10 อันดับกาแฟจากทั่วทุกมุมโลกที่ควรลิ้มลองสักครั้ง

กาแฟขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตติดอับดับเครื่องดื่มที่มีคนนิยมดื่มมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนต่างก็มีกาแฟในแบบฉบับของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น และด้วยความฮอตฮิตของกาแฟนี่เองทำให้เราต้องหยิบยกกาแฟ 10 อันดับกาแฟจากทั่วทุกมุมโลกที่ควรลิ้มลองสักครั้ง ที่เขาล่ำลือว่าเด็ดสุด ๆ จนคอกาแฟไม่ควรพลาดมาฝากกันด้วยนะ...
10. กาแฟใส่นม (Coffee Milk)

กาแฟใส่นมมีต้นกำเนิดจากรัฐโรด ไอส์แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งรสชาติจะออกหวานมันนุ่มลิ้นมากกว่ากาแฟสูตรอื่น ๆ ในสหรัฐ แต่คอกาแฟตัวจริงหลายคนก็อาจจะไม่ค่อยนิยมกาแฟใส่นมเท่าไรนัก เพราะรสชาติจะออกคล้าย ๆ กับช็อกโกแลตร้อนใส่นมและครีมมากกว่า แต่กับชาวไทย กาแฟใส่นมคงเป็นกาแฟแก้วโปรดของใครหลายคนจริงไหมคะ ยิ่งถ้าเป็นกาแฟเย็นด้วยล่ะก็ จะยิ่งฟินคูณสองกันไปเลยเนอะ
9. กาแฟมาร็อกชิโน (Caffe Marocchino)

แม้ว่าชื่อกาแฟสูตรนี้จะคล้าย ๆ ชื่อประเทศโมรอคโค แต่จริง ๆ แล้วเป็นกาแฟจากประเทศอิตาลีต่างหาก โดยกาแฟร้อนแก้วนี้เป็นส่วนผสมจากผงโกโก้ เอสเพรสโซ และฟองนม แต่ถึงแม้จะมีเอสเพรสโซผสมอยู่ด้วย แต่รสชาติของมันกลับจะออกหวานมัน และมีรสกาแฟค่อนข้างอ่อน เนื่องจากมีผงโกโก้ผสมอยู่ด้วยนั่นเอง ดังนั้นกาแฟแก้วนี้จึงเหมาะกับคนที่ชื่นชอบกาแฟรสนุ่มละมุนลิ้นมากกว่าคอกาแฟตัวจริงนะคะ
8. กาแฟสไตล์เวียดนาม (Vietnamese Iced Coffee)

กาแฟใส่นมมีต้นกำเนิดจากรัฐโรด ไอส์แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งรสชาติจะออกหวานมันนุ่มลิ้นมากกว่ากาแฟสูตรอื่น ๆ ในสหรัฐ แต่คอกาแฟตัวจริงหลายคนก็อาจจะไม่ค่อยนิยมกาแฟใส่นมเท่าไรนัก เพราะรสชาติจะออกคล้าย ๆ กับช็อกโกแลตร้อนใส่นมและครีมมากกว่า แต่กับชาวไทย กาแฟใส่นมคงเป็นกาแฟแก้วโปรดของใครหลายคนจริงไหมคะ ยิ่งถ้าเป็นกาแฟเย็นด้วยล่ะก็ จะยิ่งฟินคูณสองกันไปเลยเนอะ
9. กาแฟมาร็อกชิโน (Caffe Marocchino)

แม้ว่าชื่อกาแฟสูตรนี้จะคล้าย ๆ ชื่อประเทศโมรอคโค แต่จริง ๆ แล้วเป็นกาแฟจากประเทศอิตาลีต่างหาก โดยกาแฟร้อนแก้วนี้เป็นส่วนผสมจากผงโกโก้ เอสเพรสโซ และฟองนม แต่ถึงแม้จะมีเอสเพรสโซผสมอยู่ด้วย แต่รสชาติของมันกลับจะออกหวานมัน และมีรสกาแฟค่อนข้างอ่อน เนื่องจากมีผงโกโก้ผสมอยู่ด้วยนั่นเอง ดังนั้นกาแฟแก้วนี้จึงเหมาะกับคนที่ชื่นชอบกาแฟรสนุ่มละมุนลิ้นมากกว่าคอกาแฟตัวจริงนะคะ
8. กาแฟสไตล์เวียดนาม (Vietnamese Iced Coffee)

กาแฟสไตล์เวียดนามเพื่อนบ้านของเราก็อร่อยเด็ดใช่ย่อยเช่นกัน แต่ชาวเวียดนามจะเรียกว่า Ca phe sua da สูตรนี้จะมีรสชาติหวานมันนำรสกาแฟ เพราะได้รับอิทธิพลจากประเทศฝรั่งเศส จึงทำให้ชาวเวียดนามดื่มกาแฟผสมนมได้อย่างคุ้นลิ้น แต่หากใครไม่คุ้นกับการดื่มกาแฟผสมนมหวาน ๆ มัน ๆ ก็คงขยาดสักหน่อยนะคะ เพราะแก้วนี้ใส่นมกว่าครึ่งแก้ว แถมด้วยวิปครีมหรือฟองนมด้านบนแก้วอีกด้วยจ้า
7. กาแฟไอริช (Irish Coffee)

กาแฟไอริช หรือเหล้ากาแฟสูตรนี้มีหลากหลายสูตรจนคนสับสนกันไปหมด แต่จริง ๆ แล้วถ้าจะให้ชงเหมือนต้นตำรับเป๊ะ ๆ ต้องใส่น้ำตาลทรายแดงที่ก้นถ้วย ต่อด้วยวิสกี้อีก 1 ช็อต จากนั้นก็เติมกาแฟดำลงไป ตบท้ายด้วยวิปปิ้งครีม หรือฟองนมด้านบนแก้ว เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ลิ้มรสชาติเหล้ากาแฟเหมือนได้บินไปดื่มถึงถิ่นเขาเลยล่ะ
6. แฟรปเป้ (Frappe)

สำหรับคอกาแฟที่นิยมดื่มกาแฟแบบเย็นมากกว่าแบบร้อน ก็ต้องชอบกาแฟจากประเทศกรีกแก้วนี้แน่ ๆ เพราะเป็นกาแฟปั่นที่ใส่วิปปิ้งครีมเพิ่มความมันเข้าไปจนมีรสชาติกลมกล่อม ถูกอกถูกใจชาวกรีกเกือบทั้งประเทศ และยังลามมาฮิตในประเทศอื่น ๆ อีกด้วย
5. คาปูชิโน (Cappuccino)

คาปูชิโนเป็นกาแฟยอดฮิตของประเทศอิตาลี เป็นที่นิยมจนถูกเรียกว่าเครื่องดื่มประจำประเทศกันเลยก็ว่าได้ ส่วนมากมักนิยมดื่มเป็นกาแฟร้อน บรรจุแก้วกระดาษ หรือแก้วมีหู โดยปกติแล้วคาปูชิโนจะเป็นกาแฟที่ผสมเอสเพรสโซ นมร้อน และฟองนม เหตุผลที่มีฟองนมก็เพื่อให้รักษาความร้อนของกาแฟให้ร้อนนานขึ้นนั่นเอง
4. กาแฟ กรีก ตุรกี (Greek-Turkish Coffee)

เป็นการผสมผสานกันได้อย่างลงตัวที่สุดเลยก็ว่าได้กับสูตรกาแฟที่ประเทศกรีก และตุรกีที่ได้คิดค้นร่วมกัน โดยการนำเอากาแฟสูตรต้นตำรับของทั้งสองประเทศมาผสมกัน กาแฟสูตรนี้อาจจะมีรสชาติที่อ่อนกว่ากาแฟทั้ง 3 สูตรก่อนหน้านี้ แต่ก็มีเสน่ห์ตรงกลิ่นหอมของกาแฟคั่วบด และมีกลิ่นอายความเข้มของกาแฟเอสเพรสโซที่ใส่เข้าไปนิดหน่อย และความข้นของกาแฟจากกากเมล็ดกาแฟคั่วที่ก้นถ้วย
3.แฟรบปูชิโน่ (Frappuccino)

ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นคนคิดค้นกาแฟสูตรนี้ขึ้นมา โดยไอเดียสร้างสรรค์ที่นำคาปูชิโน (Cappuccino) ของประเทศอิตาเลียนมาปั่นรวมกับกาแฟแบบกรีก (Greek Frappe) จึงทำให้เกิดแฟรปปูชิโนขึ้นมาให้คอกาแฟทุกคนได้ลิ้มลอง และด้วยรสชาติที่ใครได้ดื่มก็ต้องติดใจ จึงทำให้แฟรปปูชิโนเป็นกาแฟยอดนิยมถึงขั้นเป็นเมนูติดอันดับของร้านกาแฟชื่อดังเลยทีเดียว โชคดีนะคะที่บ้านเราก็มีร้านกาแฟนี้กับเขาด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงต้องบินไปลิ้มลองกันไกลถึงประเทศสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
2. กาแฟโอเล (Cafe au lait)


ด้วยความเข้มข้นเข้าถึงรสชาติของกาแฟแท้ ๆ อย่างเอสเพรสโซ จึงทำให้กาแฟชนิดนี้ครองแชมป์อันดับหนึ่งมาได้อย่างสบาย ๆ ตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมาในยุค 80 และเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี และในทวีปยุโรป ซึ่งในสมัยนั้นกาแฟเอสเพรสโซฉบับต้นตำรับจะมีรสชาติเข้มสุด ๆ เต็มไปด้วยรสชาติของกาแฟแท้ กลิ่นหอม ๆ และถึงแม้ทุกวันนี้เอสเพรสโซจะมีรสชาติเพี้ยนไปบ้างตามแต่ละประเทศจะนำไปดัดแปลง แต่ก็ยังคงยืนพื้นความเข้มข้น จนคอกาแฟดำทั้งหลายติดใจไม่รู้ลืม

กาแฟไอริช หรือเหล้ากาแฟสูตรนี้มีหลากหลายสูตรจนคนสับสนกันไปหมด แต่จริง ๆ แล้วถ้าจะให้ชงเหมือนต้นตำรับเป๊ะ ๆ ต้องใส่น้ำตาลทรายแดงที่ก้นถ้วย ต่อด้วยวิสกี้อีก 1 ช็อต จากนั้นก็เติมกาแฟดำลงไป ตบท้ายด้วยวิปปิ้งครีม หรือฟองนมด้านบนแก้ว เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ลิ้มรสชาติเหล้ากาแฟเหมือนได้บินไปดื่มถึงถิ่นเขาเลยล่ะ
6. แฟรปเป้ (Frappe)

สำหรับคอกาแฟที่นิยมดื่มกาแฟแบบเย็นมากกว่าแบบร้อน ก็ต้องชอบกาแฟจากประเทศกรีกแก้วนี้แน่ ๆ เพราะเป็นกาแฟปั่นที่ใส่วิปปิ้งครีมเพิ่มความมันเข้าไปจนมีรสชาติกลมกล่อม ถูกอกถูกใจชาวกรีกเกือบทั้งประเทศ และยังลามมาฮิตในประเทศอื่น ๆ อีกด้วย
5. คาปูชิโน (Cappuccino)

คาปูชิโนเป็นกาแฟยอดฮิตของประเทศอิตาลี เป็นที่นิยมจนถูกเรียกว่าเครื่องดื่มประจำประเทศกันเลยก็ว่าได้ ส่วนมากมักนิยมดื่มเป็นกาแฟร้อน บรรจุแก้วกระดาษ หรือแก้วมีหู โดยปกติแล้วคาปูชิโนจะเป็นกาแฟที่ผสมเอสเพรสโซ นมร้อน และฟองนม เหตุผลที่มีฟองนมก็เพื่อให้รักษาความร้อนของกาแฟให้ร้อนนานขึ้นนั่นเอง
4. กาแฟ กรีก ตุรกี (Greek-Turkish Coffee)

เป็นการผสมผสานกันได้อย่างลงตัวที่สุดเลยก็ว่าได้กับสูตรกาแฟที่ประเทศกรีก และตุรกีที่ได้คิดค้นร่วมกัน โดยการนำเอากาแฟสูตรต้นตำรับของทั้งสองประเทศมาผสมกัน กาแฟสูตรนี้อาจจะมีรสชาติที่อ่อนกว่ากาแฟทั้ง 3 สูตรก่อนหน้านี้ แต่ก็มีเสน่ห์ตรงกลิ่นหอมของกาแฟคั่วบด และมีกลิ่นอายความเข้มของกาแฟเอสเพรสโซที่ใส่เข้าไปนิดหน่อย และความข้นของกาแฟจากกากเมล็ดกาแฟคั่วที่ก้นถ้วย
3.แฟรบปูชิโน่ (Frappuccino)

ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นคนคิดค้นกาแฟสูตรนี้ขึ้นมา โดยไอเดียสร้างสรรค์ที่นำคาปูชิโน (Cappuccino) ของประเทศอิตาเลียนมาปั่นรวมกับกาแฟแบบกรีก (Greek Frappe) จึงทำให้เกิดแฟรปปูชิโนขึ้นมาให้คอกาแฟทุกคนได้ลิ้มลอง และด้วยรสชาติที่ใครได้ดื่มก็ต้องติดใจ จึงทำให้แฟรปปูชิโนเป็นกาแฟยอดนิยมถึงขั้นเป็นเมนูติดอันดับของร้านกาแฟชื่อดังเลยทีเดียว โชคดีนะคะที่บ้านเราก็มีร้านกาแฟนี้กับเขาด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงต้องบินไปลิ้มลองกันไกลถึงประเทศสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
2. กาแฟโอเล (Cafe au lait)

กาเฟโอเล (Cafe au lait) เป็นกาแฟผสมนมของประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับคำร่ำลือว่าเป็นกาแฟที่มีรสชาติดีที่สุดอีกชนิดหนึ่ง ทีเด็ดก็คือเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมที่หาใครเทียบได้ยาก โดยวิธีชงที่จะทำให้ได้ลิ้มรสกาแฟชั้นหนึ่ง ให้นำเมล็ดกาแฟใส่ภาชนะที่มีฝาปิด และแช่ด้วยน้ำเดือดจัด 5 นาที จากนั้นก็นำไปใส่เครื่องชงกาแฟตามปกติ เมื่อได้กาแฟมาแล้วก็เติมนมและน้ำตาลตามใจชอบได้เลยค่ะ
1. เอสเพรสโซ (Espresso)

ด้วยความเข้มข้นเข้าถึงรสชาติของกาแฟแท้ ๆ อย่างเอสเพรสโซ จึงทำให้กาแฟชนิดนี้ครองแชมป์อันดับหนึ่งมาได้อย่างสบาย ๆ ตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมาในยุค 80 และเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี และในทวีปยุโรป ซึ่งในสมัยนั้นกาแฟเอสเพรสโซฉบับต้นตำรับจะมีรสชาติเข้มสุด ๆ เต็มไปด้วยรสชาติของกาแฟแท้ กลิ่นหอม ๆ และถึงแม้ทุกวันนี้เอสเพรสโซจะมีรสชาติเพี้ยนไปบ้างตามแต่ละประเทศจะนำไปดัดแปลง แต่ก็ยังคงยืนพื้นความเข้มข้น จนคอกาแฟดำทั้งหลายติดใจไม่รู้ลืม
10 อันดับกาแฟจากทั่วทุกมุมโลกที่ควรลิ้มลองสักครั้ง
[IMG]