1. Zhangye Danxia landform in Gansu, China
ภูเขาสีรุ้ง หรือ ภูเขาหลากสีในเขตมณฑลกันซู่ ประเทศจีน เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะที่สรรสร้างด้วยฝีมือธรรมชาติโดยแท้ ภาพภูเขหลากหลายสีสันตรงนี้ เกิดจากการตกตะกอนของหินทราย และแร่ธาตุในบริเวณนี้ทับถมกันมานานกว่า 24 ล้านปีนั่นเอง
2. The swing at the “End of the World” in Baños, Ecuador
ภูเขาไฟที่ยังครุกรุ่นอยู่ ยังไม่ดับสนิท แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศเอกวาดอร์ การมาชมภูเขาไฟที่นี่ไม่ธรรมดา จะมีการชมวิวภูเขาไฟที่ไหนที่ตื่นเต้นได้มากกว่านี้อีกไหม? ไกวชิงช้าที่ผูกไว้ในบ้านต้นไม้ออกไปที่หน้าผาเพื่อรับรู้ความรู้สึกของธรรมชาติ ความสูงเสียดฟ้า ไม่มีเข็มขัดนิรภัยให้อึดอัด รับรองว่าseoไปถึงสันหลัง
3. The Great Blue Hole in Belize
หลุมยักษ์น้ำเงินครามแห่งเบลิซ ประเทศนี้อยู่บนฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง ริมทะเลแคริบเบียน หลุมนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งเบลิซประมาณ 60 ไมล์ เส้นผ่าศูนย์กลาง 984 ฟุต กับความลึกประมาณ 410 ฟุต เชื่อกันว่าหลุมนี้เป็นหลุมกลางทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สันนิษฐานกันว่ามันก่อตัวขึ้นในยุคน้ำแข็ง แถมหลุมนี้ยังเป็น 1 ใน 7 หลุมที่นักประดาน้ำจัดอันดับสถานที่น่าดำน้ำที่สุดในโลกอีกด้วย
4. Tulip fields in the Netherlands
ทุ่งดอกทิวลิปในเนเธอร์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นทุ่งดอกไม้แห่งยุโรป หลายร้อยกี่หลายพันไร่ที่นี่เต็มไปด้วยทิวลิป หากมองจากภาพมุมสูงจะเหมือนว่าพื้นดินตรงที่ปลูกดอกไม้เป็นพรมชั้นดีที่มีสีสันหลากหลายสดใสตระการตา ที่นี่นอกจากเป็นแหล่งปลูกดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก ยังเป็นแหล่งค้าขายดอกไม้ส่งออกทั่วโลกเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย
5. The Hang Son Doong cave in Quang Binh Province, Vietnam
Son Doong เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang เขต Bo Trach จังหวัด Quang Binh ประเทศเวียดนาม ใกล้พรมแดนระหว่างประเทศเวียดนามกับลาว โถงที่ใหญ่ที่สุดภายในถ้ำซันดองนี้ ยาวกว่า 4,000 เมตร กว้างกว่า 200 เมตร และสูงกว่า 150 เมตร คาดว่าถ้ำนี้มีมาตั้งแต่ 2-5 ล้านปีที่แล้ว
6. Hitachi Seaside Park in Hitachinaka, Ibaraki, Japan
ยิ่งกว่าเทพนิยาย "Hitachi Seaside Park" หรือ สวน “Hitachi Nakakoen” เป็นสวนที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น มีขนาดกว่า 153 เฮกเตอร์ ดอกไม้ที่ปลูกที่นี่มีความสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะในแต่ละฤดูกาล ทางสวนจะมีการปลูกดอกไม้ที่แตกต่างกันออกไป ไฮไลท์คือการมาถึงเนินเขาที่เต็มไปด้วย ดอก“Nemophilia” ซึ่งเป็นดอกไม้สีฟ้าขนาดเล็กสวยเหมือนในนิทาน 4.5 ล้านดอกเรียงๆ กันอย่างอลังการ
7. Mendenhall Ice Caves of Juneau in Alaska, United States
อุโมงค์น้ำแข็ง อลาสก้า ยาวกว่า 12 ไมล์ หรือ 19 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่หุบเขา Mendenhall ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง Juneau รัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ก้อนน้ำแข็งน้อยใหญ่จำนวนมหึมา แขวนตัวลอยอยู่ในอากาศ น้ำแข็งบางส่วนที่ละลายสร้างธารน้ำไหลลอดลงสู่โตรกหินด้านล่าง เป็นความอลังการจากธรรมชาติจริงๆ
8. Mount Roraima in Venezuela, Brazil, and Guyana
ภูเขา Roraima สูงเสียดฟ้าแห่งนี้ เกิดจาดการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเมื่อประมาณ 2 พันล้านปีที่ผ่านมา ตั้งอยู่เป็นชายแดนระหว่าง 3 ประเทศ คือ บราซิล, กายอานา และเวเนซุเอลา
9. Ancient Region of Anatolia in Cappadocia, Turkey
คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองมหัศจรรย์ที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นเมืองที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 เป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว (ปัจจุบันภูเขาไฟทั้ง 2 ดับแล้ว) ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา เถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา เกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวงสารพัดรูปร่าง เมืองนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม และเป็นจุดที่ชื่นชอบสำหรับบอลลูนอีกด้วย
10. Sea of Stars on Vaadhoo Island in the Maldives
แสงสวยงามที่ระยิบระยับตามแนวชายหาดของมัลดีฟส์ยามค่ำคืนอาจจะเหมือนเป็นแสงจากดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ที่จริงแล้ว คือ จุลินทรีย์ทางทะเล หรือ แพลงก์ตอนพืชที่เรืองแสงอยู่ในน้ำนั่นเอง ทำให้เกิดแสงสีน้ำเงินสวยน่าตื่นตาตื่นใจตาม
11. Victoria Falls bordering Zimbabwe and Zambia in Africa
เคยเล่นน้ำตกที่seoขนาดนี้ไหม? 355 ฟุตจากหน้าผา น้ำตกนี้ตั้งอยู่ที่ชายแดนของประเทศแซมเบีย และซิมบับเวเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในทวีปแอฟริกา นอกจากนี้ที่แซมเบียยังเรียกที่นี่ว่า “สระว่ายน้ำของซาตาน” ได้ยินเพียงแค่นี้นักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยก็อดที่จะไม่ไปสักครั้งหนึ่งไม่ได้แล้วล่ะ
12. Trolltunga in Hordaland, Norway
Trolltunga มีความหมายว่าลิ้นของโทรลล์ ด้วยความที่เป็นชะง่อนผาที่มีลักษณะคล้ายกับการแลบลิ้นออกมาจากภูเขาประมาณ 2,000 ฟุตลอยอยู่กลางอากาศแบบนี้นั่นเอง หากยอมปืนเขาที่สูงกว่า 700 เมตรนี้ได้ จะเห็นวิวที่คุ้มค่ากับที่ปืนขึ้นมาแน่นอน เพราะวิวของแม่น้ำ Ringedalsvatnet สวยอย่างกับภาพวาด แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินขึ้นเขาถึง 8-10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน
13. Whitehaven Beach at Whitsunday Island in Australia
ความขาวของหาดไวท์ฮาเว่น ที่เป็นหนึ่งในหมู่เกาะวิธซันเดย์อันโด่งดังของออสเตรเลีย ชายหาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดโดยเม็ดทรายเป็นผลึกซิลิการะยิบระยับถึง 98% ซึ่งเชื่อกันว่าที่มีชายหาดสวยงามขนาดนี้ก็เพราะกระแสน้ำในบริเวณนี้ที่พัดพาให้ทรายจากทะเลพัดเข้าฝั่งเป็นเวลากว่าหลายล้านปี นอกจากนี้ทรายที่มีมีลักษณะเฉพาะนอกจากขาวละเอียดสวยงามแล้ว ยังเป็นทรายที่ไม่เก็บความร้อน ทำให้เราสามารถเดินชิลล์เท้าเปล่าริมหาดได้อย่างสบายๆ
14. The Grand Canyon in Arizona, United States
หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกก็คือที่นี่ “Grand Canyon” เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของรัฐอริโซน่า ซึ่งอยู่ห่างจากเมือง:Xชื่อดังอย่าง ลาสเวกัสประมาณ 3-4 ชั่วโมง แกรนด์แคนยอนเกิดขึ้นโดยอิทธิพลของแม่น้ำโคโลราโด ไหลผ่านที่ราบสูงทำให้เกิดการสึกกร่อน พังทลายของหินเป็นเวลา 225 ล้านปีมาแล้ว ในบริเวณซอกหลืบของหุบเขาน้อยใหญ่ยังมีการค้นพบร่องรอยอารยธรรม ของชาวอินเดียนแดงโบราณอีกด้วย
15. Marble Caves at General Carrera Lake in Patagonia (Argentina and Chile)
ถ้ำหินอ่อนนี้อยู่ในเขตพื้นที่ของทะเลสาบการ์เรรา (General Carrera) ทะเลสาบขนาดใหญ่ในเขตภูมิภาคปาตาโกเนีย (Patagonia) ภูมิภาคที่ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ โดยทะเลสาบนั้นระหว่างชายแดนของอาร์เจนตินา และชิลี เป็นถ้ำที่เกิดจากกระแสน้ำได้กัดเซาะเป็นระยะเวลานับล้านปี จนภูเขาหินอ่อนเกิดเป็นถ้ำหินอ่อนอันงดงามไม่เหมือนถ้ำแห่งใดในโลก
16. Tunnel of Love in Klevan, Ukraine
อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel of Love) คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศยูเครน เป็นอุโมงค์รถไฟที่สร้างขึ้นจากต้นไม้อย่างสวยงามตั้งอยู่ในเขตเมืองเคลเว่น (Klevan) เมืองเล็กๆ ในจังหวัดริฟเน (Rivne region) จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของประเทศยูเครนนั่นเอง เห็นแบบนี้โรแมนติกอย่าบอกใคร แนะนำให้เก็บเงินแล้วเตรียมไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่เลย
17. Salar De Uyuni in the Potosí and Oruro departments of southwest Bolivia
Salar de Uyuni เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ได้ชื่อว่าเป็น กระจกเงาที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่ราบที่ประกอบด้วยเกลือจำนวนมหาศาลบนเนื้อที่ 10,582 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลเกลือใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ติดเขตระหว่างสองจังหวัดคือ Potosi และ Oruro ทางตอนใต้ของประเทศโบลิเวีย ลองมาตอนหน้าฝน จะเหมือนได้ยืนอยู่ท่ามกลางทะเลที่สะท้อนกับท้องฟ้าราวกับกระจก
18. Enchanted Well at Chapada Diamantina in Bahia, Brazil
ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Chapada Diamantina ในบราซิล น้ำในบ่อนี้ใสราวกับกระจก ถึงแม้จะลึกถึง 120 ฟุตแต่ก็สามารถมองเห็นโขดหินที่อยู่เบื้องล่างได้อย่างเห็นชัด
19. Antelope Canyon in Arizona, United States
หุบเขาแอนทีโลพ เป็น 1 ในสถานที่ยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยว อยู่ที่เมืองเพจ รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยภูมิประเทศที่เป็นร่องหินทรายที่ถูกน้ำกัดเซาะและได้ทิ้งร่องรอยการกัดเซาะที่คล้ายกลับหินผา เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo Sandstone ซึ่งถูกกัดเซาะอย่างฉับพลันจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานความแรงจากกระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ ที่นี่กลายเป็น หุบเขาที่อันตรายที่สุด เนื่องจากบริเวณนั้นอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา และระดับน้ำสามารถสูงถึง 10 เมตรทีเดียว อีกทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดใจช่างภาพทั่วโลก เพราะสีสันจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่:Xส่องผ่านช่องแคบ สะท้อนกับสีของชั้นหิน Navajo Sandstone เกิดเป็นความสวยงามสุดประทับใจแก่ทุกสายตา
20. Fingal’s Cave on the island of Staffa in Scotland
แม้ว่า ถ้ำฟิงกอล ที่ประเทศสกอตแลนด์ นี้มันอาจจะดูเหมือนเป็นโครงสร้างบล็อกๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่ความจริงแล้วเสาหินหกเหลี่ยมนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจำนวนมาก ด้วยสภาพถ้ำที่เป็นโพรงแนวยาว ทำให้ภายในถ้ำเกิดเป็นเสียงสะท้อน คล้ายเสียงดนตรีได้ด้วย บางทีคนก็เรียกถ้ำนี้ว่า “Cave of melody”
21. To Sua Ocean Trench in the Lotofaga village on the south coast of Upolu, Samoa
หลุมสระว่ายน้ำธรรมชาติโทซัว เป็นสระขนาดใหญ่ตามธรรมชาติมีน้ำใสกิ๊ก ตั้งอยู่ในประเทศซามัว ประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกตอนใต้ เกิดจากน้ำในทะเลมีแรงดันดันน้ำเข้าโพรง หรือรอยแตกชั้นใต้ดินเข้าหาพื้นที่ฝั่ง หลังจากนั้นแรงดันก็กัดเซาะเข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็กำเนิดเป็นโพรงทะลุทำให้เกิดบ่อ นอกจากนี้แล้วบริเวณขอบสระยังมีการติดตั้งบันไดยื่นลงไปในสระเพื่อให้สะดวกแก่การเล่นน้ำอีกด้วย
22. Bamboo groves of Arashiyama in Kyoto, Japan
ป่าไผ่ แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ Arashiyama ในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตลอดแนวเส้นทางจะมีต้นไผ่ขึ้นเรียงราย เป็นที่นิยมสำหรับการเดินเล่น ถ่ายรูป สูดอากาศสดชื่นๆ และขี่จักรยานในวันอากาศดีๆ
23. Glowworm Caves in Waitomo, New Zealand
เหมือนดาวอยู่ใกล้แค่เอื้อมในถ้ำสุดมหัศจรรย์แห่งนี้ “Waitomo Glowworm Caves” หรือถ้าแปลตรงตัวก็คือ “ถ้ำหนอนเรืองแสง” ตั้งอยู่ที่เกาะเหนือ ทางตอนใต้ของเมืองไวกาโต ประเทศนิวซีแลนด์ คำว่า Waitomo แปลว่า น้ำที่ลอดผ่านถ้ำ ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากลักษณะทางกายภาพภายในถ้ำที่มีสายน้ำไหลผ่าน และสิ่งที่ทำให้หลายคนต้องตกตลึงเมื่อเข้าไปสู่ถ้ำแห่งนี้ ก็คือ แสงระยิบระยับ จนเหมือนว่ากำลังมองดูดวงดาวบนฟ้าในยามค่ำคืน โดยสาเหตุของแสงที่ว่านี้ก็เนื่องมาจาก หนอนเรืองแสง ที่อยู่ภายในถ้ำนั่นเอง
24. Haiku Stairs of Oahu in Hawaii, United States
บันไดที่เหมือนจะพาขึ้นมาถึงสวรรค์แห่งนี้ อยู่ที่ฮาวาย เป็นเส้นทางเดินป่าสูงชันที่ถูกปิดและห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวย่างกรายเข้าไป แต่ยังไงก็ตาม หนทางสู่สวรรค์อยู่ตรงหน้าก็ต้องเสี่ยงกันหน่อย นักท่องเที่ยวหลายคนยังคงปีนขึ้นไป แม้จะมีป้ายห้ามขึ้นก็ตาม
25. Volcanoes of Kamchatka in Russia
ภูเขาไฟ คัมซัสก้า นี้เป็นภูเขาไฟที่ยังครุกรุ่น อยู่ในประเทศรัสเซีย ปฏิกิริยาของภูเขาไฟที่ยังมีพลัง และธารน้ำแข็งทำให้บริเวณที้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงามตระการตา และยังเป็นที่รวมของสัตว์หลากหลายพันธุ์ ทั้งปลาแซลมอนหลายสายพันธุ์ที่สุดในโลก นากทะเล หมีสีน้ำตาล และนกอินทรีทะเลสเตลลาร์เป็นจำนวนมาก ภูเขาไฟที่สูงที่สุดคือ Klyuchevskaya Sopka เกือบ 16,000 ฟุต
26. Cenotes of Yucatán Peninsula in Mexico
หลุมเหล่านี้เป็นหลุมลึกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เกิดจากการถล่ม และสลายของหินปูนกลายเป็นหลุมที่มีบ่อน้ำใสขนาดใหญ๋ ในเม็กซิโก คาดว่าบ่อนี้ก่อตัวขึ้นในช่วงยุคน้ำแข็ง และถูกจัดให้เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่ามายันโบราณอีกด้วย
27. Kelimutu crater lakes in Flores Island, Indonesia
มหัศจรรย์ธรรมชาติ ทะเลสาบ 3 สี ที่อินโดนีเซีย เป็นทะเลสาบที่อยู่บนปล่องภูเขาไฟเคลิมูตู (Kelimutu Volcano) บนเกาะฟลอเรส (Flores Island) เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะซุนดาน้อย (Lesser Sunda Islands) ประเทศอินโดนีเซีย สวยงามขนาดนี้ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
27 สถานที่มหัศจรรย์ สวยจนตะลึงไปทั่วโลก ต้องไปสักครั้งให้ได้ก่อนตาย!!
[IMG]