1. แมงกะพรุนอิรุคันจิ
ลักษณะของแมงกะพรุนอิรุคันจิมีลำตัวโปร่งใส รูปทรงคล้ายลูกบาศก์ ความยาวของลำตัวมีขนาดประมาณ 10 - 30 เซนติเมตร แม้เพียงสัมผัสเดียวก็สามารถ
ทำอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะพิษจากหนวดจะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงรวมไปถึงระบบการทำงานของหัวใจ โดยแมงกะพรุนชนิดนี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อประมาณปี 2007 นี้เอง หลังจากที่พวกมันทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวอเมริกาขณะกำลังว่ายน้ำอยู่ที่ทะเลทางตอนเหนือของรัฐควีนแลนด์ ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเข็มพิษของแมงกะพรุนก็ทำให้เขาเสียชีวิตลงในอีกไม่กี่วันต่อมา แมงกะพรุนอิรุคันจิสามารถพบได้ในทะเลไทยเช่นกัน โดยเฉพาะเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนเมษายน
2. มดงาน
สาเหตุที่ทำให้มดติดอันดับสัตว์อันตรายเป็นเพราะว่า หากมีมดตัวใดตัวหนึ่งในฝูงปล่อยฟีโรโมนออกมา ตัวที่เหลือก็รีบเข้าไปรวมกลุ่ม เพื่อจัดการกับเหยื่อทันทีโดยไม่รีรอ ซึ่งไม่ว่าเหยื่อจะมีขนาดเล็กใหญ่ หรือจะเป็นคนก็ตาม กองทัพมดก็สามารถเอาชนะได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยการปล่อยพิษจากส่วนท้องเข้าสู่ปากแผล และรอให้พิษเข้าไปทำลายระบบภายในของเหยื่อก่อนที่จะนำมาเป็นอาหาร โดยถิ่นที่อยู่ของมดชนิดนี้สามารถพบได้ทั่วไปตามที่โล่งแจ้ง อย่างเช่น สนามหญ้า หรือคันดิน
3. หอยเต้าปูนลายหินอ่อน
หอยชนิดนี้มีพบมากในน่านน้ำทะเลของประเทศออสเตรเลีย โดยพวกมันมักจะแอบซ่อนตัวอยู่ตามซอกหิน แนวปะการัง และใต้พื้นทราย เพื่อรอเวลาจู่โจมเหยื่อด้วยเข็มพิษอันร้ายกาจ ซึ่งพิษแค่เพียงหยดเดียวสามารถฆ่าคนได้ถึง 20 คนเลยทีเดียว โดยเริ่มจากอาการปวดบวมที่บริเวณปากแผล ตามด้วยระบบการหายใจล้มเหลว ร่างกายเป็นอัมพาตและเสียชีวิตในที่สุด
4. กบลูกดอก
ภายใต้สีสันอันสวยงามเย้ายวนใจจนได้รับสมญานามว่า อัญมณีแห่งป่าฝน แต่พิษสงเหลือร้ายเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด เนื่องจากพิษของกบแค่เพียงตัวเดียว ซึ่งมีประมาณ 5 ไมโครกรัมสามารถฆ่าคนได้ถึง 10 คน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า พิษเหล่านั้นน่าจะมาจากพืชที่กบกินเป็นอาหารนั่นเอง โดยมีถิ่นที่อยู่อาศัยบริเวณป่าฝนในทวีปอเมริกากลางและใต้เป็นส่วนมาก
5. แตนยักษ์ญี่ปุ่น
แตนยักษ์ญี่ปุ่นมีความยาวของลำตัวประมาณ 2 นิ้ว สิ่งที่ทำให้แตนชนิดนี้จัดอยู่อันดับสัตว์อันตรายก็คือ พิษของเหล็กในที่มีฤทธิ์ในการทำลายระบบประสาทและเนื้อเยื่อบริเวณปากแผลในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีสถิติรายงานว่า เป็นสัตว์ที่คร่าชีวิตของคนญี่ปุ่นไปประมาณ 20 - 40 คนต่อปีเลยทีเดียว
6. ทารันทูล่าฮอว์ค
แมงชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งสามารถแบ่งแยกประชากรทั้งหมดได้ถึง 15 สายพันธุ์ สาเหตุที่มาของชื่อสืบเนื่องมาจาก การที่พวกมันมักจะล่าแมงมุมทารันทูล่า โดยการฝังไขลงไปในลำตัวของแมงมุมแล้วปล่อยให้ลูก ๆ กัดกินแมงมุมเป็นอาหาร ถึงแม้จะไม่ชอบทำร้ายคนมากนัก แต่ก็ควรระมัดระวังเอาไว้ให้ดี เนื่องจากพิษของมันร้ายแรงไม่เบาเลย
7. แมงป่องเดทสตอล์กเกอร์
แมงป่องจะพบมากบริเวณทวีปเอเชียและแอฟริกา โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นทะเลทราย ซึ่งมีขนาดของลำตัวใหญ่ที่สุดประมาณ 4 นิ้ว พิษมีระดับร้ายแรงที่สุดในบรรดาแมงป่องทั้งหมด ถึงแม้จะไม่สามารถทำร้ายร่างกายของผู้ใหญ่ปกติได้ แต่กลับมีอันตรายอย่างมากับเด็กและคนแก่ โดยพิษของมันจะทำเหยื่อเกิดอาการตัวสั่นคล้ายกับคนเป็นไข้ หลังจากนั้นร่างกายก็จะชาพร้อมกับตามด้วยอาการอัมพาต และเสียชีวิตในที่สุด
8. แมงมุมบราซิล
หรือที่รู้จักกันในชื่อแมงมุมกล้วย เนื่องจากพวกมันชอบซ่อนตัวอยู่ในตามกอกล้วยต่าง ๆ และจะปรากฏตัวออกมาเมื่อต้องการล่าเหยื่อเท่านั้น โดยในประเทศอังกฤษเป็นที่แรกเมื่อปี ค.ศ. 2007 หลังจากนั้นถูกจัดเป็นแมงมุมที่พิษอันตรายที่สุดในโลกเท่าที่เคยค้นพบมา ซึ่งมันสามารถฆ่าเหยื่อให้ตายได้ภายใน 1 ชั่วโมง
9. หมึกสายวงน้ำเงิน
สัตว์ทะเลอีกหนึ่งชนิดที่มีพิษสงร้ายกาจไม่แพ้แมงกะพรุนเลย ซึ่งพบมากบริเวณประเทศออสเตรเลีย เอกลักษณ์ของปลาหมึกชนิดนี้อยู่ที่สีสันที่สดใสและจุดสีน้ำเงินวงใหญ่บนลำตัว ถึงแม้จะดูน่ารักน่าชังแต่ไม่ควรแตะต้องหรือจับมาเล่นโดยเด็ดขาด เนื่องจากพิษสามารถฆ่าคนได้ถึง 26 คนภายในเวลา 2 - 3 นาที
10. คอรัลสเนค
งูชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับมิลค์สเนค ซึ่งมีจุดแตกต่างอยู่ที่สีสันของคอรัลสเนคจะเข้มกว่าชนิดหลังและมีสีขาวคั่นอยู่ในแต่ละปล้อง แถมยังมีอันตรายมากกว่าด้วย เนื่องจากน้ำพิษของงูชนิดนี้ประกอบด้วยสารนิวโรท็อกซินที่มีฤทธิในการทำลายระบบประสาท และระบบไหลเวียนเลือด ทั้งนี้จะพบมากในทะเลทรายของประเทศเม็กซิโก และทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ซ้ำขออภัยค่ะ
cr.http://pet.kapook.com/view62788.html
ลักษณะของแมงกะพรุนอิรุคันจิมีลำตัวโปร่งใส รูปทรงคล้ายลูกบาศก์ ความยาวของลำตัวมีขนาดประมาณ 10 - 30 เซนติเมตร แม้เพียงสัมผัสเดียวก็สามารถ
ทำอันตรายถึงชีวิตได้ เพราะพิษจากหนวดจะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงรวมไปถึงระบบการทำงานของหัวใจ โดยแมงกะพรุนชนิดนี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อประมาณปี 2007 นี้เอง หลังจากที่พวกมันทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวอเมริกาขณะกำลังว่ายน้ำอยู่ที่ทะเลทางตอนเหนือของรัฐควีนแลนด์ ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเข็มพิษของแมงกะพรุนก็ทำให้เขาเสียชีวิตลงในอีกไม่กี่วันต่อมา แมงกะพรุนอิรุคันจิสามารถพบได้ในทะเลไทยเช่นกัน โดยเฉพาะเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนเมษายน
2. มดงาน
สาเหตุที่ทำให้มดติดอันดับสัตว์อันตรายเป็นเพราะว่า หากมีมดตัวใดตัวหนึ่งในฝูงปล่อยฟีโรโมนออกมา ตัวที่เหลือก็รีบเข้าไปรวมกลุ่ม เพื่อจัดการกับเหยื่อทันทีโดยไม่รีรอ ซึ่งไม่ว่าเหยื่อจะมีขนาดเล็กใหญ่ หรือจะเป็นคนก็ตาม กองทัพมดก็สามารถเอาชนะได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยการปล่อยพิษจากส่วนท้องเข้าสู่ปากแผล และรอให้พิษเข้าไปทำลายระบบภายในของเหยื่อก่อนที่จะนำมาเป็นอาหาร โดยถิ่นที่อยู่ของมดชนิดนี้สามารถพบได้ทั่วไปตามที่โล่งแจ้ง อย่างเช่น สนามหญ้า หรือคันดิน
3. หอยเต้าปูนลายหินอ่อน
หอยชนิดนี้มีพบมากในน่านน้ำทะเลของประเทศออสเตรเลีย โดยพวกมันมักจะแอบซ่อนตัวอยู่ตามซอกหิน แนวปะการัง และใต้พื้นทราย เพื่อรอเวลาจู่โจมเหยื่อด้วยเข็มพิษอันร้ายกาจ ซึ่งพิษแค่เพียงหยดเดียวสามารถฆ่าคนได้ถึง 20 คนเลยทีเดียว โดยเริ่มจากอาการปวดบวมที่บริเวณปากแผล ตามด้วยระบบการหายใจล้มเหลว ร่างกายเป็นอัมพาตและเสียชีวิตในที่สุด
4. กบลูกดอก
ภายใต้สีสันอันสวยงามเย้ายวนใจจนได้รับสมญานามว่า อัญมณีแห่งป่าฝน แต่พิษสงเหลือร้ายเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด เนื่องจากพิษของกบแค่เพียงตัวเดียว ซึ่งมีประมาณ 5 ไมโครกรัมสามารถฆ่าคนได้ถึง 10 คน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า พิษเหล่านั้นน่าจะมาจากพืชที่กบกินเป็นอาหารนั่นเอง โดยมีถิ่นที่อยู่อาศัยบริเวณป่าฝนในทวีปอเมริกากลางและใต้เป็นส่วนมาก
5. แตนยักษ์ญี่ปุ่น
แตนยักษ์ญี่ปุ่นมีความยาวของลำตัวประมาณ 2 นิ้ว สิ่งที่ทำให้แตนชนิดนี้จัดอยู่อันดับสัตว์อันตรายก็คือ พิษของเหล็กในที่มีฤทธิ์ในการทำลายระบบประสาทและเนื้อเยื่อบริเวณปากแผลในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีสถิติรายงานว่า เป็นสัตว์ที่คร่าชีวิตของคนญี่ปุ่นไปประมาณ 20 - 40 คนต่อปีเลยทีเดียว
6. ทารันทูล่าฮอว์ค
แมงชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งสามารถแบ่งแยกประชากรทั้งหมดได้ถึง 15 สายพันธุ์ สาเหตุที่มาของชื่อสืบเนื่องมาจาก การที่พวกมันมักจะล่าแมงมุมทารันทูล่า โดยการฝังไขลงไปในลำตัวของแมงมุมแล้วปล่อยให้ลูก ๆ กัดกินแมงมุมเป็นอาหาร ถึงแม้จะไม่ชอบทำร้ายคนมากนัก แต่ก็ควรระมัดระวังเอาไว้ให้ดี เนื่องจากพิษของมันร้ายแรงไม่เบาเลย
7. แมงป่องเดทสตอล์กเกอร์
แมงป่องจะพบมากบริเวณทวีปเอเชียและแอฟริกา โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นทะเลทราย ซึ่งมีขนาดของลำตัวใหญ่ที่สุดประมาณ 4 นิ้ว พิษมีระดับร้ายแรงที่สุดในบรรดาแมงป่องทั้งหมด ถึงแม้จะไม่สามารถทำร้ายร่างกายของผู้ใหญ่ปกติได้ แต่กลับมีอันตรายอย่างมากับเด็กและคนแก่ โดยพิษของมันจะทำเหยื่อเกิดอาการตัวสั่นคล้ายกับคนเป็นไข้ หลังจากนั้นร่างกายก็จะชาพร้อมกับตามด้วยอาการอัมพาต และเสียชีวิตในที่สุด
8. แมงมุมบราซิล
หรือที่รู้จักกันในชื่อแมงมุมกล้วย เนื่องจากพวกมันชอบซ่อนตัวอยู่ในตามกอกล้วยต่าง ๆ และจะปรากฏตัวออกมาเมื่อต้องการล่าเหยื่อเท่านั้น โดยในประเทศอังกฤษเป็นที่แรกเมื่อปี ค.ศ. 2007 หลังจากนั้นถูกจัดเป็นแมงมุมที่พิษอันตรายที่สุดในโลกเท่าที่เคยค้นพบมา ซึ่งมันสามารถฆ่าเหยื่อให้ตายได้ภายใน 1 ชั่วโมง
9. หมึกสายวงน้ำเงิน
สัตว์ทะเลอีกหนึ่งชนิดที่มีพิษสงร้ายกาจไม่แพ้แมงกะพรุนเลย ซึ่งพบมากบริเวณประเทศออสเตรเลีย เอกลักษณ์ของปลาหมึกชนิดนี้อยู่ที่สีสันที่สดใสและจุดสีน้ำเงินวงใหญ่บนลำตัว ถึงแม้จะดูน่ารักน่าชังแต่ไม่ควรแตะต้องหรือจับมาเล่นโดยเด็ดขาด เนื่องจากพิษสามารถฆ่าคนได้ถึง 26 คนภายในเวลา 2 - 3 นาที
10. คอรัลสเนค
งูชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับมิลค์สเนค ซึ่งมีจุดแตกต่างอยู่ที่สีสันของคอรัลสเนคจะเข้มกว่าชนิดหลังและมีสีขาวคั่นอยู่ในแต่ละปล้อง แถมยังมีอันตรายมากกว่าด้วย เนื่องจากน้ำพิษของงูชนิดนี้ประกอบด้วยสารนิวโรท็อกซินที่มีฤทธิในการทำลายระบบประสาท และระบบไหลเวียนเลือด ทั้งนี้จะพบมากในทะเลทรายของประเทศเม็กซิโก และทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ซ้ำขออภัยค่ะ
cr.http://pet.kapook.com/view62788.html
10 อันดับสัตว์ตัวเล็กที่อันตรายที่สุด
[IMG]