"อา โฉมนางไปแล้วไยไม่กลับมา ปล่อยให้ข้าเฝ้าคะนึงถึงทุกคืนวัน"
"เล่นกลอนอะไรของนายเฮลี่" อามาร่าถามขึ้นหลังจากที่ได้ยินเพื่อนของเธอมัวแต่ท่องเพ้อ
เฮลิออสได้แต่เงียบ คิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดขึ้นว่า "เธอไม่กลับมาแล้วสินะ" สีหน้าของเขายิ่งดูซึมลงกว่าเดิม แต่อามาร่ากลับไม่สนใจเท่าไหร่ "งั้นเหรอ?" เธอพูดขึ้นแค่นั้น แล้วก็ไม่ได้ซักอะไรต่อ
....................................................................................................
ยามดึกสงัดไร้ซึ่งสรรพสำเนียงแห่งสิ่งมีชีวิต หากแต่มีหนึ่งร่างยืนอยู่ท่ามกลางความมืด
ร่างนั้นอยู่ในเงามืดจนไม่อาจเห็นได้ชัดว่าเป็นชายหรือหญิง หากแต่แค่ปรากฏออกมาด้วยบรรยากาศเช่นนั้นก็ทำให้ขนหัวลุกได้
และก็มีผู้เคราะห์ร้ายเดินผ่านมา
ชายคนหนึ่งเดินผ่านไปท่ามกลางความมืดมิดตามปกติ เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ทีแรกเขาก็ไม่คิดจะสนใจ แต่ก็ไม่อาจห้ามความสงสัยไว้ได้จึงตามไป
เงาร่างนั้นเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าตามไป แต่ก็ยังเห็นอยู่ไกลๆ ไม่ว่าเขาจะพยายามเร่งความเร็วแค่ไหนก็ตาม
ในที่สุดเงาร่างนั้นก็หยุดอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
ตามทันเสียที ชายหนุ่มคิด ว่าแล้วก็สาวเท้าเดินเข้าไปและเอื้อมมือไปสัมผัส
ทว่ามือนั้นยังมิทันจะสัมผัสโดนตัว เงาร่างนั้นกลับหายไปต่อหน้าต่อตา
ชายหนุ่มได้แต่ยืนค้าง โลมชาติลุกซ่านทั้งกายราวกับสัมผัสลมเย็นยะเยือก
.......................................................................................................
ข่าวลือนั้นถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วจากปากแม่ค้าชาวตลาดซึ่งมีนิสัยปากจัดกันเป็นธรรมดา "โอ๊ย ตอนไปพบนี่นะ พ่อหนุ่มคนนั้นยืนตัวแข็งขนลุกตั้งเลยล่ะ เห็นว่าไปเจอผีหลอกมาล่ะ" แม่ค้าคนหนึ่งพูดขึ้น
"ไม่หรอกมั้ง คงจะแค่คิดไปเองเพราะความมืดมากกว่าแหละ แล้วเกิดกลัวขึ้นมาเอง" แม่ค้าอีกคนที่ยังอยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ กล่าวขึ้น
"แต่ว่าที่ตรงนั้นก็ไม่แน่หรอกนะ เมื่อก่อนน่ะเห็นว่ามีคนตายด้วยล่ะ ไม่แน่อาจจะเป็นวิญญาณของคนๆนั้นก็ได้นะ ดูสิ พูดแล้วขนลุกเลย" แม่ค้าอีกคนกล่าวขึ้นพร้อมทั้งลูบแขนที่ขนลุกตั้งชันให้เรียบดังเดิม
ข่าวนี้ยังคงแพร่สะบัดต่อไปแบบปากต่อปาก ดังนั้นจึงมีการเสริมเกินจริงไปบ้าง แต่โดยรวมก็เป็นข่าวเดียวกันว่าหนุ่มถูกผีหลอกใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง
......................................................................................................
อามาร่าออกมาซื้อของตามปกติของเธอ อีกทั้งตอนนี้มีเฮลิออสคอยเฝ้าบ้านให้ ซึ่งนานๆทีเขาจะออกมา เพราะส่วนใหญ่จะต้องคอยรับมือกับลูน่าที่เข้ามาหาเขา จนออกไปไหนไม่ได้ยกเว้นไปเดินเที่ยวกับเธอ
ซึ่งช่วงนี้มีโคริมาอยู่ด้วยอีกคน ทำให้อามาร่าสังเกตว่าลูน่าเริ่มจะถอยห่างเฮลิออส ไม่เข้าประชิดแนบเนื้อแบบเมื่อก่อน ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่มันทำให้เธอสบายใจขึ้นหน่อย
ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่พอเห็นลูน่าเข้ารุกใส่เฮลิออสแล้วเธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
ดังนั้นเพื่อที่จะไม่ต้องเห็นภาพที่ทำให้ไม่พอใจ เธอจึงเลือกออกมาซื้อของข้างนอกพร้อมกับเดินเล่นแทน
ยามที่ต้องออกไปข้างนอกเพื่อไปซื้อของนั้น เธอจะผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
เป็นสวนสาธารณะแห่งเดียวกับที่เฮลิออสและลูน่าเคยมาเดินด้วยกัน
โชคดีที่อามาร่าไม่รู้ว่าพวกเฮลิออสไปทำอะไรที่ไหน เธอจึงพักผ่อนในที่นี่ได้อย่างสบายใจ กับบรรยากาศอันเย็นสบายใต้ร่มไม้
เธอเดินผ่านสวนสาธารณะนั้นไปทั้งที่ยังรู้สึกเสียดาย เพราะอยากจะนั่งสักนิด แต่ก็ยับยั้งไว้ เพราะเธอต้องไปซื้อของเสียก่อน
......................................................................................................
วันนี้อามาร่าเสียเวลามากกว่าปกติ กว่าเธอจะกลับก็เริ่มจะพลบค่ำแล้ว
ดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า แต่ก็ยังส่องแสงสีแส.ดอ่อนๆให้เห็นได้
เธอผ่านสวนสาธารณะอีกครั้ง เธอเองก็รู้สึกเสียดายว่าไม่น่าจะเสียเวลาซื้อของนานขนาดนั้น แต่เมื่อค่ำแล้วก็ช่วยไม่ได้ เธอจึงตัดใจที่จะนั่งในสวนสาธารณะไปเสีย
เมื่อเดินมาถึงตรงที่เธอคิดจะนั่ง อามาร่าก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่
งดงาม นั่นเป็นสิ่งที่เธอคิดขึ้นมาอันดับแรก จนเธอเผลอมองอย่างชื่นชมจนสังเกตได้ชัด หญิงสาวคนนั้นเห็นเข้าอามาร่าก็รีบก้มหน้าหลบด้วยความเขินกลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเธอคิดชื่นชมทั้งๆที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน
ผิดคาด หญิงสาวกลับมองมาแล้วก็มิได้กล่าวอันใด แล้วหันไปทางอื่น
อามาร่าที่ก้มหน้าหลบแอบเงยขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวไม่สนใจตน ก็มองซ้ายขวาแล้วมองหญิงสาวอย่างพินิจสงสัย
"แปลกดี" อามาร่าคิดหลังจากที่เพ่งมองนาง
ราวกับมีอะไรซักอย่างที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาด
ชุดกระโปรงยาวระบายสีดำเองก็ให้ความรู้สึกลึกลับ
ขณะที่เธอมองอย่างเพลิดเพลินกับความคิดนั้น หญิงสาวก็ได้หันมามอง
สายตาของทั้งสองประสานกันในที่สุด
ดวงตาคู่ที่ประสานมานั้นช่างสวยงามราวกับอัญมณีอันมีค่า
หากแต่ว่ามันกลับส่องประกายราวกับไม่ใช่มนุษย์!!!
................................................................................................................
"เล่นกลอนอะไรของนายเฮลี่" อามาร่าถามขึ้นหลังจากที่ได้ยินเพื่อนของเธอมัวแต่ท่องเพ้อ
เฮลิออสได้แต่เงียบ คิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดขึ้นว่า "เธอไม่กลับมาแล้วสินะ" สีหน้าของเขายิ่งดูซึมลงกว่าเดิม แต่อามาร่ากลับไม่สนใจเท่าไหร่ "งั้นเหรอ?" เธอพูดขึ้นแค่นั้น แล้วก็ไม่ได้ซักอะไรต่อ
....................................................................................................
ยามดึกสงัดไร้ซึ่งสรรพสำเนียงแห่งสิ่งมีชีวิต หากแต่มีหนึ่งร่างยืนอยู่ท่ามกลางความมืด
ร่างนั้นอยู่ในเงามืดจนไม่อาจเห็นได้ชัดว่าเป็นชายหรือหญิง หากแต่แค่ปรากฏออกมาด้วยบรรยากาศเช่นนั้นก็ทำให้ขนหัวลุกได้
และก็มีผู้เคราะห์ร้ายเดินผ่านมา
ชายคนหนึ่งเดินผ่านไปท่ามกลางความมืดมิดตามปกติ เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ทีแรกเขาก็ไม่คิดจะสนใจ แต่ก็ไม่อาจห้ามความสงสัยไว้ได้จึงตามไป
เงาร่างนั้นเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าตามไป แต่ก็ยังเห็นอยู่ไกลๆ ไม่ว่าเขาจะพยายามเร่งความเร็วแค่ไหนก็ตาม
ในที่สุดเงาร่างนั้นก็หยุดอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
ตามทันเสียที ชายหนุ่มคิด ว่าแล้วก็สาวเท้าเดินเข้าไปและเอื้อมมือไปสัมผัส
ทว่ามือนั้นยังมิทันจะสัมผัสโดนตัว เงาร่างนั้นกลับหายไปต่อหน้าต่อตา
ชายหนุ่มได้แต่ยืนค้าง โลมชาติลุกซ่านทั้งกายราวกับสัมผัสลมเย็นยะเยือก
.......................................................................................................
ข่าวลือนั้นถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วจากปากแม่ค้าชาวตลาดซึ่งมีนิสัยปากจัดกันเป็นธรรมดา "โอ๊ย ตอนไปพบนี่นะ พ่อหนุ่มคนนั้นยืนตัวแข็งขนลุกตั้งเลยล่ะ เห็นว่าไปเจอผีหลอกมาล่ะ" แม่ค้าคนหนึ่งพูดขึ้น
"ไม่หรอกมั้ง คงจะแค่คิดไปเองเพราะความมืดมากกว่าแหละ แล้วเกิดกลัวขึ้นมาเอง" แม่ค้าอีกคนที่ยังอยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ กล่าวขึ้น
"แต่ว่าที่ตรงนั้นก็ไม่แน่หรอกนะ เมื่อก่อนน่ะเห็นว่ามีคนตายด้วยล่ะ ไม่แน่อาจจะเป็นวิญญาณของคนๆนั้นก็ได้นะ ดูสิ พูดแล้วขนลุกเลย" แม่ค้าอีกคนกล่าวขึ้นพร้อมทั้งลูบแขนที่ขนลุกตั้งชันให้เรียบดังเดิม
ข่าวนี้ยังคงแพร่สะบัดต่อไปแบบปากต่อปาก ดังนั้นจึงมีการเสริมเกินจริงไปบ้าง แต่โดยรวมก็เป็นข่าวเดียวกันว่าหนุ่มถูกผีหลอกใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง
......................................................................................................
อามาร่าออกมาซื้อของตามปกติของเธอ อีกทั้งตอนนี้มีเฮลิออสคอยเฝ้าบ้านให้ ซึ่งนานๆทีเขาจะออกมา เพราะส่วนใหญ่จะต้องคอยรับมือกับลูน่าที่เข้ามาหาเขา จนออกไปไหนไม่ได้ยกเว้นไปเดินเที่ยวกับเธอ
ซึ่งช่วงนี้มีโคริมาอยู่ด้วยอีกคน ทำให้อามาร่าสังเกตว่าลูน่าเริ่มจะถอยห่างเฮลิออส ไม่เข้าประชิดแนบเนื้อแบบเมื่อก่อน ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่มันทำให้เธอสบายใจขึ้นหน่อย
ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่พอเห็นลูน่าเข้ารุกใส่เฮลิออสแล้วเธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
ดังนั้นเพื่อที่จะไม่ต้องเห็นภาพที่ทำให้ไม่พอใจ เธอจึงเลือกออกมาซื้อของข้างนอกพร้อมกับเดินเล่นแทน
ยามที่ต้องออกไปข้างนอกเพื่อไปซื้อของนั้น เธอจะผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
เป็นสวนสาธารณะแห่งเดียวกับที่เฮลิออสและลูน่าเคยมาเดินด้วยกัน
โชคดีที่อามาร่าไม่รู้ว่าพวกเฮลิออสไปทำอะไรที่ไหน เธอจึงพักผ่อนในที่นี่ได้อย่างสบายใจ กับบรรยากาศอันเย็นสบายใต้ร่มไม้
เธอเดินผ่านสวนสาธารณะนั้นไปทั้งที่ยังรู้สึกเสียดาย เพราะอยากจะนั่งสักนิด แต่ก็ยับยั้งไว้ เพราะเธอต้องไปซื้อของเสียก่อน
......................................................................................................
วันนี้อามาร่าเสียเวลามากกว่าปกติ กว่าเธอจะกลับก็เริ่มจะพลบค่ำแล้ว
ดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า แต่ก็ยังส่องแสงสีแส.ดอ่อนๆให้เห็นได้
เธอผ่านสวนสาธารณะอีกครั้ง เธอเองก็รู้สึกเสียดายว่าไม่น่าจะเสียเวลาซื้อของนานขนาดนั้น แต่เมื่อค่ำแล้วก็ช่วยไม่ได้ เธอจึงตัดใจที่จะนั่งในสวนสาธารณะไปเสีย
เมื่อเดินมาถึงตรงที่เธอคิดจะนั่ง อามาร่าก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่
งดงาม นั่นเป็นสิ่งที่เธอคิดขึ้นมาอันดับแรก จนเธอเผลอมองอย่างชื่นชมจนสังเกตได้ชัด หญิงสาวคนนั้นเห็นเข้าอามาร่าก็รีบก้มหน้าหลบด้วยความเขินกลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเธอคิดชื่นชมทั้งๆที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน
ผิดคาด หญิงสาวกลับมองมาแล้วก็มิได้กล่าวอันใด แล้วหันไปทางอื่น
อามาร่าที่ก้มหน้าหลบแอบเงยขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวไม่สนใจตน ก็มองซ้ายขวาแล้วมองหญิงสาวอย่างพินิจสงสัย
"แปลกดี" อามาร่าคิดหลังจากที่เพ่งมองนาง
ราวกับมีอะไรซักอย่างที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาด
ชุดกระโปรงยาวระบายสีดำเองก็ให้ความรู้สึกลึกลับ
ขณะที่เธอมองอย่างเพลิดเพลินกับความคิดนั้น หญิงสาวก็ได้หันมามอง
สายตาของทั้งสองประสานกันในที่สุด
ดวงตาคู่ที่ประสานมานั้นช่างสวยงามราวกับอัญมณีอันมีค่า
หากแต่ว่ามันกลับส่องประกายราวกับไม่ใช่มนุษย์!!!
................................................................................................................
Wing of Destiny ตอนที่ 34
[IMG]