ไหนๆวันนี้ก็วันสงกรานต์ เลยแต่งอะไรที่มันเกี่ยวกันดูเล่นๆละกัน
หนุ่มน้อยนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาสายแล้วแต่เขาก็ยังคงนอนต่อไปโดยไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหากเป็นวันปกติก็คงจะโดนแม่ของเขามาจับโยนเข้าห้องน้ำพร้อมเอาฝักบัวรดเป็นแน่
แต่ทว่าช่วงนี้เป็นช่วงปิดการศึกษาหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าปิดเทอมนั่นแหละ เพราะฉะนั้นเขาจึงนอนได้อย่างสบายอย่างนี้โดยไม่มีอันตรายอันใดเกิดขึ้น
"อ๋อ ถ้าเขาอยากจะนอนก็ให้นอนไปเถอะค่ะ เพราะยังไงงานบ้านทุกอย่างฉันทำคนเดียวอยู่แล้ว" นี่เป็นคำให้การของคุณแม่แสนสวย
ปกติแล้วคุณแม่เป็นคนที่มีมารยาทเรียบร้อย ขยัน ทำงานบ้านเก่ง พูดจาไพเราะ เฉลียวฉลาด ชนิดที่ว่าหากใครได้ไปเป็นเจ้าสาวคงมีความสุขเป็นแน่
แต่ทว่าลูกชายตัวแสบของเธอกลับเป็นตรงกันข้าม นิสัยเรียบร้อยเหมืนอผ้าที่เอาไปให้หมาฟัด ขี้เกียจ ทำงานบ้านไม่เป็น(ถึงเป็นก็ไม่ทำ) พูดจาไม่ค่อยมีหางเสียง แถมยังดูโง่ๆอีกต่างหาก (แต่จริงๆอาจจะไม่โง่ก็ได้ มั้ง?)
ในขณะที่ลูกชายตัวดีกำลังนอนอย่างสบายอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น คุณแม่จึงเปิดประตูออกไปดู
มีเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายของเธอยืนอยู่หน้าประตู ใส่เสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนขาสั้น และอุปกรณ์ออกศึกครบเซ็ต
เด็กผู้หญิงพนมมือก้มตัวลงไหว้ "สวัสดีค่ะ คุณน้า" เธอพูดขึ้นแล้วยิ้มให้ คุณแม่รับไหว้มองดูแล้วก็กล่าวทักทายตอบ "สวัสดีจ้ะ หนูฟาง"
ฟางเป็นชื่อของเด็กสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายของเธอ เธอค่อนข้างคุ้นเคยกับคนบ้านนี้เพราะอยู่ใกล้กัน และเธอก็มาเล่นที่นี่บ่อยๆ
"หนูฟางจัดเต็มตั้งแต่เช้าเลยหรือจ๊ะ คงมาหาเอกสินะ แต่ว่าเอกเขายังหลับอยู่เลย" คุณแม่กล่าวขึ้นด้วยความหนักใจกับลูกชายของตัวเองที่ไม่เคยตื่นเช้ากับเขาบ้าง(แน่นอน ในวันหยุดน่ะนะ)
"งั้นให้หนูเข้าไปปลุกนะคะ" ฟางกล่าวขอพร้อมทั้งรอยยิ้มที่ใครๆเห็นแล้วก็ต้องปฏิเสธคำขอของเธอไม่ลง "เอาสิจ๊ะ" คุณแม่อนุญาต และชวนฟางเข้ามาในบ้าน
หนูฟางรีบวิ่งขึ้นไปที่บันไดอย่างรวดเร็วราวกับลมกรด "อุ๊ยแหม วัยรุ่นนี่ใจร้อนจัง" คุณแม่กล่าว
ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ชิ ใครมันมาเคาะเอาตอนนี้ฟะ" เอกที่กำลังนอนอย่างสบายคิด เขาไม่สนใจต่อเสียงเคาะแล้วก็นอนต่อไป
ก๊อกๆๆ "เอก" เสียงเคาะดังขึ้นแต่ลดจำนวนความถี่ลง แต่คราวนี้มีเสียงเรียก
เอกได้ยินเสียงแล้วก็รู้ทันทีว่าเป็นฟาง "นี่มันเสียงยัยฟางนี่ มาทำอะไรตอนเช้าแบบนี้นะ ช่างมันเถอะ นอนดีกว่า" แล้วเขาก็นอนต่อไปอีก
ทางด้านฟางที่เคาะประตูเท่าไหร่เอกก็ไม่ยอมเปิดห้อง เธอทั้งตะโกนเรียก ทั้งเคาะให้ดัง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะมาเปิดให้เลย
"มีปัญหาอะไรจ๊ะ?" คุณแม่ที่ไม่ทราบว่าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ถามขึ้น ฟางแม้จะงงๆแต่ก็ได้แต่มองแล้วพูดขึ้น "คุณน้า เอกเค้า..."
ทันใดนั้นประตูที่ไม่มีท่าทีว่าจะเปิดก็เปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว "คร๊าบๆ ตื่นแล้วคร๊าบ" เอกลนลานพูดขึ้นหลังจากเปิดประตู
"อ้าว ตื่นแล้วนี่จ๊ะ งั้นฉันลงไปก่อนนะ" คุณแม่ยิ้มแล้วพูดขึ้น ก่อนจะเดินลงบันไดไป
ฟางสังเกตเห็นว่าสายตาของเอกมองแม่ของเขาอย่างหวาดกลัวราวกับว่านั่นเป็นปิศาจก็ไม่ปาน ซึ่งสร้างความสงสัยให้แก่เธอ "อะไรกันยะ มองคุณน้าอย่างกับปิศาจแน่ะ" ที่ฟางพูดแบบนั้นก็เพราะว่าในสายตาของเธอนั้น แม่ของเอกนั้นเพรียบพร้อมด้วยคุณสมบัติของสตรีทีบุรุษหมายปองทุกด้าน ซึ่งเธอก็รู้สึกชื่นชมมาตั้งแต่ยังเด็ก
เอกชะเง้อมองไปที่บันไดอย่างหวาดระแวงแล้วพูดขึ้นว่า "นั่นน่ะปิศาจของจริงเลยล่ะ" เขาพูดพร้อมกับตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
"หา?" "เปล่า ไม่มีอะไร ว่าแต่เธอมานี่มีธุระอะไร?" เอกเปลี่ยนเรื่องมาเป็นเรื่องที่ฟางมาหาเขา
ฟางยิ้มพร้อมกับชูปืนในมือขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า "จะอะไรเล่า ก็วันนี้เป็นวันสงกรานต์นี่นา"
"เออ จริงด้วย!!!" เอกนึกขึ้นได้ ฟางเห็นหน้าตกใจของเขาแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าเขาลืม "อย่าบอกนะว่านายลืมไปแล้วน่ะ?"
เหมือนกับเอามีดมาแทงกลางใจ เขาแทบสะดุ้ง "ชะ ใช่ที่ไหนเล่า" เขารีบกลบเกลื่อนทันที "รอเดี๋ยวนะ" แล้วเขาก็ปิดประตูห้องแล้วเงียบไป
ไม่ถึงนาที ประตูก็เปิดอีกครั้งพร้อมกับเอกที่ใส่เสื้อแขนสั้นสีฟ้า และกางเกงขาสั้นสบายๆ
ฟางเห็นดังนั้นแล้วก็พูดขึ้นว่า "งั้นก็ไปกันเถอะ" เธอยิ้มแล้วลากเอกไปกับเธอ
ฟางลากเอกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ลงบันไดเธอก็หยุดแล้วหันไปบอกคุณแม่ของเอกว่า "หนูกับเอกไปล่นะคะ" "จ้า อย่าซนให้มากล่ะ" "ค่า" แล้วเธอก็ลากเอกที่กำลังหาวอยู่ออกจากบ้านไป
"เป็นเด็กนี่ดีจังนะ" คุณแม่พูดขึ้น แล้วก็ทำงานบ้านต่อไป
"ถึงกองกำลังที่ 1 ตอนนี้กองทัพของเราถูกโจมตีจนพ่ายไปสามกองแล้วครับ"
"บ้าน่า ใครกันเป็นคนทำลายไป กองกำลังของเราแข็งแกร่งของเราได้"
"ไม่ทราบครับ แต่มันมาแค่คนเดียว"
"ห๊ะ มันมาแค่คนเดียว บ้าน่า ไม่จริงใช่มั้ย"
"เฮ้ย มันยิงมาถึงนี่ได้ไงเนี่ย นี่มันเกินระยะยิงแล้วนะ อ๊าาาา"
"นี่ๆๆ อะไรกัน ขาดการติดต่อซะแล้ว สงสัยคงพลาดท่าถูกจัดการไปแล้วแน่"
หายนะนี้มันคืออะไรกันแน่ ก็ไม่รู้ได้ แต่บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้
หนุ่มน้อยนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาสายแล้วแต่เขาก็ยังคงนอนต่อไปโดยไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหากเป็นวันปกติก็คงจะโดนแม่ของเขามาจับโยนเข้าห้องน้ำพร้อมเอาฝักบัวรดเป็นแน่
แต่ทว่าช่วงนี้เป็นช่วงปิดการศึกษาหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าปิดเทอมนั่นแหละ เพราะฉะนั้นเขาจึงนอนได้อย่างสบายอย่างนี้โดยไม่มีอันตรายอันใดเกิดขึ้น
"อ๋อ ถ้าเขาอยากจะนอนก็ให้นอนไปเถอะค่ะ เพราะยังไงงานบ้านทุกอย่างฉันทำคนเดียวอยู่แล้ว" นี่เป็นคำให้การของคุณแม่แสนสวย
ปกติแล้วคุณแม่เป็นคนที่มีมารยาทเรียบร้อย ขยัน ทำงานบ้านเก่ง พูดจาไพเราะ เฉลียวฉลาด ชนิดที่ว่าหากใครได้ไปเป็นเจ้าสาวคงมีความสุขเป็นแน่
แต่ทว่าลูกชายตัวแสบของเธอกลับเป็นตรงกันข้าม นิสัยเรียบร้อยเหมืนอผ้าที่เอาไปให้หมาฟัด ขี้เกียจ ทำงานบ้านไม่เป็น(ถึงเป็นก็ไม่ทำ) พูดจาไม่ค่อยมีหางเสียง แถมยังดูโง่ๆอีกต่างหาก (แต่จริงๆอาจจะไม่โง่ก็ได้ มั้ง?)
ในขณะที่ลูกชายตัวดีกำลังนอนอย่างสบายอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น คุณแม่จึงเปิดประตูออกไปดู
มีเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายของเธอยืนอยู่หน้าประตู ใส่เสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนขาสั้น และอุปกรณ์ออกศึกครบเซ็ต
เด็กผู้หญิงพนมมือก้มตัวลงไหว้ "สวัสดีค่ะ คุณน้า" เธอพูดขึ้นแล้วยิ้มให้ คุณแม่รับไหว้มองดูแล้วก็กล่าวทักทายตอบ "สวัสดีจ้ะ หนูฟาง"
ฟางเป็นชื่อของเด็กสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายของเธอ เธอค่อนข้างคุ้นเคยกับคนบ้านนี้เพราะอยู่ใกล้กัน และเธอก็มาเล่นที่นี่บ่อยๆ
"หนูฟางจัดเต็มตั้งแต่เช้าเลยหรือจ๊ะ คงมาหาเอกสินะ แต่ว่าเอกเขายังหลับอยู่เลย" คุณแม่กล่าวขึ้นด้วยความหนักใจกับลูกชายของตัวเองที่ไม่เคยตื่นเช้ากับเขาบ้าง(แน่นอน ในวันหยุดน่ะนะ)
"งั้นให้หนูเข้าไปปลุกนะคะ" ฟางกล่าวขอพร้อมทั้งรอยยิ้มที่ใครๆเห็นแล้วก็ต้องปฏิเสธคำขอของเธอไม่ลง "เอาสิจ๊ะ" คุณแม่อนุญาต และชวนฟางเข้ามาในบ้าน
หนูฟางรีบวิ่งขึ้นไปที่บันไดอย่างรวดเร็วราวกับลมกรด "อุ๊ยแหม วัยรุ่นนี่ใจร้อนจัง" คุณแม่กล่าว
ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ชิ ใครมันมาเคาะเอาตอนนี้ฟะ" เอกที่กำลังนอนอย่างสบายคิด เขาไม่สนใจต่อเสียงเคาะแล้วก็นอนต่อไป
ก๊อกๆๆ "เอก" เสียงเคาะดังขึ้นแต่ลดจำนวนความถี่ลง แต่คราวนี้มีเสียงเรียก
เอกได้ยินเสียงแล้วก็รู้ทันทีว่าเป็นฟาง "นี่มันเสียงยัยฟางนี่ มาทำอะไรตอนเช้าแบบนี้นะ ช่างมันเถอะ นอนดีกว่า" แล้วเขาก็นอนต่อไปอีก
ทางด้านฟางที่เคาะประตูเท่าไหร่เอกก็ไม่ยอมเปิดห้อง เธอทั้งตะโกนเรียก ทั้งเคาะให้ดัง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะมาเปิดให้เลย
"มีปัญหาอะไรจ๊ะ?" คุณแม่ที่ไม่ทราบว่าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ถามขึ้น ฟางแม้จะงงๆแต่ก็ได้แต่มองแล้วพูดขึ้น "คุณน้า เอกเค้า..."
ทันใดนั้นประตูที่ไม่มีท่าทีว่าจะเปิดก็เปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว "คร๊าบๆ ตื่นแล้วคร๊าบ" เอกลนลานพูดขึ้นหลังจากเปิดประตู
"อ้าว ตื่นแล้วนี่จ๊ะ งั้นฉันลงไปก่อนนะ" คุณแม่ยิ้มแล้วพูดขึ้น ก่อนจะเดินลงบันไดไป
ฟางสังเกตเห็นว่าสายตาของเอกมองแม่ของเขาอย่างหวาดกลัวราวกับว่านั่นเป็นปิศาจก็ไม่ปาน ซึ่งสร้างความสงสัยให้แก่เธอ "อะไรกันยะ มองคุณน้าอย่างกับปิศาจแน่ะ" ที่ฟางพูดแบบนั้นก็เพราะว่าในสายตาของเธอนั้น แม่ของเอกนั้นเพรียบพร้อมด้วยคุณสมบัติของสตรีทีบุรุษหมายปองทุกด้าน ซึ่งเธอก็รู้สึกชื่นชมมาตั้งแต่ยังเด็ก
เอกชะเง้อมองไปที่บันไดอย่างหวาดระแวงแล้วพูดขึ้นว่า "นั่นน่ะปิศาจของจริงเลยล่ะ" เขาพูดพร้อมกับตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
"หา?" "เปล่า ไม่มีอะไร ว่าแต่เธอมานี่มีธุระอะไร?" เอกเปลี่ยนเรื่องมาเป็นเรื่องที่ฟางมาหาเขา
ฟางยิ้มพร้อมกับชูปืนในมือขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า "จะอะไรเล่า ก็วันนี้เป็นวันสงกรานต์นี่นา"
"เออ จริงด้วย!!!" เอกนึกขึ้นได้ ฟางเห็นหน้าตกใจของเขาแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าเขาลืม "อย่าบอกนะว่านายลืมไปแล้วน่ะ?"
เหมือนกับเอามีดมาแทงกลางใจ เขาแทบสะดุ้ง "ชะ ใช่ที่ไหนเล่า" เขารีบกลบเกลื่อนทันที "รอเดี๋ยวนะ" แล้วเขาก็ปิดประตูห้องแล้วเงียบไป
ไม่ถึงนาที ประตูก็เปิดอีกครั้งพร้อมกับเอกที่ใส่เสื้อแขนสั้นสีฟ้า และกางเกงขาสั้นสบายๆ
ฟางเห็นดังนั้นแล้วก็พูดขึ้นว่า "งั้นก็ไปกันเถอะ" เธอยิ้มแล้วลากเอกไปกับเธอ
ฟางลากเอกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ลงบันไดเธอก็หยุดแล้วหันไปบอกคุณแม่ของเอกว่า "หนูกับเอกไปล่นะคะ" "จ้า อย่าซนให้มากล่ะ" "ค่า" แล้วเธอก็ลากเอกที่กำลังหาวอยู่ออกจากบ้านไป
"เป็นเด็กนี่ดีจังนะ" คุณแม่พูดขึ้น แล้วก็ทำงานบ้านต่อไป
"ถึงกองกำลังที่ 1 ตอนนี้กองทัพของเราถูกโจมตีจนพ่ายไปสามกองแล้วครับ"
"บ้าน่า ใครกันเป็นคนทำลายไป กองกำลังของเราแข็งแกร่งของเราได้"
"ไม่ทราบครับ แต่มันมาแค่คนเดียว"
"ห๊ะ มันมาแค่คนเดียว บ้าน่า ไม่จริงใช่มั้ย"
"เฮ้ย มันยิงมาถึงนี่ได้ไงเนี่ย นี่มันเกินระยะยิงแล้วนะ อ๊าาาา"
"นี่ๆๆ อะไรกัน ขาดการติดต่อซะแล้ว สงสัยคงพลาดท่าถูกจัดการไปแล้วแน่"
หายนะนี้มันคืออะไรกันแน่ ก็ไม่รู้ได้ แต่บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้
สงคราม(ล่ะมั้ง) 1
[IMG]