คนเรียกร้องเยอะ เลยออกนิยายรั่วมั่วยำแหลกเรื่องนี้ออกมา เป็นแนวรักตลกสบายๆ แต่เผลอๆมันจะไม่ตลกเลยนี่สิ
คุณเคยคิดไหม ว่าการมีชีวิตแบบปกติเหมือนคนทั่วไปนั้นดีที่สุด ไม่ต้องมีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษนั่นคือสิ่งที่ผมคิด แต่ชีวิตของผมมันกลับต้องวุ่นวายไปหมดเมื่อชีวิตมัธยมปลายของผมมันกลายเป็นฮาเรร็มไปซะอย่างนั้นล่ะ!!
ผู้ชายหลายๆคนคงบอกว่า “มีฮาเร็มแล้วไม่ดีตรงไหน ตูล่ะอิจฉา”ใครพูดประโยคนี้มาสลับที่กับผมเถอะ ขอร้อง!!!
ส่วนเหตุผลก็เริ่มมาจากน้องสาวแท้ๆของผม ตอนเด็กๆก็บอกผมว่าอยากแต่งงานกับผมแต่มันดันไม่จบแค่ตอนเด็กๆน่ะสิ นี่ก็อายุ 14แล้วแต่ยังคงพูดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน พวกบ้าน้องสาวก็จะพูดอีกน่าอิจฉา เชิญอิจฉาไปเถอะ เพราะน้องสาวของผมเป็นยันเดเระยังไงล่ะ!! มันน่าอิจฉาตรงไหน!!!
ผมต้องใช้ชีวิตแต่ละวันราวกับอยู่กลางสนามรบ ไม่รู้ว่าตัวเองจะตายวันไหนอยู่ทุกวัน เช้าบางวันน้องสาวผมก็มาปลุกผมพร้อมกับมีดทำครัว หรือจะการต้อนรับกลับบ้านพวกมีดปีโต้หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลก็มีหลากหลายนักแค่ผมโดนผู้หญิงสวยๆมาถามทางแค่นั้นก็มากพอจะเป็นเหตุผลสังหารโหดได้แล้วล่ะ
ส่วนอีกสาวหนึ่งนั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กบ้านติดกัน ผมเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลเธอเป็นสาวต๊องๆที่ใครๆก็รัก แต่เนื้อแท้เธอคือสโตกเกอร์ตัวแม่เลยล่ะ แถมผมยังจับได้คาหนังคาเขาตอนเธอแอบงัดบ้านเอามาติดเครื่องดักฟังพร้อมกล้องวีดีโอขนาดเล็กแถมยังมีของกลางกกน. ที่กะจะเอาไปซักวันนั้นสองตัว จนทุกวันนี้กกน.ของผมหายก็ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยเพราะรู้ตัวการขโมยอยู่แล้ว
ส่วนคนสุดท้ายคือรุ่นพี่สาวแสนสวยที่ทั้งโรงเรียนต่างยกให้เธอเป็นหมายเลข 1 ของโรงเรียน ผลการเรียนดีเยี่ยม กีฬาเองก็สุดยอด แถมยังเป็นประธานนักเรียนตั้งแต่อยู่ ม.5 แต่เนื้อในของเธอไม่มีใครรู้เลยว่าเธอนั้นคือ The Sตัวแม่ที่เล่นเอาผมเกือบเปิดเส้นทางสู่โลกใหม่มาแล้ว แถมเมื่อไม่กี่วันก่อนยังโทรมาหาผมแล้วถามว่า “เราไปเล่นสงกรานต์ด้วยกันไหม”แล้วก็ส่งภาพถ่ายอุปกรณ์เล่นสงกรานต์ที่หลุดโลกมากๆมาให้ผมดูมันคือเทียนไหวเจ้าอันใหญ่ที่กำลังโดนหลอมให้กลายสภาพเป็นน้ำตาเทียน นี่กะจะเอามาสา.ดใส่คนแน่เหรอ นั้นร้ายแรงมากเลยนะ ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งแน่!!
“....คะ พี่คะ ..... พี่คะเช้าแล้วนะ...... โธ่ ช่วยไม่ได้นะ ถ้างั้นก็......” เสียงหวานตอนเช้าที่ดังขึ้นเหมือนทุกวันดังขึ้น ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วก็แทบจะกระโจนหนีลงจากเตียงแทบไม่ทัน
“งั้นก็อย่าตื่นขึ้นมาอีกเลยแล้วกันค่ะ แน่นอนเดี๋ยวหนูจะรีบตามไป!!” เธอพูดพลางแทงมีดในมือลงมาที่ผม แต่โชคดีที่ในเสี้ยววินาทีนั้นผมรีบกระโจนลงจากเตียงทัน
“ใจเย็นๆก่อนฟ้า จะทำอะไรน่ะ พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่ตื่นสายเอง!!” ผมรีบพูดขัดก่อนที่น้องสาวของผมจะเข้าสู่ Yandere Mode เต็มกำลัง
“แค่คิดว่าวันนี้พี่จะไปเล่นสงกรานต์มันก็ทำให้หนูรู้สึกว่าพวกเราจะต้องแยกจากกันแน่ๆ พี่จะต้องไปพบสาวๆสวยๆแล้วก็เริ่มคบกัน แล้วหนูก็จะเริ่มหมดคุณค่าไปทีละน้อยๆ ทั้งๆที่เราเคยสัญญากันแล้วแท้ๆว่าจะแต่งงานกันเมื่อโตขึ้น แต่นับวันพี่ก็มีสาวๆเข้ามาพัวพันมากขึ้น ตอนนี้ก็เริ่มเข้าขั้นฮาเร็มแล้ว ไม่สิเป็นแล้วต่างหาก ขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้สุดท้ายพี่ชายของหนูจะต้องตกไปเป็นของใครซักคนแน่ๆ แบบนั้นหนูไม่ยอมหรอก” น้องสาวสุดที่รักของผมพูดพลางค่อยๆหันมามองผมด้วยดวงตาตายด้าน และค่อยๆปล่อยมีดทำครัวทิ้งแล้วเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อ และสิ่งที่เธอดึงออกมาคือมีดสปาต้าคู่ใจของเธอที่เอาไว้ใช้ไล่ฟันผมมาแรมปี เธอฟาดมันเข้าใส่ผมทันทีแบบไม่รอช้าส่วนผมก็ได้แต่หลบไปมา เพื่อนๆหลายคนทักว่าผมนั้นมีปฏิกิริยาตอบโต้ไวมาก แต่ก็นะถ้าไม่ไวก็คงเอาชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้ไม่ได้หรอก
ในเสี่ยววินาทีนั้นผมใช้มือสองข้างประกบมีดนั้นเอาไว้แล้วยืนหน้าเข้าไปใกล้เธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เธอไม่เชื่อใจพี่งั้นเหรอฟ้า” ผมพูดส่วนเธอนั้นกลับทำหน้าแดงแล้วปล่อยมีดในมือแล้วบิดไปมาด้วยท่าทีเขินอาย “ตอนนี้ล่ะ!!” ผมร้องขึ้นพร้อมกับวิ่งออกไปนอกห้องทันที ผมรีบวิ่งตรงดิ่งลงไปชั้นหนึ่งและก็พบกับเด็กสาวในชุดไปรเวทดูน่ารักคนหนึ่ง โดยเธอจัดเตรียมเสื้อผ้าให้ผมพร้อมแล้ว
“เอก!!! ทางนี้เลย ฉันเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว!!” เธอร้องขึ้นพร้อมกับโบกมือให้ผม
“นั่นมันเสื้อผ้าของฉัน..... ที่หายไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนนี่!!!!” ผมร้องขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาเธอ
“ไม่ต้องห่วง ซักให้แล้ว” เธอตอบพลางชูนิ้วโป้งขึ้นมา
“นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอกนะ!!” ผมร้องขึ้นพร้อมกับใส่เสื้อผ้าที่เธอเตรียมเอาไว้ให้ และในตอนนั้นเธอก็ส่งแปลงสีฟันและน้ำมาให้ผม ผมรีบแปรงอย่างว่องไวก่อนที่ฟ้าน้องสาวของผมจะได้สติ
“พี่คะ จะหนีไปไหนงั้นเหรอคะ~” เสียงชวนสยอของน้องสาวของผมดังมาจากชั้นสอง มันเป็นเสียงที่เยือกเย็นจนสามารถแช่แข็งคนโดนเรียกได้เลยถ้าหากไม่ใช่ผมที่โดนจนชินชา และในตอนนั้นเองที่เด็กสาวข้างๆผมส่งกระป๋องมาให้ผมเพื่อบ้วนปาก และก่อนที่ผมจะออกวิ่งไปที่ประตูบ้านผมก็ได้ยินเสียงของเธอกระซิบกับตัวเองของเธอดังขึ้น
“ได้คอลเล็คชั่นใหม่แล้ว”
“อย่าเก็บไว้นะเฟ้ย ทิ้ง ต้องเอาไปทิ้งนะเข้าใจไหมปิ่น!!!” ผมตะโกนบอกเธอพลางวิ่งออกไปจากบ้าน แต่วินาทีที่เท้าของผมกำลังจะก้าวข้ามรั้วบ้านออกไปนั้นผมก้รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่คุ้นเคยผมรีบหยุดเท้าของตัวเองและรีบดังตัวกลับซึ่งมันฉิวเฉียดมากเพราะมีน้ำตาเทียนสีแดงร้อนๆเฉี่ยวหน้าผมไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น แถมมันไม่ได้มาเป็นหยดๆ แต่มันโดนสา.ดออกมาเป็นจำนวนมากนี่สิปัญหาใหญ่
“หลบแบบนี้ไม่ดีนะคะ” เสียงที่ฟังดูสุภาพและอ่อนหวานดังขึ้นจากข้างกำแพงบ้านผม
“พี่ฝน เล่นแบบนี้เดี๋ยวได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งนะครับ” ผมพูดพลางเดินออกมาน้องเขตรั้วบ้าน แล้วก็ต้องแทบหยุดหายใจ ผมกำลังจ้องมองรถดับเพลิงสีแดงคันหนึ่งจอดอยู่ใกล้บ้านผม
“ปีนี้รัฐออกกฎห้ามเล่นน้ำบนรถกระบะแล้วก็ห้ามใช้ถังน้ำขนน้ำ พี่ก็เลยคิดว่าถ้าเราใช้รถดับเพลิงล่ะก็ไม่ผิดกฎแน่ๆ” เธออธิบายพลางมองไปที่รถดับเพลิงคันนั้น
“ไม่มีกฎข้อห้ามไหนห้ามใช้รถดับเพลิงแต่ว่าถ้าเอารถนี่ไปฉีดน้ำล่ะก็ ผมกลัวว่ามันจะไม่ใช่สงกรานต์นะครับ แรงดันน้ำมันสูงมากผมกลัวคนโดนฉีดน้ำใส่จะต้องเข้าโรงพยาบาลมากกว่า” ผมพูดพลางถอนหายใจ
“เอ๋~ น่าเบื่อจังเลยน้า~” เธอร้องขึ้น แล้วจึงเผยรอยยิ้มชวนสยองขึ้นมา “งั้นเรามาเล่นไอ้นั่นกันเถอะนะ!!” เมื่อเธอพูดขึ้นก็มีเมดสาวที่ถือแส้มาส่งให้พี่ฝน ว่าแต่ยัยเมดนี่มาจากไหน แต่นั่นไม่ใช่เวลาคิดเพราะตอนนี้น้องสาวของผมกำลังเดินออกมานอกประตูบ้านแล้ว
“พี่คะ หนูคิดได้แล้วล่ะค่ะ ว่าการฆ่าพี่น่ะมันไม่ได้ประโยชน์อะไร ขอโทษนะคะที่หนูทำลงไปเมื่อกี้” เธอพูดขอโทษผม พระเจ้าน้องสาวผมเลิกยันฯแล้วสินะ
“เพราะว่าถึงแม้หนูจะฆ่าพี่ไปก็ไม่ได้แปลว่าเราจะได้อยู่ด้วยกัน ดังนั้นหนูเลยคิดว่าการตัดแขนตัดขาพี่ทิ้งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่พี่จะไม่ทิ้งหนูไป อะแฮ๊ะ” เธอพูดพลางส่งยิ้มหวานมาให้ผม ส่วยผมกลับยืนตัวเปียกทั้งๆที่ยังไม่ได้เล่นน้ำสงกรานต์แท้ๆ
“ม่าย~~~~~~~~~!!!!” ผมร้องพลางวิ่งตรงดิ่งไปยังหน้าปากซอยอย่างว่องไว
“แหมๆ เอกวันนี้พวกหนูก็ยังคงสนุกกันเหมือนเดิมเลยนะ” เสียงของคุณป้าที่รู้จักกันดังขึ้นขณะที่เธอกำลังกวาดหน้าบ้านเหมือนทุกวัน ว่าแต่ป้าดูตรงไหนที่มันสนุกกัน มีน้องสาววิ่งถือเลื่อยยนต์วิ่งไล่สับแขนขากับรุ่นพี่ที่โรงเรียนถือแส้วิ่งไล่ฟาดและด้านหลังมีอีกมีเมดสาวกำลังวิ่งลากอุปกรณ์SMรวมถึงเครื่องทรมารมาติด ยกตัวอย่างก็ ม้าไม้สามเหลี่ยม IronMaiden และอื่นๆอีกมากมาย ว่าแต่ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ตอนวิ่งผ่านป้าแกมาเหมือนเห็นยัยปิ่นถือกล้องถ่ายรูปหลบอยู่ด้านหลังป้าแกรึเปล่าหว่า
“เอกทางนี้!!!” เสียงตะโกนของเพื่อนร่วมชมรมละครของผมดังขึ้นสภาพตรงหน้าของผมคือรถที่พวกเราจะใช้นั่งไปเล่นสงกรานต์กัน แต่เอ่อ ไม่มากไปหน่อยเหรอรถแบบนั้น ถ้าใครสงสัยมันรถอะไรมันคือรถฮัมวี่ครับพี่น้อง ว่าแต่ไปเอามาจากไหนฟร๊ะ!!
“เร็วเข้าเอก!!” เด็กหนุ่มคนนึ่งพูดพลางยื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างซึ่งเขาเป็นคนที่หล่อกระชากใจสาวๆมากคนหนึ่งเลยล่ะเทียมชั้นดาราชื่อดังได้เลย
“พี่พล!!” ผมร้องขึ้นสุดเสียงด้วยความตก
“มาแล้ว การแสดงความรักของเนื้อคู่ของชมรมเรา!!” หนึ่งในสมาชิกชมรมร้องขึ้น แต่นั้นมันทำให้ยัยฟ้ายิ่งทวีความเร็วในการวิ่งยิ่งกว่าเดิมซะอีกแทบดูเหมือนว่าจะเชือดผมทิ้งแทนเป้าหมายเดิมแล้วทีนี้ ส่วนที่โดนบอกว่าเป็นเนื้อคู่ก็คงต้องย้อนความไปตอนก่อนปิดภาคเรียน ชมรมของผมมีการแสดงส่งท้ายปีนั่นคือการแสดงละครเรื่อง โรมิโอแอนจูเรียส แต่ว่าไม่มีใครที่เหมาะจะเล่นบทจูเรียสผมก็เลยซวยต้องรับบทนี้ และในฉากจูบนั้นเองผมก็โดนรุ่นพี่คนนี้จูบจริงๆกลางเวที โดยเหตุผลที่ทำแบบนั้นคือ นักเรียนหญิงกว่า 60% ของโรงเรียนเรานิยมโฮโม และการทำแบบนั้นเพื่อกระตุ้นยอดการเข้าชมในครั้งหน้านั่นเอง
ระหว่างที่ผมกำลังวิ่งหนีอยู่นั้นเสียงร้องเชียร์จากเพื่อนๆของผมก็ดังขึ้นตลอด และตามมาด้วยการมุงดูของเหล่าไทยมุง ผมรีบกระโจนเข้าไปในรถทางหน้าต่างและก็พบกับหญิงสาวอายุแค่ยี่สิบต้นๆสวมแว่น ใช่เธอคือที่ปรึกษาของชมรมเรานั่นเอง
“เอาล่ะนะ!! ครูซิ่งล่ะ” เธอพูดขึ้นพลางถอดแว่นออกแล้วแสยะยิ้มชั่วร้าย
“ครูพลอยถอดแว่นแล้ว!!” หนึ่งในสมาชิกรมชมที่อยู่บนรถร้องขึ้น
“เอ้าไอ้พวกบ้าทั้งหลายจับให้มั่นๆล่ะ เราจะไปกันแล้ว!!!!” เธอตะโกนขึ้นพร้อมกับออกรถอย่างรวดเร็วจนพวกเราหลังชนพนักพิงด้านหลัง และในวินาทีที่รถกำลังจะออกถนนใหญ่ครูพลอยของพวกเรายังโชว์เอารถฮัมวี่ดริฟโชว์จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกต่างหาก ส่วนอุบัติเหตุนั้นไม่ได้เกิดที่รถของเราแต่เป็นพวกรถบนถนนใหญ่ที่ชนกันมั่วไปหมดต่างหาก
เฮ่อสงสัยปีหน้าเราคงต้องเหนื่อยอีกเยอะแน่ๆ เฮ่อ~~~~~
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-4-13 20:14
อย่ามาอิจฉาฮาเร็มของผมเลย ตอน เช้าวันสงกรานต์