นวนิยายชุด Mana vision
ประพันธ์โดย
Thagon
ตอนที่ 1 การโจมตีที่เบอร์ม็อก
ยาม : “ออกไป! แล้วอย่าไปสร้างเรื่องที่ไหนอีกละ”
ฟีโก้ที่ถูกยามประจำโรงเรียนอัลเลวิชไล่ตะเพิดออกจากโรงเรียนเพราะพ้นสภาพความเป็นนักเรียนหันกลับมาทำหน้ายียวนกวนส้นเท้ายิ้มระรื่นโดยไม่สนไอ่โรงเรียนเวทย์มนต์ยอดแย่สุดๆในความคิดเขาแม้ว่าในความจริงโรงเรียนนี้ก็เป็นโรงเรียนมาตรฐานแห่งหนึ่งในประเทศ ไททาเนียและเขาก็เป็นนักเรียนยอดแย่ที่ถูกไล่ออกมาแล้ว3โรงรียนในรอบ2ปี
คดีแรกที่ทำให้เขาถูกไล่ออกคือการทำให้ห้องทดลองเวย์ระเบิดอย่างรุนแรงจนเข้าตากรรมการอย่างจังนั้นคือแรงระเบีดทำลายม่านพลังป้องกันจนพลักตู้เก็บวัสดุวิเศษกระเด็นเข้าห้องผอ.กระแทกหน้าและเบ๋าตาของ ผอ.อย่างจังบวกกับก่อคดีเล็กๆน้อยๆอยู่เป็นประจำเลยถูกไล่ออก อาจารย์ทุกคนในโรงเรียนนั้นยังงงว่าเขาทำลายม่านป้องกันนั้นได้อย่างไรเพราะไม่มีวิชาใดในหลักสูตรนักเรียนเวทย์ฝึกหัดที่จะทำแบบนั้นได้
อีกคดีก็คือคดีทะเลาะวิวาทกับสภานักเรียนลอสทรูที่ประกอบนักเรียนที่ผลการเรียนดีเลิศประจำโรงเรียนและลูกหลานอาจารย์กับลูกหลานกลุ่มธุรกิจในจำนวนที่ไม่น่าจะเอาชนะได้
เขาได้เอาชนะกลุ่มคนที่มีกว่า50คนด้วยคนที่น้อยกว่าไม่ถึง10คน แม้ว่าจะเอาชนะในการวิวาทมาได้แต่เขาก็แพ้อำนาจทางการเมืองในโรงเรียนถูกไล่ออกในที่สุด
และคดีล่าสุดที่ทำให้เขาถูกไล่ออกนี้คือการที่เขาทำให้ผลึกเวทย์สีแดงที่เป็นวัตถุเวทย์โบราณระเบิดเสียหายจนใช้การไม่ได้
ฟีโก้เดินมาถึงหมู่บ้านติดแม่น้ำใกล้ๆโรงเรียนที่ไล่เขาออกมาหมู่บ้านนี้มีชื่อว่าเบอร์ม็อกเป็นหมู่บ้านประมงน้ำจืดแต่ก็มีร้านค้าต่างๆโรงหมอ โรงเหล้าหอตรวจการ(โรงพัก)และอื่นๆเท่าที่หมู่บ้านขนาดใหญ่แห่งหนึ่งพึงจะมีฟีโก้เดินเข้าทอดน่องเนื่อยๆดูมีความสุขเหมือนคนที่ทำการใหญ่สำเร็จผิดกับคนที่เพิ่งถูกไล่ออกจากโรงเรียน
ฟีโก้ : “เห้ออ..ถูกไล่ออกอีกแล้วสิเราแต่ครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าละนะ”
ว่าแล้วก็หยิบผลึกคริสตันสีแดงออกมาดูด้วยความภูมิใจก่อนจะรีบเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงเพราะกลัวจะมีใครเห็นแล้วเดินไปที่ร้านแบล็คบารน์ ร้านเหล้าประจำหมู่บ้านเพื่อหาอะไรดื่ม
เมื่อเข้าไปในร้านที่ยังมีลูกค้าแค่คนสองคนเพราะยังอยู่ช่วงบ่ายอยู่มีเจ้าของร้านกำลังถูแก้วอยู่
เป็นชายแก่อายุ60 ต้นๆไว้หนวดใส่แว่นกันลมเหมือนฟีโก้ทั้งที่บทบาทหน้าที่ของทั้งคู่ ไม่จำเป็นต้องใช้มันเลยชายผู้นี้เรียกว่าบาร์นเมื่อชายแก่เห็นฟีโก้ก็เริ่มต้นทักทาย
บารน์ :”อ้าวฟีโก้ทำไทวันนี้มาเร็วจังยังอยู่ในเวลาเรียนมิใช่รึโดดเรียนอีกแล้วละสิ”
ฟีโก้: “โดนไล่ออกน่ะลุงเอาฟิชกี้มักมาแก้วหนึ่งหน่อย(เครื่องดื่มสมุนไพรหมักกับปลาและเครื่องเทศบางชนิด”
บาร์น : “โดนไล่ออก !เฮ้ยอีกรอบแล้วรึวะเอ็งนี่เหลือเกินจริงๆไปทำอะไรมาให้เค้าไล่แกออกล่ะนี่ บารน์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น”
ฟีโก้ : “เรื่องมันยาวน่ะลุงแล้วเครื่องดื่มที่ผมสั่งละเมื่อไหร่จะได้ลุง”
บารน์ : ”กระเดือกเสร็จแล้วก็เล่ามาซะละเรื่องของแกมันยาวแต่ข้าก็กำลังว่างว่ะ”
ในขณะที่ฟีโก้กำลังดื่มเครื่องดื่มยังไม่ทันหมดแก้วดีก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงจากนั้นก็มีเสียงต่อสู้นอกร้าน
ฟีโก้ : “เสียงอะไรน่ะ”เขาหยิบแผ่นกระดาษ2-3ใบขึ้นมาในมือพร้อมประจุพลังเวทย์ในมือ
เพราะรู้ว่าเสียงที่เกิดขึ้นข้างนอกร้านไม่ใช่เรื่องดีแน่เมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็นเมืองที่ผู้คนอาศัยัยอยู่อย่างสงบสุขการที่เกิดเสียงต่อสู้เช่นนี้ทำให้รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติเสียแล้ว
บรึ้มมมมมโครมมม กรีดดดดดด อร้ากกกกกก !!
ทันใดนั้นเกิดแรงระเบิดประทุทำลายกำแพงร้านใกล้ๆกับตรงที่ฟีโก้ยืนอยู่เสียงดังสนั่นหวันไหวตามมาด้วยเสียงกรีดร้องเสียงบ้านถูกเผาไหม้เสียงกระสระสุนเวทย์วิ่งฝ่าอากาศดั้ง_กลุ่มควันตลบอบอวลรอบตัวฟีโก้และบารน์ที่หลบอยู่หลังโต้ะ
บาร์เทนเดอร์บาร์นรู้สึกได้ว่าในกลุ่มควันด้านหน้ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่จากประสบการณ์อันยาวนานทำให้เขารู้ได้ว่านั้นคือศัตรูเขาหยิบหน้าไม้กลไกใต้โต้ะคิดเงินมาความแค้นในจิตใจที่ร้านของตนโดนทำลายโผยพุ่งออกมาเขาตะโกนลั่น
บารน์ : “ไอ่พวกสวะ มาทำลายร้านตูแบบนี้คงไม่คิดจะจบง่ายๆใช่ไหมม”
บารน์เริ่มเปิดฉากยิงใส่ร่างที่เคลื่อนไหวลางๆในกลุ่มควันหน้าไม้ของบารน์ยิงได้ค่อนข้างรั่วชนิด1นัดต่อ1วินาทีเลยทีเดียวครู่ต่อมาร่างที่ถูกยิงก็กระโดดออกมาจากลุ่มควัน
หุ่นยนต์ขนาดใหญ่สีดำรูปร่างคล้ายมนุษย์ในช่วงบนและมีช่างขาคล้ายสัตว์นักล่าอย่างเสือสิงโตมีท่อลำเลียงพลังงานเชื่อมต่อระหว่างเกราะไหล่กับช่วงหลังแขนของมันใหญ่มากเมื่อเทียบกับช่วงตัวทำให้ดูเหมือนแขนของคิงคองเหล็กและช่วงข้อนิ้วเป็นกรงเล็บแหลมคมเกราะที่หุ้มบอดี้นั้นคล้ายเกราะของพวกอัศวินฟีโก้ตกตะลึงกับอสุรกายเหล็กที่ยืนพ่นไอน้ำจากปากเขาไม่เคยเจอกับอะไรที่ดูหน้ากลัวและทรงพลังขนาดนี้มาก่อนมันน่ากลัวไม่แพ้กับประจันหน้ากับอสูรกายคลั่งแม้ว่าเค้ายังไม่เคยเจอซักตัวเลยก็ตาม
บารน์เรียกสติฟีโก้ด้วยการหยิบถุงที่มีผงเรืองแสงสีส้มขว้างใส่หุ่นเหล็กแล้วหยิบตะเกียงเจ้าพายุขว้างซ้ำเกิดแรงระเบิดสนั่นหวั่นไหวซัดฟีดโก้ให้ล้มลงกับพื้นร้านส่วนหุ่นยนต์ดูเหมือนเกราะจะได้รับความเสียหายเล็กน้อยเท่านั้น
บารน์ : “นั้นมันตัวบ้าอะไรว่ะเนี่ยทนถึกอะไรขนาดนี้”
ฟีโก้ : “ระวังลุงมันทำท่าจะวิ่งเข้าใส่แล้ว”
หุ่นพิฆาตวิ่งเข้าใส่ฟีโก้ร่ายซัดยันต์เข้าใส่มันเป็นยันต์ที่ทำให้การเคลื่อนไหวช้าลงแต่พอยันต์แปะเข้าหาหุ่นกลับลุกไหม้สลายไปอย่างรวดเร็วหุ่นกระโจนเข้าหาทั้ง2คนโดยที่ความเร็วไม่มีลดทอนทั้ง2กระโดดถอยหลังพร้อมกันจนหลบจุดที่หุ่นร่วงลงมากระแทกใส่แบบหวุดหวิด
โครมแรงประทะทำเอาทั้ง2กระเด็นตกลงไปยังบันใดหน้าห้องเก็บไวด์ที่อยู่ชั้นใต้ดินของร้าน
บราน์ : “อักก!แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้” บารน์กระอั้กเลือดเพราะอวัยวะภายในถูกแรงกระแทกอย่างแรง
ฟีโก้เริ่มร่ายเวทย์และแปลงเสียงดังก้องออกมาว่า “อวาร์ลอนดีมัส”
กำแพงแสงถูกเสกขึ้นมาบังกั้นระหว่างฟีโก้ที่มีบารน์อยู่ด้านหลังกับหุ่นพิฆาตที่ยืนนิ่งส่องลำแสงสีแดงจากตาของมันกระทบกำแพงแสงเหมือนมันพยายามวิเคราะห์มนต์ของฟีโก้
สักพักเกราะหัวไหล่ของมันก็ส่งเสียงก๊อกแก็กเหมือนมือกลไกอะไรบางอย่างทำงานอยู่ข้างใน
แล้วฝาประกับเกราะที่เชื่อมหัวไหล่กับต้นแขนของมันก็เปิดออกแล้วมีปากกระบอกปืนยื่นออกมาจากหัวไหล่ของมันยิงกระสุนสีดำพุ่งเข้าใส่กำแพงแสงที่ฟีโก้เสกไว้ใช้ป้องกันการโจมตี
ตึงๆๆๆๆ เพล้ง! เสียงกระสุนกระทบกำแพงแสงตามมาด้วยเสียงการพังทลายของกำแพงเวทย์มันพังลงอย่างรวดเร็วด้วยกระสุนไม่ถึง10นัดด้วยซ้ำแม้กำแพงจะแตกแล้วหุ่นพิฆาตกระยังระดมยิงต่อเนื่องไร้ความปราณีแต่ฟีโก้และบารน์หลบฉากตั้งแต่เห็นกำแพงแตกแล้วถึงกระนั้นบารน์และฟีโก้ก็ยังถูกยิงคนละนัด2นัดด้วยอัตราการยิงที่รั่วเกือบจะเท่าปืนกลของมัน
ฟีโก้ : “อะไรกัน !”
กำแพงเวทย์กระจุยทั้งๆที่โนไม่กี่นัดกระสุนอะไรกันนี่อย่างกับเจาะเกราะได้ทั้งสองเริ่มดึงกระสุนที่ปักตามแขนขาของตนฟีโก้เริ่มรายเวทย์รักษาเปล่งคำโบราณพร้อมกับหยิบยันต์ประจุเวทย์ที่เป็นแสงสีขาวนวลลงไปในยันต์แล้วประคบบาดแผลที่ถูกยิงหมายจะรักษาแต่เหมือนกับว่าแผลจะสม่านน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
บารน์ : “บ้าจริงนี้มันกระสุนเมจเบลนสำหรับต่อต้านจอมเวทย์มันจะขัดขวางการทำงานของเวทย์มนต์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นกำแพงเวทย์ร่างปลุกเสก หรือการรักษา ชิยุ่งยากชะมัด”
ทั้ง2อยู่ในสภาพย่ำแย่ถึงขีดสุด เมื่อเจอศัตรูสุดแกร่งที่ยากจะต่อกรมีเพียงเศษซากกับโต้ะเก้าอี้และเคาเตอร์คิดเงินเท่านั้นที่เป็นที่กำบัง
หุ่นพิฆาตเริ่มขยับอีกครั้งมันเริ่มเดินเข้ามาช้าๆเพราะศัตรูของมันแอบในที่กำบัง
ทันใดนั้นเองมันก็ล้มลงหน้าคว่ำกับพื้นท่ามกลางความงุนงงฟีโก้ก็ได้คำตอบเพราะจู่ๆก็มีดาบเล่มหนึ่งปักอยู่ที่หลังตามด้วยเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้าใส่หุ่นด้วยความเร็วสูงจากด่านหลัง
ร่างในชุดคลุมสีแดงมีลายรูปดาบที่มีคนนกไขว้2ข้างอยู่บนฮูดพุ่งเข้าจับด้ามดาบออกแรงกดลงไปในปากแผลให้ลึกขึ้นผู้ที่สวมฮูดเริ่มตะโกนออกแรงอย่างบ้าคลั่งเกลียวกราดเสียงนั่นทำให้ฟีโก้รู้ว่าผู้ตะโกนเป็นผู้หญิงผนวกกับปุ่มนูนขึ้นมาเป็นภูเขาคู่ตรงหน้าอกทำให้เขามั่นใจ เกราะด้านหลังของหุ่นฉีกออกดาบของหล่อนเริ่มเปล่งแสงสีแดงจากบริเวณแก่นของดาบแล้วไล่ลงสู่ปลายดาบเข้าปากแผลและส่วนเกราะของหุ่นที่ใกล้หลุดมะลำมะล่อก็แหกกระจุยทั้งแผงเผยให้เห็นลูกแก้วพลังงานสีเขียวข้างในฟีโก้รู้แล้วว่ามันไม่ใช่หุ่นยนต์เหมือนที่เขาคิดตอนแรก แต่เป็นชุดเกราะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังประหลาดแล้วติดปืนอยู่ที่หัวไหล่สาวในชุดคลุมยกดาบออกจากแผลแล้วชูขึ้นหมายจะฟันซ้ำไปที่ลูกแก้วคมดาบแปล่งประกายแสงสีแดงฉานขณะที่จะลงดาบชุดเกราะก็หันกระบอกปืนที่หัวไหล่แล้วยิงใส่เธอแต่เธอหลบฉากอย่างรวดเร็วกระสุนเฉียดปลายฮูดเธอหลบได้แต่ก็พลาดโอกาศฟันลูกแก้วมันหันหลังให้ฟีโก้ลูกแก้วจึงหันไปทางฟีโก้กับบารน์แทนฟีโก้ชิงจังหวะนี้ร่ายคาถาที่ง่ายและโจมตีได้เร็วที่สุดของเขาออกมาลูกกระสุนเวทย์สีฟ้าเท่าเม็ดถั่วพุ่งจากนิ้วของเขา4-5เม็ดอย่างรวดเร็วพุ่งกระทบลูกแก้วเข้าเป๋าได้2ลูกมันไม่สามารถทำลายลูกแก้วอย่างที่เขาหวังแต่ลูกแก้วสีเขียวนวลทรงกลมอย่างกับลูกแก้วเริ่มลุกไหม้และเริ่มเสียรูปทรงกลายสภาพคล้ายดวงอาทิตย์สีเขียวราวกับสูญเสียความสเถียร์ในแกนพลังงานชุดเกราะรีบกระโดดหนีไปยังมุมที่ไม่ถูกล้อมสาวในชุดฮูดกระโดดฟันซ้ำคราวนี้โดนจังๆที่กลางลำตัวช่วงล่างและขาของมันยังยื่นนิ่งส่วนลำตัวช่วงบนและลูกแก้วกระเด็นขึ้นไปชั้นสองของร้านทะลุหน้าต่างหายลับไปขาของมันก็คุกเข่าแน่นิ่งไปสาวในชุดคลุม : “เมืองนี้จบสิ้นแล้วทางที่ดีพวกนายพาคนที่นายรักไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดลำแสงแห่งอาคอนจะ:Xซัดทำลายเมืองนี้ให้เป็นจุล”
ฟีโก้ : “เดี่ยวนี่มันอะไรกันเกิดอะไรขึ้น?”
สาวในชุดคลุม: “ไม่มีเวลาแล้วรีบไปจากนรกนี่ซะ”
ว่าแล้วเธอก็วิ่งออกทางรูกำแพงที่หุ่นผังเข้ามาแล้วกระโดดขึ้นหลังค้าร้านขายผัก
ที่กลายเป็นเศษซากแล้วหายลับไป”Mana vision ตอนที่ 1