มารู้จักราเมงกันเถอะ !!
Q : อะไรเอ่ย "ก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ใช่ บะหมี่ก็ไม่เชิง"
A : คำตอบก็คือ "ราเมง" ไงล่ะ
ราเมง เป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าฝั่งตะวันตกยกให้แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารจานด่วน ที่ญี่ปุ่นก็ต้องยกให้ราเมงเป็นอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าแฮมเบอร์เกอร์ ที่ญี่ปุ่นจึงมาร้านราเมงพุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด พอๆกับร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านเราเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละแห่งก็มักจะมีสูตรน้ำซุปที่เป็นสุดยอดเคล็ดลับของแต่ละร้าน
การจะทำราเมงให้อร่อยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องใช้เวลาเคี่ยวน้ำซุปจากกระดูกเป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือบางแห่งอาจนานถึง 8 ชม. เลยทีเดียว เพราะรสชาติหลักของราเมงนั้นจะแตกต่างกันก็ตรงน้ำซุปนี่แหละ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าน้ำซุปของราเมงนั้นจะอร่อย หวาน กลมกล่อมแค่ไหน และทำไมนั่งกินราเมงแล้วถึงไม่มีเครื่องปรุงเหมือนไปนั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวเหมือนบ้านเรา ที่ต้องใส่พริงหนึ่งช้อน น้ำส้มสายชูสองช้อน น้ำตาลครึ่งช้อน เรียกได้ว่าถ้ากินราเมงก็ไม่ต้องปรุงเพิ่มแต่อย่างใด หากเผลอไปปรุงเข้าอาจจะโดนเจ้าของร้านค้อนให้ได้ เพราะฉะนั้นอย่างที่ได้กล่าวข้างต้นไปแล้วว่าน้ำซุปของแต่ละร้านจะมีรสชาดแตกต่างกัน มีทั้งน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกไก่ , กระดูกหมู , ปลาซาดีน หรือ (niboshi) นอกจากนั้นยังมีน้ำซุปที่ปรุงจากสาหร่ายนานาชนิด น้ำซุปจากผักต่างๆ เช่น หัวผักกาด ขิง กระเทียม ต้นหอม และเห็ด ...
เราสามารถจำแนกราเมง ได้ 4 แบบด้วยกันคือ
- Shio ramen น้ำซุปที่เกลือเป็นส่วนผสม
- Shoyu ramen น้ำซุปที่ใช้ซอสถั่วเหลืองเป็นส่วนผสม สีออกน้ำตาล หรือใส
- Tonkotsu ramen น้ำซุปที่ทำจาก กระดูกหมู ซุปจะมีสีขาวเหมือนน้ำนม
- Miso ramen น้ำซุปที่เคี่ยวจากเต้าเจี๊ยว ซุปนั้นจะได้น้ำซุปสีออกน้ำตาลมีกลิ่นหอมของเต้าเจี๊ยว บางแห่งน้ำซุปจะใส
โดยทั่วไปราเมงก็จะมี negi (ต้นหอม) , shinachiku (หน่อไม้) , nori (สาหร่าย) , yakibuta (หมูแฮมหมัก) , ไข่ต้ม เป็นต้น แต่ราเมงในเมนูตามร้านราเมงนั้นมักจะตั้งชื่อตามหน้าราเมง หรือตั้งตามท๊อปปิ้งที่ใส่ไว้บนราเมง เช่น
- Chashumen : เป็นรางเมงที่จะมีเนื้อหมูที่ผ่านการหมักและย่างมาแล้ว มีรสชาติดีและมีกลิ่นหอม หั่นเป็นแผ่นบาง ๆ
- Tanmen : ราเมงสารพัดผักไม่ว่าจะเป็น ต้นหอม หน่อไม้ สาหร่าย
- Wonton ramen : ราเมงที่มีหน้าเป็นเกี๊ยวไส้ต่าง ๆ
- Champonmen : ราเม็งหน้ารวม
- Hiyashichuka : ราเม็งเย็น
- Tonkatsu ramen : ราเม็งหน้าหมูทอด
- Tongarashimiso ramen : ราเม็งต้มยำพริกญี่ปุ่น
หากจะทำราเมงทานที่บ้าน ขอแนะนำให้ใช้ราเมงกึ่งสำเร็จรูปเพราะเป็นทางที่ง่ายที่สุดที่จะได้กินราเมง โดยในซองราเมงนั้นจะมีเครื่องปรุงน้ำซุปให้เสร็จ โดยเพียงแค่ต้มน้ำแล้วเอาซองเครื่องน้ำซุปไปต้มในน้ำเดือด หลังจากนั้นก็เอาเส้นราเมงไปต้มในน้ำซุป แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ ...
เวลากินราเมงที่ร้านราเมงที่ญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ต้องสงวนท่าทีเพราะสามารถทำเสียงดังเวลาซดน้ำ หรือสูบเส้นเข้าปากได้ไม่มีใครมาคอยส่งค้อนให้แน่นอนคะ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติกันเลยทีเดียว ยิ่งซดน้ำเสียงดังเท่าไหร่แสดงว่าราเมงชามนี้อร่อยสุดๆ ไปเลยคะ แต่ถ้าทำที่เมืองไnยก็อาจจะโดนหาว่าไม่มีสมบัติผู้ D ได้นะ ต้องระวังด้วยนะ
เครดิต : Japankiku.com
ขอขอบคุณเอเชี่ยนเคเฟ่ ..
Q : อะไรเอ่ย "ก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ใช่ บะหมี่ก็ไม่เชิง"
A : คำตอบก็คือ "ราเมง" ไงล่ะ
ราเมง เป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าฝั่งตะวันตกยกให้แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารจานด่วน ที่ญี่ปุ่นก็ต้องยกให้ราเมงเป็นอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าแฮมเบอร์เกอร์ ที่ญี่ปุ่นจึงมาร้านราเมงพุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด พอๆกับร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านเราเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละแห่งก็มักจะมีสูตรน้ำซุปที่เป็นสุดยอดเคล็ดลับของแต่ละร้าน
การจะทำราเมงให้อร่อยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องใช้เวลาเคี่ยวน้ำซุปจากกระดูกเป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือบางแห่งอาจนานถึง 8 ชม. เลยทีเดียว เพราะรสชาติหลักของราเมงนั้นจะแตกต่างกันก็ตรงน้ำซุปนี่แหละ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าน้ำซุปของราเมงนั้นจะอร่อย หวาน กลมกล่อมแค่ไหน และทำไมนั่งกินราเมงแล้วถึงไม่มีเครื่องปรุงเหมือนไปนั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวเหมือนบ้านเรา ที่ต้องใส่พริงหนึ่งช้อน น้ำส้มสายชูสองช้อน น้ำตาลครึ่งช้อน เรียกได้ว่าถ้ากินราเมงก็ไม่ต้องปรุงเพิ่มแต่อย่างใด หากเผลอไปปรุงเข้าอาจจะโดนเจ้าของร้านค้อนให้ได้ เพราะฉะนั้นอย่างที่ได้กล่าวข้างต้นไปแล้วว่าน้ำซุปของแต่ละร้านจะมีรสชาดแตกต่างกัน มีทั้งน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกไก่ , กระดูกหมู , ปลาซาดีน หรือ (niboshi) นอกจากนั้นยังมีน้ำซุปที่ปรุงจากสาหร่ายนานาชนิด น้ำซุปจากผักต่างๆ เช่น หัวผักกาด ขิง กระเทียม ต้นหอม และเห็ด ...
เราสามารถจำแนกราเมง ได้ 4 แบบด้วยกันคือ
- Shio ramen น้ำซุปที่เกลือเป็นส่วนผสม
- Shoyu ramen น้ำซุปที่ใช้ซอสถั่วเหลืองเป็นส่วนผสม สีออกน้ำตาล หรือใส
- Tonkotsu ramen น้ำซุปที่ทำจาก กระดูกหมู ซุปจะมีสีขาวเหมือนน้ำนม
- Miso ramen น้ำซุปที่เคี่ยวจากเต้าเจี๊ยว ซุปนั้นจะได้น้ำซุปสีออกน้ำตาลมีกลิ่นหอมของเต้าเจี๊ยว บางแห่งน้ำซุปจะใส
โดยทั่วไปราเมงก็จะมี negi (ต้นหอม) , shinachiku (หน่อไม้) , nori (สาหร่าย) , yakibuta (หมูแฮมหมัก) , ไข่ต้ม เป็นต้น แต่ราเมงในเมนูตามร้านราเมงนั้นมักจะตั้งชื่อตามหน้าราเมง หรือตั้งตามท๊อปปิ้งที่ใส่ไว้บนราเมง เช่น
- Chashumen : เป็นรางเมงที่จะมีเนื้อหมูที่ผ่านการหมักและย่างมาแล้ว มีรสชาติดีและมีกลิ่นหอม หั่นเป็นแผ่นบาง ๆ
- Tanmen : ราเมงสารพัดผักไม่ว่าจะเป็น ต้นหอม หน่อไม้ สาหร่าย
- Wonton ramen : ราเมงที่มีหน้าเป็นเกี๊ยวไส้ต่าง ๆ
- Champonmen : ราเม็งหน้ารวม
- Hiyashichuka : ราเม็งเย็น
- Tonkatsu ramen : ราเม็งหน้าหมูทอด
- Tongarashimiso ramen : ราเม็งต้มยำพริกญี่ปุ่น
หากจะทำราเมงทานที่บ้าน ขอแนะนำให้ใช้ราเมงกึ่งสำเร็จรูปเพราะเป็นทางที่ง่ายที่สุดที่จะได้กินราเมง โดยในซองราเมงนั้นจะมีเครื่องปรุงน้ำซุปให้เสร็จ โดยเพียงแค่ต้มน้ำแล้วเอาซองเครื่องน้ำซุปไปต้มในน้ำเดือด หลังจากนั้นก็เอาเส้นราเมงไปต้มในน้ำซุป แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ ...
เวลากินราเมงที่ร้านราเมงที่ญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ต้องสงวนท่าทีเพราะสามารถทำเสียงดังเวลาซดน้ำ หรือสูบเส้นเข้าปากได้ไม่มีใครมาคอยส่งค้อนให้แน่นอนคะ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติกันเลยทีเดียว ยิ่งซดน้ำเสียงดังเท่าไหร่แสดงว่าราเมงชามนี้อร่อยสุดๆ ไปเลยคะ แต่ถ้าทำที่เมืองไnยก็อาจจะโดนหาว่าไม่มีสมบัติผู้ D ได้นะ ต้องระวังด้วยนะ
เครดิต : Japankiku.com
ขอขอบคุณเอเชี่ยนเคเฟ่ ..
มารู้จักราเมงกันเถอะ !!