ก็... เขียนไปเรื่อยๆอะนะ
ผิดตรงไหนก็บอกกันได้เนอะ
“ไม่ทราบว่ากระเป๋าของฉัน มันอยู่ไหนค่ะ?” หญิงสาวผมสีดำยาวสลวยที่พวกผมเจอที่ห้างเมื่อครั้งนั้นกลับมาด้วยสีหน้าเยือกเย็น
“ผมไม่มีเรื่องแค้นเคืองอะไรกับคุณแต่ถ้าคุณไม่กลับไปคุณจะไม่ได้กลับอีกเลย… เลือกเอา!!”
ฟุบ!! หญิงสาวเหวี่ยงมือไปข้างหลังในขณะที่ฟ้าพุ่งใส่เธออย่างรวดเร็วฟ้าใช้มืดที่ถือมีดแทงเข้าไปที่ท้องของเธออย่างไม่ลังเลและร่างการเธอก็คร่อมลง
“ไม่ปราณีกับผู้หญิงเลยนะ…”
“จะผู้ชายหรือผู้หญิงถ้ามันมีอาวุธในตัวที่พร้อมจะทำร้ายผมหรือเพื่อนผม ก็ไม่ต้องลังเลหรอก…”
“เป็นผู้ชายที่น่ากลัวจริงๆ แต่ว่า…”เธอบิดขอมือของฟ้าจนแขนเขางอออกฟ้าง้างหมัดจะสาวแต่ก็ถูกเธออัดเข้าที่อกจนเขาต้องล้มลงแทบเท้าเธอผมนิ่งมองดูด้วยความตกใจบวกกับตะลึงที่ฟ้ายังต้องสยบต่อสตรีนางนี้มือเธอที่ยังคงบิดข้อมือของฟ้าอยู่ทำให้ฟ้าไม่สามารถลุกได้ “ถ้าคิดจะสกัดขาฉันละก็ฉันจะหักแขนนายทิ้งซะ”
“กลัวตายละ!”
“พอแล้ว!!”ผมตะโกนอย่างสุดเสียงจนทั้งสองชะงักไปโชคดีหน่อยที่ห้องผมดันเป็นห้องส่วนตัวเลยมีกันแค่ 3 คนไม่งั้นฟ้าคงโดนฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายหรือพยายามฆ่าเป็นแน่“กระเป๋าของคุณไม่อยู่ที่นี้หรอก ผมให้มันกับตำรวจไปแล้ว”
เธอนิ่งราวกับว่ารู้อยู่แล้วว่าผมจะพูดประโยคนี้ก่อนจะค่อยๆหันมามองผม“ฉันว่าฉันเคยบอกว่าอย่าให้พวกมันไม่ใช่หรือยังไง?”
“มันไม่ใช่ความผิดของพวกผมสักหน่อย… คุณให้ผมมาเอง อีกอย่าง…ใครอยากจะรับของจากคนแปลกหน้ากันละ?”
“รู้ไมฉันสามารถฆ่าพวกนายในที่นี้ได้โดยที่จะไม่มีใครรู้เรื่องที่เห็นหรือที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็ส่งพวกนายขังลืมในห้องมืดมิดที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง”เธอว่าหน้าตายพร้อมกับบิดแขนของฟ้าแรงขึ้นจนเขาต้องบิดตัวลงกับพื้น
“คุณจะให้พวกเราทำยังไงละ!?”
“นายเป็นคนเอาไปให้ ฉะนั้นนายต้องไปเอาคืนมา”
“จะให้ผมไปเอาของจากตำรวจหรอ??”
“ใช่! มันคงจะง่ายกว่าที่ฉันต้องมานั่งเขียนรายงานว่าทำไมต้องฆ่าพวกนายและ…เธอ”สตรีลึกลับว่าพร้อมกับหยิบปืนออกมาจากหลังเสื้อเธอปลดล็อคและเล็งลงมาที่หัวของฟ้าช้าๆ
“หยุดนะ!!”
“จะทำไม?สภาพแบบนั้นนายจะทำอะไรได้นอกจากจะตอบฉันว่า ‘ตกลง’เพราะถ้าทำอะไรอย่างอื่นแม้แต่การอยู่เฉยๆฉันจะถือว่านายปฏิเสธและจะฆ่าพวกนายทิ้งซะ”เธอดูเยือกเย็นสบตาผมแบบตาต่อตาฟันต่อฟันพร้อมทั้งสอดนิ้วเข้าไปในไกปืน
“ตกลง!! ฉันจะทำ!!”
“ดีมาก!”เธอปล่อยมือฟ้าออกแต่ยังคงเอาปืนจี้หัวเขาอยู่ขณะที่ค่อยๆเดินออกห่างเมื่อทิ้งระยะได้เธอก็ลดปืนลงพร้อมกับล็อคเซฟปืนเก็บใส่หลังเสื้อเหมือนเก่า“นี้เบอร์ฉัน ได้กระเป๋าเมื่อไรค่อยโทรมา แล้วก็อย่ามาคิดจะแจ้งตำรวจเลยถ้าฉันขังลืมพวกเธอได้ คิดว่าพวกตำรวจจะช่วยเธอได้หรอ? ทำอะไรคิดดูให้ดีพวกฉันจับตาดูนายอยู่”
ปัง!! เธอปิดประตูอย่างแรงก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงฟ้าลุกขึ้นมือบีบไหล่ด้วยความเจ็บจากการถูกบิดเขายังคงมองไปที่ประตูนั้นก่อนจะหันมามองผมด้วยสีหน้าดูเจ็บใจ
“นายไม่น่าไปตกลงกับแม่นั้นเลย”
“ฉันไม่มีทางเลือก!! ไม่งั้นมันจะฆ่าเธอ…ฉันไม่ยอมให้นายและเธอมารับเคราะห์เพราะความเห็นแก่ตัวของฉันแน่!”ผมกำหมัดอีกข้างแน่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเห็นฟ้าที่ดูเหมือนเขาจะรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่พอสมควรเลยเบือนหน้าหนีหายใจกระแทกดูขุ่นเคือง
“เอาเถอะ…สถานการณ์ก็เลยเถิดไปขนาดนี้แล้วนายจะทำยังไง จะทำตามที่มันต้องการหรือว่าจะไปแจ้งตำ-”
“ตำรวจช่วยเราไม่ได้…เมื่อกี้นายก็ได้ยินไม่ใช่หรอ?”
“…แล้วจะทำยังไงละ?ไปทวงของจากตำรวจคืนงั้นหรอ”
“ฉันคิดออกแค่นั้นแหละก็ให้คนอื่นไปรับคืนมาสิ!! คนอื่นที่นอกจากพวกเราไง!”
“ก็จริง…แต่ฉันเอะใจว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?”
“ไม่ลองก็ไม่รู้สิ!”ผมว่ายิ้มก่อนที่ฟ้าจะถอนหายใจเขาเดินไปหลังพิงฝาก่อนจะกอดอกหลับตาเหมือนคิดอะไรอยู่
“แล้วน้ำละ…เราจะบอกเรื่องนี้กับเธอดีไม?”
“ห้ามบอกเด็ดขาดฉันไม่อยากดึงเธอมาเกี่ยวกับเรื่องพรรค์นี้ไปมากกว่านี้ กับเธอยิ่งรู้น้อยยิ่งดี”
“โอเค! งั้นตามนี้แล้วกันงั้น...เจอกันพรุ่งนี้”ฟ้าว่าพร้อมกับเดินไปที่ประตูโดยไม่คิดจะฟังคำลาของผมดูเย็นๆแบบนั้นหมอนั่นก็กลุ้มกับเรื่องนี้ไม่น้อยเพราะพวกเราเข้ามาพัวพันกับเรื่องที่เกินกว่ากำลังของเราจะสู้หรือขัดขืนได้
---------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากคืนนั้นผมก็ได้ออกมาดูอาการต่อที่บ้านโดยคืนนั้นผมไม่อาจข่มตาหลับได้ผมคิดว่าฟ้ามันก็คงเป็นเหมือนกันผมรออยู่ในห้องจนถึงเวลาบ่ายสามเศษก็เริ่มเตรียมตัว สักพักเสียงเคาะห้องก็ดังขึ้นเมื่อเปิดประตูก็เห็นฟ้าที่ยืนนิ่งรออยู่
“ไปกันหรือยัง?”ฟ้าว่าทันทีที่เห็นผมผมพยักหน้าและก้าวเดินออกมาอย่างยืดอกก่อนจะหันไปปิดประตูและล็อคกุญแจตามปกติ
“นายพาใครมา?”ผมถามทันทีเมื่อล็อคเสร็จเพราะรู้ว่าฟ้าต้องพาคนอื่นมาด้วยเพื่อเอากระเป๋าคืน
“อัยไผ่ ไม่เป็นไรเราคุยกับมันแล้วไม่มีปัญหา”
“นายคุยกับมันยังไง?”
“ก็มันมีหนี้เราอยู่ทวงคนคงไม่เสียหาย”ฟ้าว่าพลางแหล่ตามามองผมและแสยะยิ้มผมที่เห็นก็ยิ้มที่มุมปากด้วยความนึกสนุก
เมื่อเราเดินลงมาถึงก็เห็นชายร่างสูงใส่เสื้อกักหนังสีดำแขนยาวเสื้อในสีขาวกางเกงยีนธรรมาดาที่ยืนเท้าเอวรอด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ใช่แล้ว! มันคืออัยไผ่ที่ฟ้าไปเชิญมันมาระหว่างทางเราก็บอกแผนพร้อมกับวิธีต่างๆที่ฟ้าคิดให้มันฟัง มันก็เออ—ออตามประมาณว่าอยากทำให้มันจบๆไป
“ตกลงตามนี้นะเข้าไปเสร็จแล้วถามหากระเป๋าเอกสารที่ทำหายไปที่ห้างสรรพสินค้าบอกเขาว่ามันเป็นของนายที่พ่อให้มาก็แล้วกันเป็นกระเป๋าเอกสารสีดำที่นายเผลอทำหลุดมือตอนที่หนีออกมา โอเคนะ!”
“ให้กุทำแค่นี้ใช่ไม?แล้วจะปล่อยกุไปเมื่อไร?”
“ก็ถ้าเอากระเป๋ามาให้เราเสร็จเมื่อไรเชิญชิ่งได้”ฟ้าว่ากอดอกพร้อมกับมองไปที่สถานีตำรวจที่อยู่ด้านในไผ่ที่เมื่อเห็นฟ้ามองก็ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปส่วนผมกับฟ้าก็ถอยออกมาไปยืนที่อีกฝากหนึ่งของถนนรอดูสถานการณ์
“โทรมาหรือยัง?”
“ใจเย็นสิ”
จู่ๆฟ้าก็สะดุ้งรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับทันที
“โทรมาแล้วหรอ?”
ฟ้ายกมือเชิงห้ามปรามไม่ให้ผมพูดต่อเสียงในโทรศัพท์ยังไม่ชัดเจนเท่าไรนักผมเลยไม่ได้ยินด้วยในประโยคแรกจนฟ้าหยิบหูฟังขึ้นมาแล้วเสียบที่โทรศัพท์ของเขาเราใช้คนละหูฟังบทสนทนาของไผ่กับตำรวจที่อยู่ข้างในด้วยใจที่ลุ้นระทึก
“แล้วที่มาเนี้ย…มีอะไร?”เสียงของชายวัยทองดังลอยออกมาถึงจะเบาหน่อยเพราะระยะห่างจากไผ่แต่ก็ได้ยินเป็นประโยคพอจำใจความได้
“คือผมทำกระเป๋าเอกสารหายนะครับแล้วผมก็ได้ยินมาว่ามีคนเจอกระเป๋าเอกสารสีดำที่อยู่ที่นี้”
“กระเป๋าเอกสารสีดำหรอ?”สักพักนึ่งเราก็ได้ยินเสียงขาเก้าอี้ลากกับพื้นมันดังขึ้นเรื่อยๆเหมือนจะลากเข้ามาให้อยู่ใกล้ไผ่ “แล้วกระเป๋านั้นนายได้มาได้ยังไง?”
“มันเป็นของพ่อผมนะครับพ่อผมเขาลืมเอาเอกสารไปเขาเลยตกลงกันให้มารอรับที่ห้างนะครับแล้วจู่ๆก็เกิดระเบิดขึ้นคนวิ่งหนีตายกันหมดแล้วผมก็ถูกชนจนกระเป๋าผมตกและถูกเตะกระเด็นหายไปนะครับ”
“งั้นหรอ?”เสียงขาเก้าอี้ลากพื้นดังขึ้นอีกแต่เป็นแต่ระยะสั้นๆเหมือนคนลุกแล้วผมก็ได้ยินเสียงเหมือนประตูห้องถูกเปิดออกทุกอย่างเงียบไปจนผมตกใจว่าตังมันหมดหรือป่าวจึงสะกิดฟ้าให้มันดูโทรศัพท์ก็ยังไม่หมด เวลายังเดินต่ออยู่แต่ทุกอย่างมันเงียบหายไป แล้วเราก็ได้ยินเสียงประตูดังขึ้นอีกรอบพร้อมกับเสียงชายคนเดิมที่เดินเข้ามาแต่คราวนี้น้ำเสียงเข้าดูเข้มขึ้นกว่าปกติ “เอาอัยหนู แกชื่ออะไร?”
“เออ…นัฐพงษ์ จันทร์ประเสริฐครับ”
“อายุละ”
“17 ครับ”
“ที่อยู่…สถานภาพครอบครัว… ตอนนี้คบกับใครอยู่หรือป่าว?...”แล้วคุณตำรวจก็สอบถามไผ่อย่างทุกซอกทุกมุมจนเมื่อหมดมุขเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปอีก ทุกอย่างเงียบลงอีกครั้งเสียงที่ได้ยินมีแต่เสียงขยับร่างกายและเสียงหายใจของไผ่เท่านั้นมันก็คงนั่งบิดไปบิดมาเพราะปวดเมื่อยกับท่าเดิมๆ แต่แปลกที่ครั้งนี้เขาออกจากห้องนานไปหน่อยเกือบจะครึ่งชั่วโมงจนผมเองก็เริ่มเอะใจ
และแล้วเสียงประตูก็ดังขึ้นแต่เสียงชายวัยกลางคนนั้นหายไป กลายเป็นเสียงใหญ่ทุ้มที่เข้ามาแทน “เอาละเจ้าหนุ่มฉันขอถามต่อจากเมื่อครู่เลยแล้วกัน”
“ครับ?”
“ใครเป็นคนให้แกมา”
“ห๊ะ!? ครับ?”
“แกหูหนวกหรือไง? ฉันถามว่าใครใช้แกมา?”
“ก็…เออ…ไม่มีนิครับ?”
“แกรู้ไมในกระเป๋านั้นมีอะไร?”
“ก็น่าจะเป็นเอกสารของคุณพ่อนะครับ… ผมเองก็ไม่ได้เปิดดูเพราะมันคงเสียมารยาท”
“…งั้นหรองั้นฉันขอถามคำถามสุดท้าย”
“ครับ…”
“ผู้หญิงที่เขาให้กระเป๋าแกมันอยู่ที่ไหน?”สิ้นคำถามพวกเราถึงกับขนลุกพร้อมกับสะดุ้งสุดตัว
“ผมไม่รู้คุณพูดเรื่องอะไร…”
“อย่ามาโกหก…”
“ผมเพียงต้องการกระเป๋าใบนั้นของผมคืนก็เท่านั้น!”
“มันต่อรองกับแกให้แกกลับมาเอากระเป๋าคืนใช่ไม?”
“ไม่!!”เสียงเก้าอี้ถูกเหวี่ยงทิ้งพร้อมกับเก้าอี้อีกตัวที่ถูกผลักจนล้มดังขึ้น“คุณจะทำอะไรนะ!!”
“บอกมาเธออยู่ที่ไหนเธอต้องให้ที่ติดต่อกับแกไว้แน่”
“ผมไม่รู้คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร…”
“แกไม่รู้งั้นหรอ? ถ้าอย่างงั้น”
“จะทำอะไรนะ…ปล่อยผมนะ!!”
“เฮ้ย!! อัยคนดักฟัง!”เสียงของมันกระแทกอย่างแรงจนผมตกใจแทบจะสะบัดทิ้งแต่ฟ้าคว้ามือมาบีบไหล่ของผมเอาไว้เพื่อให้ผมตั้งสติ“พวกเอ็งเองสินะที่เป็นคนเจอกับอีผู้หญิงชุดดำพวกนั้น พวกแกจงรู้ไว้ซะว่าข้าจะตามล่าและจับพวกเอ็งมาทรมาน ให้พวกแกสาหัสเจียนตาย!!ซ้ำแล้วซ้ำอีก ให้แกได้ร้องขอความตาย ให้แกคายความลับของแม่นั้นมาหลังจากนั้นข้าจะฆ่าทุกคนที่เจ้ารักข้าจะฆ่ามันต่อหน้าพวกแกข้าจะฉีกร่างของพวกมันให้เลือดสดๆกระเด็นใส่ร่างอันเน่าเหม็นของพวกแกจนตาย!! ฮ๊ะฮ้ะฮ่ะฮ่าฮา!!!”
“ไม่!!!”ผมไม่อาจทนแรงกดดันนี้ได้อีกแล้วฟ้าที่เห็นผมตะโกนกรีดร้องรีบเดินมาโอบคอผมไว้แล้วเดินหนีไปจากจุดนั้นเพราะเขารู้ดีว่าผมกำลังจะคลั่งจากแรงกดดันนั้น
และสิ่งที่เราได้ยินต่อจากนั้น… คือเสียงของคนร้องโหยหวน กรีดร้อง ทรมานก่อนที่มัน…จะดับไป…
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย satano666o เมื่อ 2013-4-3 01:42
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย satano666o เมื่อ 2013-4-3 08:07
[Soul Evil] ตอนที่3 การต่อรอง
[IMG]