วันหยุดสุดหรรษา ลองมาทำข้าวปั้นทานกันเถอะครับ ^6^
เจ้าข้าวปั้นที่บอก คิดว่าทุกคนน่าจะรู้จักเพราะมันคือ โอนิกิริ (Onigiri)หรือที่เค้าเรียกกันว่าข้าวปั้นสามเหลี่ยมนั่นแหละครับ วันนี้เราจะไปเรียนรู้ถึงที่มา อุปกรณ์ วิธีทำ เอาเป็นว่ามาลองทำกันเลยดีกว่าครับ^^
![](//usercontent.2th.me/a/i/hkqke0fs/2th.me_1026677.jpg)
![](//usercontent.2th.me/a/i/hkqke1zc/2th.me_1026678.jpg)
ปัจจุบันคนนิยมทำข้าวปั้นเป็นข้าวห่อกันจากที่บ้าน หรือถ้าอยากจะสะดวกสบายหน่อย ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้า ทั่วไปที่ขายโอนิกิริครับ^^รู้ประวัติความเป็นมาแล้ว..ก็ไปลองทำข้าวปั้นโอนิกิริกันดีกว่าครับ
อุปกรณ์ : ข้าวของญี่ปุ่นหุงแล้ว / ไส้ที่เราชอบ / สาหร่าย / พลาสติกสำหรับห่อ (wrap plastic)
![](//usercontent.2th.me/a/i/hkqke3iw/2th.me_1026679.jpg)
![](//usercontent.2th.me/a/i/hkqke7ds/2th.me_1026681.jpg)
![](//usercontent.2th.me/a/i/hkqkeb8o/2th.me_1026683.jpg)
เจ้าข้าวปั้นที่บอก คิดว่าทุกคนน่าจะรู้จักเพราะมันคือ โอนิกิริ (Onigiri)หรือที่เค้าเรียกกันว่าข้าวปั้นสามเหลี่ยมนั่นแหละครับ วันนี้เราจะไปเรียนรู้ถึงที่มา อุปกรณ์ วิธีทำ เอาเป็นว่ามาลองทำกันเลยดีกว่าครับ^^
![](http://usercontent.2th.me/a/i/hkqke0fs/2th.me_1026677.jpg)
Onigiri หรือที่รู้จักกันอีกอย่างหนึ่งคือ omusubi (ลูกบอลข้าว)ที่ทำมาจากข้าวญี่ปุนเป็นลูกกลมๆ ปัจจุบันมีทั้งรูปวงรี วงกลม และก็สามเหลี่ยม ขั้นตอนสุดท้ายก็ต้องมีการห่อสาหร่ายด้วยนะครับ ถึงจะอร่อยแบบครบถ้วน โดยทั่วไปแล้วใส้ของโอนิกิริ จะเป็นบ๊วยเค็ม (umeboshi) ปลาแซลมอน (salmon) ปลาคัททซึโอะ (katsuobushi) สาหร่ายทะเล (kombu) และ tarako (ไข่ปลา)และมีส่วนผสมที่มีรสเค็มหรือเปรี้ยวอื่นๆ ความแตกต่างของข้าวปั้นกับซูชิ ข้าวปั้นทำมาจากข้าวธรรมดา แต่ซูชิจะมีการผสมน้ำส้มสายชู เกลือและน้ำตาล ระวังอย่าสับสนนะครับ
โอนิกิริได้รับความนิยมมากเพราะมีวิธีทำที่ง่าย อุปกรณ์ก็ไม่ยุ่งยากเท่าซูชิ ง่ายต่อการพกพา ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมทานโอนิกิริกันมากครับ
![](http://usercontent.2th.me/a/i/hkqke1zc/2th.me_1026678.jpg)
งั้นเราลองไปดูความเป็นมาของเจ้าข้าวปั้นกันดีกว่าครับ
ในศตวรรษที่ 11 ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อMurasaki Shikibuได้บันทึกลงในไดอารี่ของเธอ (Murasaki Shikibu Nikki) เกี่ยวกับผู้คนที่ได้รับประทานลูกบอลข้าว สมัยนั้นโอนิกิริถูกเรียกว่า Tonjiki และมักจะถูกบริโภคเป็นอาหารกลางวันหรือไม่ก็นำไปปิคนิค ช่วงสมัยศตวรรษที่ 17 เหล่าซามูไรได้นำเจ้าลูกบอลข้าวห่อใบไผ่ไปเป็นเสบียงในช่วงสงคราม แต่ความจริงแล้วประวัติความเป็นมาของโอนิกิรินั้น มีมานานกว่ายุคที่ผู้หญิงคนนี้จดบันทึกเสียอีก แต่ช่วงที่โอนิกิริเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากก็คงจะเป็นช่วงยุคนี้แหล่ะครับ เมื่อก่อนตอนที่จะกิน ก็จะต้องใช้ช้อนตัดแบ่งกัน แต่พอมาถึงยุคนาระ (Nara) ก็ได้มีการตัดเป็นคำเล็กๆ เพื่อความสะดวกในการรับประทานด้วยครับ
ตั้งแต่สมัยคามาคุระ (Kamakura) จนถึงต้นเอโดะ (Edo) โอนิกิริเป็นอาหารที่เรียกว่า quick meal เพราะมีวิธีการทำที่ง่ายและสะดวก เหล่าพ่อครัวแม่ครัว จึงแค่ผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยไม่ต้องใส่ใจเรื่องการบริการมากนัก ตอนนั้นโอนิกิริเป็นข้าวปั้นธรรมดาที่มีรสเกลือและสาหร่าย จึงไม่แพร่หลายกว้างขวางนัก พอในยุคเกนโรคุ (กลางยุคเอโดะ) จึงมีการทำฟาร์มสาหร่ายเพื่อรองรับปริมาณความต้องการของโอนิกิริที่จะทำขายในวงกว้างขึ้น
มีความเชื่อว่าโอนิกิรินั้นไม่สามารถผลิตได้ด้วยเครื่องจักร ถือเป็นเรื่องยากเกินไปในตอนนั้น แต่พอช่วงปี 1980 ก็มีเครื่องมือที่ทำให้โอนิกิริเป็นรูปสามเหลี่ยมถูกสร้างขึ้น ตั้งแต่มีเจ้าเครื่องนี้โอนิกิริก็จะถูกเสิร์ฟพร้อมกับสาหร่ายเลย แต่พอทิ้งไว้สักพักสาหร่ายก็จะเริ่มชื้นและเหนียว ติดหนึบกับตัวข้าว จึงมีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์โดยแยกสาหร่ายออกจากข้าว พอจะทานค่อยห่อสาหร่ายเข้ากับข้าวปั้น
อุปกรณ์ : ข้าวของญี่ปุ่นหุงแล้ว / ไส้ที่เราชอบ / สาหร่าย / พลาสติกสำหรับห่อ (wrap plastic)
![](http://usercontent.2th.me/a/i/hkqke3iw/2th.me_1026679.jpg)
ส่วนวิธีการทำก็อธิบายง่ายๆ ด้วยรูปภาพด้านบนครับ (ดูภาพจากซ้ายไปขวาแบบทวนเข็มนาฬิกานะครับ)
1.ล้างมือให้สะอาด มือที่จะทำโอนิกิริต้องเปียก ทาเกลือที่มือด้วยก็ดีนะครับ จะทำให้ข้าวไม่ติดมือ
2.ตักข้าวใส่มือ เอาแบบพอดีมือนะครับจะได้ปั้นง่ายๆ พอเสร็จแล้วก็นำมือสองข้ามมาประกบแบบไขว้กันเพื่อให้ข้าวเป็นสามเหลี่ยมครับ
3.พอข้าวเป็นสามเหลี่ยมแล้วเราก็เอานิ้วจิ้มตรงกลางเพื่อใส่ใส้แล้วก็นำข้าวโปะรูที่เราจิ้มแล้วก็นำมือประกบเพื่อให้กลับมาเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมเหมือนเดิม
4.ขั้นตอนสุดท้ายก็ห่อด้วยสาหร่ายโดยการวางข้าวปั้นไว้กลางๆ แผ่นสาหร่าย เป็นอันเรียบร้อยครับ^^
![](http://usercontent.2th.me/a/i/hkqke7ds/2th.me_1026681.jpg)
รูปแบบของข้าวปั้น Onigiri ในปัจจุปันมีมากมายหลายอย่าง
![](http://usercontent.2th.me/a/i/hkqkeb8o/2th.me_1026683.jpg)
บรรจุในเบนโตะสวยหรู
สำหรับใครที่มีเวลาว่างอยากจะลองทำดู สามารถดีไซน์รูปแบบได้ตามใจเรา ภายในจะใส่ไส้อะไรก็แล้วแต่เรา ช่างเป็นอาหารที่อิสระทางความคิดเสียจริงๆ สำหรับใครที่อยากจะมีรายได้เพิ่มก็สามารถใส่ไอเดียของตัวเองแล้วลองไปขายดูนะครับ หรืออยากจะดีไซน์ไปให้คนพิเศษก็น่าสนใจนะครับ^^
หวังว่ากระทู้นี้คงเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อน่ะครับ
ที่มา Dek-D.com
ข้าวปั้นญี่ปุ่น