องค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ หรือ The Food and Agriculture Organization หรือ FAO ได้กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายน
ของทุกปี เป็น "วันดื่มนมโลก" (World Milk Day) เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ และองค์กรให้ความสำคัญและสนับสนุนการบริโภคนม
รวมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์และกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการบริโภคนม โดยปัจจุบันมีมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลก
ที่จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องใน วันดื่มนมโลก
ทั้งนี้ มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ (International Osteoporosis Foundation หรือ IOF) ระบุว่า นมและผลิตภัณฑ์จากนมอื่น ๆ
เป็นอาหารที่มีแร่แคลเซียมสูงที่สุด มีความสำคัญมากในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
เพราะร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุดและยังเป็นแหล่งรวมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
เช่น ฟอสฟอรัส โปรแตสเซียม แมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามินบี 12 ฯลฯ
วิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง
คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานกับร่างกาย
แมกนีเซียม สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ
ฟอสฟอรัส สร้างพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกาย และทำให้กระดูกแข็งแรง
โปรแตสเซียม ช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ
โปรตีน สร้างเสริมการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
วิตามินบี 2 ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี ช่วยระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
สำหรับ ธาตุอาหารใน "นม" ล้วนมีส่วนช่วยไม่ให้ความดันโลหิตสูงเกินกว่าปกติ และช่วยเสริมสร้างสุขภาพฟันที่ดี
เพราะนมอุดมด้วยแคลเซียมและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อฟัน มีโปรตีนที่ช่วยให้ฟันเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
และช่วยเคลือบผิวฟัน นอกจากนี้ "นม" ยังเป็นเครื่องดื่มที่มอบความสดชื่นไม่แตกต่างจากน้ำดื่ม
การดื่มนมเพียงหนึ่งหรือสองแก้วจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น และยังทำให้ได้รับคุณค่าสารอาหารที่ร่างกายต้องการอีกด้วย
ส่วนใครที่หลีกเลี่ยงไม่ดื่มนม เพราะเชื่อว่านมทำให้อ้วนนั้น ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นนมสด นมพร่องไขมัน
หรือนมไม่มีไขมัน มีปริมาณไขมันแค่เพียง 3.9%, 1.7%, และ 0.3% เท่านั้น รู้อย่างนี้แล้ว ลองหันมาดื่มนม
เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกันดีกว่า
1 มิถุนายน ของทุกปี เป็น "วันดื่มนมโลก" ( World Milk Day )