/*เดียวขอใส่รูปทีหลังละกันครับ กว่าจะเสร็จก็เกือบเช้าแล้ว*/
ผมได้เห็นข่าวว่า มีประธานบริษััทหนึ่งกล่าวว่า Single Player นั้นตายแล้ว แน่นอนต้องมีคนแย้งอยู่แล้ว
ผมจะบอกว่า Single Player ตายแล้วจริงหรือ ตามที่ผมคิด
ผมจะจำแนกว่าเกมส่วนใหญ่นั้นจะขึ้นกับ 4 สิ่งนี้คือ
1.เกมที่เน้น หวังกำไรเพียงอย่างเดียว เกมพวกนี้ จะเน้นที่ว่า ทำยังไงถึงจะได้กำไรสูงที่สุด แน่นอนว่าช่วงหลังๆนี้ จะมี Loot box หรือ Gacha จำนวนมาก ทั้งๆที่ต้องจ่ายค่าเกมหลัก แล้วต้องมีระบบ การพนัน พวกนี้อีก หรือง่ายๆว่า ทำยังไงก็ ถึงผู้เล่นจะจ่ายมากที่สุด โดยสมยอม โดยจะมาในรูปแบบต่างๆ มาในรูปแบบ Micro-transactions จำนวนมากๆ หรือ Lootbox(Gacha) จำนวนประเภทกล่องมาก เกมพวกที่ก็ เช่น Fate เกลือ , COD (ช่วงหลังๆนี้) , Battlefield one , Battlefornt 1 , CSGO // Middle Earth : Shadow of war ยังไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนจะเน้นทำกำไรมากกว่า
โดยสังเกตว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเกมพวก Mutiplayer มากกว่า เน้นให้ผู้เล่น เล่นซ้ำๆ หรือ ออก Event เยอะๆให้ มีประเภทของกล่อง หรือ ตู้กาชาเยอะๆ ให้กระตุกต่อมผู้เล่นให้ กดจ่ายเงินเพื่อจะได้ของมา แต่เป็นการสุ่มของ เพื่อให้ผู้เล่นจ่ายซ้ำๆ หรือ เป็นการจ่ายเงินสุ่มเพื่อของที่ดีกว่าทีหาในเกมปกติ และก็จะมีการแข่ง E-Sport เพื่อกระตุ้นให้มีผู้เล่น เล่นตลอด เพื่อ กระตุ้นการขาย Lootbox ภายในตัว
2.เกมที่เน้นในงานศิลป์ที่คล้ายภาพยนต์ หรือความคิดที่แหวกแนวใหม่ๆ เกมพวกที่มักจะเป็นเกม ที่เน้นSingle Player หรือ Co-op อาจจะมี Mutiplayer ไว้เป็นระบบเสริม ส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องดี เข้มข้น รวมกับ Gameplayที่ดี ที่ออกมาแล้วทำให้ ผู้เล่นเกิดความอิน ที่มากกว่าดูหนังในโรงภาพยนต์ เนื่องจากผู้เล่นได้คล้ายกระทำเหมือน ที่ต่างการดูเฉยๆ เกมพวกนี้ ถ้าทำออกมาดี ก็จะถูกชื่นชม แล้วถ้าเจอกับบริษัท ที่ถนันขายงานศิลป์ก็จะทำกำไรได้มาก อย่างเช่น
Fallout ที่เราจะได้เหมือนสัมผัส โลกหลังสงคราม นิวเคลียร์ ได้ทำ Quest ต่างๆ ,
The Evil Within เกมที่เราได้เหมือนหนี หรือ สู้ กับตัวประหลาด ที่หลุดออกมาจาก หนัง สยองขวัน ที่ฉาก ก็ สยองไม่แพ้กัน,
Resident Evil (ช่วงยุกแรกๆ กับ ภาค 7) ที่ได้สำรวจสถานที่ ที่เจ้าของเป็นบ้า หรือไม่ก็โรคจิต แต่ยกเว้น ภาค 5 กับ 6 ที่จะเน้นไปทาง หนังสงครามซะมากกว่า,
Uncharted ที่เราจะได้สัมผัว การ ผจณภัยในโลกกว้าง เพื่อตามหาสมบัตร อย่างกะ Indiana Jones ,
Heavy Rain เกมที่เราจะเลือก ตัดสินใจ ทุกการกระทำ ส่งผลต่ออนาคตของเนื้อเรื่องที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ (ยกเว้นจะเล่นใหม่)
Doki Doki Literature Club เกม Vistual Novel ที่เราสัมผัสได้ว่า เหมือนเธอจะอยู่ใน Computer ของเราจริงๆ เหมือนเธอมีตัวตนที่สิงค์อยู่ในคอมของเรา
3.เกมที่เน้นในทิศทาง คล้าย Board Game เกมพวกนี้ จะออกแนวคล้ายเกมที่เป็น Party ซะมากกว่า ส่วนใหญ่จะเล่นได้น้อยๆ ไม่เกิน 10 คน มักจะเน้นการสื่อสารเป็นจำนวนมาก เล่นสนุก สุดๆเมื่อเล่นกับเพื่อน มักมีEvent ออกมาเรื่อยๆ หรือ ด่านใหม่ๆ มักชอบมี Micro-transactions , Lootbox และ DLC มักจะเลือก อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ก็ ไม่เอาเลยก็มี เช่นเกม
Decuit
Dead by Daylight
Pop hunt (Garry's Mod)
Left 4 Dead
FFXV // ดูทรงแล้วจะเป็นแบบนั้นนะ
4.เกมที่เล่นคล้ายเป็นกีฬา เป็นเกมที่ฝีกทักษะ มีการแข่งขัน มีการทำแต้มส่วนใหญ่เป็นเกม Simulation หรือเกม Casual เกมพวกที่ สามารถรวมไปกับ การทำกำไรได้ด้วย เหมือนกับข้อแรก แต่ก็มีบางเกมที่จะไม่ค่อยเน้นกำไร จะออกเป็นแนวงานศิลป์ด้วยซ้ำ(แต่ก็สามารถนำมาร่วมกันได้ ถ้าเก่งพอ) ส่วนใหญ้มักออก DLC อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ออก Lootbox หรือ ออก LootBox และ Microtransactions ไม่ออก DLC ผู้สร้างที่ไม่ออก Lootboxจะไม่ยากทำลายฐานแฟนเกม เพราะเกมพวกนี้ เฉพาะกลุ่มมากๆ และผู้สร้าง ที่ออกระบบ Lootbox เพราะต้องการ กำไรซึ่งไปเชื่อมกับข้อแรก และมักจะมีทั้งSingle Player และ Mutiplayer แต่เป็นเกม Mutiplayer มันก็จะมี Loot Box และ Microtransactions ก็สามารถเชื่อมไปยังข้อแรกได้อีกเหมือนกัน เช่น
Dirt serise เป็นเกม แข่งรถ Simulation ทางวิบาก มักชอบออก DLC รถใหม่ๆเสมอ
Cytus เป็นเกมเพลง ที่ออกมาเมื่อปี 2009 โดยเป็นเกมแนว Music Rythem ที่ชอบออก DLC โดยช่วงแรกเป็นการขายเกมเต็ม 3 USD และก็ยังจะมีเนื้อเรื่อง ที่คลุมเคลือ ซะยิ่งกว่า Dark Soul แต่ก็พอจับใจความได้ ปัจจุบันก็ยังมีคนเล่นอยู่เพราะ เพลงนั้น ยากมาก และ ท้าทายผู้เล่นเสมอ
CSGO และ DOTA 2 เป็นเกม ที่เน้นให้ผู้เล่นวางแผนภายในทีม และ ฝึกทักษะ เพื่อไว้ล้มทีมฝั่งตรงข้าม ไปเรื่อยๆ (ก็ Casual ไง)
Hatsue Miku Project Diva เกมนี้หละ โคตรจะเฉพากลุ่ม แต่ก็ไม่ได้งานกว่าที่คิด โดยแบ่งเป็นภาคปกติ กับ ภาคที่เน้นความยากเป็นพิเศษ ที่ทั้งสอง ก็มีรูปแบบเดียวกับคือ เกมแนว Music Rythem ที่จะมี DLC ออกมาเยอะ ทุกภาค ในแบบปกติ และ จะมี Season Pass ในส่วนของที่แบบยากเป็นพิเศษ โดยเกมนี้ สงวน เฉพาะ 3DS , PS4 , PSP และ PSVita เท่านั้น ส่วนเกมตู้ผมไม่นับ เพราะเหมือนเอาภาคที่ยากพิเศษ มา Port ทำเกมตู้มากกว่า
Tetris เกมนี้หละ เกมคู่โลก ของมวลมนุษยชาติ เป็นเกมที่ฝึกทักษะ เพื่อจะให้ได้แต้มมากที่สุด และทุกวันนี้ก็ยังมีการแข่งขันอยู่ทุกๆปี เป็นเกมที่ Port มาได้ทุก Platform ตั้งแต่ Computer , Console , Handheld , เครื่องคิดเลข , มือถือ , รถกะบะ คือ มัน Port ได้ทุกอย่างที่คนสร้างมันอยากจะใส่นั้นหละ
ผมได้เห็นข่าวว่า มีประธานบริษััทหนึ่งกล่าวว่า Single Player นั้นตายแล้ว แน่นอนต้องมีคนแย้งอยู่แล้ว
ผมจะบอกว่า Single Player ตายแล้วจริงหรือ ตามที่ผมคิด
ผมจะจำแนกว่าเกมส่วนใหญ่นั้นจะขึ้นกับ 4 สิ่งนี้คือ
1.เกมที่เน้น หวังกำไรเพียงอย่างเดียว เกมพวกนี้ จะเน้นที่ว่า ทำยังไงถึงจะได้กำไรสูงที่สุด แน่นอนว่าช่วงหลังๆนี้ จะมี Loot box หรือ Gacha จำนวนมาก ทั้งๆที่ต้องจ่ายค่าเกมหลัก แล้วต้องมีระบบ การพนัน พวกนี้อีก หรือง่ายๆว่า ทำยังไงก็ ถึงผู้เล่นจะจ่ายมากที่สุด โดยสมยอม โดยจะมาในรูปแบบต่างๆ มาในรูปแบบ Micro-transactions จำนวนมากๆ หรือ Lootbox(Gacha) จำนวนประเภทกล่องมาก เกมพวกที่ก็ เช่น Fate เกลือ , COD (ช่วงหลังๆนี้) , Battlefield one , Battlefornt 1 , CSGO // Middle Earth : Shadow of war ยังไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนจะเน้นทำกำไรมากกว่า
โดยสังเกตว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเกมพวก Mutiplayer มากกว่า เน้นให้ผู้เล่น เล่นซ้ำๆ หรือ ออก Event เยอะๆให้ มีประเภทของกล่อง หรือ ตู้กาชาเยอะๆ ให้กระตุกต่อมผู้เล่นให้ กดจ่ายเงินเพื่อจะได้ของมา แต่เป็นการสุ่มของ เพื่อให้ผู้เล่นจ่ายซ้ำๆ หรือ เป็นการจ่ายเงินสุ่มเพื่อของที่ดีกว่าทีหาในเกมปกติ และก็จะมีการแข่ง E-Sport เพื่อกระตุ้นให้มีผู้เล่น เล่นตลอด เพื่อ กระตุ้นการขาย Lootbox ภายในตัว
2.เกมที่เน้นในงานศิลป์ที่คล้ายภาพยนต์ หรือความคิดที่แหวกแนวใหม่ๆ เกมพวกที่มักจะเป็นเกม ที่เน้นSingle Player หรือ Co-op อาจจะมี Mutiplayer ไว้เป็นระบบเสริม ส่วนใหญ่จะเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องดี เข้มข้น รวมกับ Gameplayที่ดี ที่ออกมาแล้วทำให้ ผู้เล่นเกิดความอิน ที่มากกว่าดูหนังในโรงภาพยนต์ เนื่องจากผู้เล่นได้คล้ายกระทำเหมือน ที่ต่างการดูเฉยๆ เกมพวกนี้ ถ้าทำออกมาดี ก็จะถูกชื่นชม แล้วถ้าเจอกับบริษัท ที่ถนันขายงานศิลป์ก็จะทำกำไรได้มาก อย่างเช่น
Fallout ที่เราจะได้เหมือนสัมผัส โลกหลังสงคราม นิวเคลียร์ ได้ทำ Quest ต่างๆ ,
The Evil Within เกมที่เราได้เหมือนหนี หรือ สู้ กับตัวประหลาด ที่หลุดออกมาจาก หนัง สยองขวัน ที่ฉาก ก็ สยองไม่แพ้กัน,
Resident Evil (ช่วงยุกแรกๆ กับ ภาค 7) ที่ได้สำรวจสถานที่ ที่เจ้าของเป็นบ้า หรือไม่ก็โรคจิต แต่ยกเว้น ภาค 5 กับ 6 ที่จะเน้นไปทาง หนังสงครามซะมากกว่า,
Uncharted ที่เราจะได้สัมผัว การ ผจณภัยในโลกกว้าง เพื่อตามหาสมบัตร อย่างกะ Indiana Jones ,
Heavy Rain เกมที่เราจะเลือก ตัดสินใจ ทุกการกระทำ ส่งผลต่ออนาคตของเนื้อเรื่องที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ (ยกเว้นจะเล่นใหม่)
Doki Doki Literature Club เกม Vistual Novel ที่เราสัมผัสได้ว่า เหมือนเธอจะอยู่ใน Computer ของเราจริงๆ เหมือนเธอมีตัวตนที่สิงค์อยู่ในคอมของเรา
3.เกมที่เน้นในทิศทาง คล้าย Board Game เกมพวกนี้ จะออกแนวคล้ายเกมที่เป็น Party ซะมากกว่า ส่วนใหญ่จะเล่นได้น้อยๆ ไม่เกิน 10 คน มักจะเน้นการสื่อสารเป็นจำนวนมาก เล่นสนุก สุดๆเมื่อเล่นกับเพื่อน มักมีEvent ออกมาเรื่อยๆ หรือ ด่านใหม่ๆ มักชอบมี Micro-transactions , Lootbox และ DLC มักจะเลือก อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ก็ ไม่เอาเลยก็มี เช่นเกม
Decuit
Dead by Daylight
Pop hunt (Garry's Mod)
Left 4 Dead
FFXV // ดูทรงแล้วจะเป็นแบบนั้นนะ
4.เกมที่เล่นคล้ายเป็นกีฬา เป็นเกมที่ฝีกทักษะ มีการแข่งขัน มีการทำแต้มส่วนใหญ่เป็นเกม Simulation หรือเกม Casual เกมพวกที่ สามารถรวมไปกับ การทำกำไรได้ด้วย เหมือนกับข้อแรก แต่ก็มีบางเกมที่จะไม่ค่อยเน้นกำไร จะออกเป็นแนวงานศิลป์ด้วยซ้ำ(แต่ก็สามารถนำมาร่วมกันได้ ถ้าเก่งพอ) ส่วนใหญ้มักออก DLC อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ออก Lootbox หรือ ออก LootBox และ Microtransactions ไม่ออก DLC ผู้สร้างที่ไม่ออก Lootboxจะไม่ยากทำลายฐานแฟนเกม เพราะเกมพวกนี้ เฉพาะกลุ่มมากๆ และผู้สร้าง ที่ออกระบบ Lootbox เพราะต้องการ กำไรซึ่งไปเชื่อมกับข้อแรก และมักจะมีทั้งSingle Player และ Mutiplayer แต่เป็นเกม Mutiplayer มันก็จะมี Loot Box และ Microtransactions ก็สามารถเชื่อมไปยังข้อแรกได้อีกเหมือนกัน เช่น
Dirt serise เป็นเกม แข่งรถ Simulation ทางวิบาก มักชอบออก DLC รถใหม่ๆเสมอ
Cytus เป็นเกมเพลง ที่ออกมาเมื่อปี 2009 โดยเป็นเกมแนว Music Rythem ที่ชอบออก DLC โดยช่วงแรกเป็นการขายเกมเต็ม 3 USD และก็ยังจะมีเนื้อเรื่อง ที่คลุมเคลือ ซะยิ่งกว่า Dark Soul แต่ก็พอจับใจความได้ ปัจจุบันก็ยังมีคนเล่นอยู่เพราะ เพลงนั้น ยากมาก และ ท้าทายผู้เล่นเสมอ
CSGO และ DOTA 2 เป็นเกม ที่เน้นให้ผู้เล่นวางแผนภายในทีม และ ฝึกทักษะ เพื่อไว้ล้มทีมฝั่งตรงข้าม ไปเรื่อยๆ (ก็ Casual ไง)
Hatsue Miku Project Diva เกมนี้หละ โคตรจะเฉพากลุ่ม แต่ก็ไม่ได้งานกว่าที่คิด โดยแบ่งเป็นภาคปกติ กับ ภาคที่เน้นความยากเป็นพิเศษ ที่ทั้งสอง ก็มีรูปแบบเดียวกับคือ เกมแนว Music Rythem ที่จะมี DLC ออกมาเยอะ ทุกภาค ในแบบปกติ และ จะมี Season Pass ในส่วนของที่แบบยากเป็นพิเศษ โดยเกมนี้ สงวน เฉพาะ 3DS , PS4 , PSP และ PSVita เท่านั้น ส่วนเกมตู้ผมไม่นับ เพราะเหมือนเอาภาคที่ยากพิเศษ มา Port ทำเกมตู้มากกว่า
Tetris เกมนี้หละ เกมคู่โลก ของมวลมนุษยชาติ เป็นเกมที่ฝึกทักษะ เพื่อจะให้ได้แต้มมากที่สุด และทุกวันนี้ก็ยังมีการแข่งขันอยู่ทุกๆปี เป็นเกมที่ Port มาได้ทุก Platform ตั้งแต่ Computer , Console , Handheld , เครื่องคิดเลข , มือถือ , รถกะบะ คือ มัน Port ได้ทุกอย่างที่คนสร้างมันอยากจะใส่นั้นหละ
จากที่ผมจำแนกมา ดูเหมือนจะจับใจความได้ว่า เกม Single Player นั้นจะตายหรือไม่ต้องคิดว่า จะคิดแบบ ธุรกิจ เพื่อเน้นกำไร หรือคิดแบบงานศิลป์ ถ้าคิดแบบงานศิลป์หรืองานกีฬา ผมคิดว่า มันเป็นสิ่งที่ไม่ตาย
แต่ถ้าจะให้ Singleplayer จะมาทำกำไร สู้กับ Mutiplayer ผมว่า ยังไง Mutiplayer ก็ชนะขาดอยู่แล้ว เพราะสามารถเล่นซ้ำได้ไม่เบื่อง่ายๆ แถมหลังๆการมาของ Lootbox หรือ Microtransactions ทำให้ เกม Mutiplayer ทำกำไรได้มากขึ้นไปอีก
แต่ถ้าวัดคุณค่าทางจิตใจ ยังไงก็สู้ Singleplayer ที่มีเนื้อเรื่องที่ตรึงใจเราไม่ได้แน่นอน แต่แน่นอนว่า งานศิลป์จะรอดต้องมีพ่อค้าที่เข้าใจงานศิลป์ ไม่ใช่พ่อค้าหาบเร่ที่ไม่เข้าใจงานศิลป์
แต่ถ้าจะให้ Singleplayer จะมาทำกำไร สู้กับ Mutiplayer ผมว่า ยังไง Mutiplayer ก็ชนะขาดอยู่แล้ว เพราะสามารถเล่นซ้ำได้ไม่เบื่อง่ายๆ แถมหลังๆการมาของ Lootbox หรือ Microtransactions ทำให้ เกม Mutiplayer ทำกำไรได้มากขึ้นไปอีก
แต่ถ้าวัดคุณค่าทางจิตใจ ยังไงก็สู้ Singleplayer ที่มีเนื้อเรื่องที่ตรึงใจเราไม่ได้แน่นอน แต่แน่นอนว่า งานศิลป์จะรอดต้องมีพ่อค้าที่เข้าใจงานศิลป์ ไม่ใช่พ่อค้าหาบเร่ที่ไม่เข้าใจงานศิลป์
เกม Single Player ตายแล้วจริงหรือ?
[IMG]