挫折まみれ 流行にまぎれ 幸せな振りをして歌う
zasetsu mamire ryuukou ni magire shiawase na furi o shite utau
ความผิดหวังที่ถูกละเลง ความนิยมที่ถูกเบี่ยงเบน ร้องบอกถึงอำนาจอันน่าปิติยินดี
もっと走れと言い聞かして 無謀にも そっと風上へ
motto hashire to iikikashite mubou ni mo sotto kazakami e
ไม่สนใจที่จะบอกให้วิ่งไปยังทิศทางของลมอันแผ่วเบาได้อีก
来た道を一瞥 ゆとりは御免 四面楚歌 参戦に次ぐone game
kitamichi o ichibetsu yutori wa gomen shimensoka sansen ni tsugu ONE GAME
เวลาที่ชำเลืองมองเมืองที่มาถึงนั้นได้ปฏิเสธการถูกล้อมรอบจากศัตรู มาเข้าร่วมในสงครามเกมหนึ่ง
「山あり谷あり崖あり」 塵は積もってく
[yama ari tani ari gake ari] chiri wa tsumotteku
[นี่คือภูเขา หุบเขา หน้าผา] ขยะนั้นกองทับถม
果てしない旅の途中で 街のはずれに立ち寄る
hateshinai tabi no tochuu de machi no hazure ni tachiyoru
แวะที่จุดจบของเมืองที่ระหว่างทางท่องเที่ยวที่ไม่สิ้นสุด
疲れた両足をそっと投げ出して 寝転ぶと 繰り返される浅い眠り
tsukareta ryouashi o sotto nagedashite nekorobu to kurikaesareru asai nemuri
วางพักเท้าทั้งคู่อันเหนื่อยล้าอย่างแผ่วเบาและปล่อยความหลับไหลตื้น ๆ ซ้ำไปซ้ำมา
何度も同じあの横顔 何度も同じあの言葉を…
nandomo onaji ano yokogao nandomo onaji ano kotoba o
โครงร่างเหมือนกันบ่อยครั้งนั้น คำพูดเหมือนกันบ่อยครั้งนั้น
「生きてるだけで悲しいと思うのは私だけなの?」と
[ikiteru dake de kanashii to omou no wa watashi dake na no?] to
และ [คิดว่าความเศร้าที่แค่เพียงยังมีชีวิตอยู่นั้นมีเพียงแค่ฉันหรือ?]
タバコの煙が宙をうねり 虚ろに消える
TABAKO no kemuri ga chuu wo uneri utsuro ni kieru
เขม่าควันบุหรี่เคลื่อนไหวจักรวาล หายไปในความว่างเปล่า
きっとまだ力なき幼い日に
kitto mada chikara naki osanai hi ni
ณ วันที่กำลังยังเป็นเด็กและอ่อนแอ
見なくていい悲しみを 見てきた君は今
minakute ii kanashimi o mitekita kimi wa ima
ตอนนี้เธอมองเห็นความโศกเศร้าที่มองไม่เห็น
こらえなくていい涙を こらえて過ごしてる
koraenakute ii namida o koraete sugoshiteru
แบกรับน้ำตาที่ไม่อาจแบกไว้ได้ให้ผ่านไป
ほんとのことだけで 生きてゆけるほど
honto no koto dake de ikite yukeru hodo
ยังมีชีวิตอยู่ได้ด้วยแค่เพียงความจริง
僕らは強くないさ 強くなくていい
bokura wa tsuyokunai sa tsuyokunakute ii
พวกเรานั้นไม่แข็งแกร่ง ไม่แข็งแกร่งเลย
いい?
ii?
ใช่ไหม?
持ち上げた瞼 世界は春だ 桜色の風をかきわけて
mochiageta mabuta sekai wa haru da sakurairo no kaze o kakiwakete
ลืมตาขึ้น โลกคือฤดูใบไม้ผลิ แทรกด้วยสายลมสีซากุระ
遥か彼方へ向かう途中 この菜の花畑に君はいたのかな
haruka kanata e mukau tochuu kono na no hanabatake ni kimi wa ita no ka na
ระหว่างที่มุ่งไปยังอีกฝั่งอันแสนไกล หวังว่าเธอนั้นอยู่ที่สวนดอกไม้ของพืชแห่งนี้
この空に鳥の白いはばたきを 僕が探す間きっと
kono sora ni tori no shiroi habataki o boku ga sagasu aida kitto
ฉันจะค้นหานกสีขาวขยับปีกโบยบินที่ระหว่างท้องฟ้าแห่งนี้ได้แน่นอน
君は大地に耳を澄まし 蟻の黒い足音を探したんだろうな
kimi wa daichi ni mimi o sumashi ari no kuroi ashioto o sagashitan darou na
เธอได้ยินชัดเจนบนพื้นดิน จะค้นหาเสียงฝีเท้าของมดสีดำใช่ไหม
ピエロのような仮面を剥いで 太陽に忘れられた丘に立ち
PIERO no you na kamen o haide taiyou ni wasurerareta oka ni tachi
สวมหน้ากากตัวตลก ยืนบนเนินเขาที่หลงลืมดวงอาทิตย์ได้
月の光を浴びて 深く息を吸う
tsuki no hikari o abite fukaku iki o suu
อาบแสงสว่างของดวงจันทร์ สูดลมหายใจลึก ๆ
皿の割れる音も 怒鳴り声もない世界
sara no wareru oto mo donarigoe mo nai sekai
โลกที่ไม่มีทั้งเสียงที่แตกสลายของจานและเสียงตะโกนก้อง
温もりがなくたって 生きてはゆけるさ
nukumori ga nakutatte ikite wa yukeru sa
ไร้ซึ่งความอบอุ่น ความมีชีวิตจะมีต่อไป
だけど僕ら生きてるだけじゃ足りなくて
dakedo bokura ikiteru dake ja tarinakute
แต่อย่างไรก็ตาม แค่เพียงพวกเรามีชีวิตอยู่ไม่เพียงพอหรอก
芽吹く大地や 分厚い幹や 消え去る虹や 過ぎ去る日々や
mebuku daichi ya buatsui miki ya kiesaru niji ya sugisaru hibi ya
โลกที่แตกยอดอ่อน ลำต้นใหญ่โต สายรุ้งที่เลือนหาย แต่ละวันที่ผ่านพ้น
夜空のスピカ 四季の不思議が 教えてくれた 真実を探し続ける僕らに
yozora no SUPIKA shiki no fushigi ga oshiete kureta shinjitsu o sagashitsuzukeru bokura ni
ผู้พูดในท้องฟ้ายามค่ำคืน ความมหัศจรรย์ของสี่ฤดูได้บอกพวกเราถึงการค้นหาความจริงต่อไป
どこまで旅をしても 命の始まりは
doko made tabi o shite mo inochi no hajimari wa
แม้จะเดินทางถึงที่ไหน การเริ่มต้นของชีวิตนั้น
生きて愛されたいと泣いた 一人の赤子
ikite aisaretai to naita hitori no akago
เด็กคน ๆ หนึ่งที่ร้องไห้เพื่อมีชีวิตและอยากถูกรัก
ここではないどこかを 目指す理由とは
koko de wa nai dokoka o mezasu riyuu to wa
และที่ตรงนี้คือไม่มีเหตุผลที่มุ่งสู่ที่ไหนสักแห่ง
心ではないどこかに 答えはないと知るため
kokoro de wa nai dokoka ni kotae wa nai to shiru tame
ที่หัวใจนั้นไม่มีคำตอบในที่ไหนสักแห่ง รู้ว่าไม่มีเก็บไว้
.
Credit : Lyric by Gendou.com