โดยปกติคนอายุยืนมักจะต้องมีพันธุกรรม หมายความว่าต้องมีบรรพบุรุษที่เป็นคนอายุยืน Thomas Peris ได้ทำการศึกษาที่ Boston University school of Medicine และได้นำเสนอ 10 ลักษณะนิสัย ที่จะทำให้คนมีอายุยืนยาวขึ้น ดังนี้
1. พยายามที่จะไม่เกษียณตัวเอง มีหลักฐานยืนยันจาก Baltimore Longitudinal Study of Aging (Luigi Ferrucci) กล่าวว่ามีหลักฐานยืนยันในหลายสังคมว่า คนที่หยุดทำงานทันที จะมีอัตราการเป็นโรคอ้วนและการเจ็บป่วยเรื้อรังเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในบางชุมชนจึงมีการรณรงค์ให้ผู้สูงอายุทำงานเป็นอาสาสมัครในที่ต่าง ๆ อาทิเช่น ช่วยสอนในโรงเรียนประถมศึกษา เป็นอาสาสมัครที่พิพิธภัณฑ์ เป็นต้น โดยให้ใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
2. ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เพราะจากการศึกษาวิจัย ของNew York University ในปี คศ.2008 พบหลักฐานยืนยันว่า การใช้ไหมขัดฟันช่วยลดปริมาณแบคทีเรียในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอักเสบในช่องปาก หรือโรคเหงือกอักเสบ และนอกจากนี้ ยังมีการศึกษาพบว่า คนที่มีปริมาณแบคทีเรียมากในช่องปากจะมีผนังหลอดเลือดหัวใจที่หนากว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการโรคหัวใจ
3. มีการเคลื่อนไหวร่างกาย นั่นคือ การออกกำลังกายเป็นรากฐานที่สำคัญของการคงอยู่ของความเป็นหนุ่มเป็นสาว ประโยชน์ที่จะได้รับจากการออกกำลังกายคือ ช่วยทำให้อารมณ์ จิตใจ แจ่มใส สดชื่น มี ความแม่นยำของสมอง เกิดสมดุลของกายและใจ เพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและกระดูก โดยเพียงการเดินไปหาเพื่อนบ้านบ้างหรือแม้แต่การเดินในห้างสรรพสินค้าสักวันละ 30 นาที ก็เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่จะช่วยสร้างความคงทนของกล้ามเนื้อ เสริมสร้างเซลสมอง ส่งเสริมอารมณ์และจิตใจให้เบิกบานได้
4. รับประทานอาหารที่มีใยอาหารเป็นอาหารเช้า การรับประทานธัญพืชเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะจะช่วยลดอัตราการเป็นเบาหวาน โดยเฉพาะการรับประทานเป็นอาหารเช้า (เบาหวานเป็นโรคที่เร่งความแก่)
5. ตาต้องปิดอย่างน้อยๆ 6 ชั่วโมง/วัน การนอนเป็นหนึ่งในความสำคัญของร่างกายที่จะปรับสมดุลและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ผู้ที่มีอายูถึง 100 ปี กล่าวว่า การนอนหลับพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ
6. รับประทานอาหารดีกว่าการรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามิน การรับประทานอาหารที่มีหลากหลายสีตามธรรมชาติ ข้าวที่ไม่ขัดสี ธัญญพืช มีประโยชน์มากกว่าการรับประทานอาหารเสริมหกรือวิตามิน
7. เครียดให้น้อยลง สำหรับคนที่เครียดง่าย คุณต้องหาวิธีการในการที่จะดูแลและบริหารความเครียดของคุณ หากคุณทำไม่ได้ก็คงต้องหาที่ปรึกษา
8. ควรมีวันหยุดอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ ในวันหยุดนี้หมายความถึง การหยุดสูบบุหรี่ หยุดดื่มแอลกอฮอล์ ลดปริมาณการทานของหวานจัด แล้วหันมารับประทานผักผลไม้ และ ถั่ว แทน เพิ่มการออกกำลังกาย ให้ความใส่ใจต่อครอบครัวและชุมชน
9. สร้างลักษณะนิสัยที่ดี เลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เข้านอนและตื่นนอน เป็นเวลา เพราะสิ่งเหล่านี้จะแปรเปลี่ยนไปได้มากเมื่อคุณมีอายุที่มากขึ้น ดังนั้นการฝึกให้เป็นนิสัยจะช่วยทำให้คุณสามารถปฏิบัติตัวและดูแลตัวเองได้ไม่ยากนักเมื่ออายุมากขึ้น
10. การติดต่อปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงหรือคนในสังคมกลุ่มอื่น จะเป็นสิ่งที่ดีและเป็นปัจจัยที่ช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้า และยังเป็นตัวช่วยในการที่จะทำให้สมองเรายังได้ทำงานอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาและรายงานใน British Medical Journal ว่าคนอังกฤษ 20,000 คน สามารถที่จะลดการเสี่ยงของปัญหาหลอดเลือด (หลอดเลือดสมองแตกหรือตีบ) ได้โดยการปฏิบัติตน 4 ประการดังนี้
1.มีความกระฉับกระเฉงอย่างน้อย ๆ 30 นาทีต่อวัน
2.รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่
3.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
4.ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์
1. พยายามที่จะไม่เกษียณตัวเอง มีหลักฐานยืนยันจาก Baltimore Longitudinal Study of Aging (Luigi Ferrucci) กล่าวว่ามีหลักฐานยืนยันในหลายสังคมว่า คนที่หยุดทำงานทันที จะมีอัตราการเป็นโรคอ้วนและการเจ็บป่วยเรื้อรังเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในบางชุมชนจึงมีการรณรงค์ให้ผู้สูงอายุทำงานเป็นอาสาสมัครในที่ต่าง ๆ อาทิเช่น ช่วยสอนในโรงเรียนประถมศึกษา เป็นอาสาสมัครที่พิพิธภัณฑ์ เป็นต้น โดยให้ใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
2. ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เพราะจากการศึกษาวิจัย ของNew York University ในปี คศ.2008 พบหลักฐานยืนยันว่า การใช้ไหมขัดฟันช่วยลดปริมาณแบคทีเรียในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอักเสบในช่องปาก หรือโรคเหงือกอักเสบ และนอกจากนี้ ยังมีการศึกษาพบว่า คนที่มีปริมาณแบคทีเรียมากในช่องปากจะมีผนังหลอดเลือดหัวใจที่หนากว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการโรคหัวใจ
3. มีการเคลื่อนไหวร่างกาย นั่นคือ การออกกำลังกายเป็นรากฐานที่สำคัญของการคงอยู่ของความเป็นหนุ่มเป็นสาว ประโยชน์ที่จะได้รับจากการออกกำลังกายคือ ช่วยทำให้อารมณ์ จิตใจ แจ่มใส สดชื่น มี ความแม่นยำของสมอง เกิดสมดุลของกายและใจ เพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและกระดูก โดยเพียงการเดินไปหาเพื่อนบ้านบ้างหรือแม้แต่การเดินในห้างสรรพสินค้าสักวันละ 30 นาที ก็เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่จะช่วยสร้างความคงทนของกล้ามเนื้อ เสริมสร้างเซลสมอง ส่งเสริมอารมณ์และจิตใจให้เบิกบานได้
4. รับประทานอาหารที่มีใยอาหารเป็นอาหารเช้า การรับประทานธัญพืชเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะจะช่วยลดอัตราการเป็นเบาหวาน โดยเฉพาะการรับประทานเป็นอาหารเช้า (เบาหวานเป็นโรคที่เร่งความแก่)
5. ตาต้องปิดอย่างน้อยๆ 6 ชั่วโมง/วัน การนอนเป็นหนึ่งในความสำคัญของร่างกายที่จะปรับสมดุลและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ผู้ที่มีอายูถึง 100 ปี กล่าวว่า การนอนหลับพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ
6. รับประทานอาหารดีกว่าการรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามิน การรับประทานอาหารที่มีหลากหลายสีตามธรรมชาติ ข้าวที่ไม่ขัดสี ธัญญพืช มีประโยชน์มากกว่าการรับประทานอาหารเสริมหกรือวิตามิน
7. เครียดให้น้อยลง สำหรับคนที่เครียดง่าย คุณต้องหาวิธีการในการที่จะดูแลและบริหารความเครียดของคุณ หากคุณทำไม่ได้ก็คงต้องหาที่ปรึกษา
8. ควรมีวันหยุดอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ ในวันหยุดนี้หมายความถึง การหยุดสูบบุหรี่ หยุดดื่มแอลกอฮอล์ ลดปริมาณการทานของหวานจัด แล้วหันมารับประทานผักผลไม้ และ ถั่ว แทน เพิ่มการออกกำลังกาย ให้ความใส่ใจต่อครอบครัวและชุมชน
9. สร้างลักษณะนิสัยที่ดี เลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เข้านอนและตื่นนอน เป็นเวลา เพราะสิ่งเหล่านี้จะแปรเปลี่ยนไปได้มากเมื่อคุณมีอายุที่มากขึ้น ดังนั้นการฝึกให้เป็นนิสัยจะช่วยทำให้คุณสามารถปฏิบัติตัวและดูแลตัวเองได้ไม่ยากนักเมื่ออายุมากขึ้น
10. การติดต่อปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงหรือคนในสังคมกลุ่มอื่น จะเป็นสิ่งที่ดีและเป็นปัจจัยที่ช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้า และยังเป็นตัวช่วยในการที่จะทำให้สมองเรายังได้ทำงานอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาและรายงานใน British Medical Journal ว่าคนอังกฤษ 20,000 คน สามารถที่จะลดการเสี่ยงของปัญหาหลอดเลือด (หลอดเลือดสมองแตกหรือตีบ) ได้โดยการปฏิบัติตน 4 ประการดังนี้
1.มีความกระฉับกระเฉงอย่างน้อย ๆ 30 นาทีต่อวัน
2.รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่
3.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
4.ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์
10 วิธี...ที่จะทำให้อายุยืน
[IMG]