มีดฟันผ่านไปแล้วพุ่งเข้าไปอย่างเร็วใช้อีกมือกดมือที่ถือมีดของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนที่เขาจะเอาไหล่ชนจนมันกระเด็นแต่มือที่ฟ้าจับไว้ก็ดึงร่างมันก่อนที่เขาจะบิดแขนจนมันต้องทิ้งมีดลงไร้ซึ่งอาวุธฟ้าปล่อยมือหมุนตัวเตะเข้าที่อกมันอย่างแรงจนเกิดเสียง ตุบ!ชายลึกลับกระเด็นล้มลงมือกุมอกด้วยความเจ็บปวดส่วนเพื่อนอีกคนที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบลงมาจากรถชักอาวุธที่หน้ากลัวออกมา
“หยุดนะโว๊ย!? ไม่งั้นกุยิงมืงแน่!”น้ำเสียงตะคอกดังขึ้นพร้อมกับปืนลูกโม่ที่โชว์ออกมามันถือปืนด้วยนิ้วมือที่สั่นจนฟ้าต้องยอมถอยกลับออกมาผมที่เห็นท่าไม่มดีจึงรีบถอยไปบังน้ำที่ยืนนิ่งๆไว้ เธอดูเหมือนจะช็อคอยู่พอสมควรแต่ผมแปลกใจที่เธอกลับไม่ร้องสักนิด“ลุก…ลุกสิวะ! เดี๋ยวก็โดนกันหมดหรอก!!?”มันกระตะโกนบอกเพื่อนมันก่อนจะเดินเข้าไปใช้เท้าเขี่ยร่างของเพื่อนที่นอนเจ็บปวดอยู่ให้ตั้งสติแต่ใบหน้ามันยังจ้องมาทางเราทั้งสองคนยังคงใส่หมวกกันน็อคและทำท่าเหมือนมองหาอะไรสักอย่าง
“กระเป๋า…”เสียงแรกที่ดังขึ้นทำเอาพวกเราตกใจมันหันไปมองเพื่อนที่เริ่มลุกสลับกับหันมามองเราด้วยความร้อนรน “…เอากระเป๋ามา!!”
“…นายหมายถึง…กระเป๋านักเรียนเนี้ยหรอ?”
“ใช่! อะ…ไม่… เออ!! เอากระเป๋ามาให้หมด!”ดูจากคำพูดคำจาพวกเราก็รู้แล้วว่าอัยหมอนี้มันไม่เต็มเท่าไรแต่ผมไม่อยากหือกับคนที่มีปืนหรอกนะพวกฟ้าเองก็เช่นกัน
“จะบ้าหรือไง!”เพื่อนมันเดินเข้ามาพลางดึงไหล่เพื่อนของมันออก“ใครเขาจะเอากระเป๋านักเรียนกัน!? กระเป๋าเอกสารนั้นมันอยู่ไหน!?”เพื่อนมันหันมาว่าพลางยกมือที่ถือมีดชี้หน้าพวกเราบอกตามตรงว่าผมไม่ได้กลัวมีดในมือมันหรอก กลัวตะกั่วจะเจาะกะโหลกซะมากกว่าว่าแล้วเพื่อนมันก็เดินเข้ามาหมายจะหยิบกระเป๋าที่พวกผมปล่อยทิ้งพื้น
‘งั้นก็สวยสิ!!’ผมหันไปมองฟ้าเล็กน้อยในขณะที่พวกมันกำลังเดินเข้ามาจะหยิบกระเป๋าตรงหน้าผมโดยมือที่ถือปืนนั้นยังคงชี้มาที่ผมอยู่ มันเดินเข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆจนมาหยุดตรงหน้าผม ผมพยักหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณซึ่งดูเหมือนฟ้าจะเข้าใจ
ฟุบ!! ปึค!! ผมเหวี่ยงมืออย่างเร็วปัดมือที่ถือปืนของมันออกห่างซึ่งดูเหมือนมันจะตกใจมากจนเผลอลั่นไกออกไปปัง! ซึ่งก็ทำให้เพื่อนมันตกใจไปด้วยรีบเดินดิ่งเข้ามาจะช่วยผมรีบพุ่งตัวเข้ากอดเพื่อนมันที่ถือปืนทันทีเพื่อกันการโดนมีดฟันแต่ดูเหมือนตัวผมจะโผล่ออกมามากไปหน่อยเลยมีช่องที่พอจะให้ฟันได้
ตึค! ฟ้าเหวี่ยงหมัดอัดเข้าอกของชายผู้ถือมีดเข้าอย่างแรงจนมันถอยออกไปมือกุมอกด้วยความเจ็บปวดในขณะที่เพื่อนมันเริ่มตั้งสติยกมือขึ้นจะยิงฟ้าแต่ผมก็ไม่ปล่อยให้มันทำร้ายเพื่อนผมแน่ผมดันร่างมันสุดแรงในท่ากอดเอวจนมันเสียหลักหงายหลังลั่นไกปืนอีกนัด ปัง!!เหตุการณ์ชักจะชุลมุนขึ้นเรื่อยๆผมนั่งค่อมมันหมายจะซัดให้หนำจนลืมไปว่ามันใส่หมวกกันน็อคอยู่ เอาวะ! จังหวะนี้ไม่สนอยู่แล้ว
ปึค! ปึค! ปึค! ผมเหวี่ยงหมัดทั้งชกทั้งฟาดจนหัวสะบัดไปมามันเลยเริ่มยกมือปัดป้องตามสัญชาตญาณ
“โอ!!”เสียงฟ้าที่ร้องเรียกทำให้ผมหันตามเสียงเพื่อนมันเดินง้างมีดในมือจะฟันผมโดยเปลี่ยนเป้าหมายมาช่วยเพื่อนมันแทนจะสู้กับฟ้า
ฟิบ!! ผมโดดออกและกลิ้งตัวออกมา แน่นอน! มันเห็นผมกลิ้งหนีย่อมต้องตามเป็นธรรมดามันไล่เหวี่ยงมีดใส่ผมอย่างบ้าคลั่งทำเอาผมหลบด้วยความหวาดseoทิ้งระยะห่างออกมา
“เฮ้ย!! หลบ!!!”พวกมันอีกคนตะโกน เมื่อผมหันมองก็เห็นว่ามันกำลังชี้ปืนมาทางผมก็ชิบหายสิครับ! โดนจี้ซะห่างขนาดนี้ผมวิ่งใส่ไม่ทันแน่ผมพยายามวิ่งตามเพื่อนมันที่เดินหลบโดยให้ร่างมันบังไว้จู่ๆมันก็ก้มหมอบลงจนพ้นระยะ ผมกับอัยคนถือปืนจึงสบตากัน
วูบ ตึค!! เพื่อนมันคนที่ถือปืนกระเด็นหน้าทิ่มพื้นจากแรงถีบด้านหลังโดยฟ้าที่กระโดดเข้ามาผมรู้สึกเหมือนโล่งอกอย่างบกไม่ถูก เหมือนตัวมันเบาวูบขึ้นมาเลยละ! แต่ปัญหายังไม่จบแค่นั้นเพราะอัยคนถือมีดจากที่ก้มก็เหวี่ยงมือเข้ามากลายเป็นจะฟันขาผม
“ตาย!!! ตาย!!! ตาย!!!” มันบ้าหนักไล่ฟันสาปแช่งผมอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ละครั้งที่มันเหวียงมีดยาวออกมาทำเอาผมขนลุกชู่ชันจริงๆแต่แล้วความเร็วมันก็เริ่มลดลงจากความเหนื่อยล้ากระมังผมจึงสามารถพุ่งเข้าไปบล็อคแขนที่ถือมีดนั้นไว้พลางจับสกัดขามันอย่างแรงแต่มันไม่ล้ม มันดึงร่างผมเอาไว้แน่น ผมก็พยายามดึงร่างตัวเองให้ยืนจึงกลายเป็นการดึงมันขึ้นมาด้วยถึงแม้จะยังไม่สมดุลก็เถอะ
ฟิบ!! มันเหวี่ยงมีดอีกครั้งผมก้มหลบก่อนจะพุ่งเข้าชนมันจนกระเด็นล้มลงขึ้นค่อมมันอีก ผมสาวมือใส่หมวกมันไม่ยัง ทั้งเหวี่ยงทั้งชก จับโคกพื้นจนมันเองก็คงรู้สึกมึนพยายามยื่นมือมาดึงคอเสื้อผม
ปึค! มันดึงหัวผมไปโคกกับหัวมันที่ใส่หมวกกันน็อคสีดำนั้นผมถึงกับนิ่งไปด้วยความมึนเป็นช่องว่างให้มันเหวี่ยงของมีคมใส่ผม
ฉึค!ตามสัญชาตญาณผมเบี่ยงตัวลุกออกจากมันแต่ก็ไม่พ้นที่จะโดนปาดจนได้ เพราะระหว่างที่เบี่ยงก็พยายามยกมือกันด้วยเลยโดยหลังแขนไปเล็กน้อยเลือดไหลย้อยเมื่อก้มมองดูก็รู้สึกแสบ เจ็บปวดจนแถบไม่มีแรงถึงมันจะเป็นแผลเล็กๆแต่ดันเข้าซะลึกเลยเนี้ยสิ
“ฮ่ะฮ่ะ!!”มันหัวเราะสะใจดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นกระโดดย่อมๆสะบัดไม้สะบัดมือยืดเส้นยืดสาย“คราวนี้ก็จะเอาให้เห็นกระดูกเลย!!”
ฟิบ!! มันเหวี่ยงมีดระนาบพื้นทำให้ผมต้องกระโดดถอยออกก่อนที่มันจะฟันเฉียงขึ้นผมตัดสินใจพุ่งเข้าหามันอีกครั้งด้วยเสี้ยววินาทีชนมันให้กระเด็นเล็กน้อยจนมันเซ
ตึค!! ผมอัดลำตัวฝั่งขวาอย่างแรงจนมันโค้งตัวลงอย่างเจ็บปวด ก่อนที่ผมจะดีดตัวหัวโคกหน้าหมวกมันจนหงายหลังผมไม่ปล่อยให้หลุดมือรีบตามไปดึงเสื้อมันไว้แล้วกระชากกลับมาแทงเข่าเข้าอย่างแรงจนมีดมันหลุดมือตกพื้นไปมันกระเด็นล้มลงนอนคดด้วยความเจ็บปวดผมเดินไปหยิบมีดขึ้นด้วยความคับแค้นง้างชูขึ้นฟ้าเดินมาทางมันที่เห็นก็พยายามคลานหนีซึ่งสิ่งที่มันทำนั้นผมดูแล้วสะใจมากจนต้องยิ้มด้วยความชอบใจ
“หยุดนะ!!”เสียงน้ำที่ตะโกนห้ามปรามทำให้ผมชะงักหันมอง เธอร้องไห้ดูหวาดกลัวก่อนจะเดินเข้ามาหาผมทีละนิดๆ “หยุดเถอะโอ… อย่าฆ่าเขา…”น้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยแววตาที่ขอร้องอ้อนวอนทำให้ผมลดมือลงทิ้งมีดผมหันมากอดเธอเพราะอะไรผมเองก็ไม่รู้ แต่ผมรู้สึกอยากกอดเธอขึ้นมาเสียกระนั้นผมอย่างกอดรัดเธอด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด จู่ๆขาผมก็อ่อนและล้มลง “โอ!! เป็นอะไรนะโอ!!?ทำใจดีๆเอาไว้นะโอ”
“อัยโอมันเสียเลือดนะ โทรเรียกรถพยาบาลที!”ฟ้าที่เดินเข้ามาพร้อมกับวางปืนไว้ข้างกายผมพยายามยกหัวผมขึ้นเพื่อให้หายใจได้สะดวก“ตายแบบนี้มันไม่เท่เลยนะเพื่อน!”มันว่าพลางเขย่าตัวผมในขณะที่น้ำหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
“หึ หึ ไม่ยอมตายด้วยแผลกระจอกแค่นี้หรอกน่า…”
“ทำปากดีนะเอ็ง หน้าซีดหมดแล้ว!”ฟ้าว่ายิ้มๆก่อนจะหยิบปืนแล้วชี้ไปที่พวกมันที่กำลังจะคลานหนี“พวกมืงตัวไหนขยับจากท่านอนกุจะลั่นให้มันนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนี้เลย!”ฟ้าว่าด้วยสีหน้าท่าทีที่ดุดันเหมือนสัตรร้ายที่จ้องมองเหยื่อด้วยความหิวโหยจนผมเองก็แอบกลัวมันนิดๆ“เดี๋ยวพวกตำรวจก็จะมาแล้ว ไม่ต้องห่วงแถวนี้มีคนเห็นเหตุการณ์อยู่ไม่เป็นอะไรหรอก”ฟ้าว่าก่อนจะหันมองสลับดูพวกมันเพื่อไม่ให้มันหนีไป
ไม่นานนักตำรวจก็มาถึงพร้อมกับรถพยาบาลพวกเราอาจถูกสอบปากคำกันบ้างแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะมีคนเห็นเยอะพอสมควร
ผมได้เข้ารักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่ประมาณ 5 วันเพื่อดูอาการเพราะมีดปาดเข้าเฉียดกับจุดสำคัญจนเกือบทำให้เอ็นฉีกจึงต้องใส่เฝือกนอนอยู่โรงพยาบาลที่จริงผมขอทางบ้านเองแหละ ก็คนมันไม่อยากไปโรงเรียนนิน่านอนอยู่โรงพยาบาลดูนางพยาบาลสาวๆน่ารักๆดีกว่าเยอะ
“อัยลามก เข้าโรงพยาบาลด้วยเหตุผลแบบนี้สินะ”ฟ้าที่ยื่นอยู่หน้าประตูมองผมที่กำลังคุยกับนางพยาบาลด้วยสีหน้าเยือกเย็น
“อ๊ะ…อะ…อ้าว!! ฟ้า มาเยี่ยมเราหรอ ฮาๆ”
“เอ็งไม่ต้องมาหัวเราะกลบเกลื่อนเอ็งคบกับน้ำเป็นแฟนแล้วมาทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?”สิ้นประโยคนางพยาบาลก็รีบลุกและเดินออกจากห้องไปผมพยายามเรียกตัวเธอแต่ถูกฟ้าที่มองอยู่กดดันด้วยสายตาทำให้ผมต้องนิ่งไป “เหอะถ้าเกิดเป็นน้ำมาเห็นละก็ เอ็งงานเข้าแน่”
“มืงหักหน้ากุซะไม่มีชิ้นดีเลยนะ”
“อะไร? ก็แค่บอกสิ่งที่เขาต้องรู้เท่านั้นเอง?”มันว่าก่อนจะเดินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้ข้างๆ“อาการเป็นไงมั้ง?”
“ไม่กี่วันก็คงจะได้ออกแล้วละ ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ป่าว กรูถามเป็นพิธีไปงั้นแหละ รู้แล้วว่าแผลเอ็งแค่ 3 วันก็ออกมาสูดอากาศข้างนอกได้แล้ว”มันว่าก่อนจะหยิบแอปเปิ้ลของฝากที่เรียงอยู่มาถือในมือ
“นั้นของเยี่ยมกรูนะนั้น …”
“มัวแต่รอมืงมันก็เน่าหมดสิกรูรีบกินก่อนมันจะเน่าดีกว่า”ไม่พูดแค่ปากมันหยิบมีดกับจานที่วางไว้ใกล้ไปทันทีแล้วเดินไปที่ห้องน้ำก่อนจะออกมาพร้อมแอปเปิ้ลที่ถูกชำแหละออกเป็นชิ้นๆ“กินป่าว?”
“สักชิ้นก็ดี…”ผมว่าก่อนจะยื่นมือที่ไม่เจ็บไปหยิบเอา
ก๊อก ก๊อก เสียงประตูห้องดังตามจังหวะเสียงเคาะผมชะโงกหน้ามองเพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นใคร
“ขออนุญาตนะค่ะ”เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมยิ้มออก เธอเข้ามาด้วยสีหน้าเยือกเย็นพร้อมกับชุดสีดำผมยาวฟ้าที่เห็นก็ถึงกับลุกขึ้นมือกำมีดแน่น
“เธอ…มาทำไม?”
“โทษทีนะ แต่พอดีฉันมาเอาของที่ฉันฝากไว้นะ ไม่ทราบว่ากระเป๋าของฉันหายไปไหนแล้วค่ะ?”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย satano666o เมื่อ 2013-3-22 20:59
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-3-28 17:15
[Soul Evil] ตอนที่2 ถูกจู่โจม!!
[IMG]