สิ่งหนึ่งที่ทำให้วิดิโอเกมแทบทุกสมัยนั้น ก็คือเรื่องของเพลงประกอบที่สามารถดึงอารมณ์ของผู้เล่นให้มีประสปการณ์ร่วมกับสิ่งที่ทีมพัฒนากำลังนำเสนอ และสร้างความประทับใจแก่เกมเมอร์มาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน บทเพลงที่เด่น และดังในโลกของวิดิโอเกมมีนับหมื่นๆเพลงที่อยู่ในความทรงจำชนิดที่ “ได้ยินอินโทรก็รู้เรื่อง” กันเลย
และนี่คือ “10 สุดยอดเพลงประกอบเกมยอดเยี่ยมตลอดกาล” จากการจัดอันดับของเวปไซท์ www.factmag.com เวปไซท์รวบรวมสถิติสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับวงการเพลง และร่วมกันโหวตโดยผู้สันทัดกรณีด้านการทำเพลงมากมายในช่วงปี 2015 (ส่วนใหญ่ก็คอลัมนิสท์ของเวปไซท์นั่นแหละ) ก็เลยถือโอกาสหยิบมานำเสนอให้ได้หามาลองฟังกันดู ว่าระดับโลกเขายกให้เพลงจากเกมอะไรเป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด อย่าช้า ไปลองฟังกันเลย
10. Red Dead Redemption
ประพันธ์โดย Bill Elm และ Woody Jackson
(ระบบ PS3 / Xbox 360 วางจำหน่ายในปี 2010)
อันนี้ทางโซนอเมริกาจะชื่นชอบมาก เพราะตัวเกมถ่ายทอดบรรยากาศของยุคคาวบอยอันร้อนระอุ บวกกับเสียงเพลงประกอบหลายๆเพลงจากเกมนี้ ได้สามารถสร้างบรรยากาศชวนหวีดหวิว เป็นส่วนสำคัญให้เกม Red Dead Redemption เป็นเกมที่ตราตรึงใจสำหรับสายเสพเนื้อเรื่อง และผู้ที่ชื่นชอบความเป็นคาวบอยปืนเถื่อนได้เป็นอย่างดี
นอกจากเพลงที่ประพันธ์โดย Bill Elm และ Woody Jackson แล้ว ยังมีเพลง ‘Far Away’ ที่ประพันธ์โดย Jose Gonzalez’s ที่ให้บรรยากาศแบบแม็กซิกันด้วย
9. Portal
ประพันธ์โดย Kelly Bailey และ Mike Morasky
(ระบบ PC วางจำหน่ายในปี 2007)
ไม่รู้ว่าคนจัดอันดับ หรือทำผลสำรวจนี่ไปโดนกาวกระป๋องไหนมา เพราะเพลงจากเกม Portal ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่ให้บรรยากาศอึมครึม ลึกลับ วังเวงในแบบไซไฟหุ่นยนต์ในโลกปริศนา โดยตัวเกมเดินเรื่องโดยเจ้าหุ่นยนต์อ้วนผอม คู่หูสุดน่ารักน่าหยิก ที่ต้องร่วมมือกันฝ่าปริศนาเขาวงกตไซเบอร์สารพัดรูปแบบ บวกกับเพลงแนวอึมทึมแบบนี้ ทำเอาอยากจะประสาทเสีย แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันเข้ากับ Theme ของเกมอย่างน่าอัศจรยย์ หลายๆเพลงทำออกมาล้ำ และยังติดหูคอเกมเสมอๆ
8. Streets Of Rage 2
ประพันธ์โดย Yuzo Koshiro และ Motohiro Kawashima
(ระบบ Sega Genesis วางจำหน่ายในปี 1992)
ย้อนกลับไปในยุคของ “สงครามเครื่องคอนโซล” ทาง SEGA ที่อยู่ในสถานะ “ไก่รองบ่อน” ทำอะไรๆก็ตามหลังนินเทนโดเสมอ (โดยเฉพาะในอเมริกา) ถึงแม้ว่านินเทนโด จะถูกมองว่าเป็นเครื่องเล่นเกมจของเด็กๆ ทาง Sega จึงส่งเกมลงเครื่อง Sega Genesis ที่พยายามผลักดันอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในแบบวัยรุ่นเลือดร้อน และเกม Streets of Rage ก็ได้นำเสนอแนวทางที่ดุดัน จนคว้าเรท M ไปครอง ซึ่งถือว่าเป็นเกมแรกๆของ SEGA ที่วางขายในอเมริกา โดยเน้นไปในแนวทางเครื่องเล่นวัยรุ่น นั่นเอง
ด้วยเทคนิคดนตรีสไตล์อิเลคโทรนิคส์ ที่มีความเป็นแนวเฮาส์ และบลูส์ในหลายๆเพลงที่ใช้ในเกม จึงกลายเป้นที่จดจำของผู้เล่นโซนตะวันตกยุค 90 ไป ฟังๆดูมันก็ตื้ดๆ มันส์ๆเพลินๆดี
7. Katamari Damacy
ประพันธ์โดย Yuu Miyake, Asuka Sakai, Akitaka Tohyama, Hideki Tobeta, Yoshihito Yano, Yuri Misumi
(ระบบ PS2 วางจำหน่ายในปี 2004)
ดนตรีแนวใสๆ ฟังสบายๆ สนุกๆ ด้วยป๊อปใสๆแนวญี่ปุ่น ผสานกับอิเลคโทรนิคส์ที่น่าสนใจ และเข้ากับงานศิลป์ของตัวเกม ทำให้เข้ากับตัวเกมที่เป็นเกมที่เน้นจินตนาการสูงๆ จิตใจลอยล่อง ใครที่อยากได้แนวๆผ่อนคลาย ซาวนด์แทรคจากเกมๆนี้ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยครับ!
6. Silent Hill
ประพันธ์โดย Akira Yamaoka
(ระบบ PSX วางจำหน่ายในปี 1999)
ยุค 90 เป็นช่วงเวลาการเติบโตของเกมแนว Survival horror และ Silent Hills ก็ตอบโจทย์ของการทำเพลงประกอบเกมสยองขวัญ มันทั้งน่าจดจำ ไพเราะติดหู และหดหู่อารมณ์ปนลึกลับแบบเพลงประกอบภาพยนตร์สยองขวัญ
แต่เดิมเพลงประกอบเกมไซเลนท์ฮิลล์ เป็นเพลงที่แต่งโดยนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ แต่ก็ยกเลิกไปก่อน แล้วก็ส่งต่อให้Akira Yamaoka นักแต่งเพลงชาวญี่ปุ่นที่หยิบเอาดนตรี British electro pop และดันให้ไปในทิศทางที่หม่นหมอง ลึกลับ แต่ฟังเพลินๆได้ นับว่าเป็นนักแต่งเพลงประกอบเกมคู่บุญของซีรี่ส์ไซเลนท์ ฮิลล์เลยก็ว่าได้
5. Super Metroid
ประพันธ์โดย Kenji Yamamoto และ Minako Hamano
(ระบบ SNES วางจำหน่ายในปี 1994)
นี่ก็เป็นอีกเกมที่เล่นใหญ่กับซาวนด์ดนตรี เมื่อธีมตะลุยอวกาศระดับตำนานอย่าง Metroid โดดเข้าสู่ระบบใหม่อย่าง ซูเปอร์นินเทนโด ที่มีการให้รายละเอียดของเสียงที่ดีมากๆในช่วงต้นยุค 90 ทีมพัฒนาจึงได้มอบหมายให้สองนักประพันธฺเพลงKenji Yamamoto และ Minako Hamano มาทำหน้าที่แต่งเพลงภายใต้โจทย์ที่แตกต่างจากภาคก่อนๆ และภาคนี้ พวกเขาก็เล่นเพลงที่มีลักษณะคล้ายกับ “ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์”ที่ดูหนักแน่น อึมครึม ทำให้เมทรอยด์ฉบับลงระบบซูเปอร์ฟามิคอมดูมีความอลังการด้านงานเพลงขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเลย…
และนี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่เหล่านักฟังเพลง ชื่นชอบการเรียบเรียงดนตรีของเกมๆนี้ ก็เป็นได้…
4. Rockman 2
ประพันธ์โดย Takashi Tateishi
(ระบบ NES วางจำหน่ายในปี 1988)
นี่คือเพลงประกอบเกมร๊อคแมนที่ดีที่สุด แฟนๆให้การตอบรับ และนำมาโคฟเวอร์ เรียบเรียงใหม่มากที่สุดในบรรดาเกมร๊อคแมนทุกภาค ด้วยดนตรีที่เร้าใจในสไตล์ 8บิทสุดมันส์ มีความเป็น เมทัล กึ่งๆ นีโอคลาสสิคหลายๆบทเพลง รวมไปถึงแจ๊ส ฟังก์ และอิเลคโทรนิคส์แบบยุค 80 ที่เน้นจังหวะลงห้อง และ BPM ที่ค่อนข้างเร็วทำให้การเล่นร๊อคแมนภาค 2 อยู่ในความทรงจำเกมมอร์รุ่นใหญ่หลายๆคน ไม่ว่าจะด้วยเพลง หรือความยากระดับปาจอยทิ้งก็ตาม…
นอกจากนี้ “นิตยสารเกมฟามิสึ”ของญี่ปุ่นยังเคยยกให้เพลงจากร๊อคแมนภาคนี้เป้นเพลงที่ดีที่สุดในระบบฟามิคอม เพลงหนึ่งเลยทีเดียว
3. The Last Of Us
ประพันธ์โดย Gustavo Santaolalla
(ระบบ PS3 วางจำหน่ายในปี 2013)
เมื่อโคตรเกม มาพร้อมกับโคตรซาวนด์แทรค = ประสปการณ์การดึงอารมณ์ขั้นเทพ ด้วยเรื่องราวที่ดราม่าที่สะกดผู้ชมราวกับภาพยนตร์ชั้นยอด เกมเพลย์ที่สนุกตื่นเต้นทุกนาที ทุกอย่างที่ Gustavo Santaolalla ใส่ลงมาในเกม เขาอธิบายว่า เป็นการปล่อยไปตามอารมณ์ของเหตุการณ์และตัวละคร ส่วนเพลงที่เขาแต่ง จะเป็นการขยี้ให้ถึงแก่นของสิ่งที่จะนำเสนอ มันมั้งงดงาม ละเมียดละไม เรียกได้ว่าเทพตั้งแต่ตัวเกมยันเพลงกันเลย ไม่แปลกที่เกมนี้จะมีใครหลายๆคนรอภาคต่ออย่าง The Last of Us2 ที่จะสานต่อเรื่องราวหลังจากภาคแรกนั่นเอง…
2. Chrono Trigger
ประพันธ์โดย Yasunori Mitsuda, Nobuo Uematsu, Noriko Matsueda
(ระบบ SNES วางจำหน่ายในปี 1995)
นี่คืองานรวมพลนักแต่งเพลงค่าย Square Enix ระดับ “ซือแป๋” (ปรมาจารย์) ที่รังสรรค์บทเพลงที่สมกับเป็นเกม RPG ในตำนานอีกหนึ่งเกมจากยุค 90 ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ดีไซน์ตัวละครที่สวยงาม และคุ้นตาโดยผู้วาด ดราก้อนบอล Z ซึ่งบรรยากาศของเกม และเพลงโดยรวมจะต่างจากซีรี่ส์ไฟนอลแฟนตาซีพอสมควร เพราะใน Chrono Trigger จะค่อนข้างออกไปในโทนสดใส สงบ สบาย และเร้าใจกว่านั่นเอง ลองหามาฟังกันได้ เหมือนพวกฝรั่งจะชอบอะไรที่สดใสสบายหู Easy Listening พอสมควรเลย
1. Ico
ประพันธ์โดย Michiru Oshima, Koichi Yamazaki, Mitsukuni Murayama
(ระบบ PS2 วางจำหน่ายในปี 2001)
อันนี้เชื่อว่าหลายๆคนคงชื่นชอบเพลงประกอบจากเกมนี้อย่างแน่นอน แต่ในต่างประเทศไปไกลกว่าคำว่าชอบ เพราะเล่นยกให้เป็นซาวนด์แทรคขึ้นหิ้งตลอดกาล หลายสำนักเหมือนกัน ด้วยดนตรีที่มีหลากหลายแนว ทั้งสนุก เศร้า เหงา และครุ่นคิด ฟังสบายปนหน่วงๆเหงาๆตามอารมณ์ของเกมที่จะนำเสนอในช่วงนั้น สอดผสานกับเกมเพลย์ที่มีการเล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิง รวมไปถึงฉากจบที่มีหลายแบบ จึงพูดได้เต็มปากว่า นี่เป็นเกมที่สร้างความประทับใจในยุคแรกๆของ PS2 เป็นอย่างมาก ชนิดที่เรียกว่า “คอเกมแนว Action Adventure ต้องไม่พลาด”
CR.FACTMAG
CR.AK47
[IMG]