นี้คือโรคสุดแปลกประหลาดและไม่น่าเชื่อว่าจะมีจริง
โรคที่ 1.โรคผีดิบ (Zomble Syndrome)
"ซอมบี้ ซินโดรม"เป็นโรคของคนที่ดูหนังซอมบี้และเล่นเกมส์ที่ไล่ยิงซอมบี้มากเกินไปจน......ล้อเล่นน่ะครับคือโรคซอมบี้ ซินโดรม หรือ ชื่อเป็นทางการคือ The Cotard delusion บ้างก็เรียกว่า Cotard's Syndrome หรือที่ผมชอบ Walking Corpse Syndrome ทำให้นึกถึงคนกลุ่มนี้
ss 5 มันมากๆนอกเรื่องไปไกลแล้วกลับเขาเรื่องดีกว่ามันคือโรคที่ทำให้ผู้ป่วยคิดว่าตนเองตายไปแล้ว ไม่กิน ไม่หิว ไม่เล่นเกมส์ ไม่ดูแอนิเมะ ไม่เขาห้องน้ำ เอาง่ายคือไม่ทำอะไรเลย
ซอมบี้ ซินโดรมแบ่งระยะแสดงผลออกเป็น 3 ระดับ
1.ฟักตัว ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการเฉื่อยชา ไม่ทานอาหาร
2.กระจายตัว ผู้ป่วยจะเริ่มพูดว่าตัวกำลังจะตายหรือตายแล้ว
3.แสดงตัว ผู้ป่วยจะอดอาหารหยุดการกระทำทุกอย่าง และใช้ชีวิตราวซากศพที่มีลมหายใจ
ทางแก้คือยาแก้โรคซึมเศร้าจะช่วยได้ครับ
โรคที่ 2.โรคบุคลิกวิปลาส (Depersonalization disorder DPD)
ผมเคยเขียนเกี่ยวกับโรคนี้ไปแล้วนะครับหากยังจำกันได้ "ก็บิลลี่ มิลลิแกนชายผู้มี 24 บุคลิก"(ใครยังไม่ได้อ่านก็ไปหาอ่านดูนะครับ) ไงครับ
คือโรคที่จะทำให้ผู้ป่วยจะคิดว่ามีคนอื่นๆคือผู้ลงมือทำทุกอย่างโดยที่เจ้าของร่างไม่รู้หรือไม่สามารถห้ามได้ ความหน้ากลัวของมันคือหากผู้ป่วยเกิดฆ่าคนขึ้นมา...............เขาก็ฆ่าไปเรื่อยๆโดยไม่รู้สึกผิดและกฏหมายก็เอาผิดไม่ได้เพราะเป็นโรคจิต โรคนี้ยังไม่มีทางรักษาแน่นอนครับ
โรคที่ 3.อาการเห็นเสียง รับ รสสี และสัมผัสหลากหลาย (Synesthesia)
เป็นโรคที่ชื่อยาวมากภาษาอังกฤษสั้นซะแต่แปลไทยแล้วยาวมาก แต่จะเรียกว่ามันเป็นโรคก็ไม่ถูกและคนที่เป็นออกจะได้รับการยกย่องด้วยซ้ำว่าได้รับพรวิเศษจากสรวงสวรรค์
อาการที่เรียกว่า"ซีนเนสธีเซีย" เป็นการรวมคำภาษากรีกคือ Syn ที่แปลว่าการหลอมรวม กับคำว่า Aisthesis ที่แปลว่าความรู้สึก คือผู้ที่มีอาการจะสามารถรับรู้ความรู้สึกได้มากกว่า 1 อย่างในเวลาเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่น
1.อ่านหนังสือแล้วเห็นตัวหนังสือเป็นสีคือเขาสามารถเติมสีลงไปในตัวหนังสือหรือตัวเลขที่พวกเข้าอ่านได้
2.ฟังเพลงแล้วรู้สึกถึงรสชาติที่ประทุอยู่บนลิ้นคือการรับรู้รสชาติผ่านการได้ยินพอคนที่เป็นโรคนี้ได้ยินเสียงได้ก็ตามลิ้นจะส่งความรู้สึกออกมาไม่ต่างจากได้กินอาหาร
3.เห็นเสียงที่ลอยมากระทบหูคือเกินเป็นภาพหรือกลุ่มสีฟุ้งขึ้งมาตรงหน้า
และแน่นอนมัมไม่มีทางรักษาครับ
โรคที่ 4.โรค 2 องคชาต (Diphallia)(ไม่กล้าเอารูปลงครับบอกตรงๆๆ)
มันมีจริงนะครับไม่ได้พูดเล่น เป็นอาการผิดปกติที่เกิดกับเพศชายเท่านั้น(แน่ละ)ซึ่งผู้ป่วยจะมีอวัยวะเพศ 2 อันและไม่สามารถตัดอันใดอันหนึ่งได้ ถือว่าโรคนี้หาพบยากมาก จะเกิดขึ้นได้แค่ 1 ใน 5.5 ล้านเท่านั้น น่าจะเกิดจากการพัฒนาเซลล์ตัวอ่อนเกิดความจำเป็น หรือก็คือการทำสำเนาทับซ้อน
และที่แน่นอนมันไม่มีวิธีรักษา
โรคที่ 5.โรคกลัวความรู้ (Epistemophobla)
คำว่า Epistemophoblav มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก 2 คำ คือคำว่า epistemo ที่แปลว่าความรู้กับคำว่า phobia ที่แปลว่าความกลัว อาการคืน ผู้ป่วยจะตัวสั่น เหงื่อออก พะอืดพะอม ทุกครั้งที่เข้าเรียนหรือได้รับความรู้
วิธีรักษาคือไปพบจิตแพทย์ครับ
เป็นไงครับกับโรคประหลาดที่ผมเอาให้อ่านกันครับมันแปลดีใช้มัยครับโรคแปลๆยังมีอีกเยะมากนะครับไว้คราวหน้าจะเอาให้อ่านกันอีกนะครับ
โรคที่ 1.โรคผีดิบ (Zomble Syndrome)
"ซอมบี้ ซินโดรม"เป็นโรคของคนที่ดูหนังซอมบี้และเล่นเกมส์ที่ไล่ยิงซอมบี้มากเกินไปจน......ล้อเล่นน่ะครับคือโรคซอมบี้ ซินโดรม หรือ ชื่อเป็นทางการคือ The Cotard delusion บ้างก็เรียกว่า Cotard's Syndrome หรือที่ผมชอบ Walking Corpse Syndrome ทำให้นึกถึงคนกลุ่มนี้
ss 5 มันมากๆนอกเรื่องไปไกลแล้วกลับเขาเรื่องดีกว่ามันคือโรคที่ทำให้ผู้ป่วยคิดว่าตนเองตายไปแล้ว ไม่กิน ไม่หิว ไม่เล่นเกมส์ ไม่ดูแอนิเมะ ไม่เขาห้องน้ำ เอาง่ายคือไม่ทำอะไรเลย
ซอมบี้ ซินโดรมแบ่งระยะแสดงผลออกเป็น 3 ระดับ
1.ฟักตัว ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการเฉื่อยชา ไม่ทานอาหาร
2.กระจายตัว ผู้ป่วยจะเริ่มพูดว่าตัวกำลังจะตายหรือตายแล้ว
3.แสดงตัว ผู้ป่วยจะอดอาหารหยุดการกระทำทุกอย่าง และใช้ชีวิตราวซากศพที่มีลมหายใจ
ทางแก้คือยาแก้โรคซึมเศร้าจะช่วยได้ครับ
โรคที่ 2.โรคบุคลิกวิปลาส (Depersonalization disorder DPD)
ผมเคยเขียนเกี่ยวกับโรคนี้ไปแล้วนะครับหากยังจำกันได้ "ก็บิลลี่ มิลลิแกนชายผู้มี 24 บุคลิก"(ใครยังไม่ได้อ่านก็ไปหาอ่านดูนะครับ) ไงครับ
คือโรคที่จะทำให้ผู้ป่วยจะคิดว่ามีคนอื่นๆคือผู้ลงมือทำทุกอย่างโดยที่เจ้าของร่างไม่รู้หรือไม่สามารถห้ามได้ ความหน้ากลัวของมันคือหากผู้ป่วยเกิดฆ่าคนขึ้นมา...............เขาก็ฆ่าไปเรื่อยๆโดยไม่รู้สึกผิดและกฏหมายก็เอาผิดไม่ได้เพราะเป็นโรคจิต โรคนี้ยังไม่มีทางรักษาแน่นอนครับ
โรคที่ 3.อาการเห็นเสียง รับ รสสี และสัมผัสหลากหลาย (Synesthesia)
เป็นโรคที่ชื่อยาวมากภาษาอังกฤษสั้นซะแต่แปลไทยแล้วยาวมาก แต่จะเรียกว่ามันเป็นโรคก็ไม่ถูกและคนที่เป็นออกจะได้รับการยกย่องด้วยซ้ำว่าได้รับพรวิเศษจากสรวงสวรรค์
อาการที่เรียกว่า"ซีนเนสธีเซีย" เป็นการรวมคำภาษากรีกคือ Syn ที่แปลว่าการหลอมรวม กับคำว่า Aisthesis ที่แปลว่าความรู้สึก คือผู้ที่มีอาการจะสามารถรับรู้ความรู้สึกได้มากกว่า 1 อย่างในเวลาเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่น
1.อ่านหนังสือแล้วเห็นตัวหนังสือเป็นสีคือเขาสามารถเติมสีลงไปในตัวหนังสือหรือตัวเลขที่พวกเข้าอ่านได้
2.ฟังเพลงแล้วรู้สึกถึงรสชาติที่ประทุอยู่บนลิ้นคือการรับรู้รสชาติผ่านการได้ยินพอคนที่เป็นโรคนี้ได้ยินเสียงได้ก็ตามลิ้นจะส่งความรู้สึกออกมาไม่ต่างจากได้กินอาหาร
3.เห็นเสียงที่ลอยมากระทบหูคือเกินเป็นภาพหรือกลุ่มสีฟุ้งขึ้งมาตรงหน้า
และแน่นอนมัมไม่มีทางรักษาครับ
โรคที่ 4.โรค 2 องคชาต (Diphallia)(ไม่กล้าเอารูปลงครับบอกตรงๆๆ)
มันมีจริงนะครับไม่ได้พูดเล่น เป็นอาการผิดปกติที่เกิดกับเพศชายเท่านั้น(แน่ละ)ซึ่งผู้ป่วยจะมีอวัยวะเพศ 2 อันและไม่สามารถตัดอันใดอันหนึ่งได้ ถือว่าโรคนี้หาพบยากมาก จะเกิดขึ้นได้แค่ 1 ใน 5.5 ล้านเท่านั้น น่าจะเกิดจากการพัฒนาเซลล์ตัวอ่อนเกิดความจำเป็น หรือก็คือการทำสำเนาทับซ้อน
และที่แน่นอนมันไม่มีวิธีรักษา
โรคที่ 5.โรคกลัวความรู้ (Epistemophobla)
คำว่า Epistemophoblav มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก 2 คำ คือคำว่า epistemo ที่แปลว่าความรู้กับคำว่า phobia ที่แปลว่าความกลัว อาการคืน ผู้ป่วยจะตัวสั่น เหงื่อออก พะอืดพะอม ทุกครั้งที่เข้าเรียนหรือได้รับความรู้
วิธีรักษาคือไปพบจิตแพทย์ครับ
เป็นไงครับกับโรคประหลาดที่ผมเอาให้อ่านกันครับมันแปลดีใช้มัยครับโรคแปลๆยังมีอีกเยะมากนะครับไว้คราวหน้าจะเอาให้อ่านกันอีกนะครับ
โรคประหลาดสุดเหลือเชื่อ
ปลายนิ้วเคลื่อนขีดเขียน จดจารสารศักดิ์สิทธิ์ เคลื่อนต่อไป ไม่ยอมให้ความคิดหรือจริตสำนวนหวนทวนคืนมาขีดฆ่าแม้ครึ่งบรรทัดหรือน้ำตาชะล้างคำใดให้เลือนหาย