เ
ประเภทของไอศครีม
ไอศกรีม (อ่านว่า ไอ-สะ-กฺรีม) มาจากคำภาษาอังกฤษว่า ice-cream พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานให้เขียนเป็นภาษาไทยว่า ไอศกรีม ซึ่งเป็นคำที่เขียนกันมาแต่เดิม. ไอศกรีม เป็นชื่อขนมอย่างหนึ่งทำด้วยครีม นม น้ำตาลเป็นต้น ผสมกัน แล้วปั่นให้ข้นในอุณหภูมิต่ำอาจเติมรส สี และกลิ่นต่าง ๆ ได้ตามชอบ เช่น ไอศกรีมช็อกโกแลต. ไอศกรีมกาแฟ. ไอศกรีมวานิลลา. ถ้าใช้น้ำกะทิแทนครีม ก็จะเรียกว่า ไอศกรีมกะทิ ถ้าใส่เครื่องอย่างอื่น ๆ ประสม ก็อาจเรียกตามชื่อเครื่องประสมนั้น ๆ เช่น ไอศกรีมเม็ดแมงลัก. ไอศกรีมทุเรียน. ไอศกรีมข้าวโพด. ไอศกรีมเผือก.
ภาษาปากหรือภาษาพูดมักจะเรียกว่า ไอติม และบางครั้ง ไอติม จะหมายถึงไอศกรีมชนิดที่ไม่ใส่ครีมหรือนมด้วย เช่น ไอติมแท่ง. ไอติมหลอด.
ไอศกรีมมีหลายชนิดสามารถแบ่งตามชนิดต่างๆ ได้ดังนี้
1. ไอศกรีม ( lce Cream ) มีส่วนผสมของนม น้ำตาล ไขมันและเครื่องปรุงรส อื่นๆเช่นช็อกโกแลตวานิลลากาแฟหรือผลไม้เช่นสตรอเบอร์รี่ข้าวโพดเผือกเป็น ส่วนประกอบไอศกรีมพรีเมี่ยม มีส่วนผสมของไขมันมากที่สุด ในประเภทของ ไอศกรีมทุกชนิด การบริโภคไอศกรีมทั่วโลกคิดเป็น 70%ของบริมาณของหวาน แช่แข็งทั้งหมด
2. ไอศกรีมหวานเย็นผสมนม ( Milk lce or lce Milk) มีปริมาณไขมันน้อยกว่า ไอศกรีมมีส่วนผสมของนม น้ำตาลและเครื่องปรุงรสอื่นๆสามารถผลิต ไอศกรีม ชนิดนี้ใด้ทั้งแบบเนื้อนุ่มและแบบเนื้อแข็ง
3. เชอร์เบท (Sherbet) ไม่มีไขมัน มีส่วนผสมสำคัญคือน้ำผลไม้และน้ำตาล มีนมเป็นส่วนประกอบเพียงเล็กนัอยรสชาติออกเปรี้ยวและหวาน เนื้อไอศกรีม เชอร์เบทเหนียว เนียนละเอียด สีสวยสดใส
4. ซอร์เบท์ (Sorbet) ไม่มีไขมัน มีส่วนผสมสำคัญ คือ ผลไม้(น้ำผลไมัหรือชิ้น เนื้อผลไม้บด) และน้ำตาล ซอร์เบท์มีปริมาณน้ำตาลมากที่สุดเนื้อไอศกรีมมี ลักษณะเป็นเกล็ดละเอียด นุ่มได้รสชาติผลไม้เข้มข้น
5. ไอศกรีมหวานเย็น (Water Ice) ไอศกรีมหวานเย็น มีส่วนผสมหลัก คือ น้ำตาล น้ำเครื่องปรุงรสและกลิ่น ไม่มีส่วนผสมของไขมันมีปริมาณน้ำมากที่สุด สีและรส เป็นส่วนผสมสำคัญเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีสีสัน และรสชาติที่ต้องการส่วนใหญ่มี ลักษณะ เป็นแท่ง
6. ไอศกรีมโยเกิร์ต (Y๐hGurt Ice Cream)มีส่วนผสมหลักคือไอศกรีมและโยเกิร์ต ซี่งจะให้รสชาติหวานกลมกล่อมแบบไอศกรีม และเปรี้ยวเล็กนัอยแบบโยเกิร์ต สามารถผลิตไอศกรีมโยเกิร์ตได้หลากหลายรสชาติเหมือนไอศกรีมทั่วไปแต่โดย ส่วนใหญ่จะใช้รสชาติผลไม้เป็นหลัก
1. Standard Ice Cream
ประเภทของไอศครีม
ไอศกรีม (อ่านว่า ไอ-สะ-กฺรีม) มาจากคำภาษาอังกฤษว่า ice-cream พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานให้เขียนเป็นภาษาไทยว่า ไอศกรีม ซึ่งเป็นคำที่เขียนกันมาแต่เดิม. ไอศกรีม เป็นชื่อขนมอย่างหนึ่งทำด้วยครีม นม น้ำตาลเป็นต้น ผสมกัน แล้วปั่นให้ข้นในอุณหภูมิต่ำอาจเติมรส สี และกลิ่นต่าง ๆ ได้ตามชอบ เช่น ไอศกรีมช็อกโกแลต. ไอศกรีมกาแฟ. ไอศกรีมวานิลลา. ถ้าใช้น้ำกะทิแทนครีม ก็จะเรียกว่า ไอศกรีมกะทิ ถ้าใส่เครื่องอย่างอื่น ๆ ประสม ก็อาจเรียกตามชื่อเครื่องประสมนั้น ๆ เช่น ไอศกรีมเม็ดแมงลัก. ไอศกรีมทุเรียน. ไอศกรีมข้าวโพด. ไอศกรีมเผือก.
ภาษาปากหรือภาษาพูดมักจะเรียกว่า ไอติม และบางครั้ง ไอติม จะหมายถึงไอศกรีมชนิดที่ไม่ใส่ครีมหรือนมด้วย เช่น ไอติมแท่ง. ไอติมหลอด.
ไอศกรีมมีหลายชนิดสามารถแบ่งตามชนิดต่างๆ ได้ดังนี้
1. ไอศกรีม ( lce Cream ) มีส่วนผสมของนม น้ำตาล ไขมันและเครื่องปรุงรส อื่นๆเช่นช็อกโกแลตวานิลลากาแฟหรือผลไม้เช่นสตรอเบอร์รี่ข้าวโพดเผือกเป็น ส่วนประกอบไอศกรีมพรีเมี่ยม มีส่วนผสมของไขมันมากที่สุด ในประเภทของ ไอศกรีมทุกชนิด การบริโภคไอศกรีมทั่วโลกคิดเป็น 70%ของบริมาณของหวาน แช่แข็งทั้งหมด
2. ไอศกรีมหวานเย็นผสมนม ( Milk lce or lce Milk) มีปริมาณไขมันน้อยกว่า ไอศกรีมมีส่วนผสมของนม น้ำตาลและเครื่องปรุงรสอื่นๆสามารถผลิต ไอศกรีม ชนิดนี้ใด้ทั้งแบบเนื้อนุ่มและแบบเนื้อแข็ง
3. เชอร์เบท (Sherbet) ไม่มีไขมัน มีส่วนผสมสำคัญคือน้ำผลไม้และน้ำตาล มีนมเป็นส่วนประกอบเพียงเล็กนัอยรสชาติออกเปรี้ยวและหวาน เนื้อไอศกรีม เชอร์เบทเหนียว เนียนละเอียด สีสวยสดใส
4. ซอร์เบท์ (Sorbet) ไม่มีไขมัน มีส่วนผสมสำคัญ คือ ผลไม้(น้ำผลไมัหรือชิ้น เนื้อผลไม้บด) และน้ำตาล ซอร์เบท์มีปริมาณน้ำตาลมากที่สุดเนื้อไอศกรีมมี ลักษณะเป็นเกล็ดละเอียด นุ่มได้รสชาติผลไม้เข้มข้น
5. ไอศกรีมหวานเย็น (Water Ice) ไอศกรีมหวานเย็น มีส่วนผสมหลัก คือ น้ำตาล น้ำเครื่องปรุงรสและกลิ่น ไม่มีส่วนผสมของไขมันมีปริมาณน้ำมากที่สุด สีและรส เป็นส่วนผสมสำคัญเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีสีสัน และรสชาติที่ต้องการส่วนใหญ่มี ลักษณะ เป็นแท่ง
6. ไอศกรีมโยเกิร์ต (Y๐hGurt Ice Cream)มีส่วนผสมหลักคือไอศกรีมและโยเกิร์ต ซี่งจะให้รสชาติหวานกลมกล่อมแบบไอศกรีม และเปรี้ยวเล็กนัอยแบบโยเกิร์ต สามารถผลิตไอศกรีมโยเกิร์ตได้หลากหลายรสชาติเหมือนไอศกรีมทั่วไปแต่โดย ส่วนใหญ่จะใช้รสชาติผลไม้เป็นหลัก
ไอศกรีมเนี่ย ถ้าแบ่งประเภทจริงมีเยอะมากค่ะ แต่ถ้าเอาที่ดังๆ ที่คนไทย "เคยได้ยินนะ แต่มันเป็นไงเหรอ" ก็มีตามนี้ค่ะ
1. Standard Ice Cream
ก็คือไอศกรีมที่เป็นไอศกรีมปกตินี่ล่ะค่ะ มีส่วนผสมของนมกับน้ำตาล แล้วก็ไม่ได้เติมพวกสารคงตัว หรืออัดอากาศ ดังนั้นเนื้อไอศกรีมจะแน่นค่ะ พวกนี้ฟีสังเกตว่าจะเป็นพวกไอศกรีมโฮมเมด เป็นส่วนใหญ่น่ะค่ะ
2.Low fat และ Non fatสองตัวนี้เป็นของโปรดสำหรับคนรักของหวาน แต่ยังกังวลเรื่องสุขภาพเลยล่ะค่ะ สำหรับไอศกรีมแบบ Low fat ก็คือมีไขมันน้อยนั่นเอง เท่าที่ฟีรู้มา เค้าบอกว่า Low fat เนี่ย เค้ากำหนดว่าต้องมีไขมันไม่เกิน 3 g. ต่อขนาดบริโภค 4 oz. (ประมาณ 100 g.) ค่ะ
ส่วนNon fat หรือ ไอศกรีมปราศจากไขมันเนี่ย ไม่ต้องถึงขั้นไขมัน 0% นะคะ นั่นก็เว่อร์ไป เสียรสชาติกันพอดี(อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวค่ะ^^) แต่เค้าก็กำหนดว่าไอศกรีมประเภทนี้ต้องมีไขมันน้อยกว่า 0.5 g. ต่อหน่วยบริโภค (serving) ค่ะ หน้าตาพวกนี้ก็เหมือนๆ ไอศกรีมทั่วไปนี่ล่ะค่ะ แต่ทางร้านเค้าก็จะมีโฆษณาบอกว่า ตัวนี้ low fat นะ แต่อันนี้จะเป็น non fat ประมาณนี้ล่ะค่ะ3.Gelatoตัวนี้ไงคะ ที่ทำเพื่อนเลิฟงงติ้ว^^ ที่เจลาโต้จะแตกต่างจาก Standard icecream (เพราะบางร้านเค้าจะเขียนว่า Gelato homemade อะไรประมาณนี้ใช่มั้ยคะ) คือเจลาโต้เนี่ยจะเป็นของภาคภูมิใจของคนอิตาลีค่ะ เพราะถือว่าเป็นต้นกำเนิดนั่นเอง เรียกว่าเป็นไอศกรีมสไตล์อิตาเลียนนั่นล่ะค่ะ
เอาให้นึกภาพก่อน ไอศกรีมแบบนี้เค้าจะใช้ที่ตักที่เป็นแบบแบนๆ น่ะค่ะ ดูตามรูปก็ได้ เค้าเรียกว่า Spatula ค่ะ (ส่วนที่ตักไอศกรีมทั่วไปเรียกScoop ทำให้ได้ไอศกรีมออกมาเป็นลูกๆไงคะ) เนื้อไอศกรีมจะแน่นกว่าโฮมเมดทั่วไปมาก ถ้ายังแยกความแน่นไม่ออก ก็ดูความหนืดก็ได้ค่ะ เวลาตักนี่จะเหนียวยืดเหมือนชีส(เว่อร์ไปมั้ย อ้าว~ลองดึงช้าๆ ดูสิคะ) สังเกตได้อีกอย่างว่าจะเหนียวติดช้อน ถึงแม้ว่าเราเม้มปากกินขนาดไหนก็ตาม เหนียวดี หลายๆ คนก็ชอบค่ะ
ที่เป็นอย่างนี้เพราะส่วนผสมของเจลาโต้มีส่วนผสมของไข่แดงและของแข็งทั้งหมดสูงมากค่ะ เนื้อไอศกรีมเลยข้นแล้วก็ไม่ฟู (ฟีว่าน่าจะเป็นเพราะความหนักของมัน เลยฟูไม่ขึ้นแน่เลย^^)
ร้านพวกเจลาโต้ตอนนี้ถือว่าดังในเมืองไทยพอควรนะคะ เดินไปไหนก็เจอ แต่ราคาสูงมากพอดูอยู่ ไม่รู้แพงเพราะอะไร กูรูคนไหนผ่านมาช่วยให้ความกระจ่างด้วยนะคะ
แนะนำร้านที่ฟีเข้าบ่อยๆก็แองเจลาโต (angelato) ที่ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตค่ะ (จะได้ค่าโฆษณามั้ยเนี่ย >_<) ส่วนใครอยากลองหาทานดู แล้วไม่อยากเสี่ยงกับราคาเวอร์ๆก็แนะนำ Gelatoni ค่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ที่ BTS สยาม แล้วก็ BlackCanyon บางสาขาก็จะมีค่ะ4.Sherbetอันนี้หลายคนคงได้ยินกันบ่อย อย่างเช่น เชอร์เบ็ตส้ม หรือมะนาวเชอร์เบ็ต แล้วก็เลยเข้าใจว่าเป็นไอศกรีมรสผลไม้เปรี้ยวๆ จริงๆ แล้วเชอร์เบ็ตนี่คือไอศกรีมผลไม้เลยล่ะค่ะ คือมีรสผลไม้ ไม่ว่าจะหวานจะเปรี้ยว จะมัน จริงๆ ที่ตอนนี้สเวนเซนส์เค้ามีเทศกาลมะม่วง ฟีไปถามกูรูคนนึงเค้าก็บอกว่าแบบนั้นก็ถือเป็นเชอร์เบ็ตเหมือนกันค่ะ
เชอร์เบ็ตนี่คนรักสุขภาพ ถ้าเริ่มเบื่อๆกับ low fat หรือ non fat แล้ว ก็ลองมาหาทานได้นะคะ แม้จะไม่ไขมันต่ำเท่า แต่ก็ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับไอศกรีมปกติค่ะ เพราะมีส่วนผสมของผลไม้ด้วยนั่นเอง5.Soft Serve หรือ Soft Icecreamบอกชื่อแรกหลายคนคงทำหน้างงๆ แบบว่าคุ้นแต่นึกไม่ออก พอชื่อหลังคงร้อง อ๋อออออออ~ใช่มั้ยคะ
เดี๋ยวค่ะ ยังมีคนงงอยู่^^
ซอฟท์ไอศกรีม ก็พวกไอศกรีมแบบเนื้อนุ่มๆ ที่เค้าบีบใส่โคนน่ะค่ะ เอ้า!!ยังนึกไม่ออกอีก ก็พวกไอศกรีมอย่างของแมคโดนัลด์,KFC อะไรพวกนี้ไงคะ ที่เป็นเครื่อง พอเราไปสั่งเค้าก็ดึงคันโยกแล้วให้มันเป็นชั้นๆ แบบนี้อ่าไอศกรีมพวกนี้เค้าจะมีส่วนผสมที่ไม่เหมือนไอศกรีมทั่วไปนะคะ (คือแน่นอนว่าต้องมีนมกับน้ำตาลล่ะน่า) แต่พวกสารคงตัว หรือการอัดอากาศเค้าจะไม่เหมือนกัน ทำให้ได้ไอศกรีมที่มีรูปร่างต่างจากไอศกรีมประเภทอื่นที่เป็นแบบตัก
ส่วนNon fat หรือ ไอศกรีมปราศจากไขมันเนี่ย ไม่ต้องถึงขั้นไขมัน 0% นะคะ นั่นก็เว่อร์ไป เสียรสชาติกันพอดี(อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวค่ะ^^) แต่เค้าก็กำหนดว่าไอศกรีมประเภทนี้ต้องมีไขมันน้อยกว่า 0.5 g. ต่อหน่วยบริโภค (serving) ค่ะ หน้าตาพวกนี้ก็เหมือนๆ ไอศกรีมทั่วไปนี่ล่ะค่ะ แต่ทางร้านเค้าก็จะมีโฆษณาบอกว่า ตัวนี้ low fat นะ แต่อันนี้จะเป็น non fat ประมาณนี้ล่ะค่ะ3.Gelatoตัวนี้ไงคะ ที่ทำเพื่อนเลิฟงงติ้ว^^ ที่เจลาโต้จะแตกต่างจาก Standard icecream (เพราะบางร้านเค้าจะเขียนว่า Gelato homemade อะไรประมาณนี้ใช่มั้ยคะ) คือเจลาโต้เนี่ยจะเป็นของภาคภูมิใจของคนอิตาลีค่ะ เพราะถือว่าเป็นต้นกำเนิดนั่นเอง เรียกว่าเป็นไอศกรีมสไตล์อิตาเลียนนั่นล่ะค่ะ
เอาให้นึกภาพก่อน ไอศกรีมแบบนี้เค้าจะใช้ที่ตักที่เป็นแบบแบนๆ น่ะค่ะ ดูตามรูปก็ได้ เค้าเรียกว่า Spatula ค่ะ (ส่วนที่ตักไอศกรีมทั่วไปเรียกScoop ทำให้ได้ไอศกรีมออกมาเป็นลูกๆไงคะ) เนื้อไอศกรีมจะแน่นกว่าโฮมเมดทั่วไปมาก ถ้ายังแยกความแน่นไม่ออก ก็ดูความหนืดก็ได้ค่ะ เวลาตักนี่จะเหนียวยืดเหมือนชีส(เว่อร์ไปมั้ย อ้าว~ลองดึงช้าๆ ดูสิคะ) สังเกตได้อีกอย่างว่าจะเหนียวติดช้อน ถึงแม้ว่าเราเม้มปากกินขนาดไหนก็ตาม เหนียวดี หลายๆ คนก็ชอบค่ะ
ที่เป็นอย่างนี้เพราะส่วนผสมของเจลาโต้มีส่วนผสมของไข่แดงและของแข็งทั้งหมดสูงมากค่ะ เนื้อไอศกรีมเลยข้นแล้วก็ไม่ฟู (ฟีว่าน่าจะเป็นเพราะความหนักของมัน เลยฟูไม่ขึ้นแน่เลย^^)
ร้านพวกเจลาโต้ตอนนี้ถือว่าดังในเมืองไทยพอควรนะคะ เดินไปไหนก็เจอ แต่ราคาสูงมากพอดูอยู่ ไม่รู้แพงเพราะอะไร กูรูคนไหนผ่านมาช่วยให้ความกระจ่างด้วยนะคะ
แนะนำร้านที่ฟีเข้าบ่อยๆก็แองเจลาโต (angelato) ที่ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตค่ะ (จะได้ค่าโฆษณามั้ยเนี่ย >_<) ส่วนใครอยากลองหาทานดู แล้วไม่อยากเสี่ยงกับราคาเวอร์ๆก็แนะนำ Gelatoni ค่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ที่ BTS สยาม แล้วก็ BlackCanyon บางสาขาก็จะมีค่ะ4.Sherbetอันนี้หลายคนคงได้ยินกันบ่อย อย่างเช่น เชอร์เบ็ตส้ม หรือมะนาวเชอร์เบ็ต แล้วก็เลยเข้าใจว่าเป็นไอศกรีมรสผลไม้เปรี้ยวๆ จริงๆ แล้วเชอร์เบ็ตนี่คือไอศกรีมผลไม้เลยล่ะค่ะ คือมีรสผลไม้ ไม่ว่าจะหวานจะเปรี้ยว จะมัน จริงๆ ที่ตอนนี้สเวนเซนส์เค้ามีเทศกาลมะม่วง ฟีไปถามกูรูคนนึงเค้าก็บอกว่าแบบนั้นก็ถือเป็นเชอร์เบ็ตเหมือนกันค่ะ
เชอร์เบ็ตนี่คนรักสุขภาพ ถ้าเริ่มเบื่อๆกับ low fat หรือ non fat แล้ว ก็ลองมาหาทานได้นะคะ แม้จะไม่ไขมันต่ำเท่า แต่ก็ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับไอศกรีมปกติค่ะ เพราะมีส่วนผสมของผลไม้ด้วยนั่นเอง5.Soft Serve หรือ Soft Icecreamบอกชื่อแรกหลายคนคงทำหน้างงๆ แบบว่าคุ้นแต่นึกไม่ออก พอชื่อหลังคงร้อง อ๋อออออออ~ใช่มั้ยคะ
เดี๋ยวค่ะ ยังมีคนงงอยู่^^
ซอฟท์ไอศกรีม ก็พวกไอศกรีมแบบเนื้อนุ่มๆ ที่เค้าบีบใส่โคนน่ะค่ะ เอ้า!!ยังนึกไม่ออกอีก ก็พวกไอศกรีมอย่างของแมคโดนัลด์,KFC อะไรพวกนี้ไงคะ ที่เป็นเครื่อง พอเราไปสั่งเค้าก็ดึงคันโยกแล้วให้มันเป็นชั้นๆ แบบนี้อ่าไอศกรีมพวกนี้เค้าจะมีส่วนผสมที่ไม่เหมือนไอศกรีมทั่วไปนะคะ (คือแน่นอนว่าต้องมีนมกับน้ำตาลล่ะน่า) แต่พวกสารคงตัว หรือการอัดอากาศเค้าจะไม่เหมือนกัน ทำให้ได้ไอศกรีมที่มีรูปร่างต่างจากไอศกรีมประเภทอื่นที่เป็นแบบตัก
6.Granite/Granitaอ่านว่า กรานิเต้ นะคะเป็นภาษาฝรั่งเศส ส่วน กรานิต้า เป็นภาษาอิตาลีค่ะ
พวกนี้เนื้อจะไม่เนียนแบบอันอื่นๆที่เขียนมานะคะ ดูๆไป อาจจะคิดว่าเป็นน้ำแข็งไส แต่ไม่ใช่นะคะ เค้าเอาน้ำหวาน(หรือน้ำผลไม้ อันนี้ไม่ชัวร์ค่ะ) ไปแช่แข็ง แล้วเอามาขูดๆ ให้ออกมาเป็นเกล็ดน้ำแข็งน่ะค่ะ ในไทยก็มีหลายร้าน อย่าง Sfree ล่ะค่ะ ที่เห็นเด่นๆ ร้านนี้เค้าจัดออกมาน่ากินมาก รู้สึกจะมีสาขาที่เซ็นทรัลพระราม3 ค่ะ ที่ฟีไปทานบ่อยๆ ก็ที่ฟิวเจอร์รังสิตล่ะค่ะตัวนี้หลายคนคงเผลอปนกับ sherbet บางอันที่เนื้อไม่เนียน เป็นเหมือนเกล็ดน้ำแข็งอยู่ ส่วนใหญ่ร้านเค้าจะจัดมาให้ในรูปร่างไม่เหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นเชอร์เบ็ตจะยังมีความหนืดของไอศกรีมอยู่บ้าง ก็ตักมาเป็นลูกกลมๆได้ ส่วนกรานิเต้จะตักใส่เป็นน้ำแข็งไสมากกว่า(อันนี้เท่าที่เคยเห็นมานะคะ)
พวกนี้เนื้อจะไม่เนียนแบบอันอื่นๆที่เขียนมานะคะ ดูๆไป อาจจะคิดว่าเป็นน้ำแข็งไส แต่ไม่ใช่นะคะ เค้าเอาน้ำหวาน(หรือน้ำผลไม้ อันนี้ไม่ชัวร์ค่ะ) ไปแช่แข็ง แล้วเอามาขูดๆ ให้ออกมาเป็นเกล็ดน้ำแข็งน่ะค่ะ ในไทยก็มีหลายร้าน อย่าง Sfree ล่ะค่ะ ที่เห็นเด่นๆ ร้านนี้เค้าจัดออกมาน่ากินมาก รู้สึกจะมีสาขาที่เซ็นทรัลพระราม3 ค่ะ ที่ฟีไปทานบ่อยๆ ก็ที่ฟิวเจอร์รังสิตล่ะค่ะตัวนี้หลายคนคงเผลอปนกับ sherbet บางอันที่เนื้อไม่เนียน เป็นเหมือนเกล็ดน้ำแข็งอยู่ ส่วนใหญ่ร้านเค้าจะจัดมาให้ในรูปร่างไม่เหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นเชอร์เบ็ตจะยังมีความหนืดของไอศกรีมอยู่บ้าง ก็ตักมาเป็นลูกกลมๆได้ ส่วนกรานิเต้จะตักใส่เป็นน้ำแข็งไสมากกว่า(อันนี้เท่าที่เคยเห็นมานะคะ)
ไอศกรีม มารู้จักประเภทของไอศกรีมกันดีกว่า