แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย OnceFor_ME เมื่อ 2013-12-5 19:39
ความจริงวลาดไม่ใช้เป็นคนคลั่งไคล้เสียบ เขายังชื่นชอบการลงโทษแบบอื่นๆ เช่นกัน ในบันทึกของเยอรมันบรรยายเรื่องนี้ว่า “เขาเคยสั่งให้ฝังคนที่ร่างกายเปลือยเปล่าไว้แค่สะดือ(มือก็ฝังลงในดินด้วย) และใช้เป็นเป้ายิงธนู บางคนถูกเผาและถลกหนังทั้งเป็น บางคนถูกนำมาต้มในกระทะใบใหญ่โดยที่เขาจะนั่งฟังเสียงร้องอันโหยหวนอย่างรื่นรมย์ ครั้งหนึ่งมียิปซี 300 คนเดินทางเข้ามาในดินแดนของเขา เขาได้เลือกคนที่เขาพอใจมา 3 คน ก่อนที่จะถูกย่างทั้งเป็นและให้พวกที่เหลือกินพวกเดียวกันเองในไม่ช้าวลาดได้ตระหนักว่าเขาสามารถใช้ชื่อเสียงในเรื่องความเ:X้ยมโหดผิดมนุษย์ของเขาในการทำสงครามจิตวิทยากับผู้มารุกรานดินแดนอย่างได้ผล การที่เขาเปลี่ยนฝ่ายมาเป็นฮังการีทำให้เขาเป็นศัตรูกับอาณาจักรออตโตมานไปโดยปริยาย ในปี ค.ศ.1462 กองทัพมหึมาของพวกเตอร์กได้บุกเข้ามายังวัลลาเซีย วลาดใช้ทหารที่มีจำนวนน้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามในการใช้แผนสกัดกั้นกองทัพเตอร์กทุกวิถีทาง เช่นโรยยาพิษลงในบ่อน้ำฝ่ายตรงข้าม ใช้อาวุธเชื้อโรคโดยส่งคนที่ติดโรคไปแพร่ระบาดในพื้นที่ของข้าศึก แต่สิ่งที่สร้างความกลัวต่อออตโตมานนั้นกับเป็นการเสียบของวลาด ดั่งที่มีการบรรยายโดยนักประวัติชาวกรีกไว้ว่า“สุลต่านทรงเดินทัพต่อไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ทรงทอดพระเนตรเห็นทหารของพระองค์ถูกเสียบอยู่ บริเวณนั้นเป็นท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยไม้เสียบมนุษย์เป็นระยะทางถึง 3 กิโลเมตรและกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร พวกทหารทั้งกองทัพต่างตกตะลึงกับภาพอันน่าสยอดสยองตลอดระยะการเดินทาง ไม้เสียบเหล่านี้มีร่างของผู้ชาย ผู้หญิง เด็กถูกเสียบนับได้คร่าวถึง 20000 คน จนองค์สุลต่านตรัสว่าพระองค์คงไม่อาจสามารถพิชิตดินแดนที่ผู้ปกครองสามารถทำสิ่งร้ายกายเหลือเชื่อเช่นนี้ได้ และเมื่อตรัสเช่นนั้นสุลต่านทรงตัดสินพระทัยถอยทัพกลับโดยทันที”
ความจริงนักประวัติศาสตร์ไม่รู้ชีวิตส่วนตัวและวัยเด็กของเขามากนัก หลักฐานที่บันทึกเอาไว้มีเพียงภรรยาคนแรกของเขาเท่านั้น ที่ว่ากันว่าจิตใจเธอนั้นงดงามดุจทองคำและอ่อนน้อมถ่อมตน และเธอก็ฆ่าตัวตายไปเพื่อให้พ้นเงื้อมมือจากกองทัพเตอร์กที่กำลังรุกคืบมา วลาดจึงสมรสใหม่กับเจ้าหญิงฮังการีด้วยเหตุผลทางการเมืองเพราะเขาจะสามารถกลับไปคลองบังลังก์วัลลาเซียได้ ภรรยาทั้งสองของเขากำเนิดบุตรชายแก่เขา 3 คน และไม่มีหลักฐานใดระบุว่าวลาดได้สังหารสมาชิกคนใดในครอบครัวในการเสียบหรือเปล่าด้วยความช่วยเหลือจากกษัตริย์แห่งฮังการีทำให้วลาดสามารถคลองบัลลังก์วัลลาเซียได้เป็นครั้งที่ 3 ในปี ค.ศ.1476 ก่อนที่ดินแดนของเขาจะถูกพวกเติร์กโจมตีในอีกไม่กี่เดือนต่อมา เขาถึงแก่กรรมในสงครามครั้งนั้นใกล้เมืองบูคาเรสต์ในปัจจุบัน
ครั้งเมื่อวลาดถูกขังอยู่ในฮังการีในช่วงเวลาหนึ่ง ยามว่างของวลาดก็ยังอยู่ในเรื่องเสียบๆ อยู้ เหยื่อของเขานั้นคือบรรดาสัตว์เล็กๆ จำพวกนกที่เขามักจะจับมันมาเสียบกับไม้จำลองอันเล็กๆ เขานำซากเสียบนั้นปักเกลื่อนกลาดในที่คุมขังของเขา
ปฏิบัติการล้างแค้นของวลาดครั้งแรกๆ เขาพุ่งเป้าหมายไปที่ขุนนางแห่งเมืองทีร์โกวิสเตที่ต้องรับผิดชอบการตายของบิดาและพี่ชายของเขา วลาดได้เชื้อเชิญบรรดาขุนนางเหล่านั้นพร้อมกับครอบครัวมาเฉลิมฉลองเทศกาลอิสเตอร์ หลังจากแขกรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ทหารวลาดก็บุกเข้ามาล้อมจับทุกคนที่อยู่ที่นั้น แล้วบังคับให้ออกเดินทางไปเมืองโปเอนารีซึ่งห่างออกไป 50 ไมล์นักโทษทั้งหมดถูกบังคับให้สร้างป้อมปราการอันแข็งแกร่งบนภูเขาสูงท่ามกลางภูมิประเทศและอากาศที่แสนเลวร้าย นักโทษหลายคนต้องตายในขณะก่อสร้างเพราะร่างกายเปลือยเปล่า และเมื่อนักโทษสร้างป้อมปราการเสร็จแล้ว วลาดตอบแทนพวกเขาด้วยการเสียบร่างประจาน
อีกเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าวลาดเป็นคนโหดเ:X้ยมไม่สนทุกชนชั้น คือวันหนึ่งเขาได้เชิญบรรดาคนชรา คนป่วย และขอทานมาดิ่มกินในปราสาทของเขา หลังจากแขกที่มาเยื่อนดื่มกินเสร็จ วลาดถามพวกเขาว่า “พวกท่านปรารถนาจะมีชีวิตเยี่ยงนี้โดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่ขาดแคลนไปหมดทุกอย่าง ท่านต้องการหลีกหนีพ้นสภาพเยี่ยงนี้หรือไม่”
“ต้องการสิท่าน”แขกทุกคนตอบเสียงเดียวกันอย่างกระตือรือร้น
วลาดจึงสั่งให้ทหารล้อมปราสาทเอาไว้ทุกจุดและเผาเสียให้ทุกคนในปราสาทตายหมด ซึ่งไม่มีใครรอดชีวิตไปได้ วลาดได้กล่าวภายหลังว่า ข้าพเจ้าได้ทำลงไปเพื่อให้คนในเขตการปกครองของข้าพเจ้าไม่ต้องประสบความยากไร้อีก”
ในบันทึกร่วมสมัยได้บรรยายเรื่องของวลาดไว้ว่า“เขาได้คิดค้นวิธีการทรมานที่แสนจะโหดเ:X้ยมที่น่าสะพรึงกลัวสุดบรรยาย เช่นเขาจะเสียบแม่และเด็กทารกลูกของนางติดกัน โดยที่เด็กกำลังดูนมแม่อยู่ บางทีก็ผ่าอกแม่และเอาศีรษะของลูกยัดใส่เข้าไปเพื่อที่ว่าเวลาเสียบจะได้ทะลุติดกันทั้งแม่และลูก วลาดเสียบทุกคนไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่ว่าจะเป็นพวกคริสเตียน ยิว มุสลิน ศาสนามิช่วยรั้งให้วลาดเสียบมนุษย์แม้แต่น้อย”
ความจริงวลาดไม่ใช้เป็นคนคลั่งไคล้เสียบ เขายังชื่นชอบการลงโทษแบบอื่นๆ เช่นกัน ในบันทึกของเยอรมันบรรยายเรื่องนี้ว่า “เขาเคยสั่งให้ฝังคนที่ร่างกายเปลือยเปล่าไว้แค่สะดือ(มือก็ฝังลงในดินด้วย) และใช้เป็นเป้ายิงธนู บางคนถูกเผาและถลกหนังทั้งเป็น บางคนถูกนำมาต้มในกระทะใบใหญ่โดยที่เขาจะนั่งฟังเสียงร้องอันโหยหวนอย่างรื่นรมย์ ครั้งหนึ่งมียิปซี 300 คนเดินทางเข้ามาในดินแดนของเขา เขาได้เลือกคนที่เขาพอใจมา 3 คน ก่อนที่จะถูกย่างทั้งเป็นและให้พวกที่เหลือกินพวกเดียวกันเองในไม่ช้าวลาดได้ตระหนักว่าเขาสามารถใช้ชื่อเสียงในเรื่องความเ:X้ยมโหดผิดมนุษย์ของเขาในการทำสงครามจิตวิทยากับผู้มารุกรานดินแดนอย่างได้ผล การที่เขาเปลี่ยนฝ่ายมาเป็นฮังการีทำให้เขาเป็นศัตรูกับอาณาจักรออตโตมานไปโดยปริยาย ในปี ค.ศ.1462 กองทัพมหึมาของพวกเตอร์กได้บุกเข้ามายังวัลลาเซีย วลาดใช้ทหารที่มีจำนวนน้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามในการใช้แผนสกัดกั้นกองทัพเตอร์กทุกวิถีทาง เช่นโรยยาพิษลงในบ่อน้ำฝ่ายตรงข้าม ใช้อาวุธเชื้อโรคโดยส่งคนที่ติดโรคไปแพร่ระบาดในพื้นที่ของข้าศึก แต่สิ่งที่สร้างความกลัวต่อออตโตมานนั้นกับเป็นการเสียบของวลาด ดั่งที่มีการบรรยายโดยนักประวัติชาวกรีกไว้ว่า“สุลต่านทรงเดินทัพต่อไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ทรงทอดพระเนตรเห็นทหารของพระองค์ถูกเสียบอยู่ บริเวณนั้นเป็นท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยไม้เสียบมนุษย์เป็นระยะทางถึง 3 กิโลเมตรและกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร พวกทหารทั้งกองทัพต่างตกตะลึงกับภาพอันน่าสยอดสยองตลอดระยะการเดินทาง ไม้เสียบเหล่านี้มีร่างของผู้ชาย ผู้หญิง เด็กถูกเสียบนับได้คร่าวถึง 20000 คน จนองค์สุลต่านตรัสว่าพระองค์คงไม่อาจสามารถพิชิตดินแดนที่ผู้ปกครองสามารถทำสิ่งร้ายกายเหลือเชื่อเช่นนี้ได้ และเมื่อตรัสเช่นนั้นสุลต่านทรงตัดสินพระทัยถอยทัพกลับโดยทันที”
ความจริงนักประวัติศาสตร์ไม่รู้ชีวิตส่วนตัวและวัยเด็กของเขามากนัก หลักฐานที่บันทึกเอาไว้มีเพียงภรรยาคนแรกของเขาเท่านั้น ที่ว่ากันว่าจิตใจเธอนั้นงดงามดุจทองคำและอ่อนน้อมถ่อมตน และเธอก็ฆ่าตัวตายไปเพื่อให้พ้นเงื้อมมือจากกองทัพเตอร์กที่กำลังรุกคืบมา วลาดจึงสมรสใหม่กับเจ้าหญิงฮังการีด้วยเหตุผลทางการเมืองเพราะเขาจะสามารถกลับไปคลองบังลังก์วัลลาเซียได้ ภรรยาทั้งสองของเขากำเนิดบุตรชายแก่เขา 3 คน และไม่มีหลักฐานใดระบุว่าวลาดได้สังหารสมาชิกคนใดในครอบครัวในการเสียบหรือเปล่าด้วยความช่วยเหลือจากกษัตริย์แห่งฮังการีทำให้วลาดสามารถคลองบัลลังก์วัลลาเซียได้เป็นครั้งที่ 3 ในปี ค.ศ.1476 ก่อนที่ดินแดนของเขาจะถูกพวกเติร์กโจมตีในอีกไม่กี่เดือนต่อมา เขาถึงแก่กรรมในสงครามครั้งนั้นใกล้เมืองบูคาเรสต์ในปัจจุบัน
.
.
.
.
ข้อมูลเยอะมาก บอกตรงๆ
สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน Part 1 ครับ วลาดที่ 3 จอมเสียบแห่งโรมาเนีย Part 1
วลาดที่ 3 จอมเสียบแห่งโรมาเนีย Part 2
[IMG]