คือคำถามเริ่มต้นของเราคือ เราอยากรู้ว่ามีใครบ้างไหมที่พอเวลากำลังคิดอะไร แล้วอยู่ ๆก็จะลุกขึ้นเดินไปเดินมาเอง
ก็ลองค้นใน google ดู ปรากฏว่า เจอผลการวิจัยนึง ที่บอกว่า การเดินทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
อ้างอิง : https://medium.com/@thongchairoj/%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%94-bedfe8f553ab
โดยบทความการวิจัยระบุว่า
การบรรยายเรื่องนี้คือ การเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ระหว่างผู้นั่งคิดและเดินคิด
ผู้เข้าทดลองต้องทำแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์เรื่อง การใช้งานอย่างอื่นของสิ่งของให้มากที่สุดใน 4 นาที เช่น กุญแจนำไปใช้อะไรได้อีกบ้าง
ถึงแม้ว่าบางคนคิดไอเดียเรื่องการใช้งานกุญแจได้มากก็จริง ไม่ได้หมายความว่าจะได้คะแนนเยอะ เพราะคะแนนของแบบทดสอบนี้มาจาก ความใหม่ที่ไม่ซ้ำไอเดียของคนอื่น และการประยุกต์ใช้งานจริง
ตัวอย่างของความคิดสร้างสรรค์ในการใช้งานกุญแจที่คุณแมริลีเล่าคือ เอากุญแจขีดเขียนชื่อฆาตกรบนพื้นก่อนที่ตัวเองจะตาย ซึ่งไม่ซ้ำใครเลย และใช้การได้จริงครับ
ผู้เข้าร่วมทดสอบ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม และทำแบบทดสอบสองครั้งกับสิ่งของที่ไม่ซ้ำกัน
- กลุ่มแรก นั่งทำแบบทดสอบทั้งสองครั้ง
- กลุ่มสอง นั่งทำแบบทดสอบครั้งแรก เดินบนสายพานในครั้งที่สอง
- กลุ่มสาม เดินบนสายพานครั้งแรก นั่งทำในครั้งที่สอง
ผลลัพธ์คือ …
กลุ่มแรกซึ่งนั่งคิดทั้งสองครั้งได้ประมาณ 20 ไอเดีย ส่วนกลุ่มสองและกลุ่มสามที่เดินสายพาน คิดไอเดียได้เกือบสองเท่า !
กลุ่มสาม เป็นกลุ่มที่น่าสนใจที่สุด เพราะถีงแม้ว่า เดินในครั้งแรกและนั่งในครั้งที่สอง ก็ยังได้ไอเดียครั้งที่สองมากกว่ากลุ่มที่นั่งเฉยๆ
แสดงว่า การเดินในครั้งแรกมีผลต่อเนื่องถึงการทำแบบทดสอบในครั้งที่สอง
และนั่นจึงเป็นคำตอบที่เชื่อมโยงกับการเดินไปเดินมาระหว่างที่คนเรากำลังคุยโทรศัพท์ ซึ่งกำลังใช้ความคิดในการสนทนากับคู่สาย
เพราะฉะนั้น จงมาเดินกันเยอะ ๆเถอะ
คลังเก็บรูป
https://www.deviantart.com/markmystx/gallery