ระวัง! ไอศกรีมฆ่าคนได้
ไอศกรีมเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการอิสระต้องการแย่งชิงตลาดเฉพาะกลุ่มของตนและใช้กลยุทธ์ทุกอย่างเพื่อปกป้องตลาดของตนเองไว้ ในปี2002 คนขายไอศกรีมในมหานครนิวยอร์กฆ่าญาติของตนด้วยมีดดาบทำเองจากข้อขัดแย้งเรื่องเส้นทางการขายไอศกรีมปี2001ในฟิลาเดลเฟีย คนขายไอศกรีม ฮัมป์ตีดัมป์ตีถูกคู่แข่งฆ่าโดยอำพรางว่าเป็นการปล้นสงครามไอศกรีมเกิดขึ้นทุกปีและมีผู้ขัดแย้งเรื่องเส้นทางการจำหน่ายทำให้มีผู้เสียชีวิต1,117รายตั้งแต่ปี1985 เป็นต้นมา
อาหารมื้อสุดท้าย
คลิฟฟอร์ด ไบรสันนักโทษประหารในโอคลาฮามาในปี2000 ร้องขอเค้กช็อกโกแล็ตเยอรมันกับไอศกรีมหนึ่งไพนต์เป็นอาหารมื้อสุดท้ายแท้จริงแล้วนักโทษ96%ขอไอศกรีมคู่อาหารมื้อสุดท้าย(แสดงว่าชอบมากจริงๆนะเนี่ย)
(ไอติมอันนี้ก็น่ากินนะครับ)
ทุกวันคือซันเด (ขอเป็นวันจันทร์บ้างได้ไหม(ซันเดคือวันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ))เด็กหญิงอายู8ขวบ ไม่ชอบการดุด่า(ใครๆก็ไม่ชอบหรอกเนอะ) เมื่อเธอโดนพ่อเธอดุและไม่ให้กินไอศกรีมหนึ่งถ้วยซึ่งเป็นอาหารหวานทุกมื้อค่ำเธอคิดว่า ถ้าเธอไม่กิน คนอื่นก็ต้องไม่ได้กิน(เข้าบทนางมารร้าย)ในระหว่างที่พ่อของเธอไปเตรียมพายเคียงคู่กับไอศกรีมและกาแฟเธอเข้ามาป่วนจนพ่อต้องออกจากห้องครัวไป (แผนการสุดล้ำลึก)จากนั้นเธอก็หย่อนยาเบื่อหนู10เม็ดลงในถ้วยกาแฟ(ชั่วร้ายมาก)พ่อของเธอกลับมาดื่มกาแฟเข้าอึกใหญ่(ด้วยความคิดที่ว่ากลิ่นกาแฟช่างหอมหวานเสียจริง)พ่อของเธอสำลักอาเจียนจนตาย เด็กหญิงอ้างว่าไม่เข้าใจเมื่อผลการกระทำของตนเอง(แก้ตัวได้อย่างช่ำชองจริงๆ) ศาลสั่งให้เธอไปอยู่กับมารดา หนึ่งเดือนต่อมาเธอทำเรื่องเดิมอีกเมื่อแม่ห้ามไม่ให้กินไอศกรีมแต่ครั้งนี้ไม่สำเร็จ ศาลตัดสินให้เธอได้รับการบำบัดทางจิต
(ส่วนไอติมอันนี้ก็ทำให้คนตายได้นะครับ ถ้าไปยืนกลางสี่แยกไฟแดง)
เครดิต : หนังสือประวัติศาสตร์ของความตายมีอะไรขาดตกบกพร่องก็แนะนำกันได้นะครับ
ระวัง! ไอศกรีมฆ่าคนได้