สวัสดีครับ กลับมา เปิด กาน้ำต้ม มาม่ากันอีกรอบแล้ว วันนี้ จะมาพูดถึงประเด็น การเรียนไทย
ยกหัวข้อนะครับ
1. การเรียนไทย ส่งเสริมความฝันของเด็ก หรือเปล่าว
อยากที่ ทราบกันนะครับ เวลาเรียน เด็กๆทุกๆคน ย่อมมีความฝันเป็นของ ตนเอง ต้องมานะบากบั่นกันไป แต่ในบางฝันนั้น อาธิ เล่นดนตรี โชว์แต้น โชว์ความสามารถ ทางโรงเรียนแคยปล่อยให้เด็กเล่านั้น ออกมาจากกรอบไหมหละครับ
1.1 พ่อ แม่ เด็ก ส่งเสริมให้ลูกทำความฝันหรือเปล่าว
พ่อ แม่บางคน อยู่ดีๆก็วางกรอบให้ลูกเป็นนู่นเป็นนี่ เลี้ยงลูกกันแบบนี้ จบมา มีคุณภาพมากๆ ไม่เป็นพนักงานต๊อกต๋อยธรรมดา ไม่ก็ เป็นไปตามที่พ่อแม่หวังไว้ (ความมานะของเด็ก ที่จะตอบแทนพ่อแม่ คงจะมีมากๆ แลยหละ)
2. การลงโทษ ที่เกินกว่าเหตุ
ไม้เรียว คือสิ่งที่ติดตราก้น ของหลายๆคนมาแล้ว ถ้ามองดีๆ มันเป็นการ วางอำนาจระหว่า เด็ก กับ ครู ครับ ครู ต้องเหนือกว่าเด็กอยู่แล้วหละ
"การแก้ปัญหามีเยอะมาก แต่ก็ลงด้วยไม้เรียว"
ไม่ทำการบ้าน สาเหตุหลักของปัญหา แทนที่จะแก้ปัญหาว่า ทำไมเด็กมีปัญหาอะไร กลับลงกับไม้เรียว แก้ปัญหาได้ถูกจุดมากๆ มันเป็นการแก้ปัญหาที่รวดเร็วนะ แต่ด้านจิตใจเด็กหละ จะเป็นอย่างไรหละ
"แต่การลงโทษบางอย่าง ก็สมควรนะ"
อันนี้ผมไม่เถียงครับว่า บางอย่าก็ควรทีจะลงโทษเด็กจริงๆหละครับ แล้ว หัวข้อด้านบนหละ สมควรไหมหละ
3. ความเครียดระหว่างเรียน
7-9 ชั่วโมงต่อวัน ข้าวต้องจ่าย ค่าเทิมต้องเสีย ในเวลาที่ผ่านไป 7-9ชั่วโมง ใน 1 วันนั้น คุณได้อะไรบ้าง ความรู้ หรือ การบ้าน 5-7 วิชาใน 1 วัน
"โตมาก็ต้องรับผิดชอบงานนะครับ"
ถ้าให้งานที่ตรงกลับความถนัดของเด็ก มันก็ดีไปนะครับ แต่บางทีการ จับ 7 - 10 วิชา ใน เวลา 1 ปี แตไอ้งานที่ อยากทำ ต้องการแค่ 2-4 วิิชาเอ้า แล้วที่เรียนมาที่เหลือหละ จะทำอย่างไร *โยมมันทึ้งไปยังไงเหล่า* (เสียดายไหม)
เขากล่าวว่า ทำงาน ในสิ่งที่ตัวเองชอบ ดีกว่าทำงานในด้านที่ถูกบังคับมา
3.1 เครียดจนเป็นบ้า
แถบไม่หน้าเชื่อนะครับ ว่า "การแข่งขันระหว่างโรงเรียน" ทำให้ต้องมา แทรนเด็กๆให้เก่งอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวนี้ข่าว เด็ก อนุบาลก็ต้องสอบเข้าสะแล้ว โว้วสุดยอดไปแลย แน่นอนครับ ว่า การแทรนเด็กแบบนี้ ย่อมมีความเสียงสูง ที่เด็กจะรับภาระที่ *พ่อ แม่* หวังอยากได้กับตัวเด็กครับ ถ้าเด็กหลุดคุมละก็ ไม่เกเร ก็เสพยา ไม่ก็เป็นโรค ซึมเศร้า เป็นโรคเครียด หนักสุดก็คง ฆ่าตัวตาย เพราะ ผิดหวัง ครับ
4. ตำราหนังสือ รุ่นยืมกันใช้ ไม่ก็ปลวกกิน ไม่ก็ อายุถึง 10 ปี
หนังสือ บางเล่ม ที่ให้ความรู้กับเรานั้น มีอายุมากขนาดไหนหละครับ ถ้าจะให้ดี ลองสังเกตุง่ายๆ คุณมีลูกไหม แอบไปดูหนังสือลูกซะว่า มันดูคุ้นๆตาคุณไหม แล้ว ไอ้ กระทรวงที่จัดการ มันคิดจะทำให้เป็น ปัจจุบัน บ้างไหมหนิ
5. ออกความคิดเห็น = โง่ ครูคือที่สุด
เมื่อไหร่จะลบไอ้ความคิดบ้าๆนี้ได้น้าา
6. คอมยืมแม่ ส่วน อุปกรณ์ยืมเพื่อนมา เพื่อนตายไปแล้ว
ของบางชิ้นในโรงเรียน รุ่นยืมกันมา ไม่ก็ แก่รุ่นแม่ ไม่ก็ รร. ก็ส่งจดหมาย ร้องขอ อุปกรณ์จาก กระทรวงหนึ่ง เอามาให้ รอจนงากงอกก็ไม่ได้ ไอ้เราก็คิดในใจ มันแคยมีอะไรที่ ดีๆให้ใช้ไหมน้าาา
7. ความ เท่าเทียม
อยู่ชั่นเดียวกัน อยู่โรงเรียนเดียวกัน ทำไมต้องเรียนหนักกว่า ห้องอืนๆเข้าหละ ทำไมไม่เรียน ให้เท่าเทียมกัน หรือ เรียนในวิชาที่ตัวเองชอบหละ
อาธิ ชอบ เลข ก็ลง ห้องเลข อาจมีสอนอย่างอื่นร่วมด้วย ใช้เวลาเรียน 4 ชั่วโมง ที่เหลือ ให้เด็ก ไปหาความรู้เอาเอง ผิดถูกก็ค่อยๆสอนกันไป
8. คะแนน เกรทเฉลี่ย คือ ตัววัดผลความฉลาด ของเด็ก ไม่ใช่ วัดผลจาก ความสามารถของตัวเด็กจริงๆ
นี่เป็นแค่ 8 ข้อ จาก 40 ข้อ นะครับ โคตรน้ำจิ้ม ใหนจะผักชีโรยหน้าเอย ไต้โต๊ะเอย โอย
ถ้า แก้การเรียนไทยได้ แก้ การแข่งขันที่โคตรสูง จะลดปัญหาได้หลายๆอย่างแลยทีเดียวครับ และ การให้ความรู้ กับ พ่อ แม่ ก็เป็นส่วนหนึ่ง แถม เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ด้วย
จะว่าไป งบ 8 พันกว่าล้าน ของกระทรวงที่ว่า แคยทำอะไรได้บ้างหว่า
ปล. ผมเป็นคนอ่อนแอครับ โดนพิษการเรียนเข้าไป ตอนนี้ กลายเป็น เด็กหนุ่ม โรคซึมเศร้า(ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่ต้องห่วง) , กลัวการเรียน , ไม่มีงาน ไปแล้ว
ปลล. ผมเป็นคนขี้เกลียจนะครับ แต่ไอ้เจ้าระบบห้อง top 10 นี่มัน บ้าชัดๆ 1-3 ได้งานเยอะเรียนหนักกว่าหลายๆห้องแลย 4-6 กลางๆ 7-10 เรียนไม่เรียนเรื่อของเอ็ง *แม้งโคตรไม่เท่าเทียม* ผมเสีอกได้ ห้อง 3 เพราะ ระบบให้ คะแนน แท้ๆ ศัศเอ้ย [ทำไม ไม่ให้คะแนนตามความ รู้ ความ สามารถ ของเด็กจริงๆหว่า]
ยกหัวข้อนะครับ
1. การเรียนไทย ส่งเสริมความฝันของเด็ก หรือเปล่าว
อยากที่ ทราบกันนะครับ เวลาเรียน เด็กๆทุกๆคน ย่อมมีความฝันเป็นของ ตนเอง ต้องมานะบากบั่นกันไป แต่ในบางฝันนั้น อาธิ เล่นดนตรี โชว์แต้น โชว์ความสามารถ ทางโรงเรียนแคยปล่อยให้เด็กเล่านั้น ออกมาจากกรอบไหมหละครับ
1.1 พ่อ แม่ เด็ก ส่งเสริมให้ลูกทำความฝันหรือเปล่าว
พ่อ แม่บางคน อยู่ดีๆก็วางกรอบให้ลูกเป็นนู่นเป็นนี่ เลี้ยงลูกกันแบบนี้ จบมา มีคุณภาพมากๆ ไม่เป็นพนักงานต๊อกต๋อยธรรมดา ไม่ก็ เป็นไปตามที่พ่อแม่หวังไว้ (ความมานะของเด็ก ที่จะตอบแทนพ่อแม่ คงจะมีมากๆ แลยหละ)
2. การลงโทษ ที่เกินกว่าเหตุ
ไม้เรียว คือสิ่งที่ติดตราก้น ของหลายๆคนมาแล้ว ถ้ามองดีๆ มันเป็นการ วางอำนาจระหว่า เด็ก กับ ครู ครับ ครู ต้องเหนือกว่าเด็กอยู่แล้วหละ
"การแก้ปัญหามีเยอะมาก แต่ก็ลงด้วยไม้เรียว"
ไม่ทำการบ้าน สาเหตุหลักของปัญหา แทนที่จะแก้ปัญหาว่า ทำไมเด็กมีปัญหาอะไร กลับลงกับไม้เรียว แก้ปัญหาได้ถูกจุดมากๆ มันเป็นการแก้ปัญหาที่รวดเร็วนะ แต่ด้านจิตใจเด็กหละ จะเป็นอย่างไรหละ
"แต่การลงโทษบางอย่าง ก็สมควรนะ"
อันนี้ผมไม่เถียงครับว่า บางอย่าก็ควรทีจะลงโทษเด็กจริงๆหละครับ แล้ว หัวข้อด้านบนหละ สมควรไหมหละ
3. ความเครียดระหว่างเรียน
7-9 ชั่วโมงต่อวัน ข้าวต้องจ่าย ค่าเทิมต้องเสีย ในเวลาที่ผ่านไป 7-9ชั่วโมง ใน 1 วันนั้น คุณได้อะไรบ้าง ความรู้ หรือ การบ้าน 5-7 วิชาใน 1 วัน
"โตมาก็ต้องรับผิดชอบงานนะครับ"
ถ้าให้งานที่ตรงกลับความถนัดของเด็ก มันก็ดีไปนะครับ แต่บางทีการ จับ 7 - 10 วิชา ใน เวลา 1 ปี แตไอ้งานที่ อยากทำ ต้องการแค่ 2-4 วิิชาเอ้า แล้วที่เรียนมาที่เหลือหละ จะทำอย่างไร *โยมมันทึ้งไปยังไงเหล่า* (เสียดายไหม)
เขากล่าวว่า ทำงาน ในสิ่งที่ตัวเองชอบ ดีกว่าทำงานในด้านที่ถูกบังคับมา
3.1 เครียดจนเป็นบ้า
แถบไม่หน้าเชื่อนะครับ ว่า "การแข่งขันระหว่างโรงเรียน" ทำให้ต้องมา แทรนเด็กๆให้เก่งอยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวนี้ข่าว เด็ก อนุบาลก็ต้องสอบเข้าสะแล้ว โว้วสุดยอดไปแลย แน่นอนครับ ว่า การแทรนเด็กแบบนี้ ย่อมมีความเสียงสูง ที่เด็กจะรับภาระที่ *พ่อ แม่* หวังอยากได้กับตัวเด็กครับ ถ้าเด็กหลุดคุมละก็ ไม่เกเร ก็เสพยา ไม่ก็เป็นโรค ซึมเศร้า เป็นโรคเครียด หนักสุดก็คง ฆ่าตัวตาย เพราะ ผิดหวัง ครับ
4. ตำราหนังสือ รุ่นยืมกันใช้ ไม่ก็ปลวกกิน ไม่ก็ อายุถึง 10 ปี
หนังสือ บางเล่ม ที่ให้ความรู้กับเรานั้น มีอายุมากขนาดไหนหละครับ ถ้าจะให้ดี ลองสังเกตุง่ายๆ คุณมีลูกไหม แอบไปดูหนังสือลูกซะว่า มันดูคุ้นๆตาคุณไหม แล้ว ไอ้ กระทรวงที่จัดการ มันคิดจะทำให้เป็น ปัจจุบัน บ้างไหมหนิ
5. ออกความคิดเห็น = โง่ ครูคือที่สุด
เมื่อไหร่จะลบไอ้ความคิดบ้าๆนี้ได้น้าา
6. คอมยืมแม่ ส่วน อุปกรณ์ยืมเพื่อนมา เพื่อนตายไปแล้ว
ของบางชิ้นในโรงเรียน รุ่นยืมกันมา ไม่ก็ แก่รุ่นแม่ ไม่ก็ รร. ก็ส่งจดหมาย ร้องขอ อุปกรณ์จาก กระทรวงหนึ่ง เอามาให้ รอจนงากงอกก็ไม่ได้ ไอ้เราก็คิดในใจ มันแคยมีอะไรที่ ดีๆให้ใช้ไหมน้าาา
7. ความ เท่าเทียม
อยู่ชั่นเดียวกัน อยู่โรงเรียนเดียวกัน ทำไมต้องเรียนหนักกว่า ห้องอืนๆเข้าหละ ทำไมไม่เรียน ให้เท่าเทียมกัน หรือ เรียนในวิชาที่ตัวเองชอบหละ
อาธิ ชอบ เลข ก็ลง ห้องเลข อาจมีสอนอย่างอื่นร่วมด้วย ใช้เวลาเรียน 4 ชั่วโมง ที่เหลือ ให้เด็ก ไปหาความรู้เอาเอง ผิดถูกก็ค่อยๆสอนกันไป
8. คะแนน เกรทเฉลี่ย คือ ตัววัดผลความฉลาด ของเด็ก ไม่ใช่ วัดผลจาก ความสามารถของตัวเด็กจริงๆ
นี่เป็นแค่ 8 ข้อ จาก 40 ข้อ นะครับ โคตรน้ำจิ้ม ใหนจะผักชีโรยหน้าเอย ไต้โต๊ะเอย โอย
ถ้า แก้การเรียนไทยได้ แก้ การแข่งขันที่โคตรสูง จะลดปัญหาได้หลายๆอย่างแลยทีเดียวครับ และ การให้ความรู้ กับ พ่อ แม่ ก็เป็นส่วนหนึ่ง แถม เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ด้วย
จะว่าไป งบ 8 พันกว่าล้าน ของกระทรวงที่ว่า แคยทำอะไรได้บ้างหว่า
ปล. ผมเป็นคนอ่อนแอครับ โดนพิษการเรียนเข้าไป ตอนนี้ กลายเป็น เด็กหนุ่ม โรคซึมเศร้า(ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่ต้องห่วง) , กลัวการเรียน , ไม่มีงาน ไปแล้ว
ปลล. ผมเป็นคนขี้เกลียจนะครับ แต่ไอ้เจ้าระบบห้อง top 10 นี่มัน บ้าชัดๆ 1-3 ได้งานเยอะเรียนหนักกว่าหลายๆห้องแลย 4-6 กลางๆ 7-10 เรียนไม่เรียนเรื่อของเอ็ง *แม้งโคตรไม่เท่าเทียม* ผมเสีอกได้ ห้อง 3 เพราะ ระบบให้ คะแนน แท้ๆ ศัศเอ้ย [ทำไม ไม่ให้คะแนนตามความ รู้ ความ สามารถ ของเด็กจริงๆหว่า]
{ ดราม่า } คิดกับการเรียนไทย อย่างไรกัน
[IMG]
ซื่อส้มๆ ไม่ต้องรู้หรอกนะว่า เว็บอะไร
อย่าลืมเข้าไปติดตามผลงาน อื่นๆ ในนี้ด้วยหละ