วันนี้มาแบบยาวๆหน่อยนะเจ้าค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะเจ้าค่ะ
วันนี้มาเพื่อสาวๆแบบพวกเราเลยนะเจ้าค่ะ
สาวๆคนไหน กำลังลดน้ำหนักอยู่ ฟังทางนี้เจ้าค่า
วันนี้ขอเสนอ "ฟัก" ลดความอ้วนได้!!
สำหรับใครที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาลดความอ้วนอยู่ในตอนนี้ มีอาหารที่ไม่น่าเชื่อมาฝาก หลายคนอาจมองข้ามแต่หารู้ไม่ว่าฟักที่เรากินบ้าง ไม่กินบ้าง เนี่ยแหละ จะสามารถมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้ ลองอ่านดูนะเจ้าค่ะเผื่อจะเป็นเทคนิคลดพุงได้อีกทางหนึ่ง
“ฟัก” สมัยก่อนคนรุ่นคุณตาคุณยายนิยมเก็บลูกฟักไว้ทำอาหารช่วงเทศกาลงานบุญ เพราะสามารถทำเมนูอาหารได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น แกงฟัก แกงเลียง ต้มฟักมะนาวดอง ผัดฟักใส่ไข่ ต้มฟักจิ้มน้ำพริก ฯลฯ ฟักเขียว ถือเป็นผักในสวนครัวที่คุ้นเคยกันดีที่มีชื่อเรียกหลายชื่อขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ในภาคกลางเรียก "ฟัก ฟักขาว ฟักแฟง" ภาคอีสาน เรียกว่า "บักฟัก" ภาคใต้เรียกว่า "ขี้พร้า" ภาคเหนือเรียก "ฟักหม่น" ฟักเขียว จัดเป็นไม้เถาเลื้อยเช่นเดียวกับตระ:Xลแตงหรือฟักทอง ใบมีสีเขียวเป็นหยัก ใบหยาบ ดอกมีสีเหลือง
"ฟักเขียว" เป็นผักพื้นบ้านที่ปลูกง่าย ไม่จำเป็นต้องพึ่งสารเคมี สามารถเจริญเติบโตได้ดี เพียงแค่ 3 เดือน สามารถเก็บมารับประทานได้แล้ว ถึงแม้กระนั้นน้อยคนนักจะรู้ว่า ฟักเขียวนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไรบ้างผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ หัวหน้าภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหิดล บอกว่า คุณค่าทางอาหารของฟักเขียวนั้นมากมาย แถมยังใช้ได้ทุกส่วน เริ่มต้นจาก ใบ แก้ฟกช้ำ แก้พิษผึ้งต่อย แก้บาดแผล แก้โรคบิด แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้บวมอักเสบมีหนอง ผล ใช้ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ หลอดลมอักเสบ ส่วนเมล็ด ใช้ลดไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้ทางเดินปัสสาวะ แก้ไตอักเสบ บำรุงผิว ละลายเสมหะ ราก ใช้ต้มดื่มแก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ถอนพิษ เถาสดที่มีรสขมใช้รักษาริดสีดวงทวาร เปลือก เป็นยาแก้บวม ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย แผลบวมอักเสบ
ตามความเชื่อของจีน ฟักถือเป็น "ยาเย็น" ใช้ดับกระหายในฤดูร้อน สามารถใช้ขับเสมหะที่เกิดจากหวัดร้อน เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้รักษาโรคเบาหวาน ริดสีดวงทวารใช้บรรเทาพิษของฝี แถมใช้ลดน้ำหนักและลดไขมันในเลือดได้ด้วย โดยเอาฟักทั้งเปลือกมาต้มน้ำดื่มแทนน้ำ ขณะเดียวกันสามารถนำมาบดเป็นอาหารเสริมให้กับเด็กเล็กได้ จึงเป็นผักชนิดแรกที่เด็กเริ่มหัดกิน ยิ่งเด็กแรกเกิดเมื่อรับประทานแล้วจะดีต่อสุขภาพ เพราะช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและบำรุงร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถนำมาเชื่อมแปรรูปให้เป็นแยมเก็บไว้รับประทาน เรียกได้ว่า ทุกส่วนของฟัก สามารถบริโภคได้หมดเลยนะเจ้าค่ะ
ข้อควรระวัง
1. ผู้ป่วยนานๆ มีอาการยินพร่อง (มีอาการกลัวหนาว แขนขาเย็น ไม่กระหายน้ำ ชอบดื่มของร้อน ปวดท้อง ท้องร่วง ปัสสาวะใสและมาก ชั้นฝ้าบนลิ้นขาว) ห้ามกิน
2. ระหว่างกินยาบำรุง (ยาบำรุงของจีนมี 4 จำพวกใหญ่ ๆ คือยาบำรุงพลัง เลือด ยิน และหยาง) ให้หยุดกินฟักชั่วคราว จนกว่าจะหยุดยาบำรุง
ก็ลองเปลี่ยนมากินฟักดูบ้าง นอกจากสุขภาพร่างกายจะปลอดภัยแล้วยังได้มีหุ่นที่สวยอีกด้วยนะเจ้าค่า
จบกันไปแล้วนะเจ้าค่ะกับ"ฟัก" ลดความอ้วนได้!!
วันพรุ่งนี้เนโกะจังจะเอาข้อมูลอะไรดีๆ
มาให้เพื่อนๆชาว 2TH
ก็อย่าลืมติดตามกันนะเจ้าค่า..
ขอขอบพระคุณข้อมูลดีๆจาก : นิตรยาสาร แม่บ้าน