สี่เดือนหลังจากออกจากเขตของญี่ปุ่นยานวัลคีรี่ก็มุ่งเป้าไปยังเขตปกครองของซากทัพเยอรมันตามเป้าหมาย แต่ด้วยปัญหาหลายๆอย่างทำให้การเดินทางของพวกเขาช้ากว่ากำหนดมาก ทั้งสภาพยานที่ครึ่งๆ กลางๆ แล้วไหนจะพวกกองยานจีนที่ตามมาต้อยๆ เลยต้องเปลี่ยนเส้นทางตลอดเพื่อจะได้ไม่โดนเจอง่ายๆแต่ช่วงเวลาสี่เดือนมานี้ยานเองก็ดูจะมีสีสันขึ้นอยู่บ้าง นั่นก็คงเพราะอาเธอร์ผู้โดนคู่หมั้นทั้งสองทำสงครามเย็นเพราะว่ามานะประกาศตัวก้องโรงอาหารว่าเธอก็จะเป็นคู่หมั้นให้กับอาเธอร์ด้วยอีกคนส่วนกัปตันโซร่าเองตอนที่กำลังจะอ้าปากพูดคำว่าตกลงก็โดนรังสีเยือกแข็งจากลอร่า และดวงตาที่คมกริบราวกับดาบคาตานะของยูอิจู่โจมเข้าจนพูดไม่ออก มานะเองก็ตามติดอาเธอร์ตลอดสี่เดือน ส่วนอาเธอร์เองก็พยายามจะเว้นช่องว่างกับเธอเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
“ทำไมล่ะคะรุ่นพี่!!! ฉันเองก็รักคุณอาเธอร์เหมือนกันค่ะ!!! แล้วทำไมถึงต้องกีดกันฉันออกมาด้วยล่ะคะ!!!” เสียงของมานะดังขึ้นพร้อมกับเสียงทุบโต๊ะในห้องอาหาร โดยฝั่งตรงข้ามของเธอมีร่างของยูอิที่นั่งเส้นเลือดปูดอยู่และข้างๆก็คือลอร่า ส่วนคนที่นั่งคุกเข่าพลางหดคออยู่ที่พื้นใกล้ๆคือต้นตอของเรื่องทั้งหมดอาเธอร์
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้!!!” ยูอิพูดขึ้นพลางทุบโต๊ะอย่างแรง “เธอเขาใจบ้างไหมว่าตอนนี้อาเธอร์มีคู่หมั้นแล้ว ก็คือฉันและลอร่า!! เธอเขาใจบ้างไหมสามัญสำนึกน่ะ!!! อาเธอร์มีเจ้าของแล้ว!!!” ยูอิพูดขึ้นอย่างเหลืออด
“คู่หมั้นสองคนมันทะลุขีดจำกัดสามัญสำนึกไปแล้วค่ะ!!! แล้วอีกอย่างนะคะ ฉันถามคุณกัปตันมาแล้ว รุ่นพี่เองก็เข้ามาทีหลังไม่ใช่เหรอคะ ทั้งๆที่ทีแรกคุณอาเธอร์เขา LOVE LOVE กับคุณลอร่า ดังนั้นรุ่นพี่ไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันเรื่องสามัญสำนึกเลยนะคะ!!!!” มานะสวนกลับอย่างรวดเร็ว นั้นทำให้ยูอิเด้งขึ้นจากเก้าอี้พลางหันไปหาลอร่าที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ลอร่าเธอก็พูดอะไรมั่งสิอย่าเอาแต่เงียบ!! นี่มันหมายถึงชีวิตครอบครัวของพวกเราในอนาคตเลยนะ” ยูอิพูดขึ้นพลางมองอีกฝ่ายอย่างคาดหวัง ถ้าได้ลอร่ามาช่วยพูดอีกแรงล่ะก็
“นั่นมันก็จริงอย่างที่มานะพูดนะ” ลอร่าพูดพลางลูบคาง
“ลอร่า!!!” ยูอิร้องพลางทับโต๊ะอย่างแรง
“แต่ยังไงก็ตามความสัมพันธของฉันกับยูอิที่เป็นคู่หมั้นของอาเธอร์ทั้งคู่มาจากการยอมรับซึ่งกันและกัน ทั้งฉันและยูอิเราต่างก็ยอมรับในอีกฝ่ายว่าจะเป็นคู่ครองที่ดีให้กับอาเธอร์ได้อย่างแน่นอน หลังจากที่พวกเราเองก็ผ่านจุดศึกชิงนายมาก่อน พวกเราเลยทำสนธิสัญญาว่าจะแบ่งกันใช้อาเธอร์เท่าๆ กัน นั่นหมายความว่าถ้าเธอเข้ามาพวกเราก็จะต้องหารสาม มันฟังดูเสียผลประโยชน์มากขึ้นอีกนะ แล้วอีกอย่างตอนนี้เตียงนอนกันสามคนอึดอัดมากแล้วด้วย ถ้าเพิ่มมาอีกคนคงไม่มีที่ให้นอนแน่ๆ อีกอย่างเธอต้องแสดงให้พวกเราเห็นก่อนว่าเธอไม่ได้มีแค่ความน่ารักสดใสและหน้าตาเป็นจุดขายเพียงอย่างเดียว ดังนั้นถ้าเธอทำให้พวกเรายอมรับในตัวเธอได้ล่ะก็ ฉันเองก็ไฟเขียว” ลอร่าพูดพลางทำสีหน้าจริงจัง ส่วนมานะที่ได้ยินจึงรีบคว้ามือของลอร่าไปแล้วจึงพูดขึ้น
“จริงเหรอคะ!!” มานะพูดพลางทำตาเป็นประกาย
“แน่นอน” ลอร่าพูดพลางชูนิ้วโป้งขึ้นเป็นการยืนยัน
“ลอร่า!!!! เธออยู่ข้างไหนกันแน่!!” ยูอิร้องขึ้นสุดเสียง
“ฉันอยู่ข้างคนที่มีความรัก” ลอร่าตอบเสียงเรียบ
“เธอนิยามคำว่าความรักยังไงกันแน่!!!” ยูอิร้องขึ้นพลางทุบโต๊ะอย่างแรง
“ความรักคือสิ่งที่ดีงามและควรรักษาเอาไว้ และทุกคนควรได้รับมัน” ลอร่าตอบ
“ไม่ไหวแล้ว เหมือนฉันบ้าอยู่คนเดียว แม้แต่ลอร่าก็เป็นไปกับเขาด้วย” ยูอิพูดพลางกุมขมับแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
“เอ่อ คือว่าฉันไปได้รึยัง คือฉันกำลังจะไปฝึกขับไทฟูนซักหน่อยน่ะ” อาเธอร์ถามขึ้น ส่วนยูอิแค่เหลือบตามามองอย่างเย็นชา
“เชิญ แต่ถ้าฉันรู้ว่าเธอคิดจะไปลากใครเข้ามาสร้างปัญหาให้อีกล่ะก็ฉันยิงทิ้งจริงๆ” ยูอิพูดเสียงเย็นจ้องมองอาเธอร์ด้วยแววตาที่ตายด้านไร้อารมณ์พร้อมกับเงาปริศนาที่เข้าปกคลุมใบหน้าครึ่งบนของเธอเอาไว้
ณ โรงฝึก B.U. อาเธอร์ที่อยู่ในชุดสูทควบคุม B.U. กำลังยืนคุยกับมิซึกิอย่างเป็นกันเองเหมือนทุกที แถมยังดูสนุกสนานกันมากอีกด้วย แต่ถ้าใครได้ยินบทพูดสนทนาของทั้งสองต้องไม่เชื่อแน่ๆ เพราะทั้งสองกำลังคุยกันเรื่อง B.U. กันอยู่ แถมคุยกันตั้งแต่รุ่น ชิ้นส่วน ไล่ยาวไปจนถึงอุปกรณ์เสริมรวมถึงการคาดการรุ่นใหม่ๆ ในอนาคตอีกด้วย
“ไม่ไหวๆ จู่ๆเหมือนจักรวาลนี้มันจะดับศูนย์ยังไงไม่รู้ที่จู่ๆ บนยานก็มีโอตาคุ B.U.เพิ่มมาอีกคนแถมอีกคนยังเป็นสาวน่ารักอีกแถมยังเคยเป็นไอดอลด้วย” แดนนี่พูดพลางมองทั้งสองขณะกำลังช่วยทีมช่างปรับจูน B.U. ที่เขาจะต้องขึ้นขับในอนาคต เพราะที่รบกันตอนออกจากญี่ปุ่นทำให้ B.U. ของเขาอยู่ในสภาพพังยับ ยูอิเองก็เลือกจะขับไทฟูนแทนยูอิคาเสะเครื่องขาวที่เธอใช้ อาเธอร์เองก็เลือกใช้ไทฟูนที่เหลืออีกเครื่องด้วยเช่นกันแต่ก็ยังคงไม่ทิ้งเดสทรอยเยอร์คู่ใจอยู่ดี
“จะว่าไปไทฟูนนี่สุดๆไปเลยแฮะ ความเร็ว อัตราเร่งมันสูงกว่า B.U.รุ่นก่อนๆเยอะเลย” ช่างหนุ่มพูดขึ้น
“จะยังไงก็เอา ฉันขับอย่างเดียวพอ ไม่ขอรู้มากกว่าวิธีขับล่ะนะ” แดนนี่ตอบอย่างเหนื่อยหน่าย
“ว่าแต่เบเฮมอธนี่จะทำยังไงดีล่ะเนี่ยพังขนาดนั้นเราซ่อมไม่ได้แน่ๆ ชิ้นส่วนมันเป็นชิ้นส่วนเฉพาะเกินไป” ช่างหนุ่มพูดพลางมองเบเฮมอธที่ยืนนิ่งอยู่ที่ช่องเก็บ B.U. ข้างๆ
“คงต้องส่งให้ถึงมือพวกวูฟกังซะล่ะมั้ง” แดนนี่ตอบ
“แบบนั้นกลับมามันคงจะไม่ใช่เบเฮมอธแต่คงเป็น B.U. ตัวใหม่แล้วล่ะครับ” เขาตอบพลางถอนหายใจ
“อาจจะดีกว่าก็ได้นะ แบบนั้นน่ะ” แดนนี่เสริม
“ว่าแต่ตั้งแต่เราได้พวกกองหารราชองครักษ์มาเสริมแล้วเนี่ยมันทำให้โรงเก็บแสนเงียบเหงาของเราคึกคักขึ้นมาทันตาเลยนะครับ มันดูเป็นยานรบจริงๆขึ้นมาเลยแถมช่องเก็บแต่ละจุดก็โดนใช้จนเต็ม ช่างอย่างเราล่ะดีใจจริงๆ” ช่างหุ่นพูดพลางมองไปตามระเบียงจุดต่างๆที่ติดตั้งเครื่องคอนโซนสำหรับปรับแต่ง B.U. อย่างดีใจ
“เป็นภาพที่น่าคิดถึงสุดๆไปเลยล่ะ สมัยอยู่กองทัพอังกฤษเองฉันก็เห็นภาพแบบนี้บ่อยจนเบื่อเลยล่ะนะ” เขาตอบพลางถอนหายใจ
“ว่าแต่ทำไมคุณแดนนี่ถึงหนีมาจากกองทัพล่ะครับ” ช่างหนุ่มถามขึ้นพลางจัดการเช็คระบบต่างๆผ่านเครื่องคอนโซนตรงหน้า
“มันเป็นเรื่องของความฝันที่พังไม่เป็นท่าน่ะ ฉันเข้าห้องทัพเพราะว่าอยากปกป้องประเทศ นั่นล่ะความฝันของฉัน แต่ว่านะจู่ๆกองทัพก็ให้ฉันไปบุกโจมตีประเทศอื่นแบบไม่มีเหตุผลอะไรมากเลย เพียงแค่อยากขยายดินแดนและต้องการผลประโยชน์ ฉันก็เลยหนีออกมาแค่นั้นล่ะ” เขาตอบ
“หืม ผิดคาดนะครับ” เขาตอบ “เอาล่ะคุณแดนนี่ลองเลยครับ เดี๋ยวผมเปิดช่องทางส่งออกให้เอง” ช่างหนุ่มผู้ขึ้นหลังจากที่เขาเช็คระบบต่างๆเสร็จแล้ว ส่วนแดนนี่ที่ได้ยินจึงเข้าไปภายในห้องคนขับของไทฟูน ระเบียงด้านหน้าเปิดออก ตัวล็อคที่ยึดร่างของ B.U. เอาไว้กับที่ถูกปลดออก เสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นเพื่อให้คนด่านล่างระวัง ไทฟูนของแดนนี่เดินไปที่ช่องทางส่งออก ประตูแอร์ล็อคบานใหญ่ที่ปกติจะไม่ได้ใช้เลยเวลาอยู่ในการรบเริ่มปิดตัว ช่องทางส่งออกค่อยๆเปิดออกช้าๆ แล้วจากนั้นไทฟูนก็ถูกส่งออกไปด้านนอกเพื่อทำการทดสอบทันที
ในคืนเดียวกัน ร่างของอาเธอร์ที่กำลังเดินไปตามทางเดินของพื้นที่พักอาศัยของยานวัลคีรี่อย่างไร้จุดหมายเพราะโดนสั่งห้ามเข้าห้องอีกแล้ว ตั้งแต่มานะขึ้นยานลำนี้มาอาเธอร์โดนสั่งห้ามเข้าห้องมาแล้วกว่า 30 ครั้ง นั่นทำให้ที่พักอาศัยที่สองของเขาถ้าไม่ใช่ห้องของแดนนี่ก็จะเป็นห้องน้ำชายที่อยู่ใกล้ๆแทน จนพักหลังพวกทหารช่างที่ต้องคอยตรวจสอบ B.U.จนดึกหรือเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นๆ เข้าใช้ห้องน้ำตอนดึกๆมักจะพบเจออาเธอร์ในบางครั้ง และเคยมีทหารญี่ปุ่นดวงซวยที่เข้าใช้ห้องน้ำตอนไฟเสียพอดี แล้วเจออาเธอร์ที่ค่อยๆเดินออกมาจากห้องน้ำเข้า เจ้าตัวถึงกับร้องยานแตกด้วยความตกใจ และนั่นจึงเป็นที่มาของฉายาผีเฝ้าห้องน้ำของอาเธอร์
“นี่ๆ ดูนั่นสิคุณอาเธอร์โดนสั่งห้ามเข้าห้องอีกแล้ว” เสียงของเจ้าหน้าที่สาวบนยานดังขึ้น ถึงมันจะเป็นเพียงเสียงกระซิบแต่อาเธอร์ก็ยังได้ยิน
“ไม่ไหวเลยนะ พี่คู่หมั้นแล้วตั้งสองคนยังไม่พออีก ศัตรูของผู้หญิงชัดๆ” เจ้าหน้าที่สาวอีกคนตอบ อาเธอร์ที่ได้ยินได้แต่หางคิ้วกระตุก
“นี่ๆ เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอก” อีกคนรีบขัดทันที ส่วนอาเธอร์ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินต่อไป เป้าหมายคือห้องน้ำเช่นเคย เพราะคืนนี้แดนนี่กำลังเมาได้ที่จนหลับสนิทไปแล้ว
และระหว่างที่เขากำลังเดินไปยังห้องน้ำนั้นก็พบกับมานะในชุดนอนแบบวันพีชแขนตุ๊กตา เธอปล่อยผมสีทองของเธอลงจากปกติที่รวบเป็นผมหางม้าเอาไว้ และด้านหลังคือมิซึกิที่เดินจับชายเสื้อของมานะตามมาติดๆ โดยเจ้าตัวดูจะสะลึมสะลืมอยู่โดยเธอเองก็ปล่อยผมหางม้าลงมาเหมือนกัน โดยผมของเธอพอดูแบบนี้แล้วยาวกว่าของมานะพอสมควรเพราะมันยาวลงมาถึงเอวแต่มานะยาวลงมาแค่กลางหลัง แต่ที่อาเธอร์ไม่อยากเชื่อที่สุดคือชุดนอนของเธอมากกว่า มันเป็นชุดนอนแบบวันชีพแขนยาวลายคุณหมี
“อ่าวคุณอาเธอร์มาทำอะไรแถวนี้คะ” มานะถามขึ้น
“ฉันมาหาที่นอนน่ะ แล้วเธอล่ะ” อาเธอร์ตอบพลางถามกลับ
“พามิซึกิมาห้องน้ำน่ะนะ ก็ยัยนี่น่ะ ......” มานะยังไม่ทันพูดจบก็ถูกมิซึกิใช้มือปิดปากเอาไว้
“อย่าพูดนะ~~!!” มิซึกิรีบร้องขึ้น
“จ้าๆ งั้นรีบไปเข้าห้องน้ำซะ” มานะพูดส่วนมิซึกิรีบหลบเข้าไปในห้องน้ำทันที อาเธอร์ที่เห็นแบบนี้ได้แต่ยืนมุมปากกระตุก ยิ่งใช้ชีวิตร่วมกันบนยานทำให้รู้จักหลายๆคนดีขึ้น มิซึกิเองก็เช่นกันเธอแอบมีมุมน่ารักๆซ่อนเอาไว้ภายในเสมอ ถึงเธอจะเป็นโอตาคุ B.U. แต่เธอเองก็ชื่นชอบของน่ารักๆมากพอๆกัน เธอชอบอาหารหวานๆมาก โดยเฉพาะซอฟครีมรสต่างๆ เธอจะชอบเป็นพิเศษ แถมเธอยังขี้อายกว่าที่คิด แต่ก็แฝงความจริงจังเอาไว้ด้วย และยังมีมุมอื่นๆอีกมากที่เธอซ่อนมันเอาไว้
“ว่ายังไงคะ ไปนอนกับพวกฉันไหม” มานะเอ่ยถามขึ้น
“เอ่อ.... ไม่เป็นไร ฉันนอนในห้องน้ำได้” เขาตอบพลางนึกภาพตอนที่ยูอิรู้เรื่องนี้เข้า
“ไม่เป็นไรค่ะๆ แค่ไม่ให้คุณยูอิรู้ก็พอแล้ว” มานะตอบพลางยิ้มซน
“เอ่อ แต่ว่า” อาเธอร์พูดขึ้นแต่ยังไม่ทันจบก็มีเสียงมิซึกิแทรกเข้ามาก่อน
“มานะ เสร็จแล้ว” มิซึกิพูด
“จ้าๆ งั้นไปกันได้แล้ว” มานะพูดพลางจูงมืออาเธอร์เดินไปด้วย
และเมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีก็มายืนอยู่โลกต่างมิติ ไม่สิห้องนอนที่แปลกตา มันเป็นห้องนอนสองเตียง ฝั่งซ้ายดูเรียบๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ บนโต๊ะทำงานมีรูปของพวกมานะ มิซึกิ และยูกิ โดยพวกเธออยู่ในชุดสไตล์โลลิสีขาวดูน่ารัก ส่วนฝั่งขวาเป็นเตียงนอนที่ใช้ผ้าห่มรูปคุณหมีดูน่ารัก ที่หัวเตียงเองก็มีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ตั้งอยู่ ที่เก้าอี้โต๊ะทำงานมีตุ๊กตาคุณกระต่ายในชุดทักซิโด้สวมหมวกทรงสูงวางเอาไว้ ถ้าไม่มีใครบอกคนที่เข้ามาทีแรกคงคิดว่านี่ต้องเป็นฝั่งของมานะแน่ๆ แต่จริงๆแล้วมิซึกิใช้ฝั่งนี้ต่างหาก
“ฉันว่าฉันไปนอนที่ห้องน้ำดีกว่า” อาเธอร์พูดพลางหันหลังจะเดินออกจากห้องไป ส่วนมิซึกิเองก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วรีบมุดเข้าไปในในเตียง
“ไม่เป็นไรหรอกค่า นอนบนเตียงฉันก็ได้นะคะ ฉันไม่ถือ” มานะพูด แต่อาเธอร์พอคิดได้ว่าตัวเองดันหลุดเข้ามาถึงนี่แล้วออกไปคงยาก งั้นเอาเป็นนอนพื้น พอเจ้าตัวตัดสินใจได้แล้วก็ล้มตัวลงไปนอนที่พื้น
“งั้นฉันนอนตรงนี้ล่ะ” อาเธอร์พูดพลางเอนตัวลงนอนพื้น
“แหม ทำอายไปได้ทั้งๆที่ทำไปขนาดนั้นแล้วแท้ๆ แถมช่วงเดือนแรกมันทำเอาฉันหนักใจเลยนะ ก็ประจำเดือนมันดันมาช้าผิดปกติซะนี่” มานะพูดขึ้นพลางบดไปมาอย่างเขินอาย ส่วนอาเธอร์ได้แต่คิ้วกระตุกเท่านั้น แต่จู่ๆมานะก็จับลากอาเธอร์ขึ้นเตียงไปทั้งอย่างนั้น แล้วเจ้าตัวก็เข้ามานอนโอมร่างของอาเธอร์เอาไว้จากด้านหลัง “คืนนี้จะทำอีกก็ได้นะคะ” มานะพูดกระซิบเสียงเบา ส่วนอาเธอร์ได้แต่นอนเงียบตัวแข็ง
“ช่วยเบาเสียงด้วยนะ” มิซึกิแทรกเข้ามา
“เอาล่ะ นอนๆ ดึกแล้วนอนๆ” อาเธอร์ตอบพลางหลับตาลงอย่างเงียบๆ
“โธ่ ทำอายไปได้!!” มานะร้องขึ้นแล้วจึงนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น
เช้าวันต่อมาอาเธอร์ค่อยๆเดินออกมาจากห้องของมานะโดยไม่ให้ใครเห็น แต่ราวกับฟ้าส่งนรกสั่งให้ยูอิผ่านมาเห็นเข้าพอดี
“อา~~ เธอร์~~~” เสียงเย็นชวนสยองของยูอิดังขึ้น ส่วนอาเธอร์เองก็ค่อยๆหันไปทางต้นเสียง เจ้าตัวได้แต่ยืนเหงื่อชุ่มตัว “เจ้าคู่หมั้นอภิมหาบ้า!!!!”
![](http://usercontent.2th.me/a/i/hg3ip98o/2th.me_919285.jpg)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vodooking1 เมื่อ 2013-4-29 17:46
Valkyrie S2 ตอนที่1 วันแสนเงียบสงบของยานวัลคีรี่