10. Eisriesenwelt Ice Caves (Austria)
ถ้ำน้ำแข็งไอส์รีเซนเวลต์ (Eisriesenwelt Ice Caves) ใน ภาษาเยอรมันหมายถึง “โลกแห่งน้ำแข็งยักษ์” เป็นถ้ำน้ำแข็ง หินปูน ธรรมชาติขนาดใหญ่ของประเทศออสเตรีย(เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์)
ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับเมืองซาล์สเบิร์ก เป็นถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดโลกเท่าที่มนุษย์ค้นพบในปัจจุบัน โดยถ้ำแห่งนี้ค้นพบครั้งแรกในปี 1879 ที่สมัยนั้นคนในท้องถิ่นรู้จักมันในฐานะทางเข้าสู่นรกและไม่กล้าที่จะเข้าไป
ข้างใน ลักษณะข้างในถ้ำเป็นเหมือนภูเขาที่อยู่ในถ้ำและจะมีน้ำแข็งเกาะ หินงอก เต็มไปหมดเสมือนกลับว่าคุณอยู่ในโลกต่างมิติยังไงอย่างงั้นจนไม่เชื่อว่านี้ คือฝีมือของธรรมชาติ ถ้ำแห่งนี้มีความลึกถึง 42 กิโลเมตร
(แต่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมแค่กิโลเมตรแรก) โดยถ้ำนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวชมตั้งแต่ 1 พฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี โดยเปิด 9.00 น.-16.30 น. ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป แต่กระนั้นก็มีนักท่องเที่ยวกว่า 200,000 คนต่อปีมายังสถานที่แห่งนี้
ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับเมืองซาล์สเบิร์ก เป็นถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดโลกเท่าที่มนุษย์ค้นพบในปัจจุบัน โดยถ้ำแห่งนี้ค้นพบครั้งแรกในปี 1879 ที่สมัยนั้นคนในท้องถิ่นรู้จักมันในฐานะทางเข้าสู่นรกและไม่กล้าที่จะเข้าไป
ข้างใน ลักษณะข้างในถ้ำเป็นเหมือนภูเขาที่อยู่ในถ้ำและจะมีน้ำแข็งเกาะ หินงอก เต็มไปหมดเสมือนกลับว่าคุณอยู่ในโลกต่างมิติยังไงอย่างงั้นจนไม่เชื่อว่านี้ คือฝีมือของธรรมชาติ ถ้ำแห่งนี้มีความลึกถึง 42 กิโลเมตร
(แต่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมแค่กิโลเมตรแรก) โดยถ้ำนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวชมตั้งแต่ 1 พฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี โดยเปิด 9.00 น.-16.30 น. ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป แต่กระนั้นก็มีนักท่องเที่ยวกว่า 200,000 คนต่อปีมายังสถานที่แห่งนี้
9. The Richat Structure (Mauritania)
ริ แชทแห่งมอริเตเนีย(เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ) เป็นภูมิประเทศประหลาดในทะเลทรายซาทาร่าของมอริทาเนีย ได้รับความสนใจจากทั่วโลกเนื่องจากมีลักษณะดินที่แปลกตางดงามที่เรียกโครง
สร้างนี้ว่า “Richat Structure” เป็นวงกลมขนาดใหญ่รัศมีของมันกว้างถึง 50 กิโลเมตร สามารถมองเห็นทั้งหมดได้จากทางอวกาศ(รวมไปถึงภาพถ่ายดาวเทียม) ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโครงสร้างแบบนี้ยังคงลึกลับ
บ้างก็ว่าเกิดจากผลกระทบของอุกาบาตพุ่งชนจนเกิดเป็นคลื่นที่มีรัศมีกว้าง หรืออาจเกิดจากการยกตัวและการกัดกร่อนของหิน8. The Stone Forest (China)
อุทยาน ป่าหิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในมณฑลยูนนาน บริเวณทางตอนใต้ห่างจากเมืองคุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและถูกบันทึกว่าเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน โลก คือพื้นที่ 350 ตารางกิโลเมตร(พื้นที่เฉพาะส่วนที่เยี่ยมชมราว 12 ตารางกิโลเมตร)
ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ป่าหินนี้เต็มไปด้วยหินปูนและต้นไม้ที่กลายเป็นหินซึ่งลักษณะสวยงามแปลกตามากมายอายุราว 270 ล้านปี มีถ้ำ มีน้ำตก มีจุดท่องเที่ยวกว่า 200 จุด แต่ เดิมบริเวณแห่งนี้อยู่ใต้ผิวน้ำและเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของผิวโลกหิน
เหล่านี้จึงถูกดันให้โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำกลายเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามโดดเด่น ซึ่งป่าหินคุนหมิงนับเป็นพิพิธภัณฑ์ของป่าหินทั่วโลก ซึ่งมีคุณค่ามาก7. Blood Pond Hot Spring (Japan)
น้ำพุ ร้อนสีเลือด เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู ที่เอาไว้ชมความงามมากกว่าจะใช้อาบ
โดยสถานที่แห่งนั้นเรียกอีกชื่อว่า “นรกบ่อเลือด” สาเหตุที่น้ำพุมีสีเลือดเนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมากนั่นเอง6. Vale da Lua (Brazil)
หุบเขาโลกพระจันทร์ เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปีอยู่ห่างจากเมือง Alto Paraíso de Goiásทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิลไปประมาณ 38 กิโลเมตร
และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros โดย พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินรูปร่างประหลาดแปลกตามากมายทำให้ดูเหมือนผิว พื้นดวงจันทร์อย่างใดอย่างงั้น
ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากการกัดเซาะของแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายใน ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมาชมมากที่สุดในชีวิต5. Salar de Uyuni (Bolivia)
เป็น ทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีพื้นที่ถึง 10,582 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ใกล้ยอดของเทือกเขาแอนดีส และมีความสูง 3,656 เมตร(11,995 ฟุต) หรือระดับน้ำทะเลเฉลี่ย เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคราบเกลือที่หลงเหลือมานานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติ ศาสตร์
ทำให้พื้นที่แห้งนี้เต็มไปด้วย หินเกลือและยิปซัม และแร่ลิเธียม(มีมากกว่า 70% ของปริมาณแร่ลิเธียมของทั้งโลกที่ยังไม่ได้สกัด) มีการประมาณว่ามันบรรจุไว้ด้วยเกลือกว่า 10 ล้านล้านตัน มี เกลือมากจนกระทั้งกลายเป็นชั้นดินที่สามารถทำให้คนหรือรถเดินทางลงได้อย่าง สบาย
นอกจากทัศนียภาพที่แปลกตาจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วแล้วมันยังใช้ประโยชน์ มากมาย หนึ่งในนั้นคือมันเหมาะมากในการถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบ และปรับแก้การวัดค่าความสูงของดาวเทียม เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้กว้างใหญ่ พื้นผิวราบเรียบเป็นพิเศษ อีกทั้งท้องฟ้าที่ค่อนข้างเปิด ความชื้นต่ำ
นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของโบลิเวียเพราะแร่ลิเธียม(ใช้ทำ แบตเตอรี่ไฟฟ้า) เหมือนแร่ และยังเป็นแหล่งของพืชและสัตว์แปลกๆ มากมาย(ภาพใหญ่ข้างบนปรากฏการสะท้อนแสง)4. Kliluk, the Spotted Lake (Canada)
“สปอท เลค” เป็นทะเลสาปเกลือที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ ของโอซอยออส ข้างทางหลวงหมายเลข 3 บริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เป็นทะเลสาบที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ เข้มข้นอยู่จำนวนมากและบางชนิดก็มีปริมาณที่สุด(ในโลกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซัลเฟต แมกนีเซียม แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต(มากที่สุดในโลก)
รวมไปถึงเงินและไทเทเนียม ในฤดูร้อนแร่ต่างๆ จะเกิดการระเหยและตกผลึกเป็นเกลือส่งผลทำให้แม่นำเกิดจุดคือด้านนอกเป็นส่วน ของแร่ธาตุนานาชนิด(ที่สามารถลงไปเดินสำรวจได้) ส่วนในวงกลมเป็นน้ำที่มีสีที่แล้วแต่แร่ธาตุชนิดนั้น สมัยก่อนแร่ธาตุจากที่แห่งนี้เคยถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการทำกระสุนในสมัย สงครามโลก และปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ของเอกชน
ทำให้เปิดให้คนนอกเข้าชมความมหัศจรรย์ของทะเลสาบแห่งนี้จำนวนจำกัด โดยวิธีที่ดีที่สุดคือนักท่องเที่ยวจึงทำได้แค่หยุดรถแล้วมองจากราวรั้วกั้น ริมถนนเท่านั้น3. Rio Tinto (Spain)
หรือเเม่น้ำเเดง เป็นเเม่น้ำในตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน ในภูเขา Andalusia บริเวรพื้นที่ตามเเน้วชายฝั่งเเม่น้ำ Rio Tinto
สมัยโบราณที่มีการทำเหมืองทองเเดง เงิน ทอง เเเละธาตุอื่นๆ มาตั้งเเต่สมัยประมาณ 5 พันปีก่อนเเร่ต่างๆ ได้ลงไปในเเม่น้ำ ส่งผมทำให้เกิดเเม่น้ำดังกล่าวมีค่าความเป็นกรดสูงมาก ส่วนสาเหตุที่น้ำมีสีเเดงก็เนื่องจากก้อนหินอยู่ในน้ำเเห่งนี้ประกอบด้วยธาตุเหล็กในปริมาณเข้มข้นนั้นเอง
เเม่น้ำเเห่งนี้ได้รับความสนใจต่อนักวิทยาศาสตร์มาก เนื่องจากเเบคทีเรีย ในน้ำมีกรดสูงซึ่ง นาซ่าได้เปรียบเทียบสภาพเเม่น้ำนี้ว่าเหมือน ดาวพฤหัส เเละ ดวงจันทร์ยูโทปา
2. Socotra Island (Indian Ocean)
ไม่น่าเชื่อว่านี้คือเกาะบนโลกมนุษย์เพราะว่ามันช่างเหมือนบนดาวเคราะห์ที่มีแต่สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดจริงๆ เกาะโซโคตร้า เป็นหมู่เกาะเล็กๆ ภายใต้เยเมน ที่ปลายติ่งแหลมของทวีปแอฟริกา
(อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากประเทศโซมาเลีย 250 กิโลเมตร เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในจำนวน 4 เกาะสังกัดหมู่เกาะ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเมื่อ กรกฏาคม 2008 นี้สภาพ ภูมิอากาศที่ร้อนอบอ้าว
และแห้งแล้ง ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาอันแปลกตาแปลกใจ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยสีฟ้าและเขียวจากธรรมชาติ แต่สิ่งที่แปลกที่สุดคือมันเป็นสถานที่รวมแห่งพืชพรรณแปลกประหลาดหลายชนิด ต้นไม้รูปทรงแปลก ๆ
ที่ยังมีชีวิตอยู่รอดได้อายุกว่า 20 ล้านปี การแยกโดดเดี่ยวทำให้เกาะโซโคตร้า มีกลุ่มพืชและสัตว์ “หนึ่งไม่มีสอง” ในโลก 37% ในจำนวนพืช 825 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 90% และสัตว์น้ำมีเปลือกชนิดต่างๆ 95%
ที่ ไม่สามารถพบเห็นในไม่ว่าสถานที่อื่นใดโลก เช่น ต้น "กุหลาบแห่งทะเลทราย (Desert Rose)"ต้น dragon’s blood (เลือดมังกร) ที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณรักษาได้สารพัดโรค
จึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจที่เกาะแห่งนี้จะถูกขนามนามว่า “กาลาปาโกสของมหาสมุทรอินเดีย1. Mcmurdo Dry Valleys (Antartica)
เเมคเมอร์โด ไดร์ วัลเลย์ หรือหุบเขาเเห้งเเล้ง เป็นทะเลทรายเเห้งเเล้งขนาดใหญ่พื้นที่ กว่า 4800 กิโลเมตร
ที่ตั้งอยู่ใน เเอนตาร์ติการ์ เเถบขั้วโลกใต้ โดย พื้นที่เเห่งนี้เป็นทะเลทรายที่เเห้งเเล้งมากๆไม่มีความชื้น เป็นสถานที่เเห่งเดียวที่ไม่มีหิมะ
ไม่มีน้ำเเข็งปกคลุม ชั้นหินปกคลุมด้วยก้อนกรวดเต็มไปด้วยไซด์ของเหล็ก ซึ่งก็คือ สนิมนั้นเอง เเต่กระนั้นสถานที่เเห่งนี้น่าสนใจเหลือเกิน
เสมือนกับว่าอยู่ดาวอังคาร ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต่างพยายามศึกษาบริเวณเเห่งนี้หากมีสิ่งมีชีวิตอยู่ เเสดงว่าดาวอังคารน่าจะมีอยู่ด้วย
โดยสิ่งที่เจอก็มีเเบคทีเรียบางชนิด
ขอบคุณงามๆข้อมูลจาก :Topthailand นะครับอ้า อยากไปจัง แต่ตังไม่มี
ริ แชทแห่งมอริเตเนีย(เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ) เป็นภูมิประเทศประหลาดในทะเลทรายซาทาร่าของมอริทาเนีย ได้รับความสนใจจากทั่วโลกเนื่องจากมีลักษณะดินที่แปลกตางดงามที่เรียกโครง
สร้างนี้ว่า “Richat Structure” เป็นวงกลมขนาดใหญ่รัศมีของมันกว้างถึง 50 กิโลเมตร สามารถมองเห็นทั้งหมดได้จากทางอวกาศ(รวมไปถึงภาพถ่ายดาวเทียม) ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโครงสร้างแบบนี้ยังคงลึกลับ
บ้างก็ว่าเกิดจากผลกระทบของอุกาบาตพุ่งชนจนเกิดเป็นคลื่นที่มีรัศมีกว้าง หรืออาจเกิดจากการยกตัวและการกัดกร่อนของหิน8. The Stone Forest (China)
อุทยาน ป่าหิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในมณฑลยูนนาน บริเวณทางตอนใต้ห่างจากเมืองคุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและถูกบันทึกว่าเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน โลก คือพื้นที่ 350 ตารางกิโลเมตร(พื้นที่เฉพาะส่วนที่เยี่ยมชมราว 12 ตารางกิโลเมตร)
ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ป่าหินนี้เต็มไปด้วยหินปูนและต้นไม้ที่กลายเป็นหินซึ่งลักษณะสวยงามแปลกตามากมายอายุราว 270 ล้านปี มีถ้ำ มีน้ำตก มีจุดท่องเที่ยวกว่า 200 จุด แต่ เดิมบริเวณแห่งนี้อยู่ใต้ผิวน้ำและเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของผิวโลกหิน
เหล่านี้จึงถูกดันให้โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำกลายเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามโดดเด่น ซึ่งป่าหินคุนหมิงนับเป็นพิพิธภัณฑ์ของป่าหินทั่วโลก ซึ่งมีคุณค่ามาก7. Blood Pond Hot Spring (Japan)
น้ำพุ ร้อนสีเลือด เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู ที่เอาไว้ชมความงามมากกว่าจะใช้อาบ
โดยสถานที่แห่งนั้นเรียกอีกชื่อว่า “นรกบ่อเลือด” สาเหตุที่น้ำพุมีสีเลือดเนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมากนั่นเอง6. Vale da Lua (Brazil)
หุบเขาโลกพระจันทร์ เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปีอยู่ห่างจากเมือง Alto Paraíso de Goiásทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิลไปประมาณ 38 กิโลเมตร
และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros โดย พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินรูปร่างประหลาดแปลกตามากมายทำให้ดูเหมือนผิว พื้นดวงจันทร์อย่างใดอย่างงั้น
ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากการกัดเซาะของแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายใน ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมาชมมากที่สุดในชีวิต5. Salar de Uyuni (Bolivia)
เป็น ทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีพื้นที่ถึง 10,582 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ใกล้ยอดของเทือกเขาแอนดีส และมีความสูง 3,656 เมตร(11,995 ฟุต) หรือระดับน้ำทะเลเฉลี่ย เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคราบเกลือที่หลงเหลือมานานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติ ศาสตร์
ทำให้พื้นที่แห้งนี้เต็มไปด้วย หินเกลือและยิปซัม และแร่ลิเธียม(มีมากกว่า 70% ของปริมาณแร่ลิเธียมของทั้งโลกที่ยังไม่ได้สกัด) มีการประมาณว่ามันบรรจุไว้ด้วยเกลือกว่า 10 ล้านล้านตัน มี เกลือมากจนกระทั้งกลายเป็นชั้นดินที่สามารถทำให้คนหรือรถเดินทางลงได้อย่าง สบาย
นอกจากทัศนียภาพที่แปลกตาจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วแล้วมันยังใช้ประโยชน์ มากมาย หนึ่งในนั้นคือมันเหมาะมากในการถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบ และปรับแก้การวัดค่าความสูงของดาวเทียม เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้กว้างใหญ่ พื้นผิวราบเรียบเป็นพิเศษ อีกทั้งท้องฟ้าที่ค่อนข้างเปิด ความชื้นต่ำ
นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของโบลิเวียเพราะแร่ลิเธียม(ใช้ทำ แบตเตอรี่ไฟฟ้า) เหมือนแร่ และยังเป็นแหล่งของพืชและสัตว์แปลกๆ มากมาย(ภาพใหญ่ข้างบนปรากฏการสะท้อนแสง)4. Kliluk, the Spotted Lake (Canada)
“สปอท เลค” เป็นทะเลสาปเกลือที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ ของโอซอยออส ข้างทางหลวงหมายเลข 3 บริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เป็นทะเลสาบที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ เข้มข้นอยู่จำนวนมากและบางชนิดก็มีปริมาณที่สุด(ในโลกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซัลเฟต แมกนีเซียม แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต(มากที่สุดในโลก)
รวมไปถึงเงินและไทเทเนียม ในฤดูร้อนแร่ต่างๆ จะเกิดการระเหยและตกผลึกเป็นเกลือส่งผลทำให้แม่นำเกิดจุดคือด้านนอกเป็นส่วน ของแร่ธาตุนานาชนิด(ที่สามารถลงไปเดินสำรวจได้) ส่วนในวงกลมเป็นน้ำที่มีสีที่แล้วแต่แร่ธาตุชนิดนั้น สมัยก่อนแร่ธาตุจากที่แห่งนี้เคยถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการทำกระสุนในสมัย สงครามโลก และปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ของเอกชน
ทำให้เปิดให้คนนอกเข้าชมความมหัศจรรย์ของทะเลสาบแห่งนี้จำนวนจำกัด โดยวิธีที่ดีที่สุดคือนักท่องเที่ยวจึงทำได้แค่หยุดรถแล้วมองจากราวรั้วกั้น ริมถนนเท่านั้น3. Rio Tinto (Spain)
หรือเเม่น้ำเเดง เป็นเเม่น้ำในตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน ในภูเขา Andalusia บริเวรพื้นที่ตามเเน้วชายฝั่งเเม่น้ำ Rio Tinto
สมัยโบราณที่มีการทำเหมืองทองเเดง เงิน ทอง เเเละธาตุอื่นๆ มาตั้งเเต่สมัยประมาณ 5 พันปีก่อนเเร่ต่างๆ ได้ลงไปในเเม่น้ำ ส่งผมทำให้เกิดเเม่น้ำดังกล่าวมีค่าความเป็นกรดสูงมาก ส่วนสาเหตุที่น้ำมีสีเเดงก็เนื่องจากก้อนหินอยู่ในน้ำเเห่งนี้ประกอบด้วยธาตุเหล็กในปริมาณเข้มข้นนั้นเอง
เเม่น้ำเเห่งนี้ได้รับความสนใจต่อนักวิทยาศาสตร์มาก เนื่องจากเเบคทีเรีย ในน้ำมีกรดสูงซึ่ง นาซ่าได้เปรียบเทียบสภาพเเม่น้ำนี้ว่าเหมือน ดาวพฤหัส เเละ ดวงจันทร์ยูโทปา
2. Socotra Island (Indian Ocean)
ไม่น่าเชื่อว่านี้คือเกาะบนโลกมนุษย์เพราะว่ามันช่างเหมือนบนดาวเคราะห์ที่มีแต่สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดจริงๆ เกาะโซโคตร้า เป็นหมู่เกาะเล็กๆ ภายใต้เยเมน ที่ปลายติ่งแหลมของทวีปแอฟริกา
(อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากประเทศโซมาเลีย 250 กิโลเมตร เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในจำนวน 4 เกาะสังกัดหมู่เกาะ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเมื่อ กรกฏาคม 2008 นี้สภาพ ภูมิอากาศที่ร้อนอบอ้าว
และแห้งแล้ง ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาอันแปลกตาแปลกใจ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยสีฟ้าและเขียวจากธรรมชาติ แต่สิ่งที่แปลกที่สุดคือมันเป็นสถานที่รวมแห่งพืชพรรณแปลกประหลาดหลายชนิด ต้นไม้รูปทรงแปลก ๆ
ที่ยังมีชีวิตอยู่รอดได้อายุกว่า 20 ล้านปี การแยกโดดเดี่ยวทำให้เกาะโซโคตร้า มีกลุ่มพืชและสัตว์ “หนึ่งไม่มีสอง” ในโลก 37% ในจำนวนพืช 825 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 90% และสัตว์น้ำมีเปลือกชนิดต่างๆ 95%
ที่ ไม่สามารถพบเห็นในไม่ว่าสถานที่อื่นใดโลก เช่น ต้น "กุหลาบแห่งทะเลทราย (Desert Rose)"ต้น dragon’s blood (เลือดมังกร) ที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณรักษาได้สารพัดโรค
จึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจที่เกาะแห่งนี้จะถูกขนามนามว่า “กาลาปาโกสของมหาสมุทรอินเดีย1. Mcmurdo Dry Valleys (Antartica)
เเมคเมอร์โด ไดร์ วัลเลย์ หรือหุบเขาเเห้งเเล้ง เป็นทะเลทรายเเห้งเเล้งขนาดใหญ่พื้นที่ กว่า 4800 กิโลเมตร
ที่ตั้งอยู่ใน เเอนตาร์ติการ์ เเถบขั้วโลกใต้ โดย พื้นที่เเห่งนี้เป็นทะเลทรายที่เเห้งเเล้งมากๆไม่มีความชื้น เป็นสถานที่เเห่งเดียวที่ไม่มีหิมะ
ไม่มีน้ำเเข็งปกคลุม ชั้นหินปกคลุมด้วยก้อนกรวดเต็มไปด้วยไซด์ของเหล็ก ซึ่งก็คือ สนิมนั้นเอง เเต่กระนั้นสถานที่เเห่งนี้น่าสนใจเหลือเกิน
เสมือนกับว่าอยู่ดาวอังคาร ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต่างพยายามศึกษาบริเวณเเห่งนี้หากมีสิ่งมีชีวิตอยู่ เเสดงว่าดาวอังคารน่าจะมีอยู่ด้วย
โดยสิ่งที่เจอก็มีเเบคทีเรียบางชนิด
ขอบคุณงามๆข้อมูลจาก :Topthailand นะครับอ้า อยากไปจัง แต่ตังไม่มี
10 สถานที่เหลือเชื่อว่าอยู่บนโลก
[IMG]