"อืม อีกนิดเดียวระบบ God System ก็จะสมบูรณ์แล้วล่ะค่ะ"
"ถ้าสมบูรณ์แล้วมันจะใช้ได้จริงๆหรือคะ?"
"เรื่องนี้รับรองว่าได้แน่นอน แต่ว่าปัญหามันก็มีอยู่..."
"ปัญหาที่ว่านั่น..."
"ในเมื่อมันใช้พลังระดับเดียวกับเทพเจ้าแล้ว คนที่บังคับมันได้ก็ต้องเป็นเทพ หากเป็นคนปกติใช้มันก็คงมีแต่ต้องตาย"
"แหม...สร้างระบบน่ากลัวขึ้นมาได้นะคะเนี่ย"
"แต่ถ้าไม่สร้าง อนาคตอาจจะลำบากก็ได้ค่ะ"
"จริงหรือคะ? ว่าแต่อนาคตนี่จะเกิดอะไรขึ้นกันน้า?"
"ฉันคิดว่าคนที่รู้ดีที่สุดก็คือคุณนั่นแหละค่ะ ศาสตราจารย์นันน่าร์"
"แหะๆ รู้จนได้แฮะ สมกับเป็นศาสตราจารย์โคริจริงๆ อ๊ะ ไม่ใช่สิ เทพีแห่งน้ำแข็งโคริสินะคะ"
"..."
"ว่าแต่ลูกชายของคุณเป็นไงบ้างคะ?"
"ลูกชายของฉัน? หมายถึงเขาน่ะเหรอ?"
"ค่ะ...สบายดีสินะคะ?"
"แน่นอนค่ะ เขาเป็นคนร่าเริงอยู่แล้วด้วย ว่าแต่คุณรู้จักลูกของฉันได้ยังไง?"
"...นั่นสิคะ ลองถามลูกชายของคุณดูเองแล้วกัน แต่ว่า...ต่อให้นึกยังไงก็ไม่มีทางจำได้หรอก"
"หมายความว่าไงคะ?"
"อุ๊ย! ได้ยินด้วยหรือคะเนี่ย?"
"ศาสตราจารย์โคริครับ"
"ว่าไงคะ?"
"แหม...ถึงจะมีหางเสียง แต่ว่าหน้าตากลับดูเย็นชาจังนะครับ เรื่องนั้นช่างเถอะ รู้สึกว่าจะมีสายเข้าหาน่ะครับ"
"ใครคะ?"
"เขาบอกว่าขอสายแม่น่ะครับ ไม่รู้ว่าเป็นใครโทรมากวนหรือเปล่า?"
"เข้าใจแล้วค่ะ งั้นฉันขอไปรับสายก่อน ขอบคุณที่มาบอกค่ะ"
โคริเดินออกไป ในขณะที่ชายหนุ่มคนนั้นยังคงยืนอยู่กับที่ด้วยความตกตะลึง
"ศาสตราจารย์โคริ...มีลูกแล้ว???"
เขาพึมพำออกมา
ในที่นี้ ศาสตราจารย์โคริค่อนข้างเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าชายหนุ่มทั้งหลาย เพราะในแผนกนี้นั้นมีแต่คนงานผู้ชาย ดังนั้นเมื่อโคริได้มาทำงาน สั่งงานเอง และค่อนข้างเป็นกันเองกับทุกคน ถึงแม้ว่าท่าทีเย็นชาของเธอจะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ แต่ก็ถูกทดแทนด้วยความงดงามแทน
เรื่องที่ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ไม่มีใครทราบ รู้แค่ว่าจู่ๆเธอก็มาที่นี่ซะแล้ว
ดังนั้นเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายจึงมีความหวังกับเธอ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
และดูเหมือนว่าเขาคนนี้ก็จะเป็นหนึ่งในนั้น
"อ้าว นายที่อยู่ตรงนั้นน่ะ ไม่รู้เหรอว่าศาสตราจารย์โคริน่ะเขามีลูกแล้ว?" นันน่าร์ถามขึ้นเป็นการใส่ฟืนเข้าไป
ชายหนุ่มที่รู้สึกเหมือนกับหัวใจถูกฉีกกระชาก เขาตะโกนตอบไปว่า "ก็ไม่รู้น่ะสิ!!! อ๊ะ!!!..."
เสียงของเขาหยุดลงเมื่อหันมาทางหญิงสาว
"ฝะ ฝะ ฝะ ฝ่าบาท!!! มาทำอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?!!!" เสียงของเขาพูดสั่นด้วยความตกใจ และเปลี่ยนท่าทีอย่างยำเกรง
นันน่าร์ยิ้มอย่างไม่ถือสา แล้วก็พูดว่า "ก็มาธุระนิดหน่อยค่ะ แต่ก็เห็นอะไรดีๆด้วย"
"ที่ว่าเห็นอะไรดีๆนี่...ไม่จริ๊งงงงงง!!!!" ชายหนุ่มเอามือกุมหัวราวกับคนเป็นโรคประสาท ทำหน้าราวกับว่าถึงวันสิ้นโลกมาถึง
"ล้อเล่นค่ะ ล้อเล่น แค่มาธุระอย่างเดียวค่ะ ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ"
"ห๊ะ!" ในที่สุด ชายหนุ่มก็รู้ว่าตัวเองถูกแกล้ง "หนะ...หน็อยแน่ นี่ถ้าไม่ใช่ราชินีล่ะก็โดนแน่!!!" เขาคิด แล้วจ้องมองอย่างมาดร้ายนิดๆ
แต่เมื่อมองความมาดร้ายกลับมลายหายไปสิ้น
"นั่นสิ ความอาฆาตนี่มันไม่ดีเนอะ" สายตาของเขามองไปที่เรือนร่างที่อยู่ตรงหน้า แล้วยิ้มออกมาอย่างสุขใจ
"ถึงจะกวนประสาทนิดหน่อย แต่ฝ่าบาทก็น่า...ดีแฮะ" แน่นอนว่าเขาก็แค่คิด แต่มันกลับหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเหลือเกิน
นันน่าร์มองชายหนุ่ม เธอเห็นเขาจ้องมายังเธอด้วยสายตาที่มองยังไงก็ต้องตอบว่าหื่น "แกล้งสักนิดดีกว่า" เธอคิด
นันน่าร์เดินไปอยู่ข้างหน้าของเขา ระยะไม่ห่างมากนัก เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนเกือบจะโดน
"นี่ นาย"
"อ๊ะ! ครับ เฮ้ย!!!" ชายหนุ่มตกใจจนถอยหลังกลับไป
"จ้องอะไรอยู่น่ะครับ?"
"ฉันต่างหากล่ะคะที่ต้องถาม"
"ห๊ะ ไม่จริงน่า" เขาพึ่งนึกได้ว่าตัวเองต้องแสดงสีหน้าหื่นๆออกไปเป็นแน่แท้
"เล่นจ้องแบบนั้นฉันก็อายน่ะสิคะ" นันน่าร์พูดขึ้นพร้อมกับทำท่าเขินอาย
ชายหนุ่มเห็นนันน่าร์ทำท่าอายอย่างนั้น เขาถึงกับใจเต้นรัวๆ "นะ...น่ารักโคตร!!!!" แน่นอนว่าเขาก็แค่คิด
เธอทำท่าเอียงอาย แขนข้างขวากอดอกแน่นเป็นการเน้นตรงหน้าอกขึ้นมา มือซ้ายยกขึ้นมา ใช้ปากกัดตรงปลายนิ้งกลางเบาๆ
แน่นอนว่าเจออย่างนี้ชายหนุ่มแน่นิ่งไปเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้เขาราวกับกำลังได้ขึ้นสวรรค์
"แหม...ฉันก็ดีใจนะคะที่คุณก็คิดแบบนั้นกับฉัน แต่ว่าเสียใจด้วยนะคะ ฉันเองก็มีสามีแล้วด้วยสิ" สายตาของเธอหลบด้วยความเอียงอาย
"ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" ชายหนุ่มอุทานขึ้น
.........................................................................................................
เรื่องทางนั้นจะเป็นไงต่อก็ช่าง
ทางเฮลิออส
"ขนนกส่องแสงอีกแล้ว" เขาจ้องมองดูขนนกที่ใส่คล้องคอเอาไว้ แล้วเขาก็นึกถึงเรื่องที่ผ่านๆมา สายตาของเขาเหลือบไปเห็นไม้คทา
"ฉันจะไม่ใช้ไอ้นั่นอีกเด็ดขาด!!!"
แล้วเขาก็ลุกเดินออกไป
"นี่อามาร่า เธอบอกว่าตอนเจอกับฉันขนนกนี่มันก็ส่องแสงอยู่ใช่มั้ย?"
"อื้ม...มีอะไรเหรอ?"อามาร่าที่กำลังผัดอะไรบางอย่างที่ส่งกลิ่นชวนรับประทานมาเตะจมูกของเฮลิออสพูดขึ้น
เขาเอามือปาดจมูกทีหนึ่ง แล้วก็บอกว่า "ก็ตอนนี้มันส่องแสงอีกแล้วน่ะสิ"
"งั้นเหรอ? ว่าแต่เฮลี่ เสียงนายทำไมแปลกไปล่ะ?"
"เหรอ? ก็ไม่นี่ เอ๊ะ...จริงด้วยแฮะ"
อามาร่าที่สนใจกับการผัดอะไรบางอย่างจึงไม่ได้หันมามอง
"..."
"เฮลี่ เห็นเงียบไป เป็นอะไร? เจ็บคอเหรอ?"
อามาร่าทำอาหารเสร็จพอดีจึงหันกลับมา
"อ้าว เฮลี่ เป็นอะไรไปน่ะ เฮลี่!!!" อามาร่าตะโกนเรียกดังลั่นบ้าน เธอรีบวางจานอาหารลงอย่างเร็ว แล้ววิ่งไปประคองเฮลิออสให้ลุกขึ้น
"อะไรกัน ตัวร้อนมากเลยนี่นา นี่นายไม่สบายเหรอเนี่ย? ทำไมฉันไม่รู้เลยล่ะ?"
แต่ไม่ว่าจะถามยังไง อีกฝ่ายก็ไม่อาจตอบได้ ดูเหมือนว่าเฮลิออสจะตัวร้อนมากจนสลบไปแล้ว
อามาร่าพาเฮลิออสขึ้นมาที่ห้องเพื่อให้พัก โดยเธอคอยเช็ดตัวเขาอยู่
"ตัวร้อนขนาดนี้ อืม ปรอทวัดไข้เท่าไหร่กันนะ?" แล้วเธอก็เขาปรอทมาวัด
90 องศาเซลเซียส
แน่นอน อามาร่าไม่ได้ตาฝาดแต่อย่างไร และเธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากด้วย
"ก็นะ โลกนี้อะไรมันก็เกิดขึ้นได้"
แล้วทุกอย่างก็เงียบสนิทอีกครั้ง
"นี่เฮลี่" อามาร่าพูดขึ้น แม้ว่าจะดูเหมือนว่าเป็นการพูดคนเดียวก็เถอะ "เมื่อก่อนน่ะ ฉันอยู่คนเดียวมาตลอดเลยนะ พ่อของฉันก็จากไปตั้งแต่ฉันยังเด็กมาก ส่วนแม่ก็คอยดูแลฉันมาด้วยทรัพย์สินที่พ่อทิ้งไว้ แต่สุดท้าย เพราะท่านก็จากฉันไปอีกคน ตอนนั้นน่ะแย่มากเลยล่ะ" เธอมองไปที่เฮลิออสที่นอนอยู่บนเตียง "มีอยู่ครั้งนึงฉันเป็นไข้หนักมาก พ่อแม่ก็ไม่มี ถึงจะมีเงินมาก แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ในตอนนั้นน่ะ ฉันคิดว่าฉันจะตายแล้วซะอีก แถมตอนนั้นฉันก็ไม่มีเพื่อนด้วย ไม่ว่ายังไงตอนนั้นฉันก็คิดแต่ว่าฉันต้องตายแน่ๆ"
"แต่ว่าในตอนที่ฉันหลับเพราะพิษไข้ ฉันกลับรู้สึกว่ามีใครบางคนมาอยู่ข้างๆฉัน พอฉันลืมตาตื่น ฉันก็พบว่ามีผู้ชายคนนึงอยู่จริงๆ ทีแรกฉันก็คิดว่าเขาเป็นโจรจึงไล่เขาออกไป แต่เพราะเป็นไข้ทำให้ฉันสลบไปอีก จนได้มารู้ว่าเขาเดินทางผ่านมาแล้วรู้สึกได้น่ะว่าฉันต้องการความช่วยเหลือ"
อามาร่ามองเฮลิออสที่หลับสนิทอยู่บนเตียง เธอยิ้มแล้วพูดต่อ
"ตอนนั้นฉันมีสภาพไม่ต่างจากนายตอนนี้หรอกนะ แต่ก็ต้องขอบคุณเขาคนนั้นด้วยแหละ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ฉันก็คงไม่หายดีหรอก พอฉันถามเขาว่าทำไมถึงรู้ว่าฉันลำบาก เขากลับยิ้มแล้วตอบมาง่ายๆว่า "ฉันก็แค่รู้สึกได้น่ะ" ฉันเองรู้สึกแปลกใจมากที่ว่าความรู้สึกมันสามารถสื่อถึงกันได้ขนาดนี้เชียวเหรอ? แต่เขากลับลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยนแล้วพูดกับฉันว่า "สักวันเธอคงเข้าใจได้เองแหละ" แต่จะว่าก็ว่า ตอนนี้ฉันยังไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเลยนะ แต่ก็นะ บางทีเขาอาจจะพูดส่งเดชไปงั้นก็ได้"
อามาร่าหยุดพูด เธอหลับตาลงนึกภาพชายคนนั้นอีกครั้ง จากนั้นก็ลืมตาขึ้น
"จะว่าไปนะ ฉันเองก็ไม่รู้ตัวเลยนะ ว่าฉันน่ะ จริงๆแล้วชอบเขาคนนั้น แต่กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่เขาไปแล้ว แล้วอีกอย่าง ฉันในตอนนั้นก็ยังเด็กด้วยแหละ นี่สินะที่เขาเรียกว่ากว่าจะรู้ก็สายไปแล้วน่ะ"
"แต่ว่า ฉันก็พยายามที่จะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นให้ได้แบบเขา แต่ว่าก็ไม่เคยสำเร็จซักที ไม่รู้ทำไม แต่ฉันอาจจะไม่มีความสามารถแบบนั้นก็ได้ จนในที่สุดฉันก็ล้มเลิกมันไป และไม่อยากยุ่งกับใครอีกเลย"
"แต่ว่านะเฮลี่..." ถึงตรงนี้อามาร่าเสียงเบาลง เธอก้มหน้าลงต่ำแล้วเงยขึ้น สูดหายใจเข้าลึก แล้วพูดว่า "ฉันก็ได้พบกับนาย นายทำให้ฉันเปิดใจได้อีกครั้ง นายทำให้ฉันได้รู้จักกับทุกคน ตั้งแต่นายมา ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากเลยล่ะ เรื่องนั้นก็ต้องขอบคุณนายนะ"
อามาร่ายิ้มแล้วมองไปที่เฮลิออส "แต่จะว่าไป อย่างที่ฉันเคยบอก ว่าฉันรักนายน่ะ เป็นเรื่องจริงนะ ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถึงแม้นายจะปฏิเสธและเป็นแค่เพื่อนก็เถอะ แต่ว่าฉันน่ะไม่เคยคิดกับนายแค่เพื่อนเลยนะ"
"ทีแรกฉันเองก็แปลกใจ คิดว่าตัวเองเป็นพวกรักเพศเดียวกันซะอีก แต่ว่าในที่สุด เฮลี่คนนั้นก็กลายเป็นเฮลิออส กลายเป็นนาย และในที่สุด ฉันก็เข้าใจจนได้ว่าความรู้สึกนั้นมันชัดเจนแล้ว แต่ก็นะ ฉันเองก็ไม่กล้าบอกหรอก เพราะยังไม่คิดว่าจะมีใครมาแย่งหรือจะพรากนายไปจากฉัน จนกระทั้งลูน่าที่มาหานายบ่อยๆ ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกว่านายจะชอบใครที่ไหน แต่ว่าเท่าที่ดูลูน่าคงจะชอบนายมากนะ และนายเองก็ไม่เคยจะปฏิเสธเธอเลยซักครั้ง"
"อ๊ะ!! ไหนๆก็พูดเรืองนี้แล้ว ฉันขอบ่นหน่อยเถอะ ว่าถ้าจะทำอะไรกันน่ะก็เพลาๆกันบ้าง ไม่อย่างนั้นฉันได้เสียเงินซื้อเตียงใหม่มาแน่!!!"
อามาร่าบ่นแล้วก็มองใบหน้าของเฮลิออสที่หลับสนิทไม่รู้สึกรู้สาอะไร เธอเห็นแล้วก็ยิ้ม "ใบหน้าตอนหลับนี่ยิ่งดูเหมือนเขาคนนั้นมาก นั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ฉันรักนายมากก็ได้"
"กลับมาเรื่องเก่า ฉันเองก็ไม่ค่อยพอใจนักหรอกที่นายกับลูน่า....เอ่อ....กันน่ะ....อ๊า....จะยังไงก็ช่างฉันเองก็มีหัวใจนะ อย่างน้อยก็อย่าให้ฉันรู้สิ แต่ถึงจะพูดไปก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะนายในตอนนี้น่ะหลับสนิทแน่นอน เอ...จะว่าไปฉันมียาที่ได้มาตอนนั้นนี่นะ ใช่ ลองดูเลยดีกว่า"
ดูท่าสุดท้ายแล้วเฮลิออสคงต้องกลายเป็นหนูลองยาแน่แล้ว
......................................................................................................................
"ถ้าสมบูรณ์แล้วมันจะใช้ได้จริงๆหรือคะ?"
"เรื่องนี้รับรองว่าได้แน่นอน แต่ว่าปัญหามันก็มีอยู่..."
"ปัญหาที่ว่านั่น..."
"ในเมื่อมันใช้พลังระดับเดียวกับเทพเจ้าแล้ว คนที่บังคับมันได้ก็ต้องเป็นเทพ หากเป็นคนปกติใช้มันก็คงมีแต่ต้องตาย"
"แหม...สร้างระบบน่ากลัวขึ้นมาได้นะคะเนี่ย"
"แต่ถ้าไม่สร้าง อนาคตอาจจะลำบากก็ได้ค่ะ"
"จริงหรือคะ? ว่าแต่อนาคตนี่จะเกิดอะไรขึ้นกันน้า?"
"ฉันคิดว่าคนที่รู้ดีที่สุดก็คือคุณนั่นแหละค่ะ ศาสตราจารย์นันน่าร์"
"แหะๆ รู้จนได้แฮะ สมกับเป็นศาสตราจารย์โคริจริงๆ อ๊ะ ไม่ใช่สิ เทพีแห่งน้ำแข็งโคริสินะคะ"
"..."
"ว่าแต่ลูกชายของคุณเป็นไงบ้างคะ?"
"ลูกชายของฉัน? หมายถึงเขาน่ะเหรอ?"
"ค่ะ...สบายดีสินะคะ?"
"แน่นอนค่ะ เขาเป็นคนร่าเริงอยู่แล้วด้วย ว่าแต่คุณรู้จักลูกของฉันได้ยังไง?"
"...นั่นสิคะ ลองถามลูกชายของคุณดูเองแล้วกัน แต่ว่า...ต่อให้นึกยังไงก็ไม่มีทางจำได้หรอก"
"หมายความว่าไงคะ?"
"อุ๊ย! ได้ยินด้วยหรือคะเนี่ย?"
"ศาสตราจารย์โคริครับ"
"ว่าไงคะ?"
"แหม...ถึงจะมีหางเสียง แต่ว่าหน้าตากลับดูเย็นชาจังนะครับ เรื่องนั้นช่างเถอะ รู้สึกว่าจะมีสายเข้าหาน่ะครับ"
"ใครคะ?"
"เขาบอกว่าขอสายแม่น่ะครับ ไม่รู้ว่าเป็นใครโทรมากวนหรือเปล่า?"
"เข้าใจแล้วค่ะ งั้นฉันขอไปรับสายก่อน ขอบคุณที่มาบอกค่ะ"
โคริเดินออกไป ในขณะที่ชายหนุ่มคนนั้นยังคงยืนอยู่กับที่ด้วยความตกตะลึง
"ศาสตราจารย์โคริ...มีลูกแล้ว???"
เขาพึมพำออกมา
ในที่นี้ ศาสตราจารย์โคริค่อนข้างเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าชายหนุ่มทั้งหลาย เพราะในแผนกนี้นั้นมีแต่คนงานผู้ชาย ดังนั้นเมื่อโคริได้มาทำงาน สั่งงานเอง และค่อนข้างเป็นกันเองกับทุกคน ถึงแม้ว่าท่าทีเย็นชาของเธอจะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ แต่ก็ถูกทดแทนด้วยความงดงามแทน
เรื่องที่ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ไม่มีใครทราบ รู้แค่ว่าจู่ๆเธอก็มาที่นี่ซะแล้ว
ดังนั้นเหล่าชายหนุ่มทั้งหลายจึงมีความหวังกับเธอ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
และดูเหมือนว่าเขาคนนี้ก็จะเป็นหนึ่งในนั้น
"อ้าว นายที่อยู่ตรงนั้นน่ะ ไม่รู้เหรอว่าศาสตราจารย์โคริน่ะเขามีลูกแล้ว?" นันน่าร์ถามขึ้นเป็นการใส่ฟืนเข้าไป
ชายหนุ่มที่รู้สึกเหมือนกับหัวใจถูกฉีกกระชาก เขาตะโกนตอบไปว่า "ก็ไม่รู้น่ะสิ!!! อ๊ะ!!!..."
เสียงของเขาหยุดลงเมื่อหันมาทางหญิงสาว
"ฝะ ฝะ ฝะ ฝ่าบาท!!! มาทำอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?!!!" เสียงของเขาพูดสั่นด้วยความตกใจ และเปลี่ยนท่าทีอย่างยำเกรง
นันน่าร์ยิ้มอย่างไม่ถือสา แล้วก็พูดว่า "ก็มาธุระนิดหน่อยค่ะ แต่ก็เห็นอะไรดีๆด้วย"
"ที่ว่าเห็นอะไรดีๆนี่...ไม่จริ๊งงงงงง!!!!" ชายหนุ่มเอามือกุมหัวราวกับคนเป็นโรคประสาท ทำหน้าราวกับว่าถึงวันสิ้นโลกมาถึง
"ล้อเล่นค่ะ ล้อเล่น แค่มาธุระอย่างเดียวค่ะ ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ"
"ห๊ะ!" ในที่สุด ชายหนุ่มก็รู้ว่าตัวเองถูกแกล้ง "หนะ...หน็อยแน่ นี่ถ้าไม่ใช่ราชินีล่ะก็โดนแน่!!!" เขาคิด แล้วจ้องมองอย่างมาดร้ายนิดๆ
แต่เมื่อมองความมาดร้ายกลับมลายหายไปสิ้น
"นั่นสิ ความอาฆาตนี่มันไม่ดีเนอะ" สายตาของเขามองไปที่เรือนร่างที่อยู่ตรงหน้า แล้วยิ้มออกมาอย่างสุขใจ
"ถึงจะกวนประสาทนิดหน่อย แต่ฝ่าบาทก็น่า...ดีแฮะ" แน่นอนว่าเขาก็แค่คิด แต่มันกลับหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเหลือเกิน
นันน่าร์มองชายหนุ่ม เธอเห็นเขาจ้องมายังเธอด้วยสายตาที่มองยังไงก็ต้องตอบว่าหื่น "แกล้งสักนิดดีกว่า" เธอคิด
นันน่าร์เดินไปอยู่ข้างหน้าของเขา ระยะไม่ห่างมากนัก เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนเกือบจะโดน
"นี่ นาย"
"อ๊ะ! ครับ เฮ้ย!!!" ชายหนุ่มตกใจจนถอยหลังกลับไป
"จ้องอะไรอยู่น่ะครับ?"
"ฉันต่างหากล่ะคะที่ต้องถาม"
"ห๊ะ ไม่จริงน่า" เขาพึ่งนึกได้ว่าตัวเองต้องแสดงสีหน้าหื่นๆออกไปเป็นแน่แท้
"เล่นจ้องแบบนั้นฉันก็อายน่ะสิคะ" นันน่าร์พูดขึ้นพร้อมกับทำท่าเขินอาย
ชายหนุ่มเห็นนันน่าร์ทำท่าอายอย่างนั้น เขาถึงกับใจเต้นรัวๆ "นะ...น่ารักโคตร!!!!" แน่นอนว่าเขาก็แค่คิด
เธอทำท่าเอียงอาย แขนข้างขวากอดอกแน่นเป็นการเน้นตรงหน้าอกขึ้นมา มือซ้ายยกขึ้นมา ใช้ปากกัดตรงปลายนิ้งกลางเบาๆ
แน่นอนว่าเจออย่างนี้ชายหนุ่มแน่นิ่งไปเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้เขาราวกับกำลังได้ขึ้นสวรรค์
"แหม...ฉันก็ดีใจนะคะที่คุณก็คิดแบบนั้นกับฉัน แต่ว่าเสียใจด้วยนะคะ ฉันเองก็มีสามีแล้วด้วยสิ" สายตาของเธอหลบด้วยความเอียงอาย
"ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" ชายหนุ่มอุทานขึ้น
.........................................................................................................
เรื่องทางนั้นจะเป็นไงต่อก็ช่าง
ทางเฮลิออส
"ขนนกส่องแสงอีกแล้ว" เขาจ้องมองดูขนนกที่ใส่คล้องคอเอาไว้ แล้วเขาก็นึกถึงเรื่องที่ผ่านๆมา สายตาของเขาเหลือบไปเห็นไม้คทา
"ฉันจะไม่ใช้ไอ้นั่นอีกเด็ดขาด!!!"
แล้วเขาก็ลุกเดินออกไป
"นี่อามาร่า เธอบอกว่าตอนเจอกับฉันขนนกนี่มันก็ส่องแสงอยู่ใช่มั้ย?"
"อื้ม...มีอะไรเหรอ?"อามาร่าที่กำลังผัดอะไรบางอย่างที่ส่งกลิ่นชวนรับประทานมาเตะจมูกของเฮลิออสพูดขึ้น
เขาเอามือปาดจมูกทีหนึ่ง แล้วก็บอกว่า "ก็ตอนนี้มันส่องแสงอีกแล้วน่ะสิ"
"งั้นเหรอ? ว่าแต่เฮลี่ เสียงนายทำไมแปลกไปล่ะ?"
"เหรอ? ก็ไม่นี่ เอ๊ะ...จริงด้วยแฮะ"
อามาร่าที่สนใจกับการผัดอะไรบางอย่างจึงไม่ได้หันมามอง
"..."
"เฮลี่ เห็นเงียบไป เป็นอะไร? เจ็บคอเหรอ?"
อามาร่าทำอาหารเสร็จพอดีจึงหันกลับมา
"อ้าว เฮลี่ เป็นอะไรไปน่ะ เฮลี่!!!" อามาร่าตะโกนเรียกดังลั่นบ้าน เธอรีบวางจานอาหารลงอย่างเร็ว แล้ววิ่งไปประคองเฮลิออสให้ลุกขึ้น
"อะไรกัน ตัวร้อนมากเลยนี่นา นี่นายไม่สบายเหรอเนี่ย? ทำไมฉันไม่รู้เลยล่ะ?"
แต่ไม่ว่าจะถามยังไง อีกฝ่ายก็ไม่อาจตอบได้ ดูเหมือนว่าเฮลิออสจะตัวร้อนมากจนสลบไปแล้ว
อามาร่าพาเฮลิออสขึ้นมาที่ห้องเพื่อให้พัก โดยเธอคอยเช็ดตัวเขาอยู่
"ตัวร้อนขนาดนี้ อืม ปรอทวัดไข้เท่าไหร่กันนะ?" แล้วเธอก็เขาปรอทมาวัด
90 องศาเซลเซียส
แน่นอน อามาร่าไม่ได้ตาฝาดแต่อย่างไร และเธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากด้วย
"ก็นะ โลกนี้อะไรมันก็เกิดขึ้นได้"
แล้วทุกอย่างก็เงียบสนิทอีกครั้ง
"นี่เฮลี่" อามาร่าพูดขึ้น แม้ว่าจะดูเหมือนว่าเป็นการพูดคนเดียวก็เถอะ "เมื่อก่อนน่ะ ฉันอยู่คนเดียวมาตลอดเลยนะ พ่อของฉันก็จากไปตั้งแต่ฉันยังเด็กมาก ส่วนแม่ก็คอยดูแลฉันมาด้วยทรัพย์สินที่พ่อทิ้งไว้ แต่สุดท้าย เพราะท่านก็จากฉันไปอีกคน ตอนนั้นน่ะแย่มากเลยล่ะ" เธอมองไปที่เฮลิออสที่นอนอยู่บนเตียง "มีอยู่ครั้งนึงฉันเป็นไข้หนักมาก พ่อแม่ก็ไม่มี ถึงจะมีเงินมาก แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ในตอนนั้นน่ะ ฉันคิดว่าฉันจะตายแล้วซะอีก แถมตอนนั้นฉันก็ไม่มีเพื่อนด้วย ไม่ว่ายังไงตอนนั้นฉันก็คิดแต่ว่าฉันต้องตายแน่ๆ"
"แต่ว่าในตอนที่ฉันหลับเพราะพิษไข้ ฉันกลับรู้สึกว่ามีใครบางคนมาอยู่ข้างๆฉัน พอฉันลืมตาตื่น ฉันก็พบว่ามีผู้ชายคนนึงอยู่จริงๆ ทีแรกฉันก็คิดว่าเขาเป็นโจรจึงไล่เขาออกไป แต่เพราะเป็นไข้ทำให้ฉันสลบไปอีก จนได้มารู้ว่าเขาเดินทางผ่านมาแล้วรู้สึกได้น่ะว่าฉันต้องการความช่วยเหลือ"
อามาร่ามองเฮลิออสที่หลับสนิทอยู่บนเตียง เธอยิ้มแล้วพูดต่อ
"ตอนนั้นฉันมีสภาพไม่ต่างจากนายตอนนี้หรอกนะ แต่ก็ต้องขอบคุณเขาคนนั้นด้วยแหละ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ฉันก็คงไม่หายดีหรอก พอฉันถามเขาว่าทำไมถึงรู้ว่าฉันลำบาก เขากลับยิ้มแล้วตอบมาง่ายๆว่า "ฉันก็แค่รู้สึกได้น่ะ" ฉันเองรู้สึกแปลกใจมากที่ว่าความรู้สึกมันสามารถสื่อถึงกันได้ขนาดนี้เชียวเหรอ? แต่เขากลับลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยนแล้วพูดกับฉันว่า "สักวันเธอคงเข้าใจได้เองแหละ" แต่จะว่าก็ว่า ตอนนี้ฉันยังไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเลยนะ แต่ก็นะ บางทีเขาอาจจะพูดส่งเดชไปงั้นก็ได้"
อามาร่าหยุดพูด เธอหลับตาลงนึกภาพชายคนนั้นอีกครั้ง จากนั้นก็ลืมตาขึ้น
"จะว่าไปนะ ฉันเองก็ไม่รู้ตัวเลยนะ ว่าฉันน่ะ จริงๆแล้วชอบเขาคนนั้น แต่กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่เขาไปแล้ว แล้วอีกอย่าง ฉันในตอนนั้นก็ยังเด็กด้วยแหละ นี่สินะที่เขาเรียกว่ากว่าจะรู้ก็สายไปแล้วน่ะ"
"แต่ว่า ฉันก็พยายามที่จะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นให้ได้แบบเขา แต่ว่าก็ไม่เคยสำเร็จซักที ไม่รู้ทำไม แต่ฉันอาจจะไม่มีความสามารถแบบนั้นก็ได้ จนในที่สุดฉันก็ล้มเลิกมันไป และไม่อยากยุ่งกับใครอีกเลย"
"แต่ว่านะเฮลี่..." ถึงตรงนี้อามาร่าเสียงเบาลง เธอก้มหน้าลงต่ำแล้วเงยขึ้น สูดหายใจเข้าลึก แล้วพูดว่า "ฉันก็ได้พบกับนาย นายทำให้ฉันเปิดใจได้อีกครั้ง นายทำให้ฉันได้รู้จักกับทุกคน ตั้งแต่นายมา ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากเลยล่ะ เรื่องนั้นก็ต้องขอบคุณนายนะ"
อามาร่ายิ้มแล้วมองไปที่เฮลิออส "แต่จะว่าไป อย่างที่ฉันเคยบอก ว่าฉันรักนายน่ะ เป็นเรื่องจริงนะ ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถึงแม้นายจะปฏิเสธและเป็นแค่เพื่อนก็เถอะ แต่ว่าฉันน่ะไม่เคยคิดกับนายแค่เพื่อนเลยนะ"
"ทีแรกฉันเองก็แปลกใจ คิดว่าตัวเองเป็นพวกรักเพศเดียวกันซะอีก แต่ว่าในที่สุด เฮลี่คนนั้นก็กลายเป็นเฮลิออส กลายเป็นนาย และในที่สุด ฉันก็เข้าใจจนได้ว่าความรู้สึกนั้นมันชัดเจนแล้ว แต่ก็นะ ฉันเองก็ไม่กล้าบอกหรอก เพราะยังไม่คิดว่าจะมีใครมาแย่งหรือจะพรากนายไปจากฉัน จนกระทั้งลูน่าที่มาหานายบ่อยๆ ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกว่านายจะชอบใครที่ไหน แต่ว่าเท่าที่ดูลูน่าคงจะชอบนายมากนะ และนายเองก็ไม่เคยจะปฏิเสธเธอเลยซักครั้ง"
"อ๊ะ!! ไหนๆก็พูดเรืองนี้แล้ว ฉันขอบ่นหน่อยเถอะ ว่าถ้าจะทำอะไรกันน่ะก็เพลาๆกันบ้าง ไม่อย่างนั้นฉันได้เสียเงินซื้อเตียงใหม่มาแน่!!!"
อามาร่าบ่นแล้วก็มองใบหน้าของเฮลิออสที่หลับสนิทไม่รู้สึกรู้สาอะไร เธอเห็นแล้วก็ยิ้ม "ใบหน้าตอนหลับนี่ยิ่งดูเหมือนเขาคนนั้นมาก นั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ฉันรักนายมากก็ได้"
"กลับมาเรื่องเก่า ฉันเองก็ไม่ค่อยพอใจนักหรอกที่นายกับลูน่า....เอ่อ....กันน่ะ....อ๊า....จะยังไงก็ช่างฉันเองก็มีหัวใจนะ อย่างน้อยก็อย่าให้ฉันรู้สิ แต่ถึงจะพูดไปก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะนายในตอนนี้น่ะหลับสนิทแน่นอน เอ...จะว่าไปฉันมียาที่ได้มาตอนนั้นนี่นะ ใช่ ลองดูเลยดีกว่า"
ดูท่าสุดท้ายแล้วเฮลิออสคงต้องกลายเป็นหนูลองยาแน่แล้ว
......................................................................................................................
Wing of Destiny ตอนที่ 36
[IMG]