ยักษ์สีแดงกับยักษ์สีน้ำเงิน เป็นคำอุปมาประเภทอุปลักษณ์ที่นำมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง 2 อย่างของอารมณ์ (ซึ่งเกิดขึ้นได้จากสิ่งแวดล้อม ครอบครัว วัฒนธรรม หรือการใช้ชีวิต) สิ่งเหล่านี้เชื่อมโยงกันอย่างชัดเจนได้ในบางครั้ง (อย่างเช่น การแข่งขัน เพื่อนมิตร ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน คู่แข่ง และอื่นๆ อีกมากมาย) โดยมีบุคลิก และรูปร่างท่าทางที่แตกต่างกันเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อต้องมาเจอหน้ากัน แน่นอนว่าพวกเขาทำให้คุณต้องเกาหัว โดยเฉพาะกับการกระทำของระหว่าง 2 ด้านว่ามาทางนี้ผิด หรือมาทางนี้ถูกกันแน่
แต่...เดี๋ยวก่อน! อย่าหลงเมากับสีตามคำอุปมา โดยคำอุปมานี้เอาแบบมาจากประเพณีของญี่ปุ่นเพื่อให้คำอุปมานี้ชัดเจนขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าตัวละครจะต้องแต่งตัวหรือมีจุดเชื่อมโยงกับสีเสมอไป เพื่อเข้ากับคำอุปมานี้
สำหรับบุคลิกของพวกเขา แบ่งออกประมาณดังนี้
ยักษ์สีแดง เป็นพวกมีความตั้งใจ ดุเดือด และต่อต้าน ตัวละครประเภทยักษ์สีแดงมักไปทางบู๊มากกว่าบุ๋น ชอบเข้าสังคม กระตือรือร้น มุ่งมั่น และเต็มไปด้วยความสนุกสำหรับชีวิต พวกเขามักจะชอบทำลายอนุสัญญาและกฎระเบียบมากกว่าอีกด้านหนึ่งของพวกเขา มักเป็นวีรบุรุษแสนทึ่ม หรือหากเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ก็คือนักสู้เฮฮาปาร์ตี้ หากพวกยักษ์สีแดงฉลาดถ่องแท้จริงๆ ก็ยังคงอ่อนไหวต่ออารมณ์มากกว่าพวกยักษ์สีน้ำเงินในทางของความคิด ความรู้สึก หรือเป้าหมายที่ซับซ้อนน้อยกว่า เมื่อเป็นวายร้าย พวกยักษ์สีแดงมักเป็นอัศวินนองเลือดเป็นหลัก
หากพูดกันทั่วไปแล้ว พวกเขาเน้นสังคมมากกว่าเน้นเป้าหมาย พวกเขาอาจไม่สนใจหรืออาจสนใจกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพวกเขา หรือเกี่ยวกับเจตนาและเป้าหมายของพวกเขา แต่หากพูดหรือกระทำบางอย่างที่น่ารังเกียจใส่เพื่อนแท้ คุณก็เตรียมรับประกันได้ถึงความเจ็บปวดที่ตามกลับมา ส่วนใหญ่พวกนี้เป็นพวกทำก่อนคิด และในด้านของฝ่ายแล้ว พวกเขาออกไปทางไร้ระเบียบ แต่กรณีนี้ไม่เกิดขึ้นเสมอไป
ส่วนยักษ์สีน้ำเงินไปทางตรงกันข้ามเป็นส่วนมาก ฉลาดเฉลียวกว่า ภาคภูมิใจ เก็บตัว และได้รับการสั่งสอน (บางครั้งก็เข้าถึงธรรม แม้ไม่รับประกันว่าจะเป็นเช่นนี้ก็ตาม) เหล่าบุคลิกยักษ์สีน้ำเงินมักได้รับความเคารพจากผู้อื่นเป็นประจำก็จริง แต่พวกเขาเองก็ชอบที่จะไขปริศนา และสร้างความสับสนต่อเพื่อนร่วมงานด้วย เพราะพวกเขาอ่านทางยาก และมีความลึกลับอันน่าสงสัย ส่วนย่อยของบุคลิกนี้รวมไปถึงพวกหน้านิ่ง พวกคิดก่อนทำ พวกนิ่งเงียบ และที่ดังกว่านี้คือพี่ใหญ่อันเหินห่างด้วย แต่จงจดจำให้ดี ในขณะที่พวกสีน้ำเงินแสดงท่าทางสงบนิ่งและใจเย็นอย่างมหาศาล แต่!! บางครั้ง...นั่นเป็นเพียงเปลือกนอก หากสะกิดเข้าอย่างรุนแรง พวกเขาจะแสดงธาตุแท้อันน่ากลัวให้เห็น หากกระทำออกมาในระดับมากเกินกว่าที่อารมณ์ของพวกเขาจะรับไหวได้ เมื่อดูจากท่าทางนิ่งและไร้อารมณ์ของพวกเขา สำหรับวายร้ายบุคลิกประเภทนี้มักเ:X้ยมโหด พร้อมที่จะทำ หรือเสียสละต่อทุกอย่าง (แม้แต่คนใดคนหนึ่งเป็นส่วนมาก) เพื่อให้ถึงเป้าหมาย
โดยทั่วไปแล้ว ตัวละครประเภทยักษ์สีน้ำเงิน นานๆ ครั้งจะมีอุปนิสัยที่มีเจตนาที่หัวรุนแรงมาก หรือเคร่งครัดกฎอย่างรุนแรงเข่นกัน ส่วนใหญ่พวกนี้เป็นพวกคิดก่อนทำ และในด้านของฝ่ายแล้ว พวกเขาออกไปทางเคร่งกฎ แต่กรณีนี้ไม่เกิดขึ้นเสมอไป
อ๊ะๆๆ ใช่ว่าคำอุปมานี้จะเอามาใช้ตรงๆ เสมอ นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกใจว่าเหล่ายักษ์สีแดงกับยักษ์สีน้ำเงินจะต้องมีพลิกไปอีกทางนึงได้ เหล่ายักษ์สีแดง แม้จะมีความตั้งใจกว่า และผลักดันด้วยอารมณ์ อาจออกมาเป็นพวกชอบสบาย และมีความยืดหยุ่นของทางอีกด้านนึง มุมมองต่อโลกอันราบเรียบของพวกเขา มีความไร้กังวล หรือยั้งความโกรธเชิงอ่อนไหวได้บางส่วน กลับกัน ยักษ์สีน้ำเงินที่ดูท่าทางนิ่ง และรอบคอบก็กลายเป็นหัวรุนแรง แสดงโกรธเกรี้ยวเมื่อถูกกดดันมากเกินไป โดยเวลาที่สลับบทกันอย่างฉับพลัน ยักษ์สีแดงกลายเป็นคู่หูที่มีความมั่นใจและเยือกเย็น ส่วนยักษ์สีน้ำเงินก็กลายเป็นคู่หูที่บุคลิกหมุนไปมาที่แฝงความโกรธอยู่ข้างใน
วิธีใช้ในการตอบโต้ซึ่งกันและกัน ทำได้หลายทาง บางครั้งเองก็นำมาใช้ในทางสมดุลได้อีก อย่างพวกสีน้ำเงินออกแนวคนฉลาด หรือพวกตรงข้ามกับพวกสีแดงที่อารมณ์ร้อน ความสัมพันธ์อาจออกมาได้หลายทิศทางมากๆ มากสุดก็คือเพื่อนแท้ จนถึงระดับน้อยสุดก็คือคู่แข่ง หรือศัตรู สิ่งหนึ่งที่มั่นใจอย่างแน่นอนโดยไม่สนว่าบทจะมากน้อยแค่ไหน เมื่อทั้ง 2 เจอกัน พวกเขาจะกลายเป็นแม่เหล็กอันน่าดึงดูดสำหรับคนอื่นๆ วิธีการนี้ยังรวมไปถึงพลังธาตุอีกด้วย คุณสามารถคาดการไว้ก่อนเลยว่ายักษ์สีแดงจะต้องมากับธาตุไฟ หรือธาตุที่ออกแนวหวือหวา ในขณะที่ยักษ์สีน้ำเงิน อยากเล่นกับน้ำ หรืออาจออกมาเป็นธาตุน้ำแข็ง และคู่แข่งระหว่างธาตุก็ได้บังเกิดนั่นเอง
หากไปตามสื่อบันเทิงที่เข้าเรื่องมาดีแล้ว รูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างนำมาสู่การต่อสู้ระหว่างผู้มีชั้นเชิงกับผู้แสดง อย่างเช่น พวกสีแดงมักพุ่งเข้าหาการต่อสู้อย่างรวดเร็วโดยไม่เน้นไปที่การวางแผน ในขณะที่พวกสีน้ำเงินใช้กับดักอันแยบยล และกลยุทธ์ หรือมักจะชนะด้วยท่วงท่าโจมตีอันทรงพลังในครั้งเดียวอันงดงาม หรือเน้นจู่โจมใส่เป้าหมายด้วยพลังเวทย์ในระยะไกลมากกว่าวิ่งเข้าหาและต่อยหน้าใส่คู่ต่อสู้
ด้วยที่ผมกล่าวมานี้ ยักษ์สีแดงกับยักษ์สีน้ำเงิน เป็นหนึ่งในอุปมาที่สำคัญของสื่อบันเทิงทั้งหลาย และกลายเป็นคำอุปมาที่นำมาใช้แทบจะทุกสื่อบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเนื้อเรื่องที่เน้นคู่หู คู่แข่ง หรือเพื่อนซี้กัน (แม้แต่คู่รักก็รวมด้วยครับ)
ตัวอย่างตัวละครในอุปมานี้
ฝั่งสีแดง: ฮานามูระ โยสุเกะ จากเพอร์โซน่า คางามิ ไทกะ จากคุโรโกะ นายจืดพลิกสังเวียนบาส มาโตอิ ริวโกะ จากคิลลาคิล เอเลน เยเกอร์ จากฝ่าพิภพไททัน คองโก จากคันไท คอลเล็กชั่น จิโยะ ซากุระ จากโนซากิคุง (เรียงจากซ้ายไปขวา บนไปล่าง)
ฝั่งสีน้ำเงิน: นารุคามิ ยู จากเพอร์โซน่า คุโรโกะ เท็ตสึยะ จากคุโรโกะ นายจืดพลิกสังเวียนบาส ซัทสึกิ คิริวอิน จากคิลลาคิล มิคาสะ แอกเคอร์แมน จากฝ่าพิภพไททัน ฮารุนะ จากคันไท คอลเล็กชั่น อุเมทาโร่ โนซากิ จากโนซากิคุง (เรียงจากซ้ายไปขวา บนไปล่าง)
ติดตามผลงานต่อได้ที่: Crossover Gag TH
คำอุปมา 1: Red Oni, Blue Oni (ยักษ์สีแดงกับยักษ์สีน้ำเงิน)