รับประทานไขมันให้ได้ประโยชน์ (ไทยโพสต์)
ไขมันถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่หากบริโภคในปริมาณที่มากจนเกินไป อาจส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน และส่งผลให้เกิดโรคหัวใจตามมาได้ ดังนั้นการรับประทานไขมันให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกาย ในปริมาณที่เหมาะสมนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
ผศ.ดร.อริสร์ เทียนประเสริฐ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร แนะนำถึงวิธีการรับประทานไขมันให้ได้ประโยชน์ว่า ไขมันนั้นเป็นสารอาหารตัวหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย และร่างกายจำเป็นต้องได้รับในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากไขมันจะเป็นตัวที่ไปช่วยละลายวิตามินซีในร่างกาย ถ้าร่างกายไม่มีไขมันก็จะทำให้ร่างกายขาดวิตามินไปด้วย และที่สำคัญร่างกายสามารถสร้างไขมันได้เอง โดยการรับประทานอาหารประเภทแป้ง และกระบวนการในร่างกาย จะเป็นตัวที่เปลี่ยนพลังงานจากแป้งเป็นกรดไขมัน ที่เรียกกันว่า "ไตรกลีเซอไรด์" ได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.อริสร์กล่าวว่า ถึงแม้ว่าไขมันจะจำเป็นต่อร่างกาย แต่ต้องได้รับไม่ต่ำกว่า 15% ของพลังงานที่ได้รับทั้งหมดในแต่ละวัน สำหรับไขมันที่แนะนำให้รับประทานคือ กรดไขมันไม่อิ่มตัว หรือเป็นไขมันตัวที่ดีและมีความจำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งจะพบได้ในน้ำมันพืช น้ำมันปลา (ซึ่งอาจจะเป็นคนละชนิดแต่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน) เนื่องจากกรดไขมันไม่อิ่มตัวนั้น แบ่งเป็น
1.เป็นส่วนประกอบของเซลล์ หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นโครงสร้างของเซลล์ และสามารถย่อยสลายได้ง่าย จึงช่วยป้องกันการเกิดการอุดตันของหลอดเลือดต่าง ๆ ได้ ดังนั้นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจก็จะลดลงเช่นกัน
2.กรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นส่วนประกอบ หรือสารตั้งต้นในการสร้างสารที่สำคัญต่อร่างกาย จำพวกสารในกลุ่มไอโคสนอยด์ ที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมน แต่สารตัวนี้จะทำงานเฉพาะที่ หรือคล้ายกับเป็นตัวคำสั่งให้แก่เซลล์ ซึ่งจะช่วยในเรื่องการจับตัวกันของเกล็ดเลือด เพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหลในกรณีที่โดนมีดบาด หกล้ม หรือเป็นแผล เป็นต้น
ผศ.ดร.อริศร์กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่แนะนำให้รับประทานน้ำมันมะกอก เนื่องจากเป็นน้ำมันที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และมีราคาที่ค่อนข้างแพง ดังนั้นจึงไม่คุ้มค่าในการนำมาปรุงอาหาร ขณะเดียวกันการรับประทานน้ำมันถั่วเหลืองนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องรับประทานให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป เพราะหากรับประทานในปริมาณที่มาก จะทำให้ได้รับกรดไขมันอิ่มตัวอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ร่างกายสร้างการอุดตันให้กับเกล็ดเลือด ดังนั้นการเลือกรับประทานไขมันจากน้ำมันปลาที่มีโอเมกา 3 ซึ่งพบในปลาทะเลและปลาน้ำจืดนั้น น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเลือกรับประทานกรดไขมัน ที่ไม่อิ่มตัว แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรักษากรดไขมัน โดยการหลีกเลี่ยงการทอด เพราะการทอดจะทำให้สูญเสียสารอาหารบางตัวไป แต่ควรปรุงอาหารโดยการต้ม นึ่ง หรือปิ้งปลา โดยใช้บรรจุภัณฑ์ห่ออาหารแทนก็จะดี
ส่วนไขมันที่ควรเลี่ยงนั้น ผศ.ดร.อริศร์กล่าวว่า เป็นไขมันจำพวกอิ่มตัว โดยเฉพาะไขมันที่มีการอิ่มตัวมาก ๆ ซึ่งสามารถพบได้ในสัตว์บก เช่น เนื้อหมูหรือมันหมู ที่มีลักษณะเป็นก้อนสีขาว เนื้อวัว และไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันที่ได้มาจากกระบวนการผลิตอาหาร ที่เปลี่ยนแปลงน้ำมันให้มีการแข็งตัวมากขึ้น เช่น มาการีนที่ใช้ทาขนมปัง เป็นต้น เพราะการรับประทานไขมันอิ่มตัวเข้าไปเป็นจำนวนมากนั้น จะส่งผลทำให้น้ำหนักเกิน หลอดเลือดอุดตัน และเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ เนื่องจากกรดไขมันอิ่มตัวนั้นจะมีการเผาผลาญในลักษณะคงที่ ทำให้เกิดการสะสมในร่างกายได้ง่าย จึงส่งผลทำให้เกิดโรคที่กล่าวมาข้างต้นได้ ดังนั้นจึงควรได้รับในปริมาณที่น้อยกว่า 1%
ท้ายนี้ ผศ.ดร.อริสร์ แนะนำว่า การเลือกรับประทานไขมันให้เหมาะสมกับร่างกายนั้น ในแต่ละวันควรได้รับไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ของไขมันโดยรวมในร่างกาย ส่วนการรับประทานไขมันไม่อิ่มตัวนั้น ควรได้รับไม่เกิน 11% เนื่องจากการที่กรดไขมันไม่อิ่มตัวนั้นจะมีลักษณะไม่คงที่ จึงทำให้เกิดการย่อยสลายได้ง่าย และเมื่อย่อยสลายได้ง่าย ก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้นไม่ควรได้รับเกิน 11% ของพลังงานโดยรวมในร่างกายนั่นเอง
รับประทานไขมันให้ได้ประโยชน์
♥The tongue is like a sharp knife; it kills without drawing blood
Happyness belong to the contented.
Peace begins where ambition ends
All men naturally desire to know.No one is too old to learn♥
Happyness belong to the contented.
Peace begins where ambition ends
All men naturally desire to know.No one is too old to learn♥
[IMG]