ทำไมถึงกินยาแล้วดื่มนมตามไม่ได้??
การรับประทานยานั้นมีข้อแนะนำที่สำคัญคือไม่ควรรับประทานยาพร้อมนม หรือน้ำผลไม้ แต่ก็มีบางคนที่ไม่ได้สนใจปฏิบัติตามข้อแนะนำดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากคิดว่าการรับประทานยาพร้อมนม หรือ น้ำผลไม้นั้น ไม่น่าจะมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยาแต่อย่างใด
รศ.ดร.โอภา วัชระคุปต์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่าการดื่มน้ำผลไม้หรือนมหลังรับประทานยา หรือใช้น้ำผลไม้แทนน้ำนั้นอาจมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยาเช่นเดียวกับกรณีการรับประทานยาก่อน หรือหลังอาหาร เช่นถ้ารับประทานยาพร้อมนม ใน นมมีแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมจะไปจับตัวยาบางชนิด เช่น ซิพเปอร์เฟอซิน ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ถ้ารับประทานยาพร้อมนม น้ำนมหรือสารละลายที่มีแคลเซียมเหล็กก็จะไปจับเป็นคอมเพล็กซ์กับยา ทำให้ยาไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้
ยาปฏิชีวนะบางชนิดมี โมเลกุลขนาดใหญ่ เวลามาถูกแคลเซียมจับก็สามารถตกตะกอนหรือจับเป็นคอมเพล็กซ์ได้ ทำให้ยาไม่ออกฤทธิ์ ส่วนน้ำส้มมีผลทำให้ปัสสาวะมีฤทธิ์เป็นกรดหรือเป็นด่าง ซึ่งจะทำให้ยาถูกขับออกมากหรือน้อยจะทำให้ปริมาณยาในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นควรรับประทานยากับน้ำธรรมดาไม่ควรรับประทานยาพร้อมกับนม กาแฟ น้ำส้ม หรือน้ำผลไม้ ในช่วงรับประทานยาไม่ควรดื่มนมหรือน้ำผลไม้หลังรับประทานยาประมาณ 30 นาที ถึง 1ชั่วโมง
ที่มา : trueplookpanya.com
การรับประทานยานั้นมีข้อแนะนำที่สำคัญคือไม่ควรรับประทานยาพร้อมนม หรือน้ำผลไม้ แต่ก็มีบางคนที่ไม่ได้สนใจปฏิบัติตามข้อแนะนำดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากคิดว่าการรับประทานยาพร้อมนม หรือ น้ำผลไม้นั้น ไม่น่าจะมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยาแต่อย่างใด
รศ.ดร.โอภา วัชระคุปต์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่าการดื่มน้ำผลไม้หรือนมหลังรับประทานยา หรือใช้น้ำผลไม้แทนน้ำนั้นอาจมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยาเช่นเดียวกับกรณีการรับประทานยาก่อน หรือหลังอาหาร เช่นถ้ารับประทานยาพร้อมนม ใน นมมีแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมจะไปจับตัวยาบางชนิด เช่น ซิพเปอร์เฟอซิน ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ถ้ารับประทานยาพร้อมนม น้ำนมหรือสารละลายที่มีแคลเซียมเหล็กก็จะไปจับเป็นคอมเพล็กซ์กับยา ทำให้ยาไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้
ยาปฏิชีวนะบางชนิดมี โมเลกุลขนาดใหญ่ เวลามาถูกแคลเซียมจับก็สามารถตกตะกอนหรือจับเป็นคอมเพล็กซ์ได้ ทำให้ยาไม่ออกฤทธิ์ ส่วนน้ำส้มมีผลทำให้ปัสสาวะมีฤทธิ์เป็นกรดหรือเป็นด่าง ซึ่งจะทำให้ยาถูกขับออกมากหรือน้อยจะทำให้ปริมาณยาในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นควรรับประทานยากับน้ำธรรมดาไม่ควรรับประทานยาพร้อมกับนม กาแฟ น้ำส้ม หรือน้ำผลไม้ ในช่วงรับประทานยาไม่ควรดื่มนมหรือน้ำผลไม้หลังรับประทานยาประมาณ 30 นาที ถึง 1ชั่วโมง
ที่มา : trueplookpanya.com
ทำไมถึงกินยาแล้วดื่มนมตามไม่ได้ ??