แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย moe-game เมื่อ 2015-1-21 03:15
ผมขอนำบทสรุปที่คุณ ‘ชีริว’ เขียนไว้แบบละเอียดยิบใน Bloggang มาเล่าให้ฟังแบบเจาะลึก ขอให้ตั้งสติให้ดี เพราะมันลึกล้ำยิ่งนัก อีกทั้งยังอาจทำให้คุณซาบซึ้งกับ โนบิตะ มากขึ้นในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เอ้าว่าแล้วก็มาดูกัน ไทม์ไลน์ชีวิต โนบิตะ!!
ก่อนจะเริ่มลุย ต้องบอกก่อนว่าแม้ข้อมูลหลายแห่งจะบอกว่า โนบิตะ เกิด พ.ศ.2490 แต่นั่นคือเรื่องที่ผิดนะจ้ะ เพราะข้อมูลวันเกิดของ โนบิตะ ที่ถูกต้อง เขาลืมตาดูโลกตอน 7 สิงหาคม 2507 ซึ่งได้ระบุไว้ในตอนที่ชื่อว่า “วันที่ผมเกิด” (น้อยรายมากจะรู้จัก) แล้วนี่เป็นตอนที่ตีพิมพ์ในฉบับหนังสือการ์ตูนเท่านั้น
แล้วที่ลึกล้ำนิดๆก็คือ ตอนที่ โนบิตะได้ตีพิมพ์ลงนิตยสารเด็ก ตัวละครเจ้าแว่นเนิร์ดจะถูกกำหนดให้อยู่เพียงชั้น ป.1 และจะมีนิสัยไม่ซับซ้อน แต่ต่อมา เมื่อนักเขียนในตำนาน ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ ได้ไปตีพิมพ์นิตยสารผู้ใหญ่ ตัวละครโนบิตะก็ถูกปรับให้เป็น ป.6 ซึ่งจะมีบุคคลิกนิสัยที่ซับซ้อนมากขึ้น
แค่เกริ่นมาก็มึนกันเลยทีเดียวใช่มั้ยล่ะ เพราะถ้าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ก็อาจแทบไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อน ส่วนไทม์ไลน์โนบิตะคร่าวๆนั้นมีดังนี้
- ปีปัจจุบันโนบิตะอายุ 10 ปี อยู่ ป.4
- โนบิตะหมั้นกับชิซุกะในวันที่ 25 ต.ค. ในอีก 14 ปีข้างหน้า
- โนบิตะแต่งงานเมื่อเขาอายุ 25 ปี จากนั้นโนบิตะก็ย้ายไปอยู่คอนโดกับชิซุกะในปีเดียวกัน
- โนบิตะมักนั่งไทม์แมชชีนไปอีก 25 ปีข้างหน้า เพื่อพบตัวเองวัย 35 ปี และโนบิสุเกะลูกชายตอนอายุ 10 ขวบ เท่าเขาตอนนี้
พูดมาซะยาวได้เวลาเริ่มต้นการผจญภัยแล้วล่ะ มาดูกันว่าชีวิต โนบิตะ ต้องเผชิญกับวิกฤติสำคัญใดบ้าง
ก่อนเริ่มขออินโทรเรื่องราวของพ่อแม่โนบิตะก่อน พ่อของ โนบิตะ คือ โนบิ โนบิซุเกะ แม่ของโนบิตะคือ โนบิ ทามาโกะ (นามสกุลเดิมคือคาตาโอกะ) ในเรื่องมี ตอนที่เล่าเกี่ยวกับชีวิตก่อนทั้งคู่มาพบกันหลายตอน พอจะเอามาเรียงต่อกันได้ดังนี้ครับ
10 มิ.ย. 1945 ขณะถูกพาหลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ไปทำงานหนักที่ชนบทร่วมกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ พ่อโนบิตะได้พบกับเด็กผู้หญิงที่งดงามราวลิลลี่ขาว …ซึ่งจริงๆ ก็คือ โนบิตะ ปลอมตัวมานั่นเอง ปีนี้คือปีที่ญี่ปุ่นโดนปรมาณูจนแพ้สงครามครับ
10 ก.ค. 1948 แม่โนบิตะเอาแหวนของคุณยายไปเล่นแต่งงานแล้วเผลอทำหาย
เมื่อ 25 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1949) พ่อของ โนบิตะ เรียนวาดรูปอยู่กับ อ.คาคิฮาร่า ซึ่งต่อมากลายเป็นศิลปินชื่อดัง โนบิตะ ตั้งใจจะนั่งไทม์แมชชีนไปซื้อภาพตอนอาจารย์ยังไม่ดังในราคาถูกๆ แต่ดันเผลอไปซื้อภาพของพ่อกลับมาซะนี่
15 ก.พ. เมื่อ 20 ปีก่อน
(*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1958) พ่อของโนบิตะปฏิเสธลูกสาวเศรษฐีที่จะช่วยออกเงินค่าเรียนศิลปะ ทำให้เขาไม่ได้แต่งงานเข้าตระ:Xลคนรวย เรียกว่าเป็นจุดหักเหใหญ่ของชีวิต
ซึ่งในตอนนี้หลังลงฉบับรวมเล่ม ได้เขียนเพิ่มเติมว่าหลังโดนเตะออกจากบ้านเศรษฐีแล้ว พ่อ โนบิตะ ได้บังเอิญวิ่งมาชนเอาแม่ โนบิตะ สมัยเป็นนักเรียน เธอทำตั๋วรถตกทำให้พ่อต้องเอาไปคืน จึงนับได้ว่าวันนี้ เป็นวันที่พ่อกับแม่ โนบิตะ พบกันครั้งแรกด้วย
3 พ.ย. เมื่อ 12 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1959)
พ่อและแม่ โนบิตะ ขอแต่งงานกันที่สวนสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันยังไม่รู้ว่าใครขอใครแต่งงาน เพราะ โดราเอม่อน เอาหุ่นปลอมตัวไปง้อให้ทั้งคู่คืนดีและขอแต่งงานกันทีละฝ่ายนั่นเอง
ถ้าถามว่าตามเวลาในท้องเรื่องพ่อแม่ โนบิตะ อายุเท่าไหร่ ก็ยังไม่แน่ใจว่ามีตัวเลขที่เป็นทางการหรือไม่ แต่อายุพ่อ โนบิตะ ถูกเปิดเผยตอนที่โนบิตะทำตั๋วรถไฟใต้ดินให้ใช้ ระบุบนตั๋วว่า โนบิ โนบิโซ อายุ 36 ปี (ในตอนแรกๆพ่อของโนบิตะใช้ชื่อโนบิโซ ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อโนบิซุเกะในตอนหลัง) ส่วนแม่โนบิตะเคยถูกโดราเอม่อนเอาเครื่องตรวจสอบอายุได้ 38 ปี
10 ปีก่อน วันที่ 7 สิงหาคม เมื่อ 10 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1964)
โนบิตะ ลืมตาดูโลก พ่อได้ตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า “โนบิตะ” ซึ่งหมายถึงการเติบโตอย่างแข็งแรงและเจริญก้าวหน้าไม่สิ้นสุด ทั้งพ่อและแม่คาดหวังว่าลูกน้อยคนนี้จะต้องเติบโตเป็นคนดี ทำประโยชน์ให้แก่สังคม ซึ่ง โนบิตะ ในปัจจุบันนั่งไทม์แมชชีนมาฟังความคาดหวังของพ่อแม่แล้วก็มีแรง ให้ขยันเพื่อพ่อ:Xากขึ้นอีกนิด
ประโยคแรกที่ทารก โนบิตะ พูดคืออะไรใครนึกออกบ้างครับ? ถ้าไม่เคยอ่านต้องเดากันไม่ถูกแน่ๆ… ประโยคนั้นคือ “ผมอยากกินโคล่าฮะ” นั่นเป็นเพราะ โนบิตะ คนปัจจุบันได้ใช้ของวิเศษย้ายวิญญาณตัวเองเข้าไปในตัวเองตอนยังเป็นทารกอยู่ แล้วเขาไม่อยากดื่มนมน่ะซี
7 ปีก่อน
นบิตะ เคยนั่งไทม์แมชชีนไปตอนที่ตัวเองอายุ 3 ขวบ เพื่อพบคุณย่าสมัยยังมีชีวิตอยู่ ย่าต้องการเลี้ยงดู โนบิตะ ตลอดไป แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้เพราะย่าแก่มากแล้ว โนบิตะ เลยกลับไปสะพายกระเป๋านักเรียนมาให้ดูแล้วบอกว่าตัวเขานี่แหละ คือ โนบิตะ ตอนอยู่ประถมและนั่งไทม์แมชชีนมา ซึ่งย่าก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า โนบิตะ คนนี้แหละคือหลานชายของเธอ ตอนที่สุดประทับใจนี้ถูกทำเป็นแอนิเมชั่นความยาว 27 นาที ออกฉายในปี 2000 ด้วย
โนบิตะ เคยนั่งไทม์แมชชีนเพื่อมาพาคุณย่าไปพบพ่อในปัจจุบันด้วย แต่ตอนนี้พลาดไปหน่อยที่บอกว่านั่งไทม์แมชชีนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ โนบิตะ ในอดีตนั้นโตราวๆ 3-4 ขวบแล้ว และตอนนี้คุณย่าจำได้ว่า โนบิตะ เคยมาเยี่ยมหนหนึ่งแล้ว น่าจะเป็น 7 ปีก่อนมากกว่า
6 ปีก่อน
ในสมัยอนุบาล โนบิตะ มีเพื่อนสาวคนแรกชื่อนนจัง เป็นเด็กผู้หญิงน่ารักข้างบ้านที่อาศัยอยู่กับแม่แค่สองคน โนบิตะ ถูกพวกไจแอนล้อว่าเล่นกับผู้หญิงและแซวว่าสงสัยจะรักนนจัง แถมท้าให้ไปแกล้งนนจังให้ดู ซึ่ง โนบิตะ ก็ยอมใจดำแกล้งนนจังแล้วขโมยรองเท้ามาข้างนึงเพื่อเข้าเป็นพวก เดียวกับไจแอนท์ เขาไม่รู้ว่านนจังกำลังจะย้ายบ้านไปอเมริกา กว่าจะรู้ตัว บ้านของนนจังก็ไม่มีใครอยู่แล้ว โนบิตะรู้สึกเสียใจที่ไม่มีโอกาสได้ขอโทษเธอ และเก็บรองเท้าแดงข้างนั้นไว้ในห้องมาตลอด (มีคนบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง “แฟนฉัน” ที่สุดโด่งดังเมื่อปี พ.ศ. 2546 พล็อตคล้ายๆ โดราเอม่อน ตอนนี้เลย)
ยังไงก็นับว่าโชคดีที่โดราเอม่อนมีไทม์แมชชีน โนบิตะเลยมีโอกาสกลับไปอำลานนจังและจากกันด้วยดี
โนบิตะ เข้ามาอยู่ในกลุ่มไจแอนท์ ซูเนโอะ และชิซุกะ ตอนเขาอายุได้ 4 ขวบ สถานที่เล่นประจำคือกองไม้ที่อยู่แถวบ้าน
คุณย่าเสียชีวิตตอนที่ โนบิตะ ยังอยู่อนุบาล ตอนนั้นย่าป่วยหนัก คำสอนสุดท้ายของย่าที่สอนให้แก่ โนบิตะ คือ จงทำตัวอย่างตุ๊กตาล้มลุก ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งมันก็ยังสามารถลุกขึ้นได้เสมอ…
3 ปีก่อน
โนบิตะ ขึ้นเรียนชั้น ป.1 ตอนนั้นเขาตื่นเต้นกับการไปโรงเรียนครั้งแรกมาก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่การเรียนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายสำหรับ โนบิตะ ไป
1 ปีก่อน
เมื่อ 1 ปีก่อน ตัดต้นพลับที่บ้านทิ้ง
ปัจจุบัน
ใช้ชีวิตไปตามเรื่องราว มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง
จากไทม์ไลน์ทั้งหมดนี้จะเห็นว่าแท้จริงแล้วโนบิตะใช้ชีวิตอยู่บนโลกเกิน 10 ปี แถมไม่พอยังมีเรื่องในอนาคตที่ต้องดูกันต่ออีก
อนาคต อีก 3 ปีข้างหน้า
โนบิตะ ตอนอยู่ ม.ต้น มักกลับมาหาโนบิตะคนปัจจุบัน เพื่อเคี่ยวเข็ญให้ตั้งใจเรียน ตัวเขาในอนาคตจะได้ฉลาดๆ แต่ก็มักถูก โนบิตะ ตอน ม.ปลายลากกลับไป
อนาคต อีก 8 ปีข้างหน้า
โนบิตะ ฟลุ๊คจบ ม.ปลายได้ แต่เอ็นท์ไม่ติด
ลูกพลับที่ปลูกไว้ในสวนตอนปัจจุบันแทนต้นเก่า ออกลูกกินได้แล้ว โนบิตะตอน ม.ปลาย ต้องคอยไล่ โนบิตะ คนปัจจุบันที่นั่งไทม์แมชชีนมาขโมยกินลูกพลับ
อนาคต อีก 9 ปีข้างหน้า
ปีนี้ โนบิตะ เข้ามหาวิทยาลัยได้ เพราะมีคนสละสิทธิ์ที่นึง
อนาคต ไม่ทราบปี
โนบิตะ และครอบครัวย้ายไปอยู่แมนชั่น ส่วนบ้านปัจจุบันกลายเป็นส้วมสาธารณะ
ไม่แน่ใจว่า โดราเอม่อน กลับไปโลกอนาคตตอนไหน แต่ โนบิตะ ตอนโตไม่มี โดราเอม่อน อยู่ด้วยแล้ว
อนาคต อีก 14 ปีข้างหน้า
ชิซุกะไปปีนเขาเล่นสกีกับเพื่อนๆ (ชวน โนบิตะ ไม่ยอมไปเลยต้องไปกับเพื่อนแทน) แต่หมอกลงหนาจนพลัดหลงกับเพื่อนคนอื่นๆ โนบิตะ วัย 24 ไข้ขึ้นนอนซมอยู่บนเตียง ,โนบิตะ คนปัจจุบันจึงใช้ผ้าคลุมกาลเวลาทำให้ตัวเองโตขึ้นแล้วนั่งไทม์แมชชีนไปหาชิซุกะ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แถมยังโชว์ความไม่เอาไหนเข้าไปอีก ชิซุกะติดต่อเรียกคนมาช่วยจนทั้งสองกลับมาได้อย่างปลอดภัย
อนาคต อีก 15 ปีข้างหน้า
โนบิตะ แต่งงานกับชิซุกะที่โรงแรม Prince Melon Hotel ชั้น 38 เมื่อเขาอายุได้ 25 ปี แต่ไม่มีการระบุวันที่แต่งงานไว้ โนบิตะจำวันแต่งงานผิดไปหนึ่งวัน เลยมาถึงโรงแรมก่อนกำหนด วันนี้ไจแอนท์ ซูเนโอะ และเดคิซุงิ เพื่อนสมัยเรียนประถมนัดโนบิตะไปเลี้ยงสละโสดด้วย ขณะที่ โนบิตะ กำลังเฮฮา ทางด้านชิซุกะกลับคิดลังเลใจว่าจะแต่งงานดีไหม เพราะไม่อยากทิ้งพ่อไป เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่เคยทำอะไรตอบแทนคุณพ่อเลย แต่พ่อก็บอกกับชิซุกะว่าการที่ชิซุกะเกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่และได้มอบความทรงจำมากมายให้กับพวกเขานั่นแหละ คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด
“ของขวัญชิ้นแรกก็คือเรื่องที่หนูเกิดมาเป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ ราวตีสามเห็นจะได้… เสียงร้องแรกเกิดของลูกนั้นราวกับเสียงแตรจากสวรรค์ มันเป็นเสียงอันแสนไพเราะที่พ่อกับแม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เมื่อออกจากโรงพยาบาล ฟ้าทางทิศตะวันออกก็เริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่เบื้องบนยังเต็มไปด้วยหมู่ดาว เลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อได้กำเนิดขึ้นในจักรวาลอันแสนยิ่งใหญ่นี้แล้ว พอคิดแบบนั้นแล้วมันก็ซึ้งใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ หลังจากนั้นทุกวันก็เป็นวันที่แสนมีความสุข ความทรงจำของวันเหล่านั้นต่างหากล่ะ คือของขวัญที่วิเศษที่สุดจากลูก แม้จะเหงาแต่ความทรงจำก็จะช่วยทำให้เรารู้สึกอบอุ่น เพราะงั้นลูกไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก” และนี่คือคำพูดที่ประทับใจที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้ครับ ไม่อยากเชื่อว่ามันจะมาจากตัวละครที่ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวให้เห็นเพียงแค่สอง ครั้ง อ.ฟูจิโมโตะเองก็มีลูกสาว ผมว่าบางครั้งแกก็เขียนการ์ตูนด้วยความรู้สึกของผู้เป็นพ่อจริงๆน่ะ คุณพ่อบอกกับชิซุกะว่าเลือกคนได้ถูกแล้ว เพราะโนบิตะนั้นเป็นคนที่ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข และเศร้ากับความทุกข์ของผู้อื่น ซึ่งนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ เขาเชื่อว่า โนบิตะจะทำให้ลูกสาวสุดที่รักคนนี้มีความสุขได้อย่างแน่นอนตอนที่สุดแสน ประทับใจนี้ถูกทำเป็นแอนิเมชันความยาว 27 นาที ในปี 1999 ชื่อตอน “คืนก่อนวันแต่งงานของโนบิตะ” ด้วย อนาคต อีก 25 ปีข้างหน้า
โนบิตะ มักนั่งไทม์แมชชีนมาพบตัวเองในวัย 35 (ตอนที่โนบิซุเกะ 10 ขวบ) เพื่อดูตัวเองในอนาคตบ้าง มาบ่นเรื่อง โนบิซุเกะ บ้าง ฯลฯ โนบิตะ ตอนนี้ผ่าตัดตาทำให้สายตาปกติ ไม่ต้องใส่แว่นแล้ว เขาอยู่กับชิซุกะและโนบิซุเกะเป็นครอบครัว 3 คน พอเริ่มโตเขาก็เข้าใจหลายๆอย่างที่พ่อแม่ตัวเองทำมากขึ้น เขาเข้มงวดกับโนบิซุเกะ เพราะไม่อยากให้ขี้เกียจแล้วลำบากแบบตัวเอง (เมื่อก่อน)
อนาคต อีก 45 ปีข้างหน้า
นี่คือ โนบิตะ ที่แก่ที่สุดเท่าที่ปรากฏตัวในการ์ตูนเรื่องนี้แล้วครับ วันนี้ลูกชายของเขา โนบิซุเกะวัย 30 ปี ได้นั่งกระสวยอวกาศไปฮันนี่มูนที่ดวงจันทร์แล้ว โนบิตะวัย 55 ปี คิดถึงวันคืนเก่าๆ จึงติดต่อโดราเอม่อนในปัจจุบัน ให้พาตัวเขากลับไปในโลกอดีต แล้วสลับร่างกับ โนบิตะ เพื่อใช้ชีวิตอันแสนสนุกสนานในวัย 10 ขวบอีกครั้ง
แม้จะมีอุปกรณ์วิเศษเกี่ยวกับเวลาหลายอย่าง แต่ โนบิตะ ไม่ค่อยกล้าดูอนาคตของตัวเอง สุดท้ายแล้วอนาคตของ โนบิตะ ก็ถูกสรุปออกมาง่ายๆผ่านคำบอกเล่าของ โนบิตะ วัย 55 ปีคนนี้ครับ
“นับจากนี้ไปนายจะต้องล้มลุกคลุกคลานอีกหลายหน แต่ทุกครั้งก็จะสามารถยืนหยัดขึ้นมาได้พร้อมความเข้มแข็ง”
ทั้งนี้หากโดเรม่อนไม่เข้ามาจัดการชีวิตของ โนบิตะ เส้นทางชีวิตของเขาก็จะออกมาเน่าประมาณนี้
ไทม์ไลน์ทางเลือกกรณีโดราเอม่อนไม่มาช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคตเป็นแบบนี้ครับ
อีก 8 ปีข้างหน้า – สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ที่บ้านต้องพาไปเลี้ยงปลอบใจ
อีก 17 ปีข้างหน้า – หางานไม่ได้เลยตั้งบริษัทขึ้นเองกับพ่อ
อีก 19 ปีข้างหน้า – แต่งงานกับไจโกะ
อีก 22 ปีข้างหน้า – ไฟไหม้บริษัท
อีก 24 ปีข้างหน้า – บริษัทล้มละลาย
แต่สุดท้ายเมื่อเรื่องดำเนินมาอย่างนาวนาน โนบิตะ ก็ได้ค้นพบว่าความทรงจำในวัยเด็กนั้นคือสิ่งที่ล้ำค่าอย่างหาใดเปรียบ ไม่ได้แล้ว อีกทั้งเมื่อย้อนเวลากลับมาพบแม่ของตนตอนยังเด็ก เขาก็สำนึกแล้วว่าคำสอนของเธอมี “คุณค่าเพียงใด”
จบแล้วจ้ะ หวังว่าไทม์ไลน์ชีวิตอันลึกล้ำนี้จะทำให้ทุกคนรักโนบิตะกับทุกตัวละครใน เรื่องมากขึ้นน้า และหวังว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะเป็นสิ่งคลาสสิกที่อยู่คู่สังคมไทยตลอดไปตลอด กาล...
ขอขอบคุณ ข้อมูลดีๆ จาก meekhao
ผมขอนำบทสรุปที่คุณ ‘ชีริว’ เขียนไว้แบบละเอียดยิบใน Bloggang มาเล่าให้ฟังแบบเจาะลึก ขอให้ตั้งสติให้ดี เพราะมันลึกล้ำยิ่งนัก อีกทั้งยังอาจทำให้คุณซาบซึ้งกับ โนบิตะ มากขึ้นในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เอ้าว่าแล้วก็มาดูกัน ไทม์ไลน์ชีวิต โนบิตะ!!
ก่อนจะเริ่มลุย ต้องบอกก่อนว่าแม้ข้อมูลหลายแห่งจะบอกว่า โนบิตะ เกิด พ.ศ.2490 แต่นั่นคือเรื่องที่ผิดนะจ้ะ เพราะข้อมูลวันเกิดของ โนบิตะ ที่ถูกต้อง เขาลืมตาดูโลกตอน 7 สิงหาคม 2507 ซึ่งได้ระบุไว้ในตอนที่ชื่อว่า “วันที่ผมเกิด” (น้อยรายมากจะรู้จัก) แล้วนี่เป็นตอนที่ตีพิมพ์ในฉบับหนังสือการ์ตูนเท่านั้น
แล้วที่ลึกล้ำนิดๆก็คือ ตอนที่ โนบิตะได้ตีพิมพ์ลงนิตยสารเด็ก ตัวละครเจ้าแว่นเนิร์ดจะถูกกำหนดให้อยู่เพียงชั้น ป.1 และจะมีนิสัยไม่ซับซ้อน แต่ต่อมา เมื่อนักเขียนในตำนาน ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ ได้ไปตีพิมพ์นิตยสารผู้ใหญ่ ตัวละครโนบิตะก็ถูกปรับให้เป็น ป.6 ซึ่งจะมีบุคคลิกนิสัยที่ซับซ้อนมากขึ้น
แค่เกริ่นมาก็มึนกันเลยทีเดียวใช่มั้ยล่ะ เพราะถ้าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ก็อาจแทบไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อน ส่วนไทม์ไลน์โนบิตะคร่าวๆนั้นมีดังนี้
- ปีปัจจุบันโนบิตะอายุ 10 ปี อยู่ ป.4
- โนบิตะหมั้นกับชิซุกะในวันที่ 25 ต.ค. ในอีก 14 ปีข้างหน้า
- โนบิตะแต่งงานเมื่อเขาอายุ 25 ปี จากนั้นโนบิตะก็ย้ายไปอยู่คอนโดกับชิซุกะในปีเดียวกัน
- โนบิตะมักนั่งไทม์แมชชีนไปอีก 25 ปีข้างหน้า เพื่อพบตัวเองวัย 35 ปี และโนบิสุเกะลูกชายตอนอายุ 10 ขวบ เท่าเขาตอนนี้
พูดมาซะยาวได้เวลาเริ่มต้นการผจญภัยแล้วล่ะ มาดูกันว่าชีวิต โนบิตะ ต้องเผชิญกับวิกฤติสำคัญใดบ้าง
ก่อนเริ่มขออินโทรเรื่องราวของพ่อแม่โนบิตะก่อน พ่อของ โนบิตะ คือ โนบิ โนบิซุเกะ แม่ของโนบิตะคือ โนบิ ทามาโกะ (นามสกุลเดิมคือคาตาโอกะ) ในเรื่องมี ตอนที่เล่าเกี่ยวกับชีวิตก่อนทั้งคู่มาพบกันหลายตอน พอจะเอามาเรียงต่อกันได้ดังนี้ครับ
10 มิ.ย. 1945 ขณะถูกพาหลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ไปทำงานหนักที่ชนบทร่วมกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ พ่อโนบิตะได้พบกับเด็กผู้หญิงที่งดงามราวลิลลี่ขาว …ซึ่งจริงๆ ก็คือ โนบิตะ ปลอมตัวมานั่นเอง ปีนี้คือปีที่ญี่ปุ่นโดนปรมาณูจนแพ้สงครามครับ
10 ก.ค. 1948 แม่โนบิตะเอาแหวนของคุณยายไปเล่นแต่งงานแล้วเผลอทำหาย
เมื่อ 25 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1949) พ่อของ โนบิตะ เรียนวาดรูปอยู่กับ อ.คาคิฮาร่า ซึ่งต่อมากลายเป็นศิลปินชื่อดัง โนบิตะ ตั้งใจจะนั่งไทม์แมชชีนไปซื้อภาพตอนอาจารย์ยังไม่ดังในราคาถูกๆ แต่ดันเผลอไปซื้อภาพของพ่อกลับมาซะนี่
15 ก.พ. เมื่อ 20 ปีก่อน
(*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1958) พ่อของโนบิตะปฏิเสธลูกสาวเศรษฐีที่จะช่วยออกเงินค่าเรียนศิลปะ ทำให้เขาไม่ได้แต่งงานเข้าตระ:Xลคนรวย เรียกว่าเป็นจุดหักเหใหญ่ของชีวิต
ซึ่งในตอนนี้หลังลงฉบับรวมเล่ม ได้เขียนเพิ่มเติมว่าหลังโดนเตะออกจากบ้านเศรษฐีแล้ว พ่อ โนบิตะ ได้บังเอิญวิ่งมาชนเอาแม่ โนบิตะ สมัยเป็นนักเรียน เธอทำตั๋วรถตกทำให้พ่อต้องเอาไปคืน จึงนับได้ว่าวันนี้ เป็นวันที่พ่อกับแม่ โนบิตะ พบกันครั้งแรกด้วย
3 พ.ย. เมื่อ 12 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1959)
พ่อและแม่ โนบิตะ ขอแต่งงานกันที่สวนสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันยังไม่รู้ว่าใครขอใครแต่งงาน เพราะ โดราเอม่อน เอาหุ่นปลอมตัวไปง้อให้ทั้งคู่คืนดีและขอแต่งงานกันทีละฝ่ายนั่นเอง
ถ้าถามว่าตามเวลาในท้องเรื่องพ่อแม่ โนบิตะ อายุเท่าไหร่ ก็ยังไม่แน่ใจว่ามีตัวเลขที่เป็นทางการหรือไม่ แต่อายุพ่อ โนบิตะ ถูกเปิดเผยตอนที่โนบิตะทำตั๋วรถไฟใต้ดินให้ใช้ ระบุบนตั๋วว่า โนบิ โนบิโซ อายุ 36 ปี (ในตอนแรกๆพ่อของโนบิตะใช้ชื่อโนบิโซ ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อโนบิซุเกะในตอนหลัง) ส่วนแม่โนบิตะเคยถูกโดราเอม่อนเอาเครื่องตรวจสอบอายุได้ 38 ปี
10 ปีก่อน วันที่ 7 สิงหาคม เมื่อ 10 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1964)
โนบิตะ ลืมตาดูโลก พ่อได้ตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า “โนบิตะ” ซึ่งหมายถึงการเติบโตอย่างแข็งแรงและเจริญก้าวหน้าไม่สิ้นสุด ทั้งพ่อและแม่คาดหวังว่าลูกน้อยคนนี้จะต้องเติบโตเป็นคนดี ทำประโยชน์ให้แก่สังคม ซึ่ง โนบิตะ ในปัจจุบันนั่งไทม์แมชชีนมาฟังความคาดหวังของพ่อแม่แล้วก็มีแรง ให้ขยันเพื่อพ่อ:Xากขึ้นอีกนิด
ประโยคแรกที่ทารก โนบิตะ พูดคืออะไรใครนึกออกบ้างครับ? ถ้าไม่เคยอ่านต้องเดากันไม่ถูกแน่ๆ… ประโยคนั้นคือ “ผมอยากกินโคล่าฮะ” นั่นเป็นเพราะ โนบิตะ คนปัจจุบันได้ใช้ของวิเศษย้ายวิญญาณตัวเองเข้าไปในตัวเองตอนยังเป็นทารกอยู่ แล้วเขาไม่อยากดื่มนมน่ะซี
7 ปีก่อน
นบิตะ เคยนั่งไทม์แมชชีนไปตอนที่ตัวเองอายุ 3 ขวบ เพื่อพบคุณย่าสมัยยังมีชีวิตอยู่ ย่าต้องการเลี้ยงดู โนบิตะ ตลอดไป แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้เพราะย่าแก่มากแล้ว โนบิตะ เลยกลับไปสะพายกระเป๋านักเรียนมาให้ดูแล้วบอกว่าตัวเขานี่แหละ คือ โนบิตะ ตอนอยู่ประถมและนั่งไทม์แมชชีนมา ซึ่งย่าก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า โนบิตะ คนนี้แหละคือหลานชายของเธอ ตอนที่สุดประทับใจนี้ถูกทำเป็นแอนิเมชั่นความยาว 27 นาที ออกฉายในปี 2000 ด้วย
โนบิตะ เคยนั่งไทม์แมชชีนเพื่อมาพาคุณย่าไปพบพ่อในปัจจุบันด้วย แต่ตอนนี้พลาดไปหน่อยที่บอกว่านั่งไทม์แมชชีนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ โนบิตะ ในอดีตนั้นโตราวๆ 3-4 ขวบแล้ว และตอนนี้คุณย่าจำได้ว่า โนบิตะ เคยมาเยี่ยมหนหนึ่งแล้ว น่าจะเป็น 7 ปีก่อนมากกว่า
6 ปีก่อน
ในสมัยอนุบาล โนบิตะ มีเพื่อนสาวคนแรกชื่อนนจัง เป็นเด็กผู้หญิงน่ารักข้างบ้านที่อาศัยอยู่กับแม่แค่สองคน โนบิตะ ถูกพวกไจแอนล้อว่าเล่นกับผู้หญิงและแซวว่าสงสัยจะรักนนจัง แถมท้าให้ไปแกล้งนนจังให้ดู ซึ่ง โนบิตะ ก็ยอมใจดำแกล้งนนจังแล้วขโมยรองเท้ามาข้างนึงเพื่อเข้าเป็นพวก เดียวกับไจแอนท์ เขาไม่รู้ว่านนจังกำลังจะย้ายบ้านไปอเมริกา กว่าจะรู้ตัว บ้านของนนจังก็ไม่มีใครอยู่แล้ว โนบิตะรู้สึกเสียใจที่ไม่มีโอกาสได้ขอโทษเธอ และเก็บรองเท้าแดงข้างนั้นไว้ในห้องมาตลอด (มีคนบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง “แฟนฉัน” ที่สุดโด่งดังเมื่อปี พ.ศ. 2546 พล็อตคล้ายๆ โดราเอม่อน ตอนนี้เลย)
ยังไงก็นับว่าโชคดีที่โดราเอม่อนมีไทม์แมชชีน โนบิตะเลยมีโอกาสกลับไปอำลานนจังและจากกันด้วยดี
โนบิตะ เข้ามาอยู่ในกลุ่มไจแอนท์ ซูเนโอะ และชิซุกะ ตอนเขาอายุได้ 4 ขวบ สถานที่เล่นประจำคือกองไม้ที่อยู่แถวบ้าน
คุณย่าเสียชีวิตตอนที่ โนบิตะ ยังอยู่อนุบาล ตอนนั้นย่าป่วยหนัก คำสอนสุดท้ายของย่าที่สอนให้แก่ โนบิตะ คือ จงทำตัวอย่างตุ๊กตาล้มลุก ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งมันก็ยังสามารถลุกขึ้นได้เสมอ…
3 ปีก่อน
โนบิตะ ขึ้นเรียนชั้น ป.1 ตอนนั้นเขาตื่นเต้นกับการไปโรงเรียนครั้งแรกมาก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่การเรียนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายสำหรับ โนบิตะ ไป
1 ปีก่อน
เมื่อ 1 ปีก่อน ตัดต้นพลับที่บ้านทิ้ง
ปัจจุบัน
ใช้ชีวิตไปตามเรื่องราว มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง
จากไทม์ไลน์ทั้งหมดนี้จะเห็นว่าแท้จริงแล้วโนบิตะใช้ชีวิตอยู่บนโลกเกิน 10 ปี แถมไม่พอยังมีเรื่องในอนาคตที่ต้องดูกันต่ออีก
อนาคต อีก 3 ปีข้างหน้า
โนบิตะ ตอนอยู่ ม.ต้น มักกลับมาหาโนบิตะคนปัจจุบัน เพื่อเคี่ยวเข็ญให้ตั้งใจเรียน ตัวเขาในอนาคตจะได้ฉลาดๆ แต่ก็มักถูก โนบิตะ ตอน ม.ปลายลากกลับไป
อนาคต อีก 8 ปีข้างหน้า
โนบิตะ ฟลุ๊คจบ ม.ปลายได้ แต่เอ็นท์ไม่ติด
ลูกพลับที่ปลูกไว้ในสวนตอนปัจจุบันแทนต้นเก่า ออกลูกกินได้แล้ว โนบิตะตอน ม.ปลาย ต้องคอยไล่ โนบิตะ คนปัจจุบันที่นั่งไทม์แมชชีนมาขโมยกินลูกพลับ
อนาคต อีก 9 ปีข้างหน้า
ปีนี้ โนบิตะ เข้ามหาวิทยาลัยได้ เพราะมีคนสละสิทธิ์ที่นึง
อนาคต ไม่ทราบปี
โนบิตะ และครอบครัวย้ายไปอยู่แมนชั่น ส่วนบ้านปัจจุบันกลายเป็นส้วมสาธารณะ
ไม่แน่ใจว่า โดราเอม่อน กลับไปโลกอนาคตตอนไหน แต่ โนบิตะ ตอนโตไม่มี โดราเอม่อน อยู่ด้วยแล้ว
อนาคต อีก 14 ปีข้างหน้า
ชิซุกะไปปีนเขาเล่นสกีกับเพื่อนๆ (ชวน โนบิตะ ไม่ยอมไปเลยต้องไปกับเพื่อนแทน) แต่หมอกลงหนาจนพลัดหลงกับเพื่อนคนอื่นๆ โนบิตะ วัย 24 ไข้ขึ้นนอนซมอยู่บนเตียง ,โนบิตะ คนปัจจุบันจึงใช้ผ้าคลุมกาลเวลาทำให้ตัวเองโตขึ้นแล้วนั่งไทม์แมชชีนไปหาชิซุกะ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แถมยังโชว์ความไม่เอาไหนเข้าไปอีก ชิซุกะติดต่อเรียกคนมาช่วยจนทั้งสองกลับมาได้อย่างปลอดภัย
อนาคต อีก 15 ปีข้างหน้า
โนบิตะ แต่งงานกับชิซุกะที่โรงแรม Prince Melon Hotel ชั้น 38 เมื่อเขาอายุได้ 25 ปี แต่ไม่มีการระบุวันที่แต่งงานไว้ โนบิตะจำวันแต่งงานผิดไปหนึ่งวัน เลยมาถึงโรงแรมก่อนกำหนด วันนี้ไจแอนท์ ซูเนโอะ และเดคิซุงิ เพื่อนสมัยเรียนประถมนัดโนบิตะไปเลี้ยงสละโสดด้วย ขณะที่ โนบิตะ กำลังเฮฮา ทางด้านชิซุกะกลับคิดลังเลใจว่าจะแต่งงานดีไหม เพราะไม่อยากทิ้งพ่อไป เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่เคยทำอะไรตอบแทนคุณพ่อเลย แต่พ่อก็บอกกับชิซุกะว่าการที่ชิซุกะเกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่และได้มอบความทรงจำมากมายให้กับพวกเขานั่นแหละ คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด
“ของขวัญชิ้นแรกก็คือเรื่องที่หนูเกิดมาเป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ ราวตีสามเห็นจะได้… เสียงร้องแรกเกิดของลูกนั้นราวกับเสียงแตรจากสวรรค์ มันเป็นเสียงอันแสนไพเราะที่พ่อกับแม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เมื่อออกจากโรงพยาบาล ฟ้าทางทิศตะวันออกก็เริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่เบื้องบนยังเต็มไปด้วยหมู่ดาว เลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อได้กำเนิดขึ้นในจักรวาลอันแสนยิ่งใหญ่นี้แล้ว พอคิดแบบนั้นแล้วมันก็ซึ้งใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ หลังจากนั้นทุกวันก็เป็นวันที่แสนมีความสุข ความทรงจำของวันเหล่านั้นต่างหากล่ะ คือของขวัญที่วิเศษที่สุดจากลูก แม้จะเหงาแต่ความทรงจำก็จะช่วยทำให้เรารู้สึกอบอุ่น เพราะงั้นลูกไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก” และนี่คือคำพูดที่ประทับใจที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้ครับ ไม่อยากเชื่อว่ามันจะมาจากตัวละครที่ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวให้เห็นเพียงแค่สอง ครั้ง อ.ฟูจิโมโตะเองก็มีลูกสาว ผมว่าบางครั้งแกก็เขียนการ์ตูนด้วยความรู้สึกของผู้เป็นพ่อจริงๆน่ะ คุณพ่อบอกกับชิซุกะว่าเลือกคนได้ถูกแล้ว เพราะโนบิตะนั้นเป็นคนที่ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข และเศร้ากับความทุกข์ของผู้อื่น ซึ่งนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ เขาเชื่อว่า โนบิตะจะทำให้ลูกสาวสุดที่รักคนนี้มีความสุขได้อย่างแน่นอนตอนที่สุดแสน ประทับใจนี้ถูกทำเป็นแอนิเมชันความยาว 27 นาที ในปี 1999 ชื่อตอน “คืนก่อนวันแต่งงานของโนบิตะ” ด้วย อนาคต อีก 25 ปีข้างหน้า
โนบิตะ มักนั่งไทม์แมชชีนมาพบตัวเองในวัย 35 (ตอนที่โนบิซุเกะ 10 ขวบ) เพื่อดูตัวเองในอนาคตบ้าง มาบ่นเรื่อง โนบิซุเกะ บ้าง ฯลฯ โนบิตะ ตอนนี้ผ่าตัดตาทำให้สายตาปกติ ไม่ต้องใส่แว่นแล้ว เขาอยู่กับชิซุกะและโนบิซุเกะเป็นครอบครัว 3 คน พอเริ่มโตเขาก็เข้าใจหลายๆอย่างที่พ่อแม่ตัวเองทำมากขึ้น เขาเข้มงวดกับโนบิซุเกะ เพราะไม่อยากให้ขี้เกียจแล้วลำบากแบบตัวเอง (เมื่อก่อน)
อนาคต อีก 45 ปีข้างหน้า
นี่คือ โนบิตะ ที่แก่ที่สุดเท่าที่ปรากฏตัวในการ์ตูนเรื่องนี้แล้วครับ วันนี้ลูกชายของเขา โนบิซุเกะวัย 30 ปี ได้นั่งกระสวยอวกาศไปฮันนี่มูนที่ดวงจันทร์แล้ว โนบิตะวัย 55 ปี คิดถึงวันคืนเก่าๆ จึงติดต่อโดราเอม่อนในปัจจุบัน ให้พาตัวเขากลับไปในโลกอดีต แล้วสลับร่างกับ โนบิตะ เพื่อใช้ชีวิตอันแสนสนุกสนานในวัย 10 ขวบอีกครั้ง
แม้จะมีอุปกรณ์วิเศษเกี่ยวกับเวลาหลายอย่าง แต่ โนบิตะ ไม่ค่อยกล้าดูอนาคตของตัวเอง สุดท้ายแล้วอนาคตของ โนบิตะ ก็ถูกสรุปออกมาง่ายๆผ่านคำบอกเล่าของ โนบิตะ วัย 55 ปีคนนี้ครับ
“นับจากนี้ไปนายจะต้องล้มลุกคลุกคลานอีกหลายหน แต่ทุกครั้งก็จะสามารถยืนหยัดขึ้นมาได้พร้อมความเข้มแข็ง”
ทั้งนี้หากโดเรม่อนไม่เข้ามาจัดการชีวิตของ โนบิตะ เส้นทางชีวิตของเขาก็จะออกมาเน่าประมาณนี้
ไทม์ไลน์ทางเลือกกรณีโดราเอม่อนไม่มาช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคตเป็นแบบนี้ครับ
อีก 8 ปีข้างหน้า – สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ที่บ้านต้องพาไปเลี้ยงปลอบใจ
อีก 17 ปีข้างหน้า – หางานไม่ได้เลยตั้งบริษัทขึ้นเองกับพ่อ
อีก 19 ปีข้างหน้า – แต่งงานกับไจโกะ
อีก 22 ปีข้างหน้า – ไฟไหม้บริษัท
อีก 24 ปีข้างหน้า – บริษัทล้มละลาย
แต่สุดท้ายเมื่อเรื่องดำเนินมาอย่างนาวนาน โนบิตะ ก็ได้ค้นพบว่าความทรงจำในวัยเด็กนั้นคือสิ่งที่ล้ำค่าอย่างหาใดเปรียบ ไม่ได้แล้ว อีกทั้งเมื่อย้อนเวลากลับมาพบแม่ของตนตอนยังเด็ก เขาก็สำนึกแล้วว่าคำสอนของเธอมี “คุณค่าเพียงใด”
จบแล้วจ้ะ หวังว่าไทม์ไลน์ชีวิตอันลึกล้ำนี้จะทำให้ทุกคนรักโนบิตะกับทุกตัวละครใน เรื่องมากขึ้นน้า และหวังว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะเป็นสิ่งคลาสสิกที่อยู่คู่สังคมไทยตลอดไปตลอด กาล...
ขอขอบคุณ ข้อมูลดีๆ จาก meekhao
เจาะลึกชีวิตอนาคตและอดีต โนบิตะ ยากเกินบรรยาย!!