วันนี้เราจะมาพูดถึง ปราสาทโอซากา กัน
เมื่อพูดถึงโอซากา คงจะไม่มีใครไม่รู้จักปราสาทโอซากา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซากาไปแล้ว
แต่จะมีใครรู้ล่ะบ้างว่ามันมีประวัติความเป็นมาอย่างไง?
วันนี้เราจึงจะมาขุดค้นกุ้ยเขี่ยจิ้มกวนง่วนๆ (พอเถอะ) ถึงประวัติของปราสาทโอซาก้ากัน
มันคงต้องเริ่มจากสมัยยุคเซ็นโกคุ (ถ้าใครนึกไม่ออกก็ให้นึกถึงเกม Basara กับ Samurai Warriors คือยุคนั้นล่ะ) ซึ่งเป็นยุคจลาจลเกิดสงครามไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เหตุเกิดจากความเหงา เอ้ย! ไม่ใช่เกิดจากราชสำนักอ่อนแอลง ทำให้หัวเมืองต่างๆ แข็งข้อขึ้น และตั้งเป็นก๊กเป็นเหล่าของตนเองขึ้นมา จนกระทั้งโอดะ โนบุนากะ ได้คิดที่จะทำการรวบรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งพร้อมทั้งทำการปฏิรูปการปกครองเสียใหม่ (จนพี่แ-ก ถูกมองว่าเป็นคนโฉด ซะงั้น เหมือนกับโจโฉเบย) ซึ่งแผนการของพี่ท่านก็ดำเนินเรื่อยมาทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว (ครั้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ผมขอยกให้ตอนปราบตะ:Xลทะเคดะ โดยการใช้ปืนไฟสู้กับทหารม้า ผลคือฝ่ายตัวเองไม่มีใครตายเลย ส่วนฝ่ายทะเคดะตายเป็นร้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการล้มสลายของก๊กนี้)
ต่อมาโนบุนากะได้มาถึงที่ราบสูง Uemachidaichi โนบุนากะได้เล็งเห็นมาเป็นที่ๆ ชัยภูมิดีเหมาะแก่การป้องกัน เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบโอซากา และเป็นที่ราบสูงทำให้ยากต่อการเข้าตี โนบุนากะจึงระดมกำลังเข้าโจมตี วัดIshiyama Hongan-ji ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของที่ราบแห่งนี้ จนกระทั่งปีสิบปีต่อมาโนบุนากะก็ได้ยึดวัดIshiyama Hongan-ji ได้สำเร็จแต่ดูเหมือนฟ้าจะไม่เข้าข้าง เพราะหลังจากมันไม่นานโนบุนากะก็ถูกสังหารจากเหตุเพลิงไหม้วันฮอนโน โดยมีผู้นำชื่อมิสึฮิเดะ เป็นผู้ก่อการครั้งนั้น แต่ถึงกระนั้นเจตนารมณ์ของโนบุนากะที่จะสร้างปราสาทก็สืบทอดต่อไปให้ฮิเดโยชิ ผู้เป็นนายทหารเอกคนหนึ่งของเขาและเป็นคนโอซากาอีกด้วย (บางตำนานเล่าอีกว่าโนบุนากะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องตายในคืนนั้นจึงได้ส่งเจตนารมณ์ให้ฮิเดโยชิ)
แต่การที่ฮิเดโยชิจะสืบทอดเจตนารมณ์ของโนบุนากะใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะทุกฝ่ายต่างก็ต้องการจะเป็นใหญ่ และหนึ่งในนั้นคืออิเอยาสึ ทหารเอกอีกคนหนึ่งของโนบุนาะนั้นเอง แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความไวของฮิเดโยชิก็ได้ตำแหน่งผู้นำตะ:Xลโอดะมาอยู่ในมือได้อยู่ดีแม้จะถูกคนอื่น เกลียดขี้หน้ามากขึ้นก็ตาม
ฮิเดโยชิต้องการจะสานต่องานของโนบุนากะในการสร้างปราสาทบนที่รายสูง Uemachidaichi จึงได้ทำการเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านเป็นจำนวนมาก เพื่ที่จะสร้างปราสาทและก็ทำสำเร็จด้วยนะ (เป็นความสำเร็จบนความทุกข์ของชาวบ้านโดยแท้) แต่ถึงแม้ปราสาทจะสร้างเสร็จแต่ก็อยู่ให้ฮิเดโยชิดูได้ไม่นาน พี่ท่านก็จากโลกไป ทำให้ฐานตระ:Xลของโทโยโทมิ (ตระ:Xลของฮิเดโยชิ) เริ่มสั่นคลอน อิเอยาสึจึงได้รวบรวมกำลังอย่างลับๆ แล้วทำการบุกโจมตีเมืองโอซากาอย่างสายฟ้าแลบ เปรี้ยๆ ทำให้ทหารของฮิเดโยกิ (บุตรของฮิเดโยชิ) ต้องไปตั้งหลักที่ปราสาทโอซากา
แต่การต้านท้านก็ทำได้ไม่นานและทัพของฮิเดโยกิก็พ่ายลง ส่วนฮิเดโยกิก็ทำการฮาราคิรีบนปราสาทพร้อมกับมารดาของตน อิเอยาสึเห็นว่าถ้าปล่อยปราสาททิ้งไว้เด๋วต้องมีผู้ต่อต้านมาใช้ปราสาทแน่ๆ จะทำการเผาปราสาททิ้งเสีย
จนกระทั้งในปี ค.ศ. 1620 ฮิเดะตะดะ (ลูกของอิเอยาสึ) เริ่มบูรณะและสร้างปราสาทโอซะกะขึ้นมาใหม่ ยกระดับหอคอยให้สูงขึ้น ภายนอกมี 5 ชั้น ภายในมี 8 ชั้น ก่อสร้างกำแพงใหม่ให้เป็นเกียรติแต่ตระ:Xลซะมุไรแต่ละคน กำแพงในสมัยนั้นยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้โดยนำหินมาจากทะเลเซะโตะใน และสลักยอดด้วยชื่อของตระ:Xลที่อุทิศให้กับการสร้างกำแพงเหล่านี้
ในปี ค.ศ. 1660 เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่คลังแสงเป็นผลให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ตัวปราสาท จากนั้นในปี 1665 เกิดฟ้าผ่าทำให้ตัวปราสาทหลักได้รับความเสียหายและพังลงมา หลังถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน รัฐบาลบะกุฟุต้องการจะซ่อมตัวปราสาทซึ่งมีส่วนให้ต้องซ่อมอีกมาก ในปี 1843 รัฐบาลจึงได้เรี่ยไรเงินจากประชาชนในท้องถิ่นเพื่อสร้างคอคอยขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ในปี ค.ศ. 1868 ปราสาทโอซะกะถูกล้อมด้วยกองกำลังจักรพรรดิต่อต้านรัฐบาลบะกุฟุ และตัวปราสาทก็ถูกเผาในสงครามกลางเมืองสมัยการปฏิรูปเมจิ
ต่อมา รัฐบาลเมจิได้ให้ปราสาทโอวะกะเป็นคลังแสงผลิตปืน อาวุธยุทธภัณฑ์ และระเบิด เพื่อขยายขีดความสามารถทางการทหารของญี่ปุ่นในแบบฉบับของตะวันตก[3]
ในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการสร้างหอคอยหลักขึ้นมาใหม่หลังจากที่เทศบาลเมืองโอซะกะสามารถระดมทุนจากประชาชนมาจำนวนมาก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คลังแสงกลายเป็นแหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของญี่ปุ่น มีคนงานกว่า 60,000 คน และเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรด้วย ทำให้ปราสาทโอซะกะเสียหายอย่างหนักในช่วงท้ายสงครามเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1945 จากการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ คลังแสงเสียหายไปร้อยละ 90 และคนงานเสียชีวิต 382 คน
ในปี ค.ศ. 1995 เทศบาลนครโอซะกะเริ่มต้นโครงการบูรณะปราสาทโอซะกะอีกครั้ง โดยให้ภายนอกยังคงความเป็นยุคเอะโดะ แผนการบูรณะแล้วเสร็จในปี 1997 ตัวปราสาทมีความทันสมัยขึ้นมาก มีลิฟต์ติดตั้งภายในและมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบสมัยใหม่มากมาย
และนี้ก็เป็นเรื่องราวของปราสาทโอซากานะครับ (ขอขอบคุณที่ทุกท่านอ่านจบจบ เย้ๆ เพราะผมพาออกนอกทะเลเยอะไปหน่อยในช่วงแรกๆ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงน่อ)
ขอขบคุณ www.osaka-info.jp และวิกิพีเดียที่ให้ข้อมูลมานะครับผม.
เมื่อพูดถึงโอซากา คงจะไม่มีใครไม่รู้จักปราสาทโอซากา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซากาไปแล้ว
แต่จะมีใครรู้ล่ะบ้างว่ามันมีประวัติความเป็นมาอย่างไง?
วันนี้เราจึงจะมาขุดค้นกุ้ยเขี่ยจิ้มกวนง่วนๆ (พอเถอะ) ถึงประวัติของปราสาทโอซาก้ากัน
มันคงต้องเริ่มจากสมัยยุคเซ็นโกคุ (ถ้าใครนึกไม่ออกก็ให้นึกถึงเกม Basara กับ Samurai Warriors คือยุคนั้นล่ะ) ซึ่งเป็นยุคจลาจลเกิดสงครามไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เหตุเกิดจากความเหงา เอ้ย! ไม่ใช่เกิดจากราชสำนักอ่อนแอลง ทำให้หัวเมืองต่างๆ แข็งข้อขึ้น และตั้งเป็นก๊กเป็นเหล่าของตนเองขึ้นมา จนกระทั้งโอดะ โนบุนากะ ได้คิดที่จะทำการรวบรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งพร้อมทั้งทำการปฏิรูปการปกครองเสียใหม่ (จนพี่แ-ก ถูกมองว่าเป็นคนโฉด ซะงั้น เหมือนกับโจโฉเบย) ซึ่งแผนการของพี่ท่านก็ดำเนินเรื่อยมาทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว (ครั้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ผมขอยกให้ตอนปราบตะ:Xลทะเคดะ โดยการใช้ปืนไฟสู้กับทหารม้า ผลคือฝ่ายตัวเองไม่มีใครตายเลย ส่วนฝ่ายทะเคดะตายเป็นร้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการล้มสลายของก๊กนี้)
ต่อมาโนบุนากะได้มาถึงที่ราบสูง Uemachidaichi โนบุนากะได้เล็งเห็นมาเป็นที่ๆ ชัยภูมิดีเหมาะแก่การป้องกัน เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบโอซากา และเป็นที่ราบสูงทำให้ยากต่อการเข้าตี โนบุนากะจึงระดมกำลังเข้าโจมตี วัดIshiyama Hongan-ji ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของที่ราบแห่งนี้ จนกระทั่งปีสิบปีต่อมาโนบุนากะก็ได้ยึดวัดIshiyama Hongan-ji ได้สำเร็จแต่ดูเหมือนฟ้าจะไม่เข้าข้าง เพราะหลังจากมันไม่นานโนบุนากะก็ถูกสังหารจากเหตุเพลิงไหม้วันฮอนโน โดยมีผู้นำชื่อมิสึฮิเดะ เป็นผู้ก่อการครั้งนั้น แต่ถึงกระนั้นเจตนารมณ์ของโนบุนากะที่จะสร้างปราสาทก็สืบทอดต่อไปให้ฮิเดโยชิ ผู้เป็นนายทหารเอกคนหนึ่งของเขาและเป็นคนโอซากาอีกด้วย (บางตำนานเล่าอีกว่าโนบุนากะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องตายในคืนนั้นจึงได้ส่งเจตนารมณ์ให้ฮิเดโยชิ)
แต่การที่ฮิเดโยชิจะสืบทอดเจตนารมณ์ของโนบุนากะใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะทุกฝ่ายต่างก็ต้องการจะเป็นใหญ่ และหนึ่งในนั้นคืออิเอยาสึ ทหารเอกอีกคนหนึ่งของโนบุนาะนั้นเอง แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความไวของฮิเดโยชิก็ได้ตำแหน่งผู้นำตะ:Xลโอดะมาอยู่ในมือได้อยู่ดีแม้จะถูกคนอื่น เกลียดขี้หน้ามากขึ้นก็ตาม
ฮิเดโยชิต้องการจะสานต่องานของโนบุนากะในการสร้างปราสาทบนที่รายสูง Uemachidaichi จึงได้ทำการเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านเป็นจำนวนมาก เพื่ที่จะสร้างปราสาทและก็ทำสำเร็จด้วยนะ (เป็นความสำเร็จบนความทุกข์ของชาวบ้านโดยแท้) แต่ถึงแม้ปราสาทจะสร้างเสร็จแต่ก็อยู่ให้ฮิเดโยชิดูได้ไม่นาน พี่ท่านก็จากโลกไป ทำให้ฐานตระ:Xลของโทโยโทมิ (ตระ:Xลของฮิเดโยชิ) เริ่มสั่นคลอน อิเอยาสึจึงได้รวบรวมกำลังอย่างลับๆ แล้วทำการบุกโจมตีเมืองโอซากาอย่างสายฟ้าแลบ เปรี้ยๆ ทำให้ทหารของฮิเดโยกิ (บุตรของฮิเดโยชิ) ต้องไปตั้งหลักที่ปราสาทโอซากา
แต่การต้านท้านก็ทำได้ไม่นานและทัพของฮิเดโยกิก็พ่ายลง ส่วนฮิเดโยกิก็ทำการฮาราคิรีบนปราสาทพร้อมกับมารดาของตน อิเอยาสึเห็นว่าถ้าปล่อยปราสาททิ้งไว้เด๋วต้องมีผู้ต่อต้านมาใช้ปราสาทแน่ๆ จะทำการเผาปราสาททิ้งเสีย
ภาพแสดงทัพที่บุกปราสาทโอซากา (ต่อให้เก่งแค่ไหรก็ต้านไม่อยู่หรอก)
จนกระทั้งในปี ค.ศ. 1620 ฮิเดะตะดะ (ลูกของอิเอยาสึ) เริ่มบูรณะและสร้างปราสาทโอซะกะขึ้นมาใหม่ ยกระดับหอคอยให้สูงขึ้น ภายนอกมี 5 ชั้น ภายในมี 8 ชั้น ก่อสร้างกำแพงใหม่ให้เป็นเกียรติแต่ตระ:Xลซะมุไรแต่ละคน กำแพงในสมัยนั้นยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้โดยนำหินมาจากทะเลเซะโตะใน และสลักยอดด้วยชื่อของตระ:Xลที่อุทิศให้กับการสร้างกำแพงเหล่านี้
ในปี ค.ศ. 1660 เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่คลังแสงเป็นผลให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ตัวปราสาท จากนั้นในปี 1665 เกิดฟ้าผ่าทำให้ตัวปราสาทหลักได้รับความเสียหายและพังลงมา หลังถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน รัฐบาลบะกุฟุต้องการจะซ่อมตัวปราสาทซึ่งมีส่วนให้ต้องซ่อมอีกมาก ในปี 1843 รัฐบาลจึงได้เรี่ยไรเงินจากประชาชนในท้องถิ่นเพื่อสร้างคอคอยขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ในปี ค.ศ. 1868 ปราสาทโอซะกะถูกล้อมด้วยกองกำลังจักรพรรดิต่อต้านรัฐบาลบะกุฟุ และตัวปราสาทก็ถูกเผาในสงครามกลางเมืองสมัยการปฏิรูปเมจิ
ต่อมา รัฐบาลเมจิได้ให้ปราสาทโอวะกะเป็นคลังแสงผลิตปืน อาวุธยุทธภัณฑ์ และระเบิด เพื่อขยายขีดความสามารถทางการทหารของญี่ปุ่นในแบบฉบับของตะวันตก[3]
ในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการสร้างหอคอยหลักขึ้นมาใหม่หลังจากที่เทศบาลเมืองโอซะกะสามารถระดมทุนจากประชาชนมาจำนวนมาก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คลังแสงกลายเป็นแหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของญี่ปุ่น มีคนงานกว่า 60,000 คน และเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรด้วย ทำให้ปราสาทโอซะกะเสียหายอย่างหนักในช่วงท้ายสงครามเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1945 จากการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ คลังแสงเสียหายไปร้อยละ 90 และคนงานเสียชีวิต 382 คน
ในปี ค.ศ. 1995 เทศบาลนครโอซะกะเริ่มต้นโครงการบูรณะปราสาทโอซะกะอีกครั้ง โดยให้ภายนอกยังคงความเป็นยุคเอะโดะ แผนการบูรณะแล้วเสร็จในปี 1997 ตัวปราสาทมีความทันสมัยขึ้นมาก มีลิฟต์ติดตั้งภายในและมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบสมัยใหม่มากมาย
ภาพปราสาทโอซากาในยามค่ำคืนพร้อมกับแสงไฟ (งามแท้ๆ)
และนี้ก็เป็นเรื่องราวของปราสาทโอซากานะครับ (ขอขอบคุณที่ทุกท่านอ่านจบจบ เย้ๆ เพราะผมพาออกนอกทะเลเยอะไปหน่อยในช่วงแรกๆ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงน่อ)
ขอขบคุณ www.osaka-info.jp และวิกิพีเดียที่ให้ข้อมูลมานะครับผม.
ปราสาทโอซากากับประวัติอย่างคร่าวๆ
โอตาคุที่ดีไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเมะทุกเรื่อง แต่เป็นโอตาคุที่แบ่งเวลาเป็นต่างหาก
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 Sodaman ได้ทำการยุติการใช้บอร์ดนี้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้ของผมเสมอมานะครับผม.
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 Sodaman ได้ทำการยุติการใช้บอร์ดนี้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้ของผมเสมอมานะครับผม.
[IMG]