แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sodaman เมื่อ 2014-10-26 20:15
สวัสดีครับ! เพื่อนๆชาว 2th.me ทุกท่านวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของเจ้า "เบกกิ้งโซดา" กัน ซึ่งสาเหตุที่เราต้องมาพูดกันเรื่องของเจ้านี้ก่อนเรื่องอื่นเลยเพรราะว่าเจ้าสิ่งนี้ได้สร้างวีรกรรมบรรลือโลก(ไซเบอร์) ให้เพื่อนๆ หลายคนได้ดูและอ่านกันไปเยอะเลย ซึ่งเรื่องนั้นก็คือ...การนำเจ้าเบกกิ้งโซดาไปให้ในการแปรงฟันนั้นเอง! หลังจากที่เรื่องนี้ได้ถูกพูดถึงเป็นจำนวนมาก บวกกันข่าวโคมลอยอีกสารพัดว่าดีแท้ เมพขิงๆ เวิร์ดกว่ายาสีฟันซะอีก และยิ่งใหญ่ที่สุดในสามโลก(โลกไหนก็ไม่รู้?) ทำให้หลายๆ คนเริ่มให้ความเห็นต่างๆ นานา บ้างก็ว่าเวิร์ดจริงนะเธอ บ้างก็ว่าอันตราย! อย่าใช้เด็ดขาด จึงทำให้ผมรู้สึกสนใจและอยากทำเรื่องนี้ขึ้นมา (ซะงั้น) เอาเป็นว่าเรื่องหลังจากนี้จะเป็นในส่วนที่กระผมได้รวบรวมข้อมูลมาส่วนจะคิดเห็นอย่างไงก็แล้วแต่ท่านนะครับ (โปรดใช้จักรยานในการรับชมด้วยล่ะ)
ก่อนอื่นใดเรามารู้จักเบกกิ้งโวดากันก่อนดีกว่า!
เบกกิ้งโซดา คือ ผงฟูชนิดหนึ่งจะเรียกว่าผงฟูก็ได้นะแต่มันจะถูกเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าเบกกิ้งโซดานี้ (หลังจากนี้ขอเรียกว่าเบกกี้นะ) นิยมใช้ในการทำอาหารเช่นหมักเนื้อ ผสมในโกโก้และกาแฟ รวมถึงใช้ในการทำขนมปังด้วย แต่ถ้าใส่เจ้าเบกกี้มากเกินไปรสชาติก็ออกมาฝาดได้เช่นกัน โดยส่วนมากนิยมใช้เบกกี้คู่กับของที่เป็นกรดในการทำอาหาร (เนื่องจากเบกกี้มีค่าเป็นเบส) เพื่อปรับรสชาติของอาหารไม่ให้ฝาดเกินไปนั้นเอง ซึ่งนอกจากจะให้เบกกี้ทำอาหารแล้วยังใช้ในการทำความสะอาดอีกด้วย เช่น ดับกลิ่นอับของผ้า ทำความสะอาดคราบเขม่าที่เกิดจากควันต่างๆ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าเบกกี้นั้นมีประโยชน์อยู่อย่างมากเลยที่เดียว และจึงมีหน่วยกล้าตายใช้เบกกี้กับฟันของตัวเอง เพื่อว่ามันจะขาวขึ้นอ่ะ ผลก็คือมันขาวขึ้นจริงๆ จนมีการทำเป็นรายงานวิจัยเรื่องนี้กันเลยทีเดียวชื่อว่า the Journal of Clinical Dentistry (June 2008) พบว่า ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของของเบกกิ้งโซดา จะทำความสะอาดฟันได้ดีกว่าไม่มีตัวนี้ผสมอยู่ ผลก็คือ...มีผู้คนซื้อเจ้าเบกกี้ไปใช้แปรงฟันกันทั่วหน้า (เรียกได้เลยว่ายอดขายเนี่่ยถล่มทลายเลย) บางเจ้าทำเบกกี้ไปผสมกับน้ำมะนาวแล้วแปรงฟัน และเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะเบกกี้นั้นมีราคาค่างวดที่ถูกว่า (มากกกกก) ยาสีฟันที่ให้ฟันขาว ก็ในเมื่อผลลัพธ์มันเหมือนกันจะจ่ายแพงกว่าทำไม (ก็จ่ายแพงมันเจ็บ แต๋..แต..แต๋) จึงเป็นเหตุผลให้คนใช้กันทั่วหน้า จน องค์การทันตแพทย์ของสหรัฐฯ American dental Association (ADA) ออกมาเตื่อนว่า ไอขอเตือนว่าการใช้เบกกี้แปรงฟันนั้น ถ้าเกิดปัญหาองค์การจะไม่รับผิดชอบกับผลที่จะเกิดกับยูนะ เพราะเบกกี้มีค่าเป็นเบสถ้ายูแปรงฟันกับเบกกี้ไปเรื่อยๆ อาจทำให้ฟันผุและseoฟันได้นะยู เท่านั้นแล่ะ เรื่องการใช้เบกกี้จึงเริ่มเงียบไปพักนึง
และต่อมาก็เริ่มมีการใช้อีกโดยคราวนี้เค้ามาระบาดในไทยโดยไม่ได้มาเดียวไมค์โครโฟนนะ มาเป็นดูโอคู่กับน้ำมะนาว เพื่อหวังว่าถ้าเบกกี้เป็นเบสก็น่าจะให้น้ำมะนาวซึ่งมีค่าเป็นกรดผสมกันทำให้ไม่เป็นปัญหาแก่ฟันได้ (คนคิดนี้เจ็งจริงๆ ใครคิดกันนะ?) ซึ่งหลังจากมีเรื่องนี้ระบาดทางกรมอนามัยก็ไม่นิ่งเฉยเหมือนจ่าเฉยนะ ได้ส่งท่านรองออกมาอธิบายเรื่องนี้ว่า คำแนะนำดังกล่าว เป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากน้ำมะนาวมีความเป็นกรดสูงจะละลายแคลเซียมออกจากผิวฟัน ทำให้ฟันกร่อน และกรดจากมะนาวยังระคายเคืองเหงือกอาจทำให้เหงือกอักเสบได้ เมื่อเคลือบฟันกร่อนทำให้มีอาการseoฟันตามมา และการที่เคลือบฟันถูกทำลายจะเพิ่มโอกาสเกิดฟันผุได้ง่ายอีกด้วย ส่วนเบคกิงโซดาเป็นสารที่มีความสามารถในการทำความสะอาด จึงสามารถกำจัดคราบต่างๆ ที่ติดบนผิวฟัน รวมถึงคราบสีจากการดื่มน้ำชา กาแฟ จึงทำให้ฟันขาวสะอาดขึ้น แต่ไม่สามารถทำให้ฟันขาวจากเนื้อฟันข้างในได้ และมีข้อควรระวังในการใช้ ควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่มีเหงือกอักเสบและseoฟันอยู่แล้ว ควรให้ทันตแพทย์ตรวจสภาพในช่องปากก่อน นอกจากนี้ ยังห้ามใช้เบคกิงโซดาเป็นประจำต่อเนื่อง จะมีโอกาสทำให้ฟันกร่อนได้เช่นกันและเป็นข้อห้ามสำหรับผู้ที่ติดเครื่องมือจัดฟัน เบคกิงโซดาจะทำให้กาวยึดเครื่องมือจัดฟันอ่อนตัวและหลุดได้
ซึ่งก็เป็นอย่างที่คุณหมอเค้าแนะไว้จริงๆ เบกกี้ (หรือเบกกิ้งโซดา) แม้จะช่วยในการขจัดสิ่งต่างๆ ที่ติดฟันออกไปได้ แต่ไม่สามารถทำไให้ฟันนั้นขาวขึ้นได้ กลับกันถ้าใช้เบกกี้เป็นปริมาณที่มากและบ่อยก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพฟันได้ ส่วนน้ำมะนาวแม้ค่าการเป็นกรดจะลดลง (หลังจากฟินเจอริ่งกับยเบกกี้) แต่วิตามินซีที่อยู่ในมะนาวก็ไม่ได้ลดลง ซึ่งหลายๆ อาจจะคิดว่าการที่เราแปรงฟันกับวิตามินซีก็ดีนะซิ ฟันจะได้แข็งแรง ถือว่าเป็นความเชื่อที่ผิดขั้นร้ายแรงเลยล่ะครับ! เพราะจริงอยู่ที่วิตามินซีช่วยในการลำเลียงแคลเซียมไปรักษากรดูกในส่วนที่สึกหร่อ แต่การที่วิตามินซีได้สัมผัสกับกระดูก (ฟัน)โดยตรงนั้น จะทำให้กระโุกนั้นผุกร่อนได้ (ลองสังเกตุเด็กที่อมวิตามินซีเล่นกับเด็กที่ไม่อม จะพบว่าเด็กที่อมวิตามินซีเล่นจะมีโอกาสเกิดปํยหาseoฟันและฟันผุได้มากกว่าเด็กที่ไม่อม)
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า (ตามความคิดผมนะ) การใช้เบกกี้นั้นจริงอยู่ที่ช่วยในการรขจัดสิ่งที่ติดฟันออกไปได้ แต่การใช้เป็นเวลานานอาจทำให้ฟันของคุณกร่อนและseoฟันได้รวมถึงทำให้เหงือกของคุณร่นได้อีกด้วย ส่วนใครที่อยากได้ฟันขาวๆ สาวๆ ก็ขอแนะว่าควรจะฟอกฟันจะดีกว่า (ยอมจ่ายแพงซะหน่อยแต่ปลอดภัยกว่า และไม่ต้องมานั่งเครีัยดในภายหลัง) หรือถ้าไม่อยากฟอกก็ใช้ยาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวก็ได้ แต่ขาวได้ไม่นาน ถ้าไม่ใช่ติดต่อกันก็กับมาเหลืองเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังความหลีกเลี่บงการดื่มชาและกาแฟ น้ำอัดลม รวมถึงการสูบบุหรี่ด้วยเพราะสิ่งเรานี้คือตัวการสำคัญเลยล่ะที่ทำให้ฟันของคุณกลายเป็นสีทองเหลืองอร่ามแบบนี้
และนี้ก็นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเบกกี้กับการแปรงฟันนะครับ สุดท้ายนี้ของบอกก่อนนะว่า: สุขภาพฟันที่ดีไม่ได้เป็นฟันที่ขาวและสวยแต่เป็นที่ฟันและเหงือกที่แข็งแรงต่างหาก แปรงฟันกันทุกวันนะครับ.
ขอขอบคุณ ผู้จัดการ Online, ใกล้หมอ และนานาสาระเพื่อสุขภาพดี ที่ให้ข้อมูลมานะครับผม.
http://www.youtube.com/watch?v=06d8SwcSm_Q
เบกกิ้งโซดาทำฟันขาวจริงดิ?
โอตาคุที่ดีไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเมะทุกเรื่อง แต่เป็นโอตาคุที่แบ่งเวลาเป็นต่างหาก
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 Sodaman ได้ทำการยุติการใช้บอร์ดนี้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้ของผมเสมอมานะครับผม.
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 Sodaman ได้ทำการยุติการใช้บอร์ดนี้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านกระทู้ของผมเสมอมานะครับผม.
[IMG]