10. เม่น
กลิ่นของเม่นเป็นผลผลิตของทั้งต่อมและความขี้เกียจทำความสะอาดเช่นเดียวกับสัตว์จำนวนมาก เม่นอเมริกาเหนือมีกลิ่นเหม็นเพราะรัก มันมีกลิ่นเหม็นเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม ในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง เม่นตัวผู้จะเดินไปทั่วป่าเพื่อฉี่ สัญญาณนี้จงใจให้เพศเมียรู้ว่าพวกมันมาถึงและพร้อมแล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่สัตว์ฟันแทะหุ้มเกราะชนิดนี้มีธรรมชาตินักล่าไม่กี่ชนิด เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู เม่นจะปล่อยกลิ่นเหม็นที่คาดว่าออกแบบมาเพื่อประหยัดการใช้หนามของพวกมัน
9. บีเวอร์
เจ้าสัตว์ฟันแทะขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการเคี้ยวที่มีกลิ่นรุนแรงเพียงเพื่อแสดงสิทธิเหนืออาณาเขตเท่าันั้น มันเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่คิดค้นบ้านเหม็นของตัวเองขึ้นมาได้ รอบอาณาเขตของครอบครัว คุณจะพบกองโคลน กองไม้ และมูลบีเวอร์ กลิ่นเหม็นที่ไม่ผิดเพี้ยนนี้เป็นส่วนผสมของวัสดุทำรังและของเหลวที่สกัดจากต่อมของบีเวอร์ที่เรียกว่าแคสโคเรียม (Castoreum)
8. วาฬเบลูก้า
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลที่ขี้เล่น น่าแปลกใช่ไหมที่มีชื่อในรายการนี้ด้วย วาฬน่ารักชนิดนี้ส่งกลิ่นเหม็นได้อย่างไรเมื่อมันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ใตัน้ำ? ตัววาฬเองไม่มีกลิ่นเหม็นหรอก แต่เมื่ออาหารของมันประกอบด้วยอาหารทะเลสด และสัตว์ที่มีขนาดท้องใหญ่แต่มีกระบวนการย่อยช้าย่อมเข้าใจว่าไม่มีกลิ่นอะไรจะแย่เท่ากับลมหายใจของวาฬเบลูก้าอีกแล้ว แต่ในการจดลำดับชื่อบนรายการนี้ ปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งคือความสามารถในการสร้างแรงช็อค โดยการสูดกลิ่นลมหายใจสุดเหม็นของวาฬเข้าไปเต็มปอด
7. สุนัขจิ้งจอกแดง
พวกมันฉลาด รวดเร็ว หน้าตาดี แต่มีกลิ่นฉุนอย่างยิ่งเลยทีเดียว และเหตุผลส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะที่อยู่อาศัย สัตว์กินเนื้อส่วนใหญ่จะทำรอยในเขตแดนของตัวเอง หรืออยากจะอ้างสิทธิครอบครองไว้เป็นของตัว สมาชิกส่วนใหญ่ในตระ:Xลแมวและสุนัขจึงใช้ฉี่หรือสารที่หลั่งจากต่อมเพื่อพ่นหรือถูตามเขตแดนของมัน
6. แมลงสติ๊งค์บั๊ก
เจ้าตัวเล็กสีเขียวที่ยาวไม่ถึง 1 นิ้ว แต่เมื่อพวกมันถูกคุกคามมันจะปล่อยกลิ่นฉุนรุนแรง จนคุณไม่อยากเชื่อว่าสัตว์เล็กขนาดนี้จะเหม็นได้ถึงเพียงนี้ เพียงเพื่อป้องกันตัวมิให้ตกเป็นอาหารของใคร ของเหลวกลิ่นเหม็นเป็นอุปกรณ์ป้องกันชั้นดี ไม่เพียงแต่ทำให้แมลงรสชาติแย่พอที่จะสัตว์ที่กินมันเข้าไปถ่มออกมาโดยไม่รอช้า แต่แมลงยังหวังว่านักล่าจะกลัวจนไม่กล้าเอาเข้าปากแต่แรกด้วยซ้ำ
5. วัวมัสค์
พวกมันตัวใหญ่และขนดก ไม่เคยอาบน้ำ คุณลองนึกถึงพรมเก่า ๆ ที่ทากาวติดไว้บนตัววัว หลั่งกลิ่นออกมาจากต่อมที่ไม่มีใครเข้าใจผิดคิดว่าเป็นน้ำหอมแน่นอน มันเป็นกลิ่นประกาศเรื่องทางเพศและความรุนแรง กลิ่นเป็นส่วนสำคัญในการเกี้ยวพาของมนุษย์ แม้ว่าเราจะไม่ทันรู้ตัวก็ตาม สมองของเราตรวจพบสัญญาณใต้สามัญสำนึกที่ส่งมาจากกันและกัน ช่วยให้เราตัดสินใจล่วงหน้าได้ ยิ่งใช้กลิ่นมากเท่าไหร่สัญญาณก็ยิ่งแรงขึ้นและกลิ่นจะยิ่งกระตุ้นอารมณ์ทางเพศมากขึ้น นี่คือประโยชน์ของโคโลญจน์ที่ใช้กลิ่นมัสค์สกัด และกลายเป็นความสำเร็จระดับโลกของอุตสาหกรรมน้ำหอม
4. วูล์ฟเวอรีน(ไม่ใช่ X-Men นะ)
มันยาวแค่ 36 ฟุต และหนักไม่ถึง 36 ปอนด์ อาณาเขตของบ้านวูลฟ์เวอรีนมีขนาดหลายร้อยตารางไมล์ เพื่อทำรอยในเขตแดนมหึมาเช่นนี้ วูลฟ์เวอรีนจึงมีต่อมทวารขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสารกลิ่นเหม็นที่สัตว์ใช้ถูไปกับก้อนหินและต้นไม้ยามเดินผ่าน วูล์ฟเวอรีนมีร่างกายที่แข็งแรงมาก และพวกมันจะเดินทางไกลถึง 20 ไมล์ต่อคืนเพื่อหาอาหาร กลิ่นของมันยังคงลอยอวลอยู่ตามที่ต่าง ๆ และรุนแรงแม้กับจมูกของมนุษย์
3. ไฮยีน่า
เจ้าสัตว์ชนิดนี้มีกลิ่นเหม็นเพราะ 2 สาเหตุ เนื่องจากต่อมกลิ่นของมันและจากซากเน่าเปื่อยที่มีนกินเป็นอาหาร ไฮยีน่านั้นพิเศษตรงที่สารที่กลิ่นเหม็นของมันทำจากสารเคมีสองชนิด หนึ่งคือของเหลวหนาสีขาวที่จะหลั่งออกมาก่อนแต่ยังคงเหม็นไปนานหลายสัปดาห์ ส่วนที่สองคือสารเหลว ๆ สีดำที่จะถูกทาทับสีขาวอีกที แต่จะเหม็นเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น อาจเป็นได้ว่าของเหลวสีขาวเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้เพื่ออ้างสิทธิเหนือดินแดน และสีดำเพื่อส่งข้อความไปยังสมาชิกอื่น ๆ ในครอบครัวเดียวกัน
2. สกั๊งค์
ค่อนข้างจะน่าแปลกใจที่สกั๊งค์อยู่ในอันดับที่สอง แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอันดับต้น ๆ ของรายชื่ออยู่ดี ชื่อของสกั๊งค์จะใช้แทนคำว่าเหม็น พวกมันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ใช้กลิ่นเป็นอาวุธ มันใช้กลิ่นของมันอย่างมีประโยชน์ถ้าหากว่ารู้สึกคุกคาม สกั๊งค์จะเตือนศัตรูหลายครั้งก่อนจะทำสงครามเคมี มันจะพ่นสเปรย์ที่ทำจาก ซัลเฟอร์ แอลกอฮอล์ ออกมาจากต่อมเหม็นขนาดเท่าผลองุ่นและห่อหุ้มด้วยกล้ามเนื้อที่ทวารของสกั๊งค์ เมื่อถึงเวลาจำเป็นมันจะบีบต่อมแล้วดันของเหลวออกมาเป็นสาย เล็งเป้าหมายไปที่ใบหน้าของศัตรู เพื่อเป็นการขับไล่ศัตรู
1. แทสเมเนียน เดวิล
ม้ามืดสำหรับตำแหน่งอันดับหนึ่ง แต่ด้วยกลิ่นที่เหมาะกับชื่อของมันมาก เช่นเดียวกับสกังค์ ตามปกติมันไม่มีกลิ่นเหม็น แต่เมื่อเครียด แทสเมเนียน เดวิล จะปลดปล่อยกลิ่นรุนแรงที่ทำให้มนุษย์รู้สึกวิงเวียนได้ กลิ่นของสัตว์ชนิดนี้เหม็นเสียจนทำให้จมูกคุณแทบหลุดเลยทีเดียว แทสเมเนียน เดวิล เป็นสัตว์กระเป๋าหน้าท้องซึ่งหมายถึงพวกมันเลี้ยงลูกในกระเป๋าหน้าท้องในช่วงสี่เดือนแรกของชีวิต มันตัวไม่ใหญ่กว่าสุนัขตัวเล็ก แทสเมเนียน เดวิล มีเสียงแหลมสูง แถมยังโหดมีฟันซี่ใหญ่ เจ้าตัวนี้เป็นนักกินซาก และออกกินทุกอย่างที่หาได้ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย
กลิ่นของเม่นเป็นผลผลิตของทั้งต่อมและความขี้เกียจทำความสะอาดเช่นเดียวกับสัตว์จำนวนมาก เม่นอเมริกาเหนือมีกลิ่นเหม็นเพราะรัก มันมีกลิ่นเหม็นเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม ในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง เม่นตัวผู้จะเดินไปทั่วป่าเพื่อฉี่ สัญญาณนี้จงใจให้เพศเมียรู้ว่าพวกมันมาถึงและพร้อมแล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่สัตว์ฟันแทะหุ้มเกราะชนิดนี้มีธรรมชาตินักล่าไม่กี่ชนิด เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู เม่นจะปล่อยกลิ่นเหม็นที่คาดว่าออกแบบมาเพื่อประหยัดการใช้หนามของพวกมัน
9. บีเวอร์
เจ้าสัตว์ฟันแทะขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการเคี้ยวที่มีกลิ่นรุนแรงเพียงเพื่อแสดงสิทธิเหนืออาณาเขตเท่าันั้น มันเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่คิดค้นบ้านเหม็นของตัวเองขึ้นมาได้ รอบอาณาเขตของครอบครัว คุณจะพบกองโคลน กองไม้ และมูลบีเวอร์ กลิ่นเหม็นที่ไม่ผิดเพี้ยนนี้เป็นส่วนผสมของวัสดุทำรังและของเหลวที่สกัดจากต่อมของบีเวอร์ที่เรียกว่าแคสโคเรียม (Castoreum)
8. วาฬเบลูก้า
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลที่ขี้เล่น น่าแปลกใช่ไหมที่มีชื่อในรายการนี้ด้วย วาฬน่ารักชนิดนี้ส่งกลิ่นเหม็นได้อย่างไรเมื่อมันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ใตัน้ำ? ตัววาฬเองไม่มีกลิ่นเหม็นหรอก แต่เมื่ออาหารของมันประกอบด้วยอาหารทะเลสด และสัตว์ที่มีขนาดท้องใหญ่แต่มีกระบวนการย่อยช้าย่อมเข้าใจว่าไม่มีกลิ่นอะไรจะแย่เท่ากับลมหายใจของวาฬเบลูก้าอีกแล้ว แต่ในการจดลำดับชื่อบนรายการนี้ ปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งคือความสามารถในการสร้างแรงช็อค โดยการสูดกลิ่นลมหายใจสุดเหม็นของวาฬเข้าไปเต็มปอด
7. สุนัขจิ้งจอกแดง
พวกมันฉลาด รวดเร็ว หน้าตาดี แต่มีกลิ่นฉุนอย่างยิ่งเลยทีเดียว และเหตุผลส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะที่อยู่อาศัย สัตว์กินเนื้อส่วนใหญ่จะทำรอยในเขตแดนของตัวเอง หรืออยากจะอ้างสิทธิครอบครองไว้เป็นของตัว สมาชิกส่วนใหญ่ในตระ:Xลแมวและสุนัขจึงใช้ฉี่หรือสารที่หลั่งจากต่อมเพื่อพ่นหรือถูตามเขตแดนของมัน
6. แมลงสติ๊งค์บั๊ก
เจ้าตัวเล็กสีเขียวที่ยาวไม่ถึง 1 นิ้ว แต่เมื่อพวกมันถูกคุกคามมันจะปล่อยกลิ่นฉุนรุนแรง จนคุณไม่อยากเชื่อว่าสัตว์เล็กขนาดนี้จะเหม็นได้ถึงเพียงนี้ เพียงเพื่อป้องกันตัวมิให้ตกเป็นอาหารของใคร ของเหลวกลิ่นเหม็นเป็นอุปกรณ์ป้องกันชั้นดี ไม่เพียงแต่ทำให้แมลงรสชาติแย่พอที่จะสัตว์ที่กินมันเข้าไปถ่มออกมาโดยไม่รอช้า แต่แมลงยังหวังว่านักล่าจะกลัวจนไม่กล้าเอาเข้าปากแต่แรกด้วยซ้ำ
5. วัวมัสค์
พวกมันตัวใหญ่และขนดก ไม่เคยอาบน้ำ คุณลองนึกถึงพรมเก่า ๆ ที่ทากาวติดไว้บนตัววัว หลั่งกลิ่นออกมาจากต่อมที่ไม่มีใครเข้าใจผิดคิดว่าเป็นน้ำหอมแน่นอน มันเป็นกลิ่นประกาศเรื่องทางเพศและความรุนแรง กลิ่นเป็นส่วนสำคัญในการเกี้ยวพาของมนุษย์ แม้ว่าเราจะไม่ทันรู้ตัวก็ตาม สมองของเราตรวจพบสัญญาณใต้สามัญสำนึกที่ส่งมาจากกันและกัน ช่วยให้เราตัดสินใจล่วงหน้าได้ ยิ่งใช้กลิ่นมากเท่าไหร่สัญญาณก็ยิ่งแรงขึ้นและกลิ่นจะยิ่งกระตุ้นอารมณ์ทางเพศมากขึ้น นี่คือประโยชน์ของโคโลญจน์ที่ใช้กลิ่นมัสค์สกัด และกลายเป็นความสำเร็จระดับโลกของอุตสาหกรรมน้ำหอม
4. วูล์ฟเวอรีน(ไม่ใช่ X-Men นะ)
มันยาวแค่ 36 ฟุต และหนักไม่ถึง 36 ปอนด์ อาณาเขตของบ้านวูลฟ์เวอรีนมีขนาดหลายร้อยตารางไมล์ เพื่อทำรอยในเขตแดนมหึมาเช่นนี้ วูลฟ์เวอรีนจึงมีต่อมทวารขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสารกลิ่นเหม็นที่สัตว์ใช้ถูไปกับก้อนหินและต้นไม้ยามเดินผ่าน วูล์ฟเวอรีนมีร่างกายที่แข็งแรงมาก และพวกมันจะเดินทางไกลถึง 20 ไมล์ต่อคืนเพื่อหาอาหาร กลิ่นของมันยังคงลอยอวลอยู่ตามที่ต่าง ๆ และรุนแรงแม้กับจมูกของมนุษย์
3. ไฮยีน่า
เจ้าสัตว์ชนิดนี้มีกลิ่นเหม็นเพราะ 2 สาเหตุ เนื่องจากต่อมกลิ่นของมันและจากซากเน่าเปื่อยที่มีนกินเป็นอาหาร ไฮยีน่านั้นพิเศษตรงที่สารที่กลิ่นเหม็นของมันทำจากสารเคมีสองชนิด หนึ่งคือของเหลวหนาสีขาวที่จะหลั่งออกมาก่อนแต่ยังคงเหม็นไปนานหลายสัปดาห์ ส่วนที่สองคือสารเหลว ๆ สีดำที่จะถูกทาทับสีขาวอีกที แต่จะเหม็นเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น อาจเป็นได้ว่าของเหลวสีขาวเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้เพื่ออ้างสิทธิเหนือดินแดน และสีดำเพื่อส่งข้อความไปยังสมาชิกอื่น ๆ ในครอบครัวเดียวกัน
2. สกั๊งค์
ค่อนข้างจะน่าแปลกใจที่สกั๊งค์อยู่ในอันดับที่สอง แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอันดับต้น ๆ ของรายชื่ออยู่ดี ชื่อของสกั๊งค์จะใช้แทนคำว่าเหม็น พวกมันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ใช้กลิ่นเป็นอาวุธ มันใช้กลิ่นของมันอย่างมีประโยชน์ถ้าหากว่ารู้สึกคุกคาม สกั๊งค์จะเตือนศัตรูหลายครั้งก่อนจะทำสงครามเคมี มันจะพ่นสเปรย์ที่ทำจาก ซัลเฟอร์ แอลกอฮอล์ ออกมาจากต่อมเหม็นขนาดเท่าผลองุ่นและห่อหุ้มด้วยกล้ามเนื้อที่ทวารของสกั๊งค์ เมื่อถึงเวลาจำเป็นมันจะบีบต่อมแล้วดันของเหลวออกมาเป็นสาย เล็งเป้าหมายไปที่ใบหน้าของศัตรู เพื่อเป็นการขับไล่ศัตรู
1. แทสเมเนียน เดวิล
ม้ามืดสำหรับตำแหน่งอันดับหนึ่ง แต่ด้วยกลิ่นที่เหมาะกับชื่อของมันมาก เช่นเดียวกับสกังค์ ตามปกติมันไม่มีกลิ่นเหม็น แต่เมื่อเครียด แทสเมเนียน เดวิล จะปลดปล่อยกลิ่นรุนแรงที่ทำให้มนุษย์รู้สึกวิงเวียนได้ กลิ่นของสัตว์ชนิดนี้เหม็นเสียจนทำให้จมูกคุณแทบหลุดเลยทีเดียว แทสเมเนียน เดวิล เป็นสัตว์กระเป๋าหน้าท้องซึ่งหมายถึงพวกมันเลี้ยงลูกในกระเป๋าหน้าท้องในช่วงสี่เดือนแรกของชีวิต มันตัวไม่ใหญ่กว่าสุนัขตัวเล็ก แทสเมเนียน เดวิล มีเสียงแหลมสูง แถมยังโหดมีฟันซี่ใหญ่ เจ้าตัวนี้เป็นนักกินซาก และออกกินทุกอย่างที่หาได้ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย
10 อันดับสัตว์ที่เหม็นที่สุดในโลก
[IMG]